บทที่ 776 พวกท่านโปรดอยู่ต่อ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 776 พวกท่านโปรดอยู่ต่อ

บทที่ 776 พวกท่านโปรดอยู่ต่อ

นายท่านยิ้มขึ้นจนดวงตาของเขาโค้งขึ้นราวกับพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาของกู้เสี่ยวหวานก็กลมโต สดใส และกลมโตเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญในยามค่ำคืน

กู้เสี่ยวหวานเปรียบดั่งผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ถ้านางได้เป็นนายหญิงของเขาคงจะดีมาก!

ดูเหมือนว่านายท่านจะดูคนดีกว่าตัวเขาเองมาก

วันเวลาเปลี่ยนผ่านไป สุขภาพของลุงจางดีขึ้นทุกวัน และสุดท้าย หมอพานก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและพูดว่า “ร่างกายไม่มีปัญหาร้ายแรงแล้ว”

ทุกคนดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น

ป้าจางเองก็มีความสุขเช่นกัน แต่ก็หมายความว่าพวกนางกำลังจะต้องออกไปจากที่นี่

พวกนางรบกวนกู้เสี่ยวหวานมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว และเพียงพริบตาก็ย่างก้าวสู่ฤดูหนาว และอีกกว่าครึ่งเดือนก็จะถึงวันขึ้นปีใหม่

นางไม่สามารถรบกวนกู้เสี่ยวหวานที่นี่อีกต่อไปได้

เมื่อเห็นความไม่เต็มใจในสายตาของป้าจาง กู้เสี่ยวหวานก็เดาได้ทันทีว่าป้าจางกำลังคิดอะไรอยู่

“ท่านลุง ท่านป้า ข้าจะย้ายไปบ้านใหม่เร็ว ๆ นี้ เมื่อถึงเวลา เรามาย้ายไปบ้านใหม่ด้วยกันเถอะ ดีหรือไม่?” กู้เสี่ยวหวานถามความคิดเห็นของพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

ป้าจางได้เห็นบ้านใหม่ของกู้เสี่ยวหวานแล้ว บ้านหลังใหญ่และงดงาม นางหลั่งน้ำตาทันทีเมื่อเห็นและบอกว่ากู้เสี่ยวหวานได้ผ่านพ้นความยากลำบากนั้นมาแล้ว กู้ฉวนฟู่และเถียนซื่อก็คงรู้เรื่องนี้เช่นกัน และพวกเขาเองก็จะมีความสุข!

เครื่องเรือนและสิ่งของอื่น ๆ พร้อมแล้ว และกำหนดวันไว้เรียบร้อย วันที่สิบแปดเดือนสิบสองถือเป็นฤกษ์งามยามดี กู้เสี่ยวหวานจึงตั้งใจจะย้ายเข้าบ้านใหม่ในวันนั้น

พอย้ายเข้าบ้าน วันขึ้นปีใหม่ก็จะมาถึงพอดี

“เสี่ยวหวาน พวกเรารบกวนเจ้ามานานแล้ว พวกเราไม่สามารถรบกวนเจ้าได้อีกต่อไป นอกจากนี้ ลุงจางของเจ้าก็กำลังฟื้นตัวจากอาการป่วย ดังนั้นเราจึงต้องการย้ายออกภายในสองวันนี้!” ป้าจางไม่ต้องการรบกวนกู้เสี่ยวหวาน ชีวิตที่สะดวกสบายเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานคงต้องทนทุกข์ทรมานมากเพื่อให้ได้มา พวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ เสื้อมาค่อยชูมือ ข้าวมาค่อยอ้าปาก*[1] ไม่ทำอะไรเลย ครอบครองห้องหับ กินอาหารของกู้เสี่ยวหวาน ใช้ของของกู้เสี่ยวหวาน ป้าจางไม่ใช่คนแบบนั้น

ลุงจางที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้า “ใช่แล้ว สาวน้อยเสี่ยวหวาน เจ้าทำเพื่อเรามามากพอแล้ว ข้าและป้าของเจ้ารู้สึกขอบคุณมาก แต่เจ้าก็มีชีวิตของเจ้า และเราก็ต้องใช้ชีวิตของเรา”

“ท่านลุง ท่านป้า แต่ถ้าย้ายออกไป พวกท่านจะไปอยู่ที่ไหนกัน?” กู้หนิงผิงที่อยู่ข้าง ๆ ร้องไห้โหเมื่อเห็นว่าพวกเขาต้องการไปจากที่นี่ เขารีบก้าวไปข้างหน้าและดึงเสื้อฉือโถวไว้

ตั้งแต่เด็ก กู้หนิงผิงสนิทกับฉือโถว เมื่อใดก็ตามที่ฉือโถวมีของอร่อยและเรื่องสนุก คนแรกที่เขานึกถึงคือกู้หนิงผิง

เขามักจะแบ่งบางสิ่งบางอย่างไว้ให้กู้หนิงผิงเสมอ

พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานกว่าหนึ่งเดือน และความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้น เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะจากไปอีกครั้ง กู้หนิงผิงก็รู้สึกเป็นทุกข์

กู้เสี่ยวอี้ที่อยู่ด้านข้างก็ร้องไห้งอแง ดึงป้าจางไว้แต่ไม่ยอมปล่อย “ท่านป้า ท่านป้า อย่าไป อย่าไป!”

เมื่อได้ยินเด็กสองคนร้องไห้ ป้าจางซึ่งเป็นคนอ่อนไหวง่ายก็ร้องไห้ไปกับพวกเขา “เด็กโง่ ผู้คนต้องแยกจากกันเสมอ อย่าร้องไห้เลยนะ รอข้าหาที่อยู่ใหม่ได้ จะมารับพวกเจ้าไปเที่ยวเล่น!”

ป้าจางปลอบใจกู้เสี่ยวอี้

กู้เสี่ยวหวานยังคงนิ่งเงียบ และนางมีแผนอยู่ในใจ!

นอกจากนี้ เป็นเวลาหลายปีที่ลุงจางและป้าจางเป็นเหมือนพ่อและแม่ของนาง พวกเขาปฏิบัติต่อพวกนางอย่างดีและจริงใจ ความใจดีแบบนี้อาจหาที่ไหนในโลกนี้ไม่ได้อีกแล้วนอกจากพวกเขา!

กู้เสี่ยวหวานไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต้องวิ่งไปมาอย่างไร้ทิศทางและไร้จุดหมาย นางจะปล่อยให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานในชีวิตแบบนี้ไม่ได้

“ท่านลุง ท่านป้า หากพวกท่านอยากไป ข้าจะไม่ห้าม!” ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานสดใสเหมือนพระจันทร์ในยามค่ำคืนสิบห้าค่ำ “แต่พวกท่านคิดออกแล้วหรือว่าจะไปที่ไหนกัน?”

ลุงจางและป้าจางมองหน้ากันแล้วพูดว่า “ข้าจะกลับไปดูที่บ้านแม่เพื่อดูว่ามีที่พักหรือไม่!”

ทันทีที่กู้เสี่ยวหวานได้ยิน นางก็รู้ว่าป้าจางกำลังโกหก

พวกเขาถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านอู๋ซี แล้วพวกเขาจะกลับไปที่นั่นได้อย่างไร?

กู้เสี่ยวหวานไม่เชื่อ “ถ้าสามารถหาที่พักได้ แล้วจะไปอยู่ในซากวัดนานกว่าหนึ่งเดือนทำไมกัน!”

หลังจากได้ยินเช่นนี้ ป้าจางก็ก้มหน้าลง แน่นอนว่าครอบครัวของนางไม่มีที่ให้กลับไปแล้วจริง ๆ!

พ่อแม่ของป้าจางตายจากไปนานแล้ว พี่ชายและน้องชายที่เหลือได้แบ่งทรัพย์สินของครอบครัวแล้ว หากนางกลับไป แล้วจะไปอยู่ที่ไหนได้?

ยิ่งกว่านั้น สถานะของพี่น้องเหล่านั้นก็ธรรมดา แล้วจะไปขออาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขาได้อย่างไร?

เกรงว่าอยู่สักวันสองวันก็คงจะถูกไล่ออกมา!

ป้าจางเผยรอยยิ้มที่ขมขื่น “สาวน้อยเสี่ยวหวาน เจ้าเคยบอกเองไม่ใช่หรือว่าคนขยันจะมีทางออกเสมอ ฉือโถวและข้าต่างก็ขยันขันแข็ง เราจะดีขึ้นอย่างแน่นอน!”

กู้เสี่ยวหวานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พิจารณาคำพูดของนางแล้วพูดว่า “ท่านป้า ท่านลุง พี่ฉือโถว ถ้าเป็นเช่นนั้น พวกท่านก็อยู่ที่นี่ และทำสิ่งต่าง ๆ กับข้าจะดีกว่าหรือไม่?”

ครอบครัวของนางมีที่ดินมากมาย แม้ว่าที่ดินทั้งหมดจะถูกเช่า แต่เมื่อเก็บค่าเช่าแล้ว บางคนไม่สามารถปลูกธัญพืชได้มากมายขนาดนั้น และพวกเขาก็คืนที่ดินมาเล็กน้อย และบางคนก็ถูกยึดคืน และยังเหลือที่ดินอีกหกหรือเจ็ดหมู่ กู้เสี่ยวหวานไม่ได้วางแผนที่จะให้เช่าที่ดินเหล่านี้ นางมีแผนของนางเองอยู่ในใจ!

นอกจากนี้ นางจะซื้อที่ดินอีกในอนาคต และหลังจากซื้อที่ดินแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้วางแผนที่จะให้เช่าที่ดิน ดังนั้นนางจึงจะจ้างคนงานระยะยาวสองสามคนมาเพื่อปลูกผลผลิตให้นาง

มันเทศนั้น นางวางแผนที่จะนำเสนอมันในอนาคต! ตอนนี้มันมีเพียงเล็กน้อย เกรงว่าจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้มาอีกเยอะ!

“เสี่ยวหวาน เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ป้าจางถามอย่างสงสัย

“ท่านป้า ข้าขอให้ท่านอยู่ต่อ ท่านกลับไปที่หมู่บ้านอู๋ซีอีกไม่ได้แล้ว ทำไมพวกเราไม่มาอยู่ด้วยกันล่ะ ข้ามีที่อยู่อาศัยที่นี่และสามารถกำบังจากลมและฝนได้ หากพวกท่านไม่รังเกียจ และลุงจางยังสามารถสานกล่องไม้ไผ่ที่บ้านต่อไปได้ มีป่าไผ่อยู่หลังภูเขา ข้าซื้อป่าไผ่มาแล้ว ลุงจางจะช่วยข้าเฝ้าบ้านและสานกล่องไม้ไผ่ที่บ้าน ดีหรือไม่? ท่านป้า ครอบครัวนี้มีหลายคน หลังจากนี้ท่านจะช่วยเราเตรียมอาหารสามมื้อต่อวันและดูแลอาหารให้พวกเราดีหรือไม่? และพี่ฉือโถว ที่ดินด้านล่างภูเขา หากข้าจ้างคนงานระยะยาวมาจึงต้องมีคนดูแล พี่ฉือโถวจะมาช่วยข้าดูแลได้หรือไม่?”

กู้เสี่ยวหวานพูดแผนการของนาง “เราจะอยู่ด้วยกันจากนี้ไปตลอดไปได้หรือไม่?”

*[1] ทำอะไรเองไม่เป็น ต้องมีคนคอยทำให้ตลอด