ตอนที่ 837 กำราบชายเสื้อลายดอก

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 837 กำราบ​ชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​

ใน​สำนักงาน​ชั่วคราว​ที่​บ้านพัก​พนักงาน​ธนาคาร​ ชาย​วัย​สามสิบ​สวม​เสื้อเชิ้ต​ลาย​ดอก​และ​กางเกงยีน​ยก​ขา​ขึ้น​พาด​บน​โต๊ะทำงาน​เจียว​อิง​จวิ้น​

เขา​ออกคำสั่ง​กับ​เจียว​อิง​จวิ้น​ที่นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​ “ค่อย​พูด​เรื่อง​นี้​คราวหลัง​เถอะ​ ไม่อย่างนั้น​คุณ​จะต้อง​เสียใจ​!”

ขณะ​กล่าว​คำ​ดังกล่าว​ เขา​ชี้ไป​ยัง​เจียว​อิง​จวิ้น​ด้วย​นิ้ว​ที่​ยัง​ถือ​บุหรี่​อยู่​

แม้ว่า​จะไม่เป็นอันตราย​ แต่​ก็​ถือเป็น​การเหยียดหยาม​เกินไป​

ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​เจียว​อิง​จวิ้น​ซีดเผือด​

แต่​ก่อนที่จะ​ได้​ทำ​สิ่งใด​ ประตู​สำนักงาน​ก็​ถูก​ผลัก​ออก​พร้อมกับ​หลิน​ม่าย​ที่​สวม​รองเท้า​ส้น​แบน​เดิน​เข้ามา​

เธอ​เหวี่ยง​กระเป๋า​หลุยส์​วิ​ต​ตอง​ใน​มือ​และ​ปัด​มือ​ที่​ถือ​บุหรี่​ของ​ชาย​เสื้อเชิ้ต​ลาย​ดอก​อย่าง​แม่นยำ​ ทำให้​บุหรี่​ใน​มือ​ของ​เขา​ร่วงหล่น​ลงพื้น​

เธอ​โพล่ง​ออก​ทันใด​ “นี่​คุณ​คิด​จะทำ​อะไร​? กล้า​ดี​ยังไง​ถึงมาพูด​กับ​ผู้อำนวยการ​ของ​ฉัน​แบบนี้​? คุณ​ติดโรค​พิษสุนัขบ้า​หรือไง​ ถึงได้​ถ่อ​มาวางท่า​ใช้อำนาจบาตรใหญ่​ใน​ไซต์​ก่อสร้าง​ของ​ฉัน​?”

เมื่อ​เห็นภาพ​ฉาก​ดังกล่าว​ เจียว​อิง​จวิ้​นรี​บ​ลุกขึ้น​ทันใด​

เขา​รีบ​สาวเท้า​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​หลิน​ม่าย​ภายใน​สอง​ก้าว​และ​ถามว่า​ “ประธาน​หลิน​ คุณ​กำลัง​ตั้งครรภ์​อยู่​ แล้ว​ทำไม​ถึงมาอยู่​ที่นี่​ล่ะ​ครับ​? มาครับ​มา มานั่ง​ตรง​เก้าอี้​ของ​ผม​”

เขา​ช่วย​ประคอง​หลิน​ม่าย​ให้​นั่ง​บน​เก้าอี้​ของ​เขา​

หลิน​ม่าย​จ้อง​ชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​ด้วย​ดวงตา​เชือดเฉือน​ “ถ้าฉัน​ไม่มา แล้​วจะ​ได้​เห็น​หมา​บ้า​เห่า​ใส่คน​ของ​ฉัน​แบบนี้​ได้​ยังไง​!”

สีห​น้าชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​แปรเปลี่ยน​ทันใด​

หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​ที่​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​รีบ​พูด​ขึ้น​ “ประธาน​เจี่ย​ครับ​ ประธาน​เจี่ย​ อย่า​เพิ่ง​ขุ่นเคือง​ไป​ หล่อน​คือ​คุณ​หลิน​จากว่าน​ถงกรุ๊ป​ครับ​”

แน่นอน​ว่า​ชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​ต้อง​รู้จัก​หลิน​ม่าย​

เพลง​ “ชีวิต​ที่​ผลิบาน​” ของ​เธอ​ได้รับ​ความนิยม​ไป​ทั่วประเทศ​ มิวสิควิดีโอ​ที่​เธอ​แสดง​ออกมา​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​ได้รับ​การ​กล่าวถึง​มาก​เช่นกัน​

ทุกวันนี้​ นอกเหนือจาก​ผู้​คนใน​ชนบท​และ​ผู้สูงอายุ​ที่​ไม่นิยม​ดูโทรทัศน์​ ไม่มีใคร​ที่​ไม่รู้จัก​ชื่อ​ของ​หลิน​ม่าย​

ชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​รู้​เพียง​ว่า​หลิน​ม่าย​เป็น​เจ้าของร้าน​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​และ​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​

แต่​เขา​ไม่รู้​ว่า​เธอ​ยัง​เป็น​ประธาน​ของ​ว่าน​ถงกรุ๊ป​อีกด้วย​

เมื่อ​ได้ยิน​เจียว​อิง​จวิ้น​เรียก​หลิน​ม่าย​ว่า​ประธาน​หลิน​ แรก​ทีเดียว​เขา​นึก​ว่า​ตัวเอง​ได้ยิน​ผิด​ไป​

เด็กสาว​ใน​วัย​ยี่สิบ​กว่า​ปี​มีส่วน​ร่วมใน​ธุรกิจ​ที่​หลากหลาย​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ รวมทั้ง​ครอบครอง​อสังหาริมทรัพย์​มากมาย​

แต่​สิ่งที่​เป็นไปไม่ได้​เหล่านั้น​ได้​เกิด​ขึ้นกับ​หลิน​ม่าย​แล้ว​

หลิน​ม่าย​ทำ​ธุรกิจ​หลายอย่าง​ตั้งแต่​อายุ​ยัง​น้อย​ แม้แต่​ชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​ก็​ยัง​รู้สึก​เกรงขาม​

เขา​ระงับ​สีหน้า​เดือดดาล​ ลุกขึ้น​ยืน​และ​ยื่นมือ​ออก​ไปหา​หลิน​ม่าย​ “สวัสดี​ครับ​ประธาน​หลิน​ เห็นแก่​แซ่เจี่ย​ของ​ผม​ ขอให้​เรื่อง​เสี่ยว​หู​จบ​ลง​แค่นี้​แล้วกัน​”

หลิน​ม่าย​ยก​ขา​ขึ้น​ไขว่ห้าง​และ​ไม่ได้​ตั้งใจ​จะจับมือ​กับ​เขา​เลย​ เธอ​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​เหยียดหยาม​ “ฉัน​ติดค้าง​คุณ​หรือ​ยังไง​? ทำไม​ฉัน​ต้อง​เห็นแก่หน้า​คุณ​ด้วย​!”

ใบหน้า​ของ​ชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​ทั้ง​หมองหม่น​และ​เย็นชา​ “ลอง​ไป​ที่​เมืองหลวง​และ​สอบถาม​เกี่ยวกับ​ชาย​ที่​ชื่อ​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ แล้ว​คุณ​จะได้​รู้​คำ​ว่า​ ‘เกรงกลัว​’ สะกด​อย่างไร​”

หลัง​กล่าว​เช่นนั้น​ เขา​ก็​ระเบิด​หัวเราะ​ออกมา​ดังลั่น​ ก่อน​พ่น​คำ​แสน​เย่อหยิ่ง​ “ใน​ฐานะ​ผู้ประกอบการ​เอกชน​จาก​ที่อื่น​ ต่อให้​คุณ​ร่ำรวย​แค่​ไหน​ ก็​ไม่สามารถ​เข้ามา​ใน​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ได้​”

ใน​ชีวิต​นี้​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ คุณปู่​ฟาง และ​คุณย่า​ฟางได้​อธิบาย​เกี่ยวกับ​สิ่งที่​เรียก​ว่า​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​

แม้แต่​ใน​ชีวิต​ก่อน​ หลิน​ม่าย​เคย​ได้​เรียนรู้​เกี่ยวกับ​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ผ่าน​ลูกหลาน​ตระกูล​เจิ้ง

ใน​ยุค​สมัยนี้​ แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​หมายถึง​แวดวง​ที่​ประกอบ​ไป​ด้วย​บุคคล​ที่​มีสถานะ​ทางสังคม​บางอย่าง​ใน​เมืองหลวง​

อิง​ตาม​สถานะ​ทางสังคม​ แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​จึงมีลำดับชั้น​

ใน​แวดวง​นั้น​ประกอบด้วย​ทายาท​จาก​ตระกูล​อัน​ทรงเกียรติ​ แท้จริง​มัน​เป็น​แวดวง​ระดับสูง​และ​พิเศษ​ที่สุด​ใน​เมืองหลวง​ ต่อให้​คุณ​มีเงิน​เหลือล้น​ แต่​หาก​ไม่ได้​เป็น​ลูกหลาน​ของ​ตระกูล​เหล่านั้น​ คุณ​ก็​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​เข้าร่วม​

นั่น​เป็น​เหตุผล​ที่​ชาย​เสื้อ​ลาย​ดอก​เย้ยหยัน​หลิน​ม่าย​ว่า​ ต่อให้​เธอ​ร่ำรวย​แค่​ไหน​ก็​ไม่สามารถ​เข้า​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​

ใน​ช่วง​วัน​ปีใหม่​ของ​ปี​นี้​ ปู่​ฟางและ​ย่า​ฟางต้องการ​ให้​หลิน​ม่าย​และ​สามีเดินทาง​ไป​อวยพร​วัน​ปีใหม่​กับ​เหล่า​ผู้อาวุโส​

พวกเขา​เพียง​ต้องการ​ให้​หลิน​ม่าย​เข้า​ร่วง​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ และ​เป็นการ​เปิดโอกาส​เพิ่ม​ลู่​ทางการ​ติดต่อ​ใน​อาชีพ​การงาน​ของ​เธอ​

แต่​เนื่องจาก​มีพายุ​หิมะ​ เธอ​จึงไม่ได้​ไป​

แม้ว่า​หลิน​ม่าย​จะไม่ได้​ไป​กล่าว​คำ​อวยพร​ใน​ช่วง​วัน​ปีใหม่​ แต่​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​กีดกัน​เธอ​จาก​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ เพราะ​อย่างไร​เธอ​ก็​คือ​หลาน​สะใภ้ของ​ปู่​ฟาง แล้ว​ใคร​เล่า​จะกล้า​ขวาง​เธอ​!

หลังจากนี้​อีก​ไม่กี่​ทศวรรษ​ แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ใน​เมืองหลวง​จะกลายเป็น​แวดวง​วัฒนธรรม​ ซึ่งยังคง​ถูก​เรียก​ชื่อว่า​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ และ​ยังคง​เป็น​แวดวง​ที่​ยาก​แก่​การ​เข้าถึง​

ใน​ตอนนั้น​ลูกหลาน​ตระกูล​เจิ้งได้​เข้าสู่​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ ทำให้​อาชีพ​การงาน​รุ่งเรือง​ยิ่งขึ้น​ และ​บุคลิก​แปร​เปลี่ยนเป็น​หยิ่งผยอง​

แต่​ต่อมา​ก็ได้​เกิด​ความผิดพลาด​ร้ายแรง​ จน​นำไปสู่​การ​ล่มสลาย​ของ​ตระกูล​ พวกเขา​ถูก​ขึ้น​บัญชีดำ​โดย​รัฐบาล​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​ตระกูล​เจิ้งถูก​ขึ้น​บัญชีดำ​ หลิน​ม่าย​คง​ไม่รู้​ถึงการ​มีอยู่​ของ​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​

ที่​น่า​ประหลาดใจ​ยิ่งกว่านั้น​ พลัง​ของ​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ใน​เมืองหลวง​นั้น​ยิ่งใหญ่​มาก​ถึงกับ​เพิกเฉย​การ​ขึ้น​บัญชีดำ​แซ่เจิ้ง สถานีโทรทัศน์​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ยัง​กล้า​ที่จะ​ท้าทาย​ และ​เชิญเธอ​ไป​อัด​รายการ​

ไม่ว่า​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​จะทรงพลัง​แค่​ไหน​ แต่​พวกเขา​จะมีอำนาจ​อยู่​เหนือ​อำนาจ​รัฐบาล​ได้​อย่างไร​?

ทันทีที่​รัฐบาล​มีการเคลื่อนไหว​ สถานีโทรทัศน์​ก็​ยอมรับ​ความผิดพลาด​ต่อ​สาธารณะ​และ​ลบ​เทป​รายการ​ทั้งหมด​ที่​ถูก​ปล่อย​ออก​ไป​

หาก​ยังมี​ปู่​ฟางคอย​สนับสนุน​อยู่​ด้านหลัง​หลิน​ม่าย​ แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ก็​ไม่ได้​มีความหมาย​อะไร​กับ​เธอ​

แม้แต่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ที่​เติบโต​ขึ้น​มาใน​ตระกูล​ทรงอำนาจ​ ก็​ยัง​ไม่คิด​สนใจ​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​

เมื่อ​ความสามารถ​ถึงจุด​ที่​คนอื่น​ประเมินค่า​ไม่ได้​ แล้ว​ใคร​เล่า​จะสนใจ​แวดวง​เช่นนั้น​?

เฉพาะ​ผู้​คนใน​แวดวง​เท่านั้น​ที่​สนใจ​ตระกูล​ของ​เขา​ โดย​หวัง​ว่า​ตระกูล​ฟางจะเข้าร่วม​และ​ปรับปรุง​คุณภาพ​ของ​แวดวง​

หาก​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไม่ได้มา​ที่​เมืองหลวง​เพื่อ​พัก​ร้อนใน​ช่วง​วันหยุด​ฤดูหนาว​และ​ฤดูร้อน​ตั้งแต่​เด็ก​ และ​เข้าเรียน​มหาวิทยาลัย​ใน​ปักกิ่ง​ ฟางจั๋ว​หรา​นค​งมีความสัมพันธ์​ใน​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​น้อยลง​

นอกจากนี้​เพื่อน​สมัย​เด็ก​เหล่านั้น​ยัง​ชื่นชม​เขา​อย่าง​มาก​และ​ยัง​จงรักภักดี​ แต่​เขา​กลับ​ยังคง​ดูถูก​เหล่า​ทายาท​ที่​เข้าร่วม​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ใน​เมืองหลวง​

มัน​ไม่ดู​เป็น​เรื่องไร้สาระ​เกินไป​หน่อย​หรือ​ ที่​เจ้าคน​แซ่เจี่ย​จะใช้ชื่อ​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ใน​เมืองหลวง​เพื่อ​ข่มขู่​หลิน​ม่าย​?

หลิน​ม่าย​หยิบ​โทรศัพท์​บน​โต๊ะ​และ​ต่อสาย​ถึงฟางจั๋ว​หรา​น​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เพิ่ง​กลับมา​ที่​สำนักงาน​หลัง​การ​ผ่าตัด​ เขา​กำลัง​คิด​โทร​หา​หลิน​ม่าย​เพื่อ​ถามว่า​เธอ​สบายดี​หรือไม่​

เด็กสาว​คน​นี้​คึกคะนอง​เกินไป​ ตราบใดที่​มีเวลา​ เธอ​มักจะ​เรียนหนังสือ​หรือไม่​ก็​ออก​ไป​ทำงาน​ และ​ไม่เคย​ปล่อย​ให้​ตัวเอง​มีวันหยุด​

ไม่ทัน​ที่จะ​หยิบ​โทรศัพท์​ เสียง​เรียก​เข้า​ก็​ดัง​ขึ้น​

ฟางจั๋ว​หรา​น​หยิบ​โทรศัพท์​ขึ้น​ เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ของ​หลิน​ม่าย​จาก​ปลาย​สาย​ เขา​พลัน​รู้สึก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​

หลิน​ม่าย​กลัว​ว่า​จะกระทบ​ต่อ​งาน​ของ​เขา​ จึงไม่ค่อย​โทร​หา​เขา​ที่​โรงพยาบาล​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เอ่ย​ถาม “ที่รัก​ ทำไม​คุณ​ถึงโทร​หา​ผม​เวลานี้​ได้​?”

หลิน​ม่าย​แสร้ง​พูด​เสียง​เศร้า​ “ภรรยา​ของ​คุณ​ถูก​ข่มเหง​โดย​คน​ที่​มาจาก​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ที่​ไซต์​ก่อสร้าง​ โดย​อ้าง​ชื่อว่า​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ คุณ​จัดการ​ให้​หน่อย​ได้​ไหม​คะ​?”

“อื้ม​ ผม​จะจัดการ​ให้​เอง​ เดี๋ยว​ผม​จะโทร​หา​เพื่อน​สมัย​เด็ก​สอง​คน​เพื่อ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​คุณ​ แต่​ผม​ต้อง​วางสาย​คุณ​ก่อน​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​วาง​สายโทรศัพท์​และ​โทร​หา​เพื่อน​สมัย​เด็ก​สอง​คน​ทันที​

เพื่อน​สมัย​เด็ก​ทั้งสอง​คน​บอกกล่าว​ฟางจั๋ว​หรา​น​ผ่าน​โทรศัพท์​อย่าง​หนักแน่น​ว่า​ พวกเขา​จะจัด​การคน​ที่มา​รังแก​พี่สะใภ้​เอง​

จากนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​โทร​กลับ​ไปหา​หลิน​ม่าย​ โดย​บอ​กว่าเพื่อน​สมัย​เด็ก​ของ​เขา​ได้​เริ่ม​ดำเนินการ​แล้ว​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​วางสาย​ แต่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ปฏิเสธ​และ​ยืนกราน​ที่จะ​คุย​กับ​เธอ​

ทั้งสอง​คุย​กัน​นาน​กว่า​สิบ​นาที​ จนกระทั่ง​หลิน​ม่าย​พูดว่า​ “ดูเหมือนว่า​เพื่อน​สมัย​เด็ก​ของ​คุณ​จะมาที่นี่​ด้วย​รถจี๊ป​แล้ว​นะคะ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงต้อง​วาง​สายโทรศัพท์​อย่าง​ไม่เต็มใจ​

เขา​ก็​เอนหลัง​ลง​บน​เก้าอี้​ด้วย​ความสบายใจ​ อย่างไรก็ตาม​ จู่ๆ เขา​ก็​สังเกตเห็น​ใคร​บางคน​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​จาก​หาง​ตา​

เขา​หัน​ศีรษะ​ไป​และ​เห็น​แพทย์​ประจำ​บ้าน​มือใหม่​ถือ​เวช​ระเบียน​ปึก​ใหญ่​จ้องมอง​มาที่​เขา​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ไม่รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​จ้องมอง​เขา​มานาน​แค่​ไหน​แล้ว​

บน​ใบหน้า​ของ​แพทย์​ประจำ​บ้าน​เขียน​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ ‘ศาสตราจารย์​ฟางกลายเป็น​คน​แบบนี้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​’

ฟางจั๋ว​หรา​น​ตระหนัก​ว่าการ​โทรศัพท์​กับ​หลิน​ม่าย​ทำลาย​ความเข้าใจ​ใน​ภาพลักษณ์​ของ​เขา​จน​เกือบ​สิ้น​ ซึ่งเป็นสาเหตุ​ที่​แพทย์​มือใหม่​รู้สึก​ประหลาดใจ​มาก​

ตราบใดที่​เขา​ยังคง​สงบนิ่ง​และ​ไม่สะทกสะท้าน​ ความ​เคอะเขิน​ก็​จะไป​อยู่​กับ​อีก​ฝ่าย​แทน​

ฟางจั๋ว​หรา​น​แสร้ง​ทำเป็น​สงบ​และ​ถามไป​ว่า​ “คุณ​มีธุระ​อะไร​กับ​ผม​หรือเปล่า​?”

แพทย์​ประจำ​บ้าน​ยังคง​หมกมุ่น​กับ​การ​ค้นพบ​ว่า​ ศาสตราจารย์​ฟางไม่ได้​เย็นชา​เป็น​น้ำแข็ง​อย่าง​ที่​คิด​ เพราะ​ต่อหน้า​ภรรยา​เขา​กลายเป็น​สามีผู้​เชื่อฟัง​

เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ เขา​ก็​กลับมา​รู้สึกตัว​และ​พยักหน้า​รับ​

รถจี๊ป​สีเขียว​เป็นเงา​สอง​คัน​ขับ​เข้ามา​ใน​ไซต์​ก่อสร้าง​

ชายหนุ่ม​ที่​แต่ง​ตัวดี​มีภูมิฐาน​ราว​สอง​ถึงสามคน​ลง​จาก​รถจี๊ป​ทั้งสอง​คัน​

เมื่อ​พวกเขา​ลง​จาก​รถ​ ทุกคน​มอง​ไป​ที่​สำนักงาน​ชั่วคราว​ของ​เจียว​อิง​จวิ้น​

สำนักงาน​ชั่วคราว​ถูก​ล้อมรอบ​ด้วย​กลุ่ม​แรงงาน​ต่างถิ่น​ที่​ถือ​พลั่ว​ ค้อน​ และ​เครื่องมือ​เหล็ก​อื่นๆ​ ซึ่งก่อตัว​เป็น​วง​หลาย​ชั้น​ทั้ง​ภายนอก​และ​ภายใน​

สีหน้า​ของ​คนหนุ่ม​เหล่านั้น​กลายเป็น​จริงจัง​ทันที​

ใน​ใจแอบ​พ่น​คำ​ด่าทอ​ ไอ้​งี่เง่านั่น​มาจาก​ไหน​ ถึงได้​จองหอง​กล้า​ทำ​กับ​ภรรยา​พี่​จั๋ว​หรา​น​แบบนี้​!

ถ้าอยาก​ตาย​ขนาด​นั้น​ก็​แค่​พูด​ออกมา​ ทำไม​ถึงได้​วางท่า​ใหญ่โต​ข่มขู่​คนอื่น​แบบนี้​

ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ผลัก​ชาย​วัยกลางคน​ผมหยิก​แล้ว​พูดว่า​ “ไป​! ไป​บอก​พวก​ขี้ข้า​ของ​แก​ให้​สลาย​กลุ่ม​แรงงาน​ต่างถิ่น​พวก​นี้​ทันที​ ไม่งั้น​เรา​จะจัดการ​แก​ก่อน​!”

ชาย​วัยกลางคน​ผมหยิก​เชื่อฟัง​ยิ่งกว่า​สุนัข​ เขา​วิ่ง​ไป​จนถึง​ประตู​สำนักงาน​ของ​เจียว​อิง​จวิ้น​

เขา​ตะโกน​เข้าไป​ด้านใน​ผ่าน​ประตู​ “ไอ้​เจ้าเจี่ย​ชิ่งหลาย​ แก​รีบ​สั่งแยกย้าย​แรงงาน​ต่างถิ่น​พวก​นี้​โดยเร็ว​ พี่​จ้าว​และ​พี่​สวี่​จาก​แวดวง​ผู้มีอิทธิพล​อยู่​ที่นี่​แล้ว​!”

เมื่อ​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ได้ยิน​สิ่งนี้​ ขา​ทั้งสอง​ของ​เขา​ก็​สั่นเทา​ด้วย​ความตกใจ​

ก่อนหน้านี้​หลิน​ม่าย​บอ​กว่า​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ไม่ได้​สลักสำคัญ​อะไร​ใน​สายตา​เธอ​ ต่อให้​พวกเขา​มาขอร้อง​ เธอ​ก็​จะไม่เข้าร่วม​

เขา​คิด​ว่า​เธอ​พูดปด​มดเท็จ​ไป​อย่างนั้น​ แต่​ไม่คาดคิด​ว่า​ถ้อยคำ​พวก​นั้น​จะเป็น​ความจริง​

ด้วย​การ​โทรศัพท์​เพียง​ครั้ง​เดียว​ เธอ​สามารถ​เรียก​คน​จาก​แวดวง​ระดับ​สูงสุด​ใน​เมืองหลวง​มาได้​ ไม่แปลกใจ​เลย​ที่​เธอ​จะไม่มีท่าทาง​เกรงกลัว​

การแก้แค้น​ของ​คน​จาก​ตระกูล​อัน​ทรงเกียรติ​นั้น​ไร้​ความปรานี​ และ​เขา​จะต้อง​เผชิญ​กับ​ผล​ที่​ตามมา​ของ​การกระทำ​ของ​เขา​

เจี่ย​ชิ่งหลาย​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​สั่นเครือ​ “ฉัน​ไม่ได้​พา​แรงงาน​ต่างถิ่น​เหล่านั้น​มาที่นี่​ ตะ​… แต่​ประธาน​หลิน​ขอให้​แรงงาน​ต่างถิ่น​เหล่านั้น​ปิดล้อม​สำนักงาน​ เพียง​เพราะ​หล่อน​เกรง​ว่า​เสี่ยว​หู​และ​ฉัน​จะหนี​ไป​ได้​”

สีหน้า​ของ​พี่​จ้าว​ พี่​สวี่​ และ​ลูกน้อง​อี​กราว​สามคน​ที่อยู่​ลาน​กว้าง​แปร​เปลี่ยนไป​ทันทีที่​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เจี่ย​ชิ่งหลาย​

ก่อนหน้า​มีคน​โทร​บอก​พวกเขา​ว่า​ พี่สะใภ้​กำลัง​โดน​ข่มเหง​รังแก​อย่าง​หนัก​ ทั้ง​ยัง​ย้ำ​พวกเขา​ให้​รีบ​มาปกป้อง​เธอ​

แต่​ใน​สถานการณ์​จริง​ ใคร​รังแก​ใคร​กัน​แน่​?

ลูกน้อง​จาก​ครอบครัว​อัน​ทรงเกียรติ​พยายาม​อธิบาย​ให้​แรงงาน​ต่างถิ่น​ที่อยู่​รอบ​ ๆ ฟังว่า​พวกเขา​อยู่​ภายใต้​คำสั่ง​ของ​หลิน​ม่าย​

แรงงาน​ต่างถิ่น​ยังคง​ไม่ไหวติง​ กระทั่ง​เจียว​อิง​จวิ้น​ออกมา​พู​เกลี้ยกล่อม​ พวกเขา​จึงแยกย้าย​กัน​ไป​ทำงานต่อ​

เจียว​อิง​จวิ้น​เชิญผู้คน​จาก​ครอบครัว​อัน​ทรงเกียรติ​และ​ชาย​ผมหยิก​เข้าไป​ด้านใน​ด้วย​ความเคารพ​

เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​จ้องเขม็ง​ไป​ทาง​เจี่ย​ชิ่งหลาน​และ​หัวหน้าคนงาน​หู​อย่าง​ไร้​ความปรานี​ทันทีที่​เขา​เข้าไป​ด้านใน​ ก่อน​ถามเสียงแข็ง​ “ฉัน​ได้ยิน​มาว่า​มีคน​รังแก​พี่สะใภ้​ของ​เรา​ บอก​มาว่า​เจ้าคนขี้ขลาด​คน​นั้น​เป็น​ใคร​?”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ทำ​เป็นใหญ่​ เจอ​ของจริง​เข้าไป​ยัง​จะกล้า​กร่าง​อีก​ไหม​?

ไหหม่า​(海馬)