บทที่ 737 สุขใจกลับมาแล้ว

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“ไปเถอะ”วารุณีโบกมือ

ปาจรีย์หันกลับออกไป

วารุณีก็กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งวีแชทหานัทธี บอกเขาว่า ปาจรีย์กลับมาแล้ว

นัทธีกำลังตรวจสอบเอกสารในห้องทำงาน เห็นโทรศัพท์ดัง คิ้วจึงขมวดแน่นก่อน จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เห็นเป็นข้อความวารุณีส่งมา เขาที่ขมวดคิ้วแน่นก็คลายออก ท่าทางดูอ่อนโยนขึ้นเยอะ

เขาปลดล็อก ดูเนื้อหาข้อความ เห็นเป็นวารุณีบอกว่าปาจรีย์กลับมาแล้ว ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรมาก เพราะว่าเขารู้อยู่แล้ว

เขารู้ว่าวารุณีแคร์คนตระกูลจิรดำรงค์มาก ดังนั้นจึงเป็นห่วงว่านิรุตติ์จะใช้คนตระกูลจิรดำรงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะจัดการพวกเขาหรือไม่ ดังนั้นวันนั้นที่กลับจังหวัดจันทร์ มารุตจัดบอดี้การ์ดไปอยู่รอบๆคนตระกูลจิรดำรงค์ ปกป้องคนในตระกูลจิรดำรงค์

ดังนั้นทุกการกระทำของคนตระกูลจิรดำรงค์ในสองวันนี้ เขารู้หมด รวมทั้งโทรศัพท์ระหว่างปาจรีย์กับรพี และเนื้อหาที่คุย เขารู้หมด

แน่นอนว่า รู้เป็นเรื่องหนึ่ง แสร้งทำเป็นไม่รู้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ตอนนี้นัทธีแสร้งทำเป็นว่าตัวเองไม่รู้ที่ปาจรีย์กลับมาแล้ว พิมพ์ตอบกลับไปว่า:เหรอ?งั้นก็ดี

วารุณีมองข้อความของชายหนุ่ม มุมปากก็ยิ้มขึ้นมา จากนั้นส่งเสียงไปให้“ใช่ ปาจรีย์กลับมาแล้ว ตอนนี้ฉันวางใจมากแล้ว อย่างน้อยภายใต้สายตาฉัน เธอก็จะไม่ทำเรื่องโง่ๆ”

“อือ”นัทธีตอบกลับ

จากนั้น วารุณีก็พูดถึงเรื่องระหว่างปาจรีย์กับรพีกับเขาอีก

นัทธีฟังอย่างเงียบๆ การแสดงออกทั้งหมดไม่เปลี่ยนไปสักนิด

เพราะว่าเขารู้ทุกอย่าง

วารุณีพูดจบ ก็นั่งตัวตรงแล้วถามทันที:“สามี คุณว่า ปาจรีย์จะตกลงไหม?”

นัทธีหมุนปากกาในมือ“เธออยากตกลงก็คงตกลงเอง”

“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธออยากตกลงก็คงตกลงเอง ที่ฉันถามก็คือ เธอทำแบบนี้หรือไม่”วารุณีกลอกตา

นัทธีคิดไตร่ตรองเล็กน้อย แล้วจึงขยับริมฝีปากตอบไปว่า“นี่เป็นสิ่งที่รพีเสนอออกมาเอง ผมไม่เชื่อว่ารพีจะไม่เคยคิดว่าปาจรีย์จะไม่รักเขาไปตลอด จะเกิดผลอย่างไร”

ถ้าปาจรีย์คบกับรพีจริงๆ ความรู้สึกที่รพีทุ่มเทไป เวลาที่ทุ่มเทไป ความรักของพ่อที่มีต่อเด็กคนนั้นที่เขาทุ่มเทไป แบบนั้นถ้าปาจรีย์ยังไม่รักรพี

ผลลัพธ์สุดท้ายของรพี ก็จะไม่ได้อะไรเลย ปาจรีย์ก็จะแยกกับเขา ยังไงคบกับคนที่ไม่รักตัวเอง ก็เป็นการทรมานอย่างหนึ่ง และก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างหนึ่ง

และตอนนั้น ความรู้สึกที่รพีทุ่มเทไปไม่ได้คืนกลับมา เวลาที่ทุ่มเทไปเอากลับมาไม่ได้ แน่นอนว่า ความรักของพ่อที่ทุ่มเทไปก็เป็นไปได้ที่จะไม่สูญหายไปหมด แต่หลังจากปาจรีย์แยกกับเขาแล้ว ไม่มีทางเอาลูกให้รพีแน่ ยังไงลูกก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆของรพีอยู่แล้ว

ปาจรีย์ก็จะพาลูกจากไปด้วยกัน พอเวลาผ่านไปนาน ความรู้สึกระหว่างเด็กกับรพี ก็จะค่อยๆจืดจางลง ทำให้สุดท้ายแล้วไม่เหลือเลย ดังนั้นถึงได้บอกว่าถ้าปาจรีย์ไม่รักรพี รพีก็จะไม่ได้อะไรเลย

และพวกนี้ รพีต้องคิดได้อยู่แล้ว

แต่รพีคิดได้ เขาก็ยังเสนอกับปาจรีย์เช่นนี้ จะเห็นว่า รพีก็เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งแล้ว

นัทธีคิดได้แบบนี้ วารุณีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไรกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรพีที่ถูกพวกเขาพูดถึงนั้นจะคิดไม่ออกได้อย่างไร เขาคิดเรื่องพวกนี้ไว้อยู่แล้ว

พอรู้ว่ารพีเตรียมพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับผลลัพธ์เช่นนั้น วารุณีถอนหายใจ:“รพีเป็นคนดี ฉันยังหวังจริงๆว่าปาจรีย์จะรักเขา แบบนี้ บางทีอนาคตปาจรีย์อาจมีความสุขจริงๆ”

“นี่เป็นเรื่องของพวกเขา อย่าสนนักเลย”นัทธีพูดเตือน:“และพวกเขาทั้งสองต่างก็ยินยอม และก็เป็นการตัดสินใจของพวกเขาเอง ไม่ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะไปถึงไหน พวกเขาต่างเผชิญหน้าอย่างสงบ”

“ฉันรู้”วารุณีพยักหน้า“ดังนั้นฉันก็ไม่คิดจะยุ่ง”

รพีรู้ว่าอนาคตตัวเองเป็นไปได้ที่จะตกไปอยู่ก้าวนั้น และก็ทำใจเตรียมพร้อมแล้ว งั้นเขายังต้องสนอะไรอีก

อีกอย่าง ระหว่างปาจรีย์กับรพี ยังต้องปรับเข้าหากันอีก

ไม่แน่ว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองอาจจะคบกันจริงๆ

และถึงแม้ไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ นั่นก็เป็นผลลัพธ์ที่พวกเขาคิดไว้นานแล้ว

จากนั้นวารุณีก็พูดกับนัทธีอีกหน่อย แล้วจึงจบการสนทนา

วางโทรศัพท์ลง วารุณีหยิบดินสอขึ้นมา เริ่มแก้ภาพออกแบบอีกครั้ง

พอถึงเย็น เธอลากับปาจรีย์ เตรียมเลิกงานกลับบ้าน

เดินไปถึงชั้นล่างบริษัท ก็เห็นนัทธียืนพิงไมบัคที่ข้างถนน

วารุณีตาเป็นประกาย จากนั้นรีบเดินไป“สามี คุณมาได้ไง?”

“รับคุณไง”นัทธีพูด

ตอนนี้เอง จู่ๆกระจกรถก็ลดลง หน้าเล็กๆของเด็กทั้งสองคนก็ยื่นออกมา ยิ้มให้วารุณี“หม่ามี๊”

วารุณีก็หัวเราะตาม จากนั้นมองไปที่นัทธี”คุณไปรับลูกมาด้วย?“

“อือ ขึ้นรถ เดี๋ยวพาคุณไปที่หนึ่ง”นัทธีเปิดประตูรถที่นั่งข้างคนขับ

วารุณีเดินเข้าไป ถามอย่างแปลกใจ“ไปไหนเนี่ย ไม่กลับบ้านเลยเหรอ?”

“ยังไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพาคุณไปที่หนึ่งก่อน มีเซอร์ไพรส์”นัทธีพูดจบ ก็ปิดประตูรถเธอ จากนั้นอ้อมรถ เปิดประตูรถตรงที่นั่งคนขับแล้วเข้าไป

วารุณีคาดเข็มขัดนิรภัยไป ถามไปว่า:“เซอร์ไพรส์อะไรลับๆล่อๆ”

นัทธีหัวเราะเบาๆ“เดี๋ยวคุณก็รู้แล้ว นั่งดีๆ ออกรถแล้วนะ”

“อือ”วารุณีพยักหน้า

ไมบัคขับออกไป

ส่วนชั้นล่างของบริษัท ปาจรีย์มองเห็นฉากนี้ ก็มีความรู้สึกอิจฉาแวบเข้ามา

เธอรู้มาตลอดว่าเพื่อนสนิทมีความสุขมาก มีสามี มีลูกๆ และยังมีอาชีพการงานที่ดี ชีวิตนี้มีทุกอย่างแล้ว

ส่วนเธอ เพราะว่ารักพงศกรมาอย่างขมขื่นเสมอ ลุ่มหลงไปหมด จนมองไม่เห็นผู้คนรอบตัว

เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าตัวเองดื้อดึงเกินไป และทำไมถึงไม่อยากออกมา ก็แค่เธอไม่เต็มใจ และทำใจไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงยอมให้ตัวเองถลำลึกลงไปในความรู้สึกนี้

ตอนนี้ การมาของเด็กคนนี้ ทำให้เธอเดินออกมาจากความรู้สึกนั้นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอไม่รักพงศกร

เธอยังรักเขา ก็แค่ไม่ยึดมั่นถือมั่นแบบนั้น ยึดติดแบบนั้นเหมือนเมื่อก่อน

เมื่อกี๊ที่เห็นประธานนัทธีมารับเพื่อนสนิท และยังพาลูกทั้งสองคนมาด้วย ความรู้สึกแรกของปาจรีย์เลยคือ มีผู้ชายที่รักตัวเอง เหมือนจะเป็นเรื่องดี

บางที เธออาจลองตกลงคบกับรพีได้ ลองยอมรับรพี รักรพี แบบนั้น พวกเขาจะเหมือนวารุณีกับประธานนัทธีไหม มีความสุขแบบนั้น?

ปาจรีย์ลูบท้องตัวเอง แล้วเข้าสู่ความคิด

ส่วนอีกด้าน นัทธีขับรถอยู่ พาวารุณีมาที่โรงพยาบาลเอกชน

โรงพยาบาลนี้เป็นนัทธีที่ลงทุน

เมื่อก่อนเขาไม่ใช่ว่าไม่เคยลงทุนพวกสถาบันการแพทย์ แต่แค่ลงทุนตระกูลจรูญอุดมสุข เพราะว่าเป็นเพื่อนกับพิชิต ดังนั้นนอกจากลงทุนตระกูลจรูญอุดมสุข เขาก็ไม่เคยลงทุนสถาบันการแพทย์แห่งอื่น

แต่ตั้งแต่ที่ตัดขาดความเป็นเพื่อนกับพิชิต เขาจึงเริ่มมองหาสถาบันการแพทย์แห่งอื่น

โรงพยาบาลนี้ หลังจากตัดขาดกับตระกูลจรูญอุดมสุข เขาก็ลงทุน และรับส่วนแบ่งหุ้นที่ใหญ่ที่สุด

นั่นเพราะว่า เขาอยากให้การรักษาที่ดีที่สุดแก่ภรรยาและลูกของตัวเอง

ตอนนี้ สุขใจลูกชายคนเล็กสุดของพวกเขา ก็อยู่ข้างใน

รถจอดที่โรงจอดรถของโรงพยาบาล

วารุณีตระหนักอะไรได้ พอลงจากรถ ก็จ้องป้ายของโรงพยาบาลแห่งนี้ มองอยู่นาน แล้วจับแขนของนัทธี ถามด้วยหัวใจที่เต้นแรงว่า“สามี สุขใจอยู่ข้างในใช่ไหม?”

นัทธีตอบอือ“ใช่”

วารุณีดีใจจนน้ำตาไหลออกมา“สุขใจ กลับมาแล้ว!”

“ใช่ สุขใจกลับมาแล้ว”นัทธีพยักหน้า

เดิมทีสุขใจสามารถกลับมาได้เมื่อหลายวันก่อน แต่เพราะว่าเรื่องที่ปาจรีย์ฆ่าตัวตาย พวกเขาจึงรีบไปเมืองธารา ดังนั้นจึงให้ทางต่างประเทศเลื่อนวันกลับประเทศของสุขใจชั่วคราว