ตอนที่ 760 ศัตรูที่แข็งแกร่ง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 760 ศัตรูที่แข็งแกร่ง

ขันทีชราเฟิงเย่าที่ตามมาปรนนิบัติรับใช้จักรพรรดิต้าเยี่ยนรินน้ำชาให้คนทั้งสอง จากนั้นถอยไปยืนก้มหน้าอยู่ทางด้านหลัง

มู่หรงอวี้มองไปทางไป๋ชิงเหยียนในชุดบุรุษท่าทีองอาจยิ้มๆ “ต้องขอบคุณคุณหนูใหญ่ไป๋มากที่ช่วยต่ออายุให้ข้าในครั้งนี้”

“ฝ่าบาทเกรงพระทัยเกินไปแล้วเพคะ…” ไป๋ชิงเหยียนยกน้ำชาขึ้นจิบอึกหนึ่งจากนั้นเอ่ยถาม “ไม่ทราบว่าฝ่าบาททรงอยากพบหม่อมฉันเพราะเหตุใดเพคะ”

“คุณหนูใหญ่ไป๋บอกกับคนภายนอกว่าป่วยหนัก ทว่า ยังเดินทางมาพบข้าได้แสดงว่าคุณหนูใหญ่ไป๋ไม่ได้เห็นข้าเป็นคนนอก หากคุณหนูใหญ่ไป๋ไม่รังเกียจสามารถเรียกข้าว่าพี่อวี้ได้ ข้าก็ขอบังอาจเห็นคุณหนูใหญ่ไป๋เป็นดั่งน้องสาวของตัวเองเรียกคุณหนูใหญ่ไป๋ว่าอาเหยียนได้หรือไม่”

ตอนที่มู่หรงอวี้สนทนากับไป๋ชิงเหยียน เขาไม่ได้เรียกแทนตัวเองว่าเราซึ่งเป็นคนแทนตัวของจักรพรรดิ เขาแทนตัวเองว่าข้าเพราะไม่อยากให้ไป๋ชิงเหยียนเห็นว่าเขาคือจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยน

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนตะลึง มู่หรงอวี้จึงกล่าวขึ้นยิ้มๆ “ข้ามีน้องชายอยู่คนหนึ่งนามว่าเหยี่ยน ข้าจึงเรียกเขาว่าอาเหยี่ยน ในเมื่อข้าเห็นคุณหนูใหญ่ไป๋เป็นดั่งน้องสาวข้าจึงอยากเรียกเจ้าว่าอาเหยียนเช่นเดียวกัน ไม่ทราบว่าเป็นการล่วงเกินหรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้าอย่างไม่วางมาด “พี่อวี้มาหาข้าถึงที่นี่ในครั้งนี้คงมีเรื่องสำคัญต้องการสนทนากับข้า พี่อวี้เชิญกล่าวมาได้เลยเจ้าค่ะ”

“ข้ามาขอพบอาเหยียนเพราะมีเรื่องจริงๆ!” ใบหน้าของมู่หรงอวี้มีรอยยิ้มบางๆ แสดงกริยาให้เกียรติอย่างสุภาพบุรุษเต็มที่ “ร่างกายของข้าคงหลอกอาเหยียนไม่ได้ ข้ามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ข้าต้องการจะยกตำแหน่งของข้าให้มู่หรงเหยี่ยนน้องชายของข้า หวังว่าอาเหยียนจะไม่ทอดทิ้ง ยอมแต่งงานกับอาเหยี่ยน กลายเป็นฮองเฮาแห่งต้าเยี่ยน”

มู่หรงอวี้กล่าวพลางยืดหลังตรง จากนั้นคารวะไป๋ชิงเหยียน

เสด็จแม่สิ้นพระชนม์ไปนานแล้ว พี่ชายคนโตเปรียบเสมือนบิดา มู่หรงอวี้ทำให้แต่งงานของมู่หรงเหยี่ยนเรียบร้อยก่อนเขาจะจากไป

มู่หรงอวี้เชื่อมั่นว่าหากมู่หรงเหยี่ยนได้นั่งอยู่บนบัลลังก์แห่งนั้น เขาต้องทำให้ต้าเยี่ยนรวบรวมใต้หล้า สานต่อปณิธานของเสด็จแม่และคืนความสงบสุขให้ชาวบ้านในใต้หล้าแห่งนี้ได้สำเร็จอย่างแน่นอน

มู่หรงอวี้ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้มีคนยุแยงเหล่าบัณฑิตของต้าจิ้นให้ออกมากล่าวหาว่าไป๋ชิงเหยียนคือกบฏของแผ่นดิน ท่านปรมาจารย์กวนยงฉยงเซียนเซิงผู้เป็นอาจารย์ของไป๋ชิงเหยียนออกมาแก้ต่างแทนไป๋ชิงเหยียนต่อหน้าบัณฑิตเหล่านั้นด้วยตัวเอง ไป๋ชิงเหยียนกล่าวว่าสนามรบเต็มไปด้วยซากศพและกองกระดูกที่มากมายราวกับภูเขา ศพมากมายจนไม่มีที่ฝัง ที่นาอุดมสมบูรณ์มากมายไม่ได้รับการดูแลจนแห้งแล้ง ฝูงนกล้มตายเป็นจำนวนมาก

หญิงสาวกล่าวว่ายินดีสละชีพของตัวเองและใช้ความสามารถทั้งหมดที่ตนมีแลกความความสงบสุขกลับคืนมาให้ชาวบ้านในใต้หล้าทุกคน

ปณิธานและความทะเยอทะยานเช่นนี้เหมือนกับน้องชายมู่หรงเหยี่ยนของเขาไม่มีผิดเพี้ยน

สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับมนุษย์ก็คือการได้พบคนรู้ใจและเข้าใจกันเช่นนี้

ไป๋ชิงเหยียนคือคนรู้ใจของน้องชายเขา คือคนในดวงใจของอาเหยี่ยน ดังนั้นมู่หรงอวี้จึงจำเป็นต้องเดินทางมาที่นี่ในครั้งนี้

“ไม่ปิดบังพี่อวี้ ข้าและเซียวหรงเหยี่ยนทำสัญญาใจกันไว้แล้ว ทว่า ยังไม่ใช่ตอนนี้เจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนบอกมู่หรงอวี้ตามความจริงโดยไม่คิดปิดบัง “ข้าและเซียวหรงเหยี่ยนจะใช้ความสามารถของตัวเองเดินไปในทางที่ตัวเองวางแผนไว้ ดูว่าผู้ใดจะได้ครอบครองใต้หล้านี้ก่อนกัน…”

มู่หรงอวี้ตะลึงไปเล็กน้อย เขาไม่คิดมาก่อนว่าไป๋ชิงเหยียนจะใจกล้ามีความคิดอยากเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าเช่นเดียวกัน…

ครู่ใหญ่มู่หรงอวี้จึงกล่าวขึ้น “หากอาเหยียนต้องการเดินในเส้นทางนี้ หนทางของเจ้าจะยากลำบากกว่าอาเหยี่ยนมาก ประการแรกต้าจิ้นแซ่หลิน ประการที่สองอาเหยียนคือสตรี แน่นอนว่าข้าไม่ได้ดูถูกสตรี มารดาของข้าจีโฮ่วก็เป็นสตรีเช่นเดียวกัน ต้าเยี่ยนแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ในมือของมารดาข้า ทว่า ใต้หล้าแห่งนี้ไม่ยุติธรรมต่อสตรี ยกตัวอย่างเช่นซีเหลียง ตอนที่จักรพรรดิแห่งซีเหลียงถูกลอบปลงพระชนม์ หากพระองค์มีโอรสสักองค์ ซีเหลียงก็คงไม่วุ่นวายเหมือนอย่างทุกวันนี้ โอรสสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่างชอบธรรม ทว่า จักรพรรดินีของซีเหลียงขึ้นครองราชย์อย่างยากลำบาก”

“แม้จะยากลำบาก ทว่า ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ บนโลกนี้มีเรื่องใดไม่ยากลำบากบ้าง อยากรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งยากลำบากหรือไม่ แน่นอนว่ายากมาก! ทว่า ต้องมีคนทำมันอยู่ดี” สีหน้าของไป๋ชิงเหยียนหนักแน่น แววตามั่นคง หญิงสาวรู้ดีว่าตัวเองต้องเจอกับสิ่งใดบ้างในหนทางข้างหน้า ทว่า หญิงสาวก็ยังยินดีจะเดินไปในเส้นทางนี้อยู่ดี

มู่หรงอวี้ไม่เคยพบสตรีเช่นนี้มานานแล้ว เขาเคยเห็นแววตาเช่นนี้ในแววตาของมารดาของเขา

ต่อมาเมื่อบิดาของเขาฟื้นขึ้น มารดากลายเป็นสตรีที่อ่อนโยนและเชื่อฟัง นางคิดว่าเมื่อบิดาฟื้นขึ้นมาแล้ว นางสามารถมอบภาระอันหนักอึ้งทั้งหมดให้บิดารับช่วงต่อได้

ช่วงนี้มู่หรงอวี้นึกถึงมารดาของตัวเองบ่อยมาก เขาคิดมาตลอดว่าที่อาเหยี่ยนรักไป๋ชิงเหยียนเป็นเพราะหญิงสาวมีนิสัยและปณิธานที่เหมือนกับมารดาของพวกเขา

บัดนี้เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ มู่หรงอวี้จึงตระหนักได้ว่าไป๋ชิงเหยียนไม่เหมือนกับมารดาของตน

หากเป็นมารดาของตน ตอนนี้นางคงตอบรับการแต่งงานกับอาเหยี่ยน ร่วมมือกับอาเหยี่ยนรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าตนเองต้องการสิ่งใดกันแน่ หญิงสาวไม่ใช่คนที่จะลังเลเพราะความรัก

“หากเจ้าแต่งงานกับอาเหยี่ยน พวกเจ้าช่วยกันทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ใต้หล้าจะถูกรวบรวมเป็นหนึ่งได้แน่” มู่หรงอวี้กล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “ทว่า หากเจ้าได้ครอบครองต้าจิ้น เมื่อแคว้นอื่นถูกทำลายจนเหลือเพียงต้าจิ้นและต้าเยี่ยนสองแคว้นเท่านั้น เจ้าจะสู้รบกับอาเหยี่ยนอย่างนั้นหรือ เจ้าต้องการให้ชาวบ้านในใต้หล้าเดือดร้อนเพราะปณิธานที่เหมือนกันของเจ้ากับอาเหยี่ยนอีกอย่างนั้นหรือ”

มู่หรงอวี้ถามด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง

ไม่ว่าตระกูลไป๋หรือแคว้นต้าเยี่ยนก็ล้วนอยากรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเพื่อความสงบสุขของชาวบ้านทั้งสิ้น

ทว่า หากเหลือเพียงสองแคว้น พวกเขาจะปล่อยให้ชาวบ้านทุกข์ทรมานจากสงครามอีกหรือ

“พี่อวี้ช่างใจกล้ายิ่งนักเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ต้าเยี่ยนยังเป็นเพียงแคว้นที่ยากจน เพิ่งยึดหนานเยี่ยนกลับคืนมาได้ บัดนี้คิดอยากเป็นหนึ่งในใต้หล้าแล้วหรือเจ้าคะ”

มู่หรงอวี้ทำเพียงยิ้มน้อยๆ

“พี่อวี้เคยถามคำถามนี้กับมู่หรงเหยี่ยนบ้างหรือไม่เจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนยกชาขึ้นจิบนิ่งๆ “ข้าคิดว่าพี่อวี้คงยังไม่เคยถาม ในสายตาของท่านพี่อวี้เรื่องนี้คือปัญหาใหญ่ ข้าและมู่หรงเหยี่ยนอยากรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งเพื่อคืนความสงบสุขให้ชาวบ้าน หากสุดท้ายเหลือแค่สองแคว้นจริงๆ พวกข้าจะสู้รบกันเองเพื่อแย่งชิงเป็นที่หนึ่งหรือจะรวมแคว้นกันอย่างปรองดอง หากทำสงครามต่อไม่เพียงจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างข้าและมู่หรงเหยี่ยนเท่านั้น ทว่า ยังทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนจากสงครามด้วย ทว่า หากรวมแคว้นเป็นหนึ่ง ผู้ใดจะขึ้นเป็นจักรพรรดิ อีกคนจะยินยอมด้วยความเต็มใจหรือไม่”

“แม้พี่อวี้จะกล่าวว่าไม่ได้ดูถูกสตรี ทว่า ทุกถ้อยคำที่พี่อวี้กล่าวมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้าจิ้นสกุลหลินหรือเรื่องที่หากทำสงครามแล้วชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อน ล้วนเป็นข้ออ้างที่อยากให้ข้าสวามิภักดิ์กับต้าเยี่ยน ใช้ความรักทำให้ข้ายอมจำนน พี่อวี้อยากให้ข้าช่วยต้าเยี่ยนรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งใช่หรือไม่เจ้าคะ”

น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนสงบราบเรียบไม่ได้โมโหแต่อย่างใด “หากเปลี่ยนเป็นมู่หรงเหยี่ยน เขาไม่มีทางมาถามข้าเช่นนี้แน่นอนเพราะเขาเป็นคนที่ไม่ดูถูกสตรีจริงๆ เขาและข้ามีใจให้กัน เขามองข้าเป็นดั่งสหาย เป็นดั่งคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม! ตระกูลไป๋ของข้าสนับสนุนราชวงศ์หลินมาเป็นร้อยปี หากจักรพรรดิมีคุณธรรม ตระกูลไป๋จะเป็นขุนนางที่จงรักภักดีที่สุด หากจักรพรรดิไร้คุณธรรม เหตุใดตระกูลไป๋ที่มีเมตตาต่อชาวบ้าน มีปณิธานรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งจะเข้าแทนที่ไม่ได้!”