บทที่ 835 ปลุกธาตุ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 835 ปลุกธาตุ

บทที่ 835 ปลุกธาตุ

นี่หมายความว่าการบ่มเพาะของนางสามารถเพิ่มขึ้นได้โดยใช้ผลไม้พลังชี่ใช่หรือไม่?

เมื่อพิจารณาถึงระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของซูอัน การเพิ่มขึ้นแม้แต่ขั้นเดียวของระดับการบ่มเพาะต้องใช้ผลไม้พลังชี่จำนวนมหาศาล ซึ่งเขาถอดใจไม่หวังกับผลไม้พลังชี่เพื่อใช้ยกระดับการบ่มเพาะของตัวเองไปพักใหญ่แล้ว

ทว่าระบบวีรสตรีนี้ดูคล้ายกับจะเป็นระบบที่เหมาะสมสำหรับให้ลงทุนผลไม้พลังชี่ลงไปมากกว่า…

ซูอันภาวนาให้วีรสตรีนี้ไม่ต้องการผลไม้พลังชี่จำนวนมากแบบตัวเอง เพื่อเติมเต็มรูปแบบอักขระ หากรูปแบบของนางต้องการผลไม้พลังชี่ในปริมาณเท่ากันกับของเขา ก็คงจะหมดปัญญา…

ด้วยแรงบันดาลใจจากความคิดใหม่นี้เขาจึงตัดสินใจทดสอบ

เป็นเวลานานแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้สุ่มรางวัล เขาดูที่คะแนนความโกรธแค้นและเห็นว่าเขาได้สะสมคะแนนความโกรธแค้นรวม สามแสนห้าหมื่นแปดร้อยหกสิบสองคะแนน ทำให้เขาสุ่มรางวัลได้ทั้งหมดสามพันห้าร้อยแปดครั้ง โชคดีที่ตอนนี้ระบบมีฟังก์ชันการสุ่มทีละหลาย ๆ ครั้งในรวดเดียว มันคงเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากถ้าเขาต้องค่อย ๆ สุ่มทีละครั้งถึงสามพันห้าร้อยแปดครั้ง

ชายหนุ่มสะสมแต้มได้มากกว่าที่เคย! เขาหวังว่าอย่างน้อยหนึ่งทักษะที่มีประโยชน์จะปรากฏขึ้น

แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้รับทักษะแม้แต่อย่างเดียว!

แต่พูดจริง ๆ ซูอันก็ไม่ได้เสียเปรียบมากนัก แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับทักษะใด ๆ แต่อัตราการได้รับผลไม้พลังชี่กลับดูสูงกว่าปกติ เขาคาดว่าจะได้รับผลไม้พลังชี่สามร้อยห้าสอบถึงสี่ร้อยผลเท่านั้น

แต่คราวนี้ชายหนุ่มกลับได้มาถึงเจ็ดร้อยผล!

เขายังได้รับตั๋วมหาบุปผาอีกห้าชิ้น หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเห็นเครื่องหมายไฟวางอยู่เหนือปุ่ม ‘Shift’ ที่เขาไม่เคยสุ่มได้มาก่อน บางทีมันอาจจะเป็นอะไรที่วิเศษอย่างเหลือเชื่อ

ในท้ายที่สุดชายหนุ่มได้รับรางวัลเป็นตั๋วมหาบุปผาเพียงห้าใบ

ซูอันกำลังจะใช้ตั๋วมหาบุปผาทั้งห้านี้เพื่อดูว่าตัวเองจะสามารถสุ่มวีรสตรีคนใหม่ได้หรือไม่?

แต่หลังจากครุ่นคิดบางอย่าง ซูอันก็คิดขึ้นได้ เขาใช้โชคทั้งหมดในการสุ่มต๋าจี่นี้ไปแล้ว ก็คงไม่ได้อะไร แม้ว่าเขาจะใช้ตั๋วมหาบุปผาที่เหลือจนหมด

นอกจากนี้ แม้ว่าจะสุ่มได้วีรสตรีอีกคนหนึ่ง พวกนางก็ไม่ต่างจากคนทั่วไปในสถานะเริ่มต้น และต้องการทรัพยากรเพื่อที่จะอัพเกรด ตอนนี้เขามีทรัพยากรไม่มากพอที่จะปั้นวีรสตรีถึงสองคนพร้อม ๆ กัน ดังนั้นต่อให้สุ่มได้วีรสตรีมาเพิ่มก็เปล่าประโยชน์

ด้วยความคิดเหล่านี้ เขาจึงเก็บตั๋วมหาบุปผาทั้งห้าไว้ใช้ในภายหลัง

เมื่อเห็นผลไม้พลังชี่ที่ตนเองมีอยู่มากพอสมควร ซูอันอดไม่ได้ที่จะตรวจสอบสถานะระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาก่อน ก่อนหน้านี้เขาก้าวเข้ามาอยู่ในระดับที่ 5 แล้ว

และถ้าจำไม่ผิดเขาอยู่ในขั้นที่สี่ของระดับที่ 5 แล้วด้วย

เดี๋ยวนะ ทำไมตอนนี้อักขระตัวที่ห้าของรูปแบบที่ห้าถึงเต็มแล้วล่ะ?

รูปแบบขั้นที่ห้านี้ ต้องใช้ผลไม้พลังชี่สองล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นแปดพันสามร้อยเก้าผลเพื่อเติมเต็ม!

เขาเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในช่วงเวลาก่อนหน้านี้

อืม…ชายหนุ่มได้เผชิญหน้ากับนักรบเงินสดและต่อสู้กับแม่ชียุง ได้รับบาดเจ็บและฟื้นตัวซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง เริ่มไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่อักขระตัวที่ห้าถึงเต็มแบบนี้ แม้แต่วิชาปฐมบทแรกเริ่มก็ดูเหมือนจะก้าวหน้าขึ้นเล็กน้อยจากการต้องฟื้นฟูร่างกายที่เสียหายของเขาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกว่าเข้าใกล้ขั้นที่สามมากขึ้น

การบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องเป็นวิธีที่ถูกต้องในการบ่มเพาะวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ เขาคงไม่ก้าวหน้ามากนักหากเขาเอาแต่กินผลไม้พลังชี่ทั้งวัน

จากนั้นซูอันคำนวณได้ว่าอักขระขั้นที่หกจะต้องใช้ผลไม้พลังชี่ สามล้านห้าแสนสองหมื่นสี่พันห้าร้อยเจ็ดสิบแปดผล ดังนั้นผลไม้พลังชี่ที่เขามีขณะนี้จึงไม่ต่างอะไรจากน้ำเพียงหยดเดียวในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ดังนั้นเขาจึงเลิกคิดที่จะใช้ผลไม้พลังชี่กับตัวเอง

เขาเดินไปหาต๋าจี่ มองดูใบหน้าที่กระจ่างใสและมีเสน่ห์ของนาง “อ้าปากของเจ้า” เขาสั่ง

ต๋าจี่เชื่อฟังอย่างน่าประหลาดใจ

“อ้าให้กว้างขึ้นอีก” ซูอันพูดพร้อมกับถอนหายใจ ไม่ว่านางจะอยู่ในสภาพใด สาวงามก็ยังคงเป็นสาวงาม แม้จะไม่มีวิญญาณ การเคลื่อนไหวของนางก็ยังคงงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ…

ต๋าจี่อ้าปากของนางให้กว้างขึ้น ซูอันค่อย ๆ โยนผลไม้พลังชี่เข้าปากของนางทีละผล โชคดีที่ผลไม้พลังชี่ละลายทันทีที่เข้าปาก นางไม่ต้องกลืนพวกมันด้วยซ้ำ

“นี่ถือเป็นการกินทิ้งกินขว้างหรือเปล่า?” ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในขณะที่เขาโยนผลไม้พลังชี่เข้าไปในปากของนางทีละผล ถ้าข้าทำให้นางดื่มสิบแปดสายลมใบไม้ผลิแล้วจะเกิดอะไรขึ้น…?

เขาขจัดความคิดฟุ้งซ่านนี้อย่างรวดเร็ว

เขาไม่ได้ใช้ผลไม้พลังชี่ทั้งหมดเจ็ดร้อยผลในทันที แต่แบ่งให้แก่นางเป็นชุดโดยให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการเปลี่ยนแปลงในการบ่มเพาะของนาง

เขาสังเกตเห็นว่ายิ่งกินผลไม้พลังชี่มากเท่าไร พลังชี่ของนางก็เริ่มหมุนเวียนเร็วขึ้น และการบ่มเพาะของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ซูอันนับอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เขาสังเกตผลลัพธ์ ผลไม้พลังชี่หกสิบผลก็เพียงพอแล้วที่จะพานางเลื่อนขั้นไปสู่ระดับที่หนึ่ง และหนึ่งร้อยยี่สิบผลระดับที่สอง หลังจากนั้นอัตราการเพิ่มขึ้นก็เริ่มช้าลง ผลไม้พลังชี่ทั้งหมดเจ็ดร้อยผลได้นำต๋าจี่ไปสู่จุดสูงสุดของระดับที่สี่ นางอยู่ห่างจากระดับห้าเพียงแค่เส้นผม

ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของนางทำให้ซูอันอิจฉาอย่างไม่น่าเชื่อ เขาต้องทนทุกข์ทรมานไม่รู้จบเพียงเพื่อมาถึงระดับห้า!

ไม่มีทางที่เขาจะมาถึงระดับนี้ได้เพียงแค่กินผลไม้พลังชี่ ในขณะเดียวกันผู้หญิงคนนี้กลับมาถึงจุดสูงสุดของระดับสี่แล้ว

แม้จะไม่ทราบความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ที่แน่ชัดระหว่างจำนวนผลไม้พลังชี่ที่กินเข้าไปและการเพิ่มขึ้นของการบ่มเพาะของนาง แต่เขาสามารถบอกได้ว่ากราฟค่อนข้างเป็นเส้นตรง แม้ว่าจะต้องใช้ผลไม้พลังชี่มากขึ้นในอนาคต แต่ก็ไม่ใช่จำนวนที่มหาศาลจนไร้สาระเหมือนกับเขา

ซูอันคำนวณอย่างรวดเร็ว หากคะแนนความโกรธแค้นหนึ่งพันคะแนนทำให้เขาได้รับผลไม้พลังชี่เพียงผลเดียว เขาสามารถเพิ่มต๋าจี่ให้อยู่ในระดับที่เก้าด้วยคะแนนความโกรธแค้นเพียงไม่กี่ล้าน

แม้ว่าคะแนนความโกรธแค้นไม่กี่ล้านจะดูเหมือนมาก แต่ใช่ว่าเป็นจำนวนที่เป็นไปไม่ได้

ซูอันเริ่มที่จะดูถูกตัวเอง ต๋าจี่สามารถเพิ่มการบ่มเพาะได้อย่างง่ายดาย! ทำไมมันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยผลไม้พลังชี่?

การพัฒนาอย่างกะทันหันทำให้เขาสะดุ้งจากความคิดและสัมผัสได้ว่าพลังชี่รอบตัวเขาเปลี่ยนไป

เขามั่นใจว่าตัวเองสัมผัสได้ถึงร่องรอยของธาตุไฟ

ซูอันขยับมือไปรอบ ๆ อย่างช้า ๆ และเปลวไฟก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเขาโดยไม่คาดคิด ด้วยความตกใจเขากำหมัดอย่างรวดเร็ว และเปลวไฟก็หายไป

เขาตั้งสติเพื่อสังเกตธาตุไฟรอบตัวเขาอย่างเงียบ ๆ และเปลวไฟก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาอีกครั้งโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

คราวนี้เขาพิจารณาอย่างอดทน ดูเหมือนว่านี่จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขา แต่ในทางกลับกัน เขาสัมผัสได้ถึงความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับมันและตระหนักว่าเขาสามารถควบคุมมันได้ตามใจตัวเอง

“เอ๊ะ? เจ้าปลุกธาตุไฟขึ้นมาได้อย่างไร?” เสียงของหมี่ลี่ที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจดังขึ้น

ซูอันกระโดดด้วยความตกใจ “พี่หญิงใหญ่ ข้าเริ่มคิดว่าท่านกำลังสอดแนมข้าแล้ว!” เขาตะโกน

หมี่ลี่พ่นลมหายใจ “หยุดทำตัวหน้าไม่อายซะที ใครจะไปอยากสอดรู้ชีวิตเจ้า!”

ร่างวิญญาณของนางปรากฏ จ้องมองดูเปลวไฟในมือของเขา นางเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ

เพ่ยเหมียนหมานกำลังจดจ่ออยู่กับการสื่อสารกับรูปปั้นนกฮูก นางหลับตาลงและไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น