“พูดก็ถูกค่ะ”ป้าส้มพยักหน้า
จากนั้นก็คิดอะไรได้อีก ป้าส้มรีบแนะนำนัทธี“เร็ว คุณผู้ชาย รีบพาคุณหญิงเข้ามา หนาวขนาดนี้เดี๋ยวเป็นหวัด”
นัทธีตอบอือ จากนั้นอุ้มวารุณีเข้าไปในบ้าน
ตอนที่วารุณีตื่นมา ก็สามทุ่มแล้ว
เธอลืมตา มองเห็นเพดานที่คุ้นเคย ยกมือขึ้นนวดขมับ
เธอกลับมาเมื่อไหร่?
วารุณียันตัวนั่งขึ้นมา
ไฟในห้องเปิดอยู่ เธอมองซ้ายมองขวา มองเห็นชายหนุ่มที่ระเบียง หันหลังให้เธออยู่ จึงเรียกออกไปว่า“นัทธี”
ด้านนอกระเบียง ชายหนุ่มได้ยินเสียงของเธอ ก็รีบหันกลับมา สบตากับเธอ“ตื่นแล้วเหรอ”
“อือ”วารุณีพยักหน้า
นัทธีถือแก้วไวน์ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง“หิวไหม?”
วารุณีลูบท้อง“นิดหน่อย”
“ผมให้ป้าส้มเอาอาหารค่ำมาให้”
พูดไป เขาก็วางแก้วไวน์ หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร
แป๊บเดียว ป้าส้มก็รู้ว่าวารุณีตื่น จึงรีบตกลงจะไปส่งอาหารค่ำให้
นัทธีวางโทรศัพท์ลง มองไปที่วารุณี“เดี๋ยวอีกแป๊บป้าส้มจะเอามาให้ รอหน่อย”
“อือ”วารุณีจากลง จากนั้นถาม:“ใช่สินัทธี ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
“สามทุ่ม”นัทธีมองนาฬิกาข้อมือแล้วถาม
วารุณีตกใจ“ฉันกลับนานขนาดนี้เชียว?”
เธอจำได้ว่า ตอนเธอหมดสติไป กำลังไปเยี่ยมสุขใจ
ตอนนั้น แค่ห้าหกโมง
หมายความว่า เธอหลับไปสามชั่วโมง
“ก็ไม่นาน”นัทธีมานั่งข้างเตียง“ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
วารุณีรู้ว่าเขาจะถามอะไร ถามความรู้สึกเธอหลังจากเจอสุขใจ
เธอเอาผมที่ตกลงมาทัดไปที่หู ริมฝีปากสีแดงขยับตอบไปว่า:“ดีขึ้นเยอะแล้ว ตลอดมา ฉันรู้สึกผิดต่อสุขใจมาเสมอ ดังนั้นตอนที่เห็นสุขใจ อารมณ์เลยระเบิดออกมา แต่พอร้องไห้ไป ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ฉันก็คิดได้ว่า ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว สุขใจก็เป็นแบบนี้แล้ว ฉันรู้สึกผิดไปก็ทำอะไรไม่ได้ สู้เติมเต็มให้สุขใจอย่างดีในวันข้างหน้าดีกว่า ทุ่มเทเอาความรู้สึกผิดให้เป็นสิ่งสำคัญ”
นัทธีเห็นเธอพูดแบบนี้ คิ้วที่ขมวดก็คลายลง ยื่นมือไปลูบหัวเธอ“คุณคิดแบบนี้ได้ช่างดีมาก“
วารุณีหัวเราะ“ฉันแค่หวังว่าต่อไปสุขใจจะไม่โทษฉัน แม่อย่างฉันที่ไร้ความรับผิดชอบ ให้ร่างกายที่แข็งแรงแก่เขาไม่ได้”
“ไม่หรอก”นัทธีเอาเธอมาโอบในอ้อมแขนเบาๆ“รอสุขใจรู้เรื่อง พวกเราค่อยบอกสาเหตุเขา ผมเชื่อว่าลูกของพวกเรา จะเข้าใจพวกเรา”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะ”วารุณีเอาหัวเอนไปที่ไหล่ชายหนุ่ม
ตอนนี้เอง จู่ๆประตูห้องก็ถูกคนเคาะ
นัทธีพูด:“น่าจะเป็นป้าส้มเอาอาหารค่ำมาให้ ผมไปเปิดประตูก่อน”
“อือ”วารุณีพยักหน้า
นัทธีปล่อยเธอ ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู เปิดประตูออก
ด้านนอกประตูเป็นป้าส้มจริงๆ ถือถาดอาหารยิ้มให้นัทธี“คุณผู้ชาย อาหารค่ำของคุณหญิง”
“ให้ผม”นัทธียื่นมือออกไป เป็นอาหารค่ำ
ป้าส้มเอาถาดอาหารให้เขา“งั้นคุณผู้ชาย ป้าลงไปก่อนนะคะ รอคุณหญิงทานเสร็จ ค่อยเรียกป้ามาเก็บ”
นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย“อือ ไปเถอะ”
ป้าส้มหันกลับออกไป นัทธีปิดประตูห้องแล้วกลับห้องไป เอาถาดอาหารวางไว้ที่บนโต๊ะอาหารของห้อง“รีบมากินสิ”
“มาแล้ว”วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเปิดผ้าห่มลงมาจากเตียง เดินไปที่โต๊ะทานข้าว
อาหารค่ำอันน่าทาน วารุณีรับตะเกียบที่นัทธียื่นมา แล้วนั่งลงทานข้าว
ส่วนนัทธี ก็นั่งตรงข้ามเธอ มองเธอกิน
“ใช่สิ อารัณกับไอริณล่ะ?”กินไปได้ครึ่งหนึ่ง วารุณีก็คิดได้ว่าตัวเองยังมีลูกอีกสองคน จึงถามออกไป
นัทธีถือไวน์ที่เพิ่งวางลงขึ้นมาจิบ“อยู่ในห้อง บอกว่าจะเตรียมของขวัญให้สุขใจ”
“เตรียมของขวัญ?”วารุณีตกใจ“ของขวัญอะไร?”
นัทธีหัวเราะเบาๆ“ของขวัญออกจากโรงพยาบาล อีกเดือนกว่าสุขใจออกจากโรงพยาบาล ดังนั้นเด็กทั้งสองคนเลยอยากเตรียมของขวัญออกจากโรงพยาบาลให้น้องชายพวกเขา ถึงตอนนั้นจะต้อนรับสุขใจ”
“ที่แท้ก็แบบนี้”ฟังเหตุผลเสร็จ วารุณีก็หัวเราะ“คิดไม่ถึงจริงๆ เด็กสองคนนี้จะมีใจทำแบบนี้ด้วย”
“พวกเขายอดเยี่ยมมาเสมอ”นัทธีพูด
วารุณีพยักหน้า“อยู่แล้ว แต่พวกเขาเตรียมของขวัญอะไร?”
“ผมไม่รู้ ไม่ได้ถาม และพวกเขาก็ดูลึกลับ น่าจะไม่บอกผมแน่ เลยช่างพวกเขา นี่เป็นความลับของพวกเขา พวกเราเป็นพ่อแม่ ควรจะให้เกียรติ ไม่จำเป็นต้องถามให้ชัดเจน”นัทธีส่ายไวน์ไปมาแล้วพูด
วารุณีตอบอือแล้วยิ้มออกไป“ฉันรู้ค่ะ”
“รีบกินเถอะ”
วารุณีตอบ
วันถัดมา วารุณีมาถึงบริษัท ก็ถือเค้กแบบพรีเมียมมากมาย แบ่งให้พนักงานทุกคนในบริษัท
เหล่าพนักงานต่างดีใจ แบ่งขนมเค้กแล้วถาม:“ประธานวารุณี คุณเจอเรื่องดีๆอะไรมาใช่ไหม ถึงได้ซื้อขนมมากมายแบบนี้ให้พวกเรากิน”
“ใช่ ไม่ใช่แค่ขนม แต่ยังมีของหวานและกาแฟอีกเยอะ”
วารุณีฟังคำถามของทุกคนที่ส่งเสียงไปมา ก็พยักหน้ายิ้มๆ“ใช่มีเรื่องดีๆ ลูกชายคนเล็กฉันกลับมาแล้ว”
“อะไรนะ?จริงเหรอคะ?”เหล่าพนักงานตะลึงก่อน จากนั้นก็ตื่นเต้น
“ดีจัง นี่เป็นข่าวดีนะคะ ยินดีด้วยค่ะประธานวารุณี”
“ใช่ประธานวารุณี ยินดีด้วยนะ”
เหล่าพนักงานต่างพากันแสดงความยินดีอย่างดีใจ
พวกเขาก็รู้ว่าวารุณีคลอดก่อนกำหนด และยังรักษาตัวที่ต่างประเทศด้วย
แต่พวกเขารู้เพียงเท่านี้ ไม่รู้ว่าทำไมวารุณีคลอดก่อนกำหนด
แต่ถึงแบบนี้ พวกเขาก็รู้สึกเสียใจและสงสารวารุณี
แต่ตอนนี้ดีแล้ว เด็กไม่เป็นไร และยังกลับประเทศมาด้วย พวกเขารู้สึกดีใจแทนประธานวารุณีจริงๆ
วารุณีได้ยินคำอวยพรของทุกคน ในใจก็มีความสุขมาก“ขอบคุณคำยินดีของทุกคนนะ ทุกคนกินให้เยอะๆเลยไม่ต้องเกรงใจ และตอนค่ำพวกคุณก็ออกไปทานข้าวด้วยกันได้ ฉันเลี้ยงคืนเอง”
“ได้เลยค่ะ ประธานวารุณีเท่มาก!”ทุกคนร้องออกมาอย่างดีใจ
วารุณีเห็นพวกเขามีความสุขแบบนี้ ก็ยิ้มและไม่พูดอะไรมาก หันกลับไปที่ห้องทำงานตัวเอง
แป๊บเดียว ประตูห้องทำงานเปิดออก ปาจรีย์ยื่นหน้าเข้ามาจากด้านนอก“วารุณี”
“ปาจรีย์ เธอมาได้ไง?”วารุณีเงยมองเธอ แล้วยิ้ม
ปาจรีย์เดินเข้ามา ถือเอกสารในมือ“พวกนี้ทางโรงงานส่งมา เอาให้เธอตรวจสอบ เลยมาถามเธอด้วยว่าจริงไหม”
“อะไรคือจริงไหม?”วารุณีสงสัย
ปาจรีย์เดินไป“ก็ที่ทุกคนพูดอยู่ข้างนอกไง บอกว่าสุขใจกลับมาแล้ว”
“จริงสิ”วารุณีพยักหน้า
ดวงตาปาจรีย์เป็นประกาย“เป็นเรื่องจริงจริงๆด้วย ฉันคิดว่าพวกเขาล้อเล่นเสียอีก”
“เธอเพิ่งมา เลยไม่รู้ว่าฉันบอกพวกเขากับตัวเอง ของหวานที่พวกเขากินก็ฉันซื้อมา ฉันมีความสุข ก็เลยอยากให้พวกเขามีความสุขด้วย”
“ที่แท้ก็แบบนี้เอง”ปาจรีย์เข้าใจทันที จากนั้นปรบมืออย่างดีใจ“ดีจัง ใช่สิวารุณี สุขใจกลับมาเมื่อไหร่?”
“เมื่อวาน”วารุณีตอบกลับ:“มาถึงจังหวัดจันทร์เมื่อวานตอนเย็น นัทธีพาฉันไป ฉันถึงรู้ว่าสุขใจกลับมาแล้ว”
“ที่แท้ประธานนัทธีปิดบังเธอเรื่องที่พาสุขใจกลับมา เพราะอยากเซอร์ไพรส์เธอ”ปาจรีย์พูด
วารุณีตอบอือ“ใช่ เธอไม่รู้หรอก เมื่อวานที่เห็นสุขใจ ฉันตื่นเต้นแค่ไหน ร้องไห้จนสลบไปเลย”
“ก็สมควรร้องอยู่แล้ว ยังไงการเกิดของสุขใจ เธอก็เป็นห่วงมาตลอด”ปาจรีย์ถอนหายใจ
วารุณียิ้มที่มุมปาก“ใช่ แต่ตอนนี้ดีแล้ว ฉันได้เจอแล้ว ต่อไปต้องชดใช้ให้สุขใจดีๆ”