ตอนที่ 838 ไล่หัวหน้าผู้รับเหมาออก

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 838 ไล่​หัวหน้า​ผู้รับเหมา​ออก​

หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​เห็น​ว่า​ผู้มาเยือน​ไม่เป็นมิตร​ เขา​จึงรีบ​ซ่อนตัว​อยู่​ข้างหลัง​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ทันที​ ขณะที่​พยายาม​หลอกตัวเอง​ใน​ใจ ‘พวกเขา​ไม่เห็น​ฉัน​ พวกเขา​ไม่เห็น​ฉัน​’

เจี่ย​ชิ่งหลาย​ละทิ้ง​ความ​หยิ่งผยอง​ทั้งหมด​ ทรุดตัว​ลง​คุกเข่า​พร้อม​โขก​ศีรษะ​ตัวเอง​ลงพื้น​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ขณะ​ร้องขอ​การอภัย​

เขา​พูด​ด้วย​สีหน้า​เศร้าสร้อย​ “ทั้งหมด​เป็น​เพราะ​ผม​ตา​มืด​บอด​ไม่รู้​สถานการณ์​ จึงทำให้​ประธาน​หลิน​ขุ่นเคือง​ โปรด​ไว้ชีวิต​ผม​ด้วย​เถอะ​~”

ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ถีบ​เขา​กระเด็น​ลงพื้น​ “ปล่อย​คน​แบบ​แก​ไป​เพื่อ​ทำให้​เรา​อับอาย​อีก​น่ะ​เหรอ​!”

เจี่ย​ชิ่งหลาย​ลุกขึ้น​มาคุกเข่า​บน​พื้น​อีกครั้ง​ “ท่านชาย​ครับ​ คุณ​อยาก​ให้​ผม​ทำ​อะไร​?”

ชายหนุ่ม​พยักพเยิด​ไป​ทาง​หลิน​ม่าย​ “ไม่เห็น​หรือไง​ว่า​พี่สะใภ้​ของ​เรา​กำลัง​ท้อง​อยู่​ แล้ว​ยัง​กล้า​มาข่มขู่​หล่อน​อีก​ อย่าง​น้อย​แก​ควร​ขอโทษ​และ​ชดเชย​เงิน​ 10,000 หยวน​แก่​หล่อน​ เพื่อให้​พี่สะใภ้​นำ​ไป​ซื้อ​อาหารเสริม​มาบรรเทา​อาการ​ตกใจ​”

เจี่ย​ชิ่งหลาย​พยักหน้า​เหมือน​ไก่​จิก​ข้าว​ “ผม​จะทำ​ทันที​ครับ​”

จากนั้น​เขา​ตบหน้า​ตัวเอง​ต่อหน้า​หลิน​ม่าย​และ​กล่าว​คำขอโทษ​เธอ​ไม่หยุด​

เมื่อ​เห็น​เลือด​สีแดงก่ำ​ไหล​ออกจาก​มุมปาก​ หลิน​ม่าย​จึงโบกมือ​ “เอาล่ะ​ ออก​ไป​ได้​แล้ว​”

จากนั้น​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ก็​ออกจาก​สำนักงาน​ด้วย​ท่าทาง​กระวนกระวาย​ ก่อนที่​ชาย​ผมหยิก​จะตาม​เขา​ออก​ไป​เช่นกัน​

ชาย​ผมหยิก​ต่อว่า​เจี่ย​ชิ่งหลายอย่าง​รุนแรง​ บอ​กว่า​เขา​ไม่ควร​สร้าง​ปัญหา​และ​กล่าวอ้าง​ชื่อ​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​เพื่อ​ข่มเหง​คนอื่น​

เขา​ถูก​เหยียดหยาม​และ​ปฏิบัติ​เหมือน​สุนัข​ ถูก​เรียกตัว​และ​ออกคำสั่ง​โดย​ทายาท​ตระกูล​ใหญ่​ เขา​สูญเสียศักดิ์ศรี​และ​หน้าตา​ทั้งหมด​ จากนี้ไป​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ควร​เลิก​ติดตาม​พวกเขา​และ​หา​อาชีพ​ใหม่​ทำ​

เจี่ย​ชิ่งหลาย​เผย​สีหน้า​ทุกข์ระทม​เมื่อ​รู้​ว่า​ตัวเอง​ถูก​ไล่​ออกจาก​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ ขณะที่​กำลัง​ด่าทอ​บรรพบุรุษ​เจ็ดชั่วโคตร​ของ​หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​อยู่​ใน​ใจ

หลิน​ม่าย​ยืน​ขึ้น​และ​กล่าว​คำขอบคุณ​กับ​ผู้คน​จาก​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​เหล่านั้น​

พวกเขา​โบกมือ​กล่าว​ “ด้วยความยินดี​ครับ​พี่สะใภ้​ หาก​มีสิ่งใด​ที่​พี่สะใภ้​ไม่สามารถ​ตกลง​กัน​ได้​อีก​ในอนาคต​ ก็​ต่อสาย​หา​เรา​ได้​โดยตรง​”

หลังจากนั้น​พวกเขา​ก็​มอบ​นามบัตร​ให้​เธอ​

หลังจากที่​พวกเขา​ขึ้น​รถจี๊ป​และ​ขับ​ออก​ไป​ หลิน​ม่าย​เหลือบมอง​หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​เล็กน้อย​ ซึ่งทำให้​อีก​ฝ่าย​สั่นสะท้าน​ไป​ทั้ง​ร่างกาย​

หลิน​ม่าย​ถอน​สายตา​ออก​และ​หันไป​พูด​กับ​เจียว​อิง​จวิ้น​ว่า​ “ใน​เมื่อ​ชาย​คน​นั้น​ละเมิดสัญญา​ ก็​ต้อง​ได้​รับโทษ​ตาม​สัญญา ไล่​เขา​ออก​ไป​และ​ยึด​เงินมัดจำ​ทั้งหมด​”

หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​เกิด​ความกังวล​ หาก​รู้​ว่า​เงินมัดจำ​ทั้งหมด​จะถูก​ยึด​ไป​ มัน​คง​ดีกว่า​ที่​ปล่อย​ให้​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ปรับปรุง​ส่วน​ที่​ต่ำกว่า​มาตรฐาน​ของ​การ​ก่อสร้าง​เพื่อ​ลด​การ​สูญเสีย​ให้​น้อยที่สุด​ ด้วย​วิธี​นี้​ พวกเขา​ยัง​สามารถ​หารายได้​จาก​งาน​ที่​รับ​มา

เขา​คร่ำครวญ​ทันที​และ​ขอร้อง​หลิน​ให้อภัย​ โดย​บอ​กว่า​เห็นแก่​ที่​พวกเขา​เป็น​คน​จาก​หูเป่ย​เหมือนกัน​

มีภาษาถิ่น​หลากหลาย​ใน​หูเป่ย​ ซึ่งหลิน​ม่าย​ไม่ได้​คุ้นเคย​กับ​พวก​มัน​ทั้งหมด​

เธอ​ยืน​ฟังเป็นเวลา​นาน​ ก่อน​จะตระหนัก​ได้​ถึงภาษาถิ่น​ที่​หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​พูด​

ดูเหมือนว่า​เธอ​จะเคย​ได้ยิน​คนพูด​ภาษาถิ่น​แบบนี้​มาก่อน​ เพียงแต่​จำไม่ได้​เท่านั้น​

หาก​จำไม่ได้​ นั่น​แสดงว่า​มัน​ไม่สำคัญ​ หลิน​ม่าย​จึงได้​ลืมเลือน​ไป​

เธอ​ตะคอก​ใส่หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​อย่าง​เย็นชา​ “ใน​เมื่อ​คุณ​รู้​ว่า​เรา​เป็น​คนบ้านเดียวกัน​ แล้ว​ยัง​คิด​จะโกง​ฉัน​อีก​เหรอ​?”

หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​ตัว​สั่นเทา​และ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ “มัน​ไม่ใช่ว่า​ผม​จะโกง​คุณ​ แต่​ประธาน​หลิน​ซื่อตรง​เกินไป​ แม้จะเปลี่ยน​เหล็กเส้น​หนา​เป็น​เหล็กเส้น​บาง​ แต่​มัน​ก็​แค่​บาง​ลง​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ซึ่งไม่มีผลกระทบ​ต่อ​คุณภาพ​ของ​บ้าน​เลย​ ผม​รับเหมา​ไซต์​ก่อสร้าง​มาหลาย​แห่ง​ และ​ไม่มีอาคาร​ที่ไหน​ถล่ม​ลงมา​ ไม่อย่างนั้น​ผม​จะทำ​เงินได้​มากมาย​ได้​อย่างไร​? ประธาน​หลิน​เป็น​คน​ตรงไปตรงมา​และ​ยืนกราน​ที่จะ​ทำตาม​กฎ​ไม่ประนีประนอม​กับ​หลักการ​ ตราบใดที่​วัสดุ​มีขนาด​ลดลง​ไม่มาก​จน​เกินไป​ มัน​จะไม่ส่งผลกระทบ​อย่าง​มีนัยสำคัญ​ต่อ​ตัวอาคาร​ครับ​”

หลิน​ม่าย​หัวเราะเยาะ​ “ฉัน​เชื่อ​แล้ว​ว่า​คุณ​มัน​เลว​ เลว​แบบ​ไม่มีที่ติ​ ตราบใดที่​ลด​ขนาด​วัสดุ​ลง​ มัน​จะต้อง​ส่งผลกระทบ​ต่อ​ความปลอดภัย​ คุณ​คิด​ว่า​ฉัน​โง่มาก​หรือ​ยังไง​! แม้ว่า​ตอนนี้​จะไม่มีปัญหา​ แต่​หาก​อีก​เจ็ด​ถึงแปด​ปี​ข้างหน้า​มัน​เริ่ม​มีปัญหา​ขึ้น​มาล่ะ​!”

ใน​ชีวิต​ก่อน​ของ​เธอ​ หลิน​ม่าย​เห็น​ข่าว​บน​อินเทอร์เน็ต​ที่​อาคาร​อายุ​ราว​แปด​ปี​หรือ​มากกว่า​สิบ​ปี​ จู่ๆ ก็​ถล่ม​ลงมา​ ซึ่งเป็น​การถล่ม​ลงมา​ด้วยตัวเอง​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​ลด​ขนาด​วัสดุ​ใน​ระหว่าง​การ​ก่อสร้าง​ แล้ว​ปัญหา​ด้าน​ความปลอดภัย​จะเกิดขึ้น​ใน​ภายหลัง​เหรอ​?

หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​พูด​คำ​เฉยเมย​ “มัน​เป็น​ความจริง​ที่​อาจ​มีปัญหา​หลังจาก​ผ่าน​ไป​ราว​เจ็ด​ถึงแปด​ปี​ แต่​มัน​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​คุณ​แล้ว​”

หลิน​ม่าย​ตอบกลับ​เสียง​เย็นชา​ “แต่​มัน​เกี่ยวกับ​ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี​ของ​ฉัน​ คุณ​ออก​ไป​ซะ เรื่อง​นี้​ได้รับ​การ​ตัดสิน​แล้ว​”

หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​รีบ​พูด​ด้วย​ท่าทาง​ร้อนรน​ “ผม​จะแก้ไข​ส่วน​ของ​โครงการ​ที่​มีการ​ลด​ขนาด​วัสดุ​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​เย็นชา​ “มัน​สาย​ไป​แล้ว​ ฉัน​เคย​ให้โอกาส​คุณ​ แต่​คุณ​ไม่คิด​รักษา​ไว้​ ดังนั้น​มัน​จะไม่มีอีก​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​”

หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​เด็ดขาด​ยิ่งกว่า​เจียว​อิง​จวิ้น​ เขา​พลัน​นึก​เสียใจ​ขึ้น​มา

ถ้ารู้​ว่า​จะลงเอย​แบบนี้​ เขา​คง​ฟังผู้อำนวยการ​เจีย​ตั้งแต่แรก​และ​สั่งแก้ไข​ส่วน​ที่​ไม่เหมาะสม​ของ​อาคาร​ เพื่อ​ทำให้​ความสูญเสีย​ลดน้อยลง​

เขา​ไม่ควร​คิด​ฉวยโอกาส​เลย​ โดย​คิด​ว่า​ประธาน​เป็น​หญิงสาว​และ​จะสามารถ​ข่มเหง​เธอ​ได้​

จึงได้​พา​เพื่อน​ที่​มาจาก​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​มาทำให้​เธอ​กลัว​ จากนั้น​เธอ​จะได้​ไม่กล้า​เรียกร้อง​ความรับผิดชอบ​จาก​เขา​

โดย​ไม่คาดคิด​ เจี่ย​ชิ่งหลาย​ที่​เชิญมาจาก​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​กลับ​ถูก​ลูกน้อง​ของ​หลิน​ม่าย​ไล่​ออกจาก​แวดวง​ศิลปะ​ปักกิ่ง​ทันที​

ท้ายที่สุด​ หัวหน้า​ผู้รับเหมา​หู​ไม่มีทางเลือก​อื่น​ นอกจาก​ต้อง​จากไป​ด้วย​ความโกรธแค้น​

หลิน​ม่าย​นึก​สงสัย​และ​ถามเจียว​อิง​จวิ้น​ว่า​ “ฉัน​จำได้​ว่า​ตอนที่​คุณ​จ้างวาน​ผู้รับเหมา​ คุณ​ไม่ได้​จ้างแซ่หู​ แล้ว​เขา​เข้ามา​ควบคุม​งาน​ได้​ยังไง​?”

เจียว​อิง​จวิ้น​กล่าว​ “ปรากฏ​ว่า​ผู้รับเหมา​รายใหญ่​ที่​ผม​คัดเลือก​มารับเหมา​ช่วง​โครงการ​มาจาก​เขา​ครับ​”

หลิน​ม่าย​กล่าว​คำ​เด็ดขาด​ “ไล่​ผู้รับเหมา​รายใหญ่​ออก​ โครงการ​ของ​เรา​ไม่อนุญาต​ให้​รับเหมา​ช่วง​”

เมื่อ​ฟางจั๋ว​หรา​นก​ลับ​จาก​เลิกงาน​ เขา​พบ​ว่า​หลิน​ม่าย​กลับบ้าน​แล้ว​

ทันทีที่​กลับ​มาถึง เขา​ถามหลิน​ม่าย​ทันที​ว่า​ปัญหา​ได้รับ​การ​แก้ไข​แล้ว​ใช่หรือไม่​ หลิน​ม่าย​จึงชูมือขึ้น​ทำท่า​ OK ให้​เขา​

ฟางจั๋ว​หรา​น​สวมกอด​เธอ​และ​พูดว่า​ “ภรรยา​ ในอนาคต​อย่า​ไป​ไซต์​ก่อสร้าง​อีก​ ไซต์​ก่อสร้าง​มีฝุ่นละออง​มากมาย​ ซึ่งจะส่งผลกระทบ​ต่อ​ทารกในครรภ์​ได้​”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​รับ​ “ฉัน​จะทำ​ตามที่​คุณ​พูด​ค่ะ​ ฉัน​ไม่รู้​ว่า​โทสะ​ทั้งหมด​มาจาก​ไหน​ แต่​ทันทีที่​ฉัน​ได้ยิน​ข่าว​ ฉัน​รีบ​ไป​ที่นั่น​ทันที​ อาจ​เป็น​เพราะ​กำลัง​ตั้งครรภ์​อยู่​ ฉัน​จึงควบคุม​อารมณ์​ไม่ได้​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ลูบ​ศีรษะ​ภรรยา​ด้วย​ความเป็นห่วง​ “มัน​เป็น​งานหนัก​สำหรับ​คุณ​จริงๆ​”

หลังจาก​ครอบครัว​กิน​ข้าวเย็น​ด้วยกัน​เสร็จ​ น้า​ถูเข้ามา​บอก​กับ​หลิน​ม่าย​ว่า​ “ม่าย​จื่อ​ มีคน​มารอ​พบ​อยู่​ด้านนอก​ ฉัน​ไม่รู้จัก​ เลย​ไม่กล้า​ให้​พวกเขา​เข้ามา​”

หลิน​ม่าย​ถาม “น้า​ถูได้​ถามไหม​คะ​ว่า​พวกเขา​เป็น​ใคร​?”

“ถามแล้ว​ค่ะ​ ตอนแรก​พวกเขา​ไม่ยอม​พูด​ แต่​พอ​เห็น​ว่า​ฉัน​กำลังจะ​ปิดประตู​ พวกเขา​บอ​กว่า​เป็น​แม่ลูก​กัน​ เพราะ​คุณ​ช่วยเหลือ​ลูกสาว​เธอ​ไว้​ พวกเขา​จึงรู้สึก​ขอบคุณ​อย่าง​มาก​ แล้ว​วันนี้​พวกเขา​ได้​เตรียม​ของขวัญ​พิเศษ​มาด้วย​มากมาย​เพื่อ​ขอบคุณ​”

หลิน​ม่าย​เดา​ได้​ทันที​ว่า​ สอง​คน​นั้น​คงจะ​เป็น​ป้า​ฝูและ​ลูกสาว​ของ​นาง​

เธอ​กำชับ​กับ​หัวหน้า​พยาบาล​ไว้​ว่า​อย่า​บอก​ฮุ่ย​ฮุ่ย​และ​สามีของ​เธอ​ว่า​หลิน​ม่าย​เป็น​คน​ออก​เงิน​ให้​ แต่​ดูเหมือนว่า​หัวหน้า​พยาบาล​จะไม่ได้​เก็บ​ความลับ​นั้น​ไว้​

หลิน​ม่าย​ถามน้า​ถูถึงรูปพรรณสัณฐาน​ของ​ผู้มาเยือน​ ว่า​แม่ลูกคู่​นั้น​มีหน้าตา​แบบนี้​หรือไม่​

น้า​ถูพยักหน้า​รับ​ “ใช่ค่ะ​”

ตอนนั้น​หลิน​ม่าย​ช่วยเหลือ​ฮุ่ย​ฮุ่ย​โดย​ไม่ได้​คาดหวัง​สิ่งใด​ตอบแทน​ เธอ​เพียงแค่​เห็นใจ​อีก​ฝ่าย​และ​ไม่อยาก​ให้​ฮุ่ย​ฮุ่ย​ต้อง​ทนทุกข์ทรมาน​

ตอนนี้​หลิน​ม่าย​ไม่ต้องการ​ได้ยิน​คำขอบคุณ​หรือ​รับ​ของขวัญ​ตอบแทน​จาก​แม่ลูก​ทั้งสอง​

เธอ​บอก​น้า​ถูไป​ว่า​ “คุณ​น้า​ออก​ไป​บอก​แม่ลูก​สอง​คน​นั้น​นะคะ​ว่า​ ฉัน​ไม่อยาก​เจอ​พวก​หล่อน​ เรื่องราว​จบ​ลง​ไป​แล้ว​ อย่า​เก็บ​มาใส่ใจอีก​ และ​ขอ​อย่า​มาที่​บ้าน​ฉัน​อีก​เลย​”

น้า​ถูกลับ​ออก​ไป​ถ่ายทอด​คำพูด​หลิน​ม่าย​ แต่​ใช้เวลา​เกือบ​แปด​นาที​กว่า​จะกลับ​เข้ามา​

บอก​หลิน​ม่าย​ว่า​ หลังจากที่​ส่งแม่ลูกคู่​นั้น​ไป​แล้ว​ พลัน​มีคนอื่น​มาหา​หลิน​ม่าย​อีกครั้ง​

คราวนี้​เป็น​เจี่ย​ชิ่งหลาย​ที่​ตามหา​หลิน​ม่าย​ เขา​มอบ​ซองจดหมาย​สีแดง​ที่​ใส่เงิน​จำนวน​ 10,000 หยวน​ฝาก​ให้​เธอ​

หลิน​ม่าย​รับ​มัน​มาด้วยความยินดี​และ​ตั้งใจ​นำ​เงิน​ส่วน​นี้​ไป​บริจาค​ให้​กับ​สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า​ใน​วันรุ่งขึ้น​

โต้​ว​โต้​ว​อายุ​หก​ขวบ​กว่า​แล้ว​ เธอ​จะอายุ​ครบ​เจ็ด​ขวบ​ใน​เดือน​มกรา​ และ​ถึงเวลา​ที่​ต้อง​เข้า​โรงเรียน​

หลิน​ม่าย​ใช้เวลา​ทั้งวัน​ใน​การพา​เด็กน้อย​ไป​ลงทะเบียน​ที่​โรงเรียนประถม​ที่อยู่​ละแวกบ้าน​ จากนั้น​จึงไป​ห้างสรรพสินค้า​เพื่อ​ซื้อ​เครื่องเขียน​

ใน​ยุค​นี้​ ผู้​ที่​มีสำเนาทะเบียนบ้าน​นอก​พื้นที่​ต้อง​จ่าย​เงิน​ค่าธรรมเนียม​การ​กู้ยืม​เพื่อ​ศึกษา​ใน​เมืองหลวง​

ค่าธรรมเนียม​การ​กู้ยืม​ไม่ถูก​เลย​ แต่​โชคดี​ที่​หลิน​ม่าย​ร่ำรวย​และ​ไม่สนใจ​เงินทอง​เล็กน้อย​แค่นี้​

หลังจาก​ลงทะเบียน​ให้​โต้​ว​โต้​ว​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​วางแผน​ที่จะ​กลับ​ไป​นอน​พักผ่อน​

มหาวิทยาลัย​จะเปิด​ใน​อีก​สิบ​วัน​ จากนั้น​เธอ​ต้อง​มุ่งความสนใจ​ไป​ที่​กิจการ​และ​การเรียน​อีกครั้ง​

อย่างไรก็ตาม​หลิน​ม่าย​รู้สึก​ไม่สบายใจ​หลังจาก​เอนกาย​ลง​ เธอ​รู้สึก​เหมือนว่า​มีสิ่งสำคัญ​บางประการ​ แต่​เธอ​กลับ​จำไม่ได้​ว่า​สิ่งนั้น​คือ​อะไร​

โชคดี​ที่​เธอ​จดบันทึก​สิ่งสำคัญ​ลง​ใน​สมุด​เสมอ​ เผื่อว่า​ตัวเอง​จะหลงลืม​

เธอ​หยิบ​สมุดบันทึก​ออก​มาจาก​โต๊ะ​ข้าง​เตียง​แล้ว​พลิก​ดู​ และ​แน่นอน​ว่า​เธอ​ลืม​สิ่งสำคัญ​ไป​จริง​ด้วย​

เรื่องสำคัญ​นั้น​ก็​คือ​ เธอ​ให้สัญญา​กับ​ผู้จัดการ​เซี่ย​ว่า​จะมอบ​สร้อยคอ​ทอง​ให้​ลูกสาว​ฝาแฝด​ของ​เขา​ หาก​พวก​เธอ​สามารถ​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​หรือ​วิทยาลัย​ใน​ปี​นี้​ได้​

หลิน​ม่าย​ต่อ​สายตา​ผู้จัดการ​เซี่ย​ทันที​ และ​ผู้​ที่​รับสาย​คือ​เซี่ย​หยวน​แฝด​คน​เล็ก​

หล่อน​บอก​หลิน​ม่าย​อย่าง​ตื่นเต้น​ผ่าน​ทาง​โทรศัพท์​ว่า​ หล่อน​และ​เซี่ย​ฟางผู้​เป็น​พี่สาว​สอบ​เข้าเรียน​ใน​วิทยาลัย​เดียวกัน​ได้​

เป็น​ความจริง​ที่​หลิน​ม่าย​ลืม​ถามพี่น้อง​ฝาแฝด​ว่า​พวก​เธอ​สอบ​เข้า​ที่ไหนได้​ แต่​หลิน​ม่าย​ไม่ยอมรับ​ออก​ไป​โดยตรง​ว่า​ตัวเอง​เป็น​คน​ขี้ลืม​มาก​เพียงใด​

เธอ​ตอบกลับ​ไป​ด้วย​ความโกรธ​เล็กน้อย​ “เธอ​และ​พี่สาว​เก่ง​มาก​ ทั้งคู่​สอบ​เข้า​วิทยาลัย​ได้​ แต่กลับ​ไม่แจ้งให้​ฉัน​รู้​เลย​ ฉัน​น้อยใจ​จริงๆ​”

เซี่ย​หยวน​รู้สึก​ผิด​และ​รีบ​พูดว่า​ “ไม่ใช่ว่า​หนู​ไม่อยาก​นะคะ​ พี่สาว​กับ​หนู​ต่าง​ก็​อยาก​บอก​ แต่​พ่อ​ไม่ยอมให้​พวกเรา​ทำ​แบบ​นั้น​~”

หลิน​ม่าย​ชำเลือง​มองดู​นาฬิกา​ มัน​เป็นเวลา​เกือบ​หก​โมงเย็น​แล้ว​ ผู้จัดการ​เซี่ยคง​กำลัง​กลับ​จาก​เลิกงาน​

แต่​ผู้จัดการ​เซี่ย​เป็น​ผู้บริหาร​ธนาคาร​และ​มีตำแหน่ง​สูงกว่า​พ่อ​ไป๋​

มัน​เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะเลิกงาน​ตรงเวลา​เหมือนกับ​พนักงาน​ทั่วไป​ และ​บางครั้ง​ก็​ต้อง​มีการสังสรรค์​ต่อ​

แต่​หลิน​ม่าย​ก็​ลอง​ถาม “พ่อ​ของ​พวก​เธอ​กลับมา​หรือยัง​ ฉัน​อยาก​คุย​กับ​เขา​”

ขณะที่​เซี่ย​หยวน​กำลัง​บอ​กว่า​พ่อ​ของหล่อน​ยัง​ไม่กลับมา​ หล่อน​พลัน​ได้ยิน​เสียง​เปิด​ประตู​ ก่อน​ตามมา​ด้วย​เสียง​ของ​พ่อ​ที่​ทักทาย​แม่

เซี่ย​หยวน​ชะเง้อ​มอง​และ​พูด​กับ​พ่อ​ว่า​ “คุณพ่อ​ พี่​ม่าย​จื่อ​อยาก​คุย​ด้วย​ค่ะ​”

ผู้จัดการ​เซี่ย​ส่งกระเป๋าเอกสาร​ให้​ภรรยา​ เขา​รีบ​สาว​ท้าว​ไป​ที่​โซฟาเพื่อ​นั่งลง​และ​รับโทรศัพท์​จาก​ลูกสาว​

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “ฉัน​เพิ่ง​คุย​กับ​น้อง​เซี่ย​หยวน​ผ่าน​โทรศัพท์​เมื่อ​ครู่​ ได้ยิน​ว่า​หล่อน​และ​พี่สาว​สอบ​เข้า​วิทยาลัย​ได้​แล้ว​ทั้งคู่​ ฉัน​ขอแสดงความยินดี​ด้วย​นะคะ​!”

การ​เป็น​ผู้นำ​ระดับสูง​จำเป็นต้อง​เข้าใจ​ผู้คน​และ​สถานการณ์​เป็น​อย่าง​ดี​

แม้ว่า​ถ้อยคำ​ของ​หลิน​ม่าย​จะไม่ได้​มีเจตนา​ตำหนิ​ผู้จัดการ​เซี่ย​ และ​เธอ​ก็​ไม่มีความกล้า​ที่จะ​ตำหนิ​เขา​ด้วย​

เพียงแต่​น้ำเสียง​แฝงไป​ด้วย​ความน้อยใจ​ ลูกสาว​ฝาแฝด​ของ​เขา​สอบ​เข้า​วิทยาลัย​ได้​ แต่​เขา​ไม่ได้​บอกกล่าว​เธอ​ ซึ่งทำให้​เธอ​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่ได้​ถือว่า​หลิน​ม่าย​เป็นหนึ่ง​ใน​คน​ที่​สนิท​ชิด​เชื้อ​

……………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

สมควร​โดน​ไล่ออก​แล้ว​ โกง​วัสดุ​ทำงาน​ชุ่ยไม่รับผิดชอบ​ชีวิต​ผู้อาศัย​แบบนี้​

ไหหม่า​(海馬)