บทที่ 834 ทดสอบ

บทที่ 834 ทดสอบ

ผิวที่กระจ่างใสของนางมีสีขาวอมชมพูระเรื่อ ราวกับชาดจาง ๆ บนหยกขาวอันไร้ที่ติ ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์อันโดดเด่นของนาง

กลุ่มหมอกจาง ๆ หมุนวนล้อมรอบชุดสีขาวซึ่งประดับด้วยหยกและด้ายไหมสีทอง เมื่อรวมกับความสง่างามของผู้สวมใส่แล้ว นางดูเหมือนเทพธิดาที่สูงส่งและไม่สามารถจับต้องได้ ผู้ซึ่งลงมาจากสวรรค์เพื่อเป็นเกียรติให้กับมวลมนุษย์

แม้ว่าชุดของนางจะไม่ได้เปิดเผยเนื้อหนังมากนัก แต่ก็ได้รับการออกแบบให้ดูมีเสน่ห์ลึกลับ ทำให้จิตใจชายจินตนาการโลดโผนไปได้ไม่รู้จบ

ชุดนี้เสริมรูปร่างที่โค้งเว้าของนาง คอที่เพรียวระหงและสง่างาม เอวบางและสะโพกผายรวมไปถึงผิวกายขาวอมชมพู ทุกส่วนของร่างกายที่ไร้ที่ติทำให้นางดูงดงามเหนือคำบรรยาย

ดวงตาที่สวยงามของนางนั้นล้ำลึกราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว กว้างใหญ่และเงียบสงบ แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ

ซูอันรู้สึกใจเต้นจากการชำเลืองมองนางเพียงครั้งเดียว และการหายใจของเขาก็ขาด ๆ หาย ๆ

ผู้หญิงคนนี้ช่างงดงาม! แม้ว่านางจะยืนนิ่งอย่างไร้อารมณ์ในแววตา แต่นางกลับสามารถปลุกเร้าแรงกระตุ้นบางอย่างในตัวเขาได้

ไม่ต้องสงสัยเลย ผู้หญิงที่งดงามคนนี้ต้องเป็นต๋าจี่!

“ต๋าจี่ถูกมองว่าเป็นวีรสตรีได้อย่างไร?”

ซูอันค่อนข้างสับสน ตามประวัติของปีศาจจิ้งจอกที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เขาเคยรับรู้มา นางไม่เคยสร้างผลงานใด ๆ ในการรบหรือการต่อสู้จนถูกเรียกได้ว่าเป็นวีรสตรีนี่นา?

แต่แน่นอนว่า…ถ้าหากเป็นผลงานความดีความชอบบนเตียง นางคงจัดว่าเป็นวีรสตรีระดับ SSR แน่นอน!

เมื่อเขาตรวจสอบคำอธิบายเกี่ยวกับนางเพิ่มเติม เขาก็พบว่าความคิดของเขาไม่ถูกต้องเพราะต๋าจี่สามารถต่อสู้ได้จริง ๆ

ตามคำอธิบายของระบบ เขามองดูต๋าจี่อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น มีเมนูปรากฏขึ้นแสดงทักษะต่าง ๆ ที่นางมี มันไม่ได้แสดงพวกค่าความแข็งแกร่ง (str) พลังป้องกัน (def) พลังชีวิต (hp) หรืออะไรทำนองนั้นตามแบบในเกมส์ที่เขาเคยเล่น มันแสดงแค่ทักษะและความสามารถบางอย่างของนางเท่านั้น

ต๋าจี่เก่งในการใช้เครื่องดนตรี นางสามารถเล่นท่วงทำนองที่ถูกเรียกว่า ‘เสียงเพรียกจากปีศาจ’ ได้ ซึ่งท่วงทำนองนี้ทำให้ผู้บ่มเพาะที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าต๋าจี่เข้าสู่สภาวะสับสนหรือหมดสติ

นอกจากนี้ นางยังมีทักษะ ‘เสน่ห์จิ้งจอก’ ซึ่งช่วยให้นางควบคุมเป้าหมายเพศตรงข้ามที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่านางได้ในเวลาช่วงสั้น ๆ หรือส่งผลต่อผู้ที่มีการบ่มเพาะระดับสูงกว่าทำให้พวกเขาตะลึงกับความงาม และลังเลที่จะทำร้ายนาง

นางยังสามารถเรียกจิ้งจอกเก้าหางมาต่อสู้เพื่อนางได้ เมื่อระดับการบ่มเพาะของนางเพิ่มขึ้น จิ้งจอกเก้าหางจะค่อย ๆ พัฒนาหางไฟ ที่จุดสุดยอดของมันจะมีเก้าหางแห่งไฟ

หลังจากอ่านคำอธิบายทั้งหมดแล้วซูอันก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ต๋าจี่นี้มาจากโลกไหน? ทำไมนางถึงมาอยู่ในระบบสุ่มวีรสตรีได้?

เขาเคลื่อนตัวไปทางนาง “เอ่อ…สุดสวย…เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ข้าชื่อซูอัน เจ้าสามารถเรียกข้าว่าอาซูก็ได้ แน่นอนข้าไม่รังเกียจเลย ถ้าเจ้าอยากจะเรียกข้าว่านายท่าน…”

แม้ว่าเขาจะแนะนำตัวอย่างไร ผู้หญิงตรงหน้าก็ไม่ตอบสนอง สาวงามโดดเด่นผู้นี้เพียงจ้องมาที่เขาอย่างสงบด้วยดวงตาไร้อารมณ์

ซูอันตกตะลึง ดวงตาของนางช่างสวยงามแต่เขารู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างขาดหายไป…

มันคงเหมือนกับว่าเขากำลังจ้องมองตุ๊กตาไร้ชีวิตจิตใจ

เขาขยับไปด้านข้างและเห็นว่านางไม่มองตามการเคลื่อนไหวของเขา

ทันใดนั้นเขาก็จำคำอธิบายที่ระบบสุ่มวีรสตรีบอกได้ วีรสตรีที่ถูกอัญเชิญจะสูญเสียความทรงจำและวิญญาณไป และมีเพียงสัญชาตญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะคงอยู่

“ก็แค่ตุ๊กตาเหรอ?” ซูอันพึมพำ พวกนางอาจจะพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ วีรสตรีเหล่านี้ดูคล้ายกับหุ่นกระบอกและเครื่องจักรต่อสู้ที่สวยงาม ซูอันไม่สามารถรั้งตัวเองไว้ได้และลองจิ้มนิ้วไปที่แขนของต๋าจี่

หืม? นี่นางเป็นคนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?

เขามั่นใจว่าผิวของนางไม่ต่างจากผิวของคนทั่วไป แม้ว่ามันจะนุ่มนวลกว่ามากก็ตาม

“ข้าสงสัยว่าวีรสตรีคนอื่น ๆ จะดูเหมือนคนธรรมดาหรือเปล่า…?”

ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ เขารู้ว่าผู้คนจากโลกที่แล้วของเขาใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับตุ๊กตายางที่เลียนแบบคนจริง ๆ แต่ไม่ว่าจะดูจริงแค่ไหน มันก็ง่ายพอที่จะบอกได้ว่าพวกมันไม่ใช่คน แม้ว่าตุ๊กตาที่อยู่ตรงหน้าเขาตัวนี้จะไม่มีวิญญาณ แต่นางกลับดูไม่ได้แตกต่างจากคนจริง ๆ เลยยกเว้นแววตาที่ไร้วิญญาณนั้น

เขาก่นด่าในใจ วีรสตรีเหล่านี้จะไม่กลายเป็นตุ๊กตาบำบัดความใคร่เหรอ ถ้าระบบนี้ตกไปอยู่ในมือของคนใจทราม?

หลังจากไตร่ตรองมาครู่หนึ่งแล้ว เขาก็ตัดสินใจลองดู เขาค่อย ๆ เอื้อมมือไปที่หน้าอกของต๋าจี่

ราวกับว่านางสัมผัสได้ถึงมือของเขาที่กำลังใกล้เข้ามา ร่องรอยของ…บางอย่าง…ดูเหมือนจะปรากฏอยู่ในดวงตาที่ว่างเปล่าของต๋าจี่และทันใดนั้น เขาก้าวเท้าถอยไปข้างหลัง และเสียงเพี๊ยะก็ดังขึ้น!

ซูอันใจหายใจคว่ำ ถ้าเขาไม่ถอยหลังเร็วพอ เขาคงโดนตบหน้าแทนที่จะตบที่มือ

ตอนนี้เขาสังเกตเห็นอีกหนึ่งค่าคุณสมบัติในเมนูของต๋าจี่

ค่าความสนิท : 0

นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของพวกเขา นางจะมีความสนิทสนมกับเขาได้อย่างไร?

แล้วเขาจะเพิ่มค่าความสนิทได้อย่างไร?

หากค่านี้ถึงจุดสูงสุดในอนาคต ไม่ว่ามันหมายความว่า…

อะแฮ่ม!

ใบหน้าของเขาแดงก่ำ

ปุ่ย! ข้าทำไปเพื่อศึกษาระบบเท่านั้น ไม่มีความคิดที่นอกลู่นอกทางจริง ๆ นะ!

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาไม่สามารถทำอะไรผิดประเพณีกับวีรสตรีเหล่านี้ได้ หัวใจของเขาก็เริ่มสงบลง

จากนั้นเขาก็ออกคำสั่งต๋าจี่ “โจมตีข้า!”

ต๋าจี่ผู้ซึ่งไร้ความรู้สึกเมื่อครู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา แววอันแปลกประหลาดปรากฏขึ้นในดวงตาก่อนที่นางจะพุ่งเข้าใส่เขา

หลังจากแลกเปลี่ยกระบวนท่ากันหลายครั้ง ซูอันก็สั่งให้นางหยุด ต๋าจี่หยุดนิ่งอีกครั้ง แสงสว่างในดวงตาของนางก็ค่อย ๆ จางลง และนางก็กลับสู่สภาพที่ไร้ความรู้สึกตามเดิม

เมื่อพิจารณาจากการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าเมื่อครู่ ซูอันถือว่าทักษะกระบวนท่าในการต่อสู้ของต๋าจี่ค่อนข้างโดดเด่น

แต่น่าเสียดายที่นางไร้ซึ่งพละกำลังหรือความเร็วที่เหนือมนุษย์ซึ่งผู้บ่มเพาะควรจะมี อันที่จริงเรี่ยวแรงของนางแทบไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปเลย นางดูเหมือนแค่คนธรรมดาที่ฝึกศิลปะการต่อสู้มาอย่างยอดเยี่ยมในโลกที่แล้วของเขาเท่านั้น สิ่งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากความคาดหวังของเขาที่มีต่อนางในฐานะวีรสตรี

เขาตรวจสอบคำอธิบายทักษะของนางอีกครั้ง และสังเกตว่าทักษะหลายอย่างอ้างอิงถึงระดับการบ่มเพาะของนางซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ

ระดับการบ่มเพาะของนางในตอนนี้เท่ากับของคนทั่วไป…แต่ถ้ามันสามารถเพิ่มขึ้นได้ล่ะ?

ซูอันดูในหน้าต่างเมนูของต๋าจี่อีกครั้ง และสังเกตเห็นว่าในหน้าต่างเมนูนั้นมีรูปเค้าโครงร่างของต๋าจี่ปรากฏอยู่ซึ่งในรูปเค้าโครงร่างของต๋าจี่นั้นมีแผนผังอักขระที่ค่อนข้างคล้ายกับระบบอักขระระดับการบ่มเพาะในตัวเขาถูกวาดอยู่ด้วย

——————–