บทที่ 815 เกิดใหม่อีกครั้ง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 815 เกิดใหม่อีกครั้ง

บทที่ 815 เกิดใหม่อีกครั้ง

เพ่ยเหมียนหมานมีภาวะคลอดบุตรยาก!

พยาบาลผดุงครรภ์ในสมัยนี้ไม่มีทางอื่นใดที่จะทำให้การคลอดง่ายขึ้น นอกจากการส่งเสียงกระตุ้นให้หญิงมีครรภ์ออกแรงมากขึ้น ส่วนตัวหมอก็คล้ายคลึงกับหมอผีมากกว่าและไม่ต่างอะไรกับพวกคลั่งศาสนา

แม้ว่าซูอันจะเสนอคำแนะนำและวิธีการทุกประเภท แต่เขาไม่ใช่สูติแพทย์และไม่มีประสบการณ์จริงในการคลอดบุตร ในท้ายที่สุดเขาจึงทำได้แค่เฝ้าดูนางตายเท่านั้น!

ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เพ่ยเหมียนหมานจะสิ้นลมหายใจซูอันรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า เขาไม่กล้าเชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง…

อย่างไรก็ตามทุกคนดูคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้และพยายามปลอบโยนเขาอย่างเต็มที่

เนื่องจากการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ในยุคนี้ต่ำมาก มนุษย์จึงมีอายุขัยสั้น และเป็นความรู้ทั่วไปว่าสตรีมีครรภ์ส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิตในระหว่างการคลอดบุตร

แม้ว่าจักรพรรดินีจะเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่นางก็ไม่ต่างจากผู้หญิงธรรมดาคนอื่น ๆ ที่อาจเผชิญภาวะคลอดบุตรยากได้

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ และเป็นเวลานานกว่าที่สภาพของซูอันจะดีขึ้น ตลอดเวลาเสี่ยวถู่วอยู่เคียงข้างเขาและคอยปลอบอย่างอ่อนโยน

แม้จักรพรรดิจะกำลังเศร้าหมอง แต่ราชสำนักยังคงดำเนินไปตามปกติโดยมีฟู่ซัวและเสนาบดีคนสำคัญคนอื่น ๆ คอยจัดการงานศพของจักรพรรดินี

เนื่องจากความสำคัญอย่างยิ่งที่พระนางมีต่อจักรพรรดิ เช่นเดียวกับพระราชกรณียกิจอันอัศจรรย์ของจักรพรรดินีที่มีต่ออาณาจักรตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงจัดพิธีศพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และสร้างสุสานที่สง่างามที่สุดเพื่อเป็นที่ประทับสุดท้ายของพระนาง

ไม่มีทางที่ซูอันสามารถชะลอการฝังศพของจักรพรรดินีได้อย่างไม่มีกำหนด เขาทำได้เพียงดูแลพิธีฝังศพและส่งนางเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากเพ่ยเหมียนหมานเสียชีวิต ซูอันก็มีชีวิตอย่างไร้จุดหมาย ร่างกายเป็นเหมือนเปลือกที่ว่างเปล่าไร้วิญญาณ บางครั้งที่ได้สติขึ้นมาบ้างเขามักจะพบว่าตัวเองกำลังดื่มอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของพระราชวังหรือเล่นกับเสี่ยวถู่วและนางสนม นี่ดูเหมือนจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขาลืมความทรงจำอันเจ็บปวดกับการเสียเพ่ยเหมียนหมานไป

ต้องขอบคุณความพยายามที่เขาและเพ่ยเหมียนหมานได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาอาณาจักร แคว้นอื่นที่อยู่รอบ ๆ จึงหมดพิษสงลงไปมาก อาณาจักรของเขายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การจัดระเบียบของราชสำนักและขุนนางก็เติบโตเต็มที่เช่นกัน แม้ว่าเขาจะขาดงานราชการ แต่ราชสำนักก็สามารถดำเนินไปได้เองไม่มากก็น้อย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาหลายทศวรรษผ่านไป ตอนนี้ซูอันกลายเป็นชายชรา มันเป็นปาฏิหาริย์ที่คนอายุเท่าเขายังมีชีวิตอยู่

ซูอันร่างชรากำลังเฝ้าดูขณะที่ฟู่ซัวและเสนาบดีคนสำคัญคนอื่น ๆ ล่วงลับไปทีละคน

แม้แต่เสี่ยวถู่วก็เสียชีวิตเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีนางสนมมากหน้าหลายตาเวียนกันเข้ามารับใช้แม้ว่าเขาจะจำหน้าค่าตาพวกนางไม่ได้ก็ตาม

หลายวันหลังจากที่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในความเพลิดเพลิน ซูอันชรามักพบว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในวังกลางดึกและจะรู้สึกราวกับว่าเขาลืมอะไรบางอย่างไปแต่กลับจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร

เรื่องนี้ทำให้เขากังวลในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ค่อย ๆ ลืมอารมณ์ที่ขัดแย้งกันเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เขาก็สัมผัสได้ถึงเงาแห่งความตายที่รุกล้ำเข้ามา และรู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะมีชีวิตอยู่

อย่างไรก็ตาม ซูอันชราก็รู้สึกสงบ เขาได้ทำหน้าที่เป็นจักรพรรดิของอาณาจักรนี้มานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และมีความสุขกับทุกสิ่งที่มีให้เพลิดเพลิน มีอะไรอีกบ้างที่ยังคงติดค้างอยู่?

อยู่มาวันหนึ่งเขาก็นอนไม่หลับจึงเดินไปรอบ ๆ วัง และพบว่าตัวเองอยู่หน้าตำหนักที่เก่าคร่ำคร่าโดยไม่รู้ตัว ร่างกายของเขาแข็งทื่อ

เขาจำได้เลือนรางว่าเคยอาศัยอยู่ที่แห่งนี้ในสมัยก่อน แต่จำไม่ได้ว่าทำไมตัวเองถึงยืนกรานที่จะรักษามันไว้

เขาผลักประตูและเข้าไปข้างในตำหนักที่เต็มไปด้วยฝุ่น

ก่อนหน้านี้นางกำนัลในวังรู้ว่าพระจักรพรรดิทรงห่วงใยสถานที่นี้มากเพียงใด และคอยรักษาความสะอาดอย่างพิถีพิถัน เนื่องจากพระองค์จะเสด็จมาเป็นครั้งคราว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป จักรพรรดิก็ไม่ค่อยเสด็จมาที่นี่และเหล่าข้ารับใช้ทั้งหมดก็ค่อย ๆ หยุดทำความสะอาดสถานที่นี้

ซูอันนั่งลงข้างเตียงในห้องอย่างเงียบงัน ขณะที่เขาลุกขึ้นจะจากไป หางตาของเขาสะดุดกับแสงแวบวาบ

มีบางอย่างสะท้อนแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง

เขาเหลือบไปมองและสังเกตเห็นบางสิ่งที่ตกอยู่ในซอกระหว่างเตียงกับโครงเตียง มันอยู่ในจุดที่ลับสายตา ดังนั้นแม้แต่สาวใช้ที่ทำความสะอาดสถานที่นี้มาก่อนก็ไม่เคยสังเกตเห็น

มันเป็นจี้รูปเปลวไฟสีดำ

ในฐานะจักรพรรดิ เขาคุ้นเคยกับสมบัติทุกประเภท มองดูภายนอกจี้นี้แทบจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านทันทีที่มองดูจี้นี้

ในที่สุดซูอันก็จำสิ่งที่ลืมไปตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ เขาจำได้ถึงเหตุผลที่เข้ามาในมิติลับนี้!

นี่คือจี้ป้องกันเปลวไฟสีดำที่เพ่ยเหมียนหมานเคยมอบให้เขา!

บางทีพวกเขาอาจจะเคยสนุกด้วยกันมากเกินไปในห้องนี้มาก่อน และจี้นี้บังเอิญตกลงไปในซอกเล็ก ๆ นี้โดยไม่ได้ตั้งใจ

และด้วยความที่ทั้งสองยุ่งอยู่กับการจัดการกิจการของอาณาจักรพวกเขาจึงลืมไปเสียสนิท

“เหมียนหมาน…” ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลอาบลงมาตามใบหน้าที่แห้งเหี่ยวของซูอันที่ซึ่งแก่ชรามากแล้ว

ทันใดนั้น การมองเห็นของเขาก็พร่ามัว และโลกรอบตัวทั้งหมดเริ่มบิดเบี้ยว เมื่อซูอันตื่นขึ้นมาอีกครั้งเขาพบว่าตัวเองอยู่ในอีกโลกหนึ่ง!

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่!” เสียงที่สดใสและชัดเจนเรียกเขา

ซูอันยังคงงุนงง เขายังไม่ได้ตอบสนองต่อโลกที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันรอบตัว เด็กหญิงตัวน้อยน่ารักอยู่ข้างหน้าเขา กางแขนออก “พี่ใหญ่อุ้มข้า!”

ซูอันรู้สึกงุนงง เกิดอะไรขึ้น?

เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักที่อยู่ข้างหน้าเขาได้ ผมของนางถักเป็นเปียสวยทำให้นางดูราวกับตุ๊กตา

เขาอ้าแขนตามสัญชาตญาณให้เด็กน้อยผู้น่ารักคนนี้

“พี่ใหญ่ใจดีที่สุด!” เด็กหญิงตัวเล็กเขย่งปลายเท้าแล้วยื่นริมฝีปากแนบแก้มของเขา เมื่อเห็นรอยน้ำลายที่ทิ้งไว้บนใบหน้าของเขา นางก็หัวเราะชอบใจ

ซูอันพูดไม่ออก

เขาอายุไม่มากไปกว่าเด็กหญิงคนนี้ซึ่งดูเหมือนอายุประมาณสิบปี อันที่จริง แขนและขาของเขาเล็กพอ ๆ กับนาง ตัวเขาเองก็เป็นวัยรุ่นที่ผอมแห้งคนหนึ่ง!

ข้ากลายเป็นเด็กอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ?!

ซูอันตกตะลึง เขาจำได้ว่าตัวเองคือพระเจ้าอู่ติงเมื่อครู่ที่แล้ว ชายชราที่ใกล้จะตายอยู่รอมร่อ

แต่แล้วจู่ ๆ เขากลับกลายเป็นเด็กได้อย่างไร?

นอกจากนี้…ที่นี่ที่ไหน?

เขามองไปรอบ ๆ ตัว สภาพแวดล้อมดูทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในเวลาเดียวกัน

แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะดูคล้ายกับพระราชวังเก่าของเขา แต่บ้านและห้องต่าง ๆ ก็ดูแตกต่างออกไป

เขานั่งบนบัลลังก์มานานกว่าห้าสิบปีแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะจำวังของตัวเองไม่ได้ ห้องเหล่านี้แตกต่างไปจากสมัยของเขาอย่างชัดเจน!

———————–