บทที่ 677 รางวัลที่ดีที่สุดสำหรับนักรบคือ…(1)
หลังจากได้รับการอบรมสั่งสอนจากท่านอาจารย์ หลี่ฉางโซ่วก็หันกลับมาและเห็นเทพธิดาที่ชอบสวมชุดกระโปรงสีขาวและพลิ้วไสวดุจขนนก
ในขณะนั้น หัวใจของหลี่ฉางโซ่วเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย
หาใช่เพราะเขารู้สึกอับอายที่ถูกท่านอาจารย์ตำหนิไม่
ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ… หากมีคนเห็นเรื่องนี้ สำนักตู้เซียนจะไม่ถูกเปิดเผยหรือ?
แม้หลี่ฉางโซ่วจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้สถานการณ์ดูเหมือนว่า ศาลสวรรค์กำลังซุ่มโจมตีเผ่าปีศาจในระหว่างการต่อสู้ที่สำนักตู้เซียน แต่ก็ยังยากที่เขาจะซ่อนมันจากผู้ยิ่งใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านการทำนายได้
อวิ๋นเซียวค่อยๆ ก้าวออกไปข้างหน้าช้าๆ แม้นางจะเดินบนโคลน แต่รองเท้าปักของนางก็หาได้เปื้อนฝุ่นไม่
“แค่กๆ” หลี่ฉางโซ่วกระแอมไอให้ลำคอโล่งพลางก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าวแล้วโค้งคำนับให้
อวิ๋นเซียวโค้งคำนับห่างไปครึ่งจั้งแล้วกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าเกิดอันใดขึ้นมาก่อนหน้านี้”
หลี่ฉางโซ่วถามว่า “เจ้าหมายถึงขอบเขตเซียนจั๋วของท่านอาจารย์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้”
รอยยิ้มของอวิ๋นเซียวยิ่งอบอุ่นมากขึ้น นางเอ่ยออกมาเบาๆ ว่า “หากเจ้าเต็มใจที่จะบอกข้า ข้าก็ยินดีรับฟัง อย่างน้อยข้าก็ได้เข้าใจเจ้ามากขึ้นอีกเล็กน้อย”
หลี่ฉางโซ่วอดจะหัวเราะออกมาเบา ๆ ไม่ได้แล้วกล่าวว่า “รอข้าสักครู่ ข้าจะให้ร่างหลักของข้ารีบมาที่นี่”
อวิ๋นเซียวพยักหน้ารับ จากนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ของหลี่ฉางโซ่วก็แกว่งไปแกว่งมาแล้วกลายเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่หนีลงไปในพื้นดิน
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ฉางโซ่วก็ขี่เมฆออกมาจากสำนัก
เขาอยากทำเรื่องตลกเล็กน้อยเพื่อให้อวิ๋นเซียวยิ้มอย่างอ่อนโยน เหมือนในระหว่างการพบปะกันครั้งก่อนของพวกเขา
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลี่ฉางโซ่วก็ถอนหายใจ… “ต้องขออภัยด้วย วันนี้ สภาพจิตใจของข้าออกจะไม่มั่นคงเล็กน้อย”
“ใช่ ๆ” อวิ๋นเซียวส่ายศีรษะเบา ๆ และกล่าวว่า “เจ้าวางแผนที่จะพบข้าเมื่อเจ้ามีอารมณ์ดีเท่านั้นหรือ?”
“หาใช่เช่นนั้นไม่ เป็นเพียงว่า…”
“เล่าเรื่องนี้เรื่องนี้มาสิ หากอาจารย์ของเจ้าตำหนิเจ้าเพราะลำเอียง ข้าก็จะไปให้เหตุผลกับเขา”
หลี่ฉางโซ่วหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้ว่า เทพธิดาอวิ๋นเซียวกำลังล้อเล่น
ใช่หรือไม่?
ในขณะนั้น ทั้งสองก็เดินเล่นและพูดคุยกันอยู่บนเนินเขา ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับกรรมระหว่างจิ้งจอกสาวกับท่านอาจารย์ของเขาให้นางฟัง
นอกจากนี้เขายังอธิบายถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของด้ายแดงแห่งการครองคู่ระหว่างจิ้งจอกกับท่านอาจารย์ของเขาอีกด้วย
หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างสงบว่า “ในสองครั้งที่ผ่านมา ข้าเผชิญหน้ากับจิ้งจอกสาวตัวนี้ และความคิดของข้าได้เปลี่ยนไปจริงๆ
ข้าหยุดคิดพิจารณาอะไรมากมาย เลิกคิดมากและเอาใส่ใจน้อยลง และคำตำหนิของท่านอาจารย์ก็ได้ตอกตะปูลงบนศีรษะของข้า และข้าจะพิจารณาตัวเอง”
อวิ๋นเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า “คำสอนของอาจารย์ที่น่าเคารพนับถือของเจ้าให้ไว้มีเหตุผลทีเดียว แต่เขาก็ค่อนข้างละเลยสถานการณ์บางอย่างของเจ้าไป
เจ้าอ่อนแอ
เจ้าฝึกบำเพ็ญจนเข้าสู่เซียนจิน ในฐานะมนุษย์ แต่เจ้าเข้าร่วมในการต่อสู้ของสำนักใหญ่เร็วเกินไป ผิดก้าวเดียวก็คือตาย
ในเวลานั้น เพื่อปกปิดตัวเอง เจ้าย่อมไม่อาจพูดอะไรในเรื่องการใช้รูปลักษณ์ของผู้อื่นได้ ครั้นเมื่อเจ้าจัดการกับจิ้งจอกสาว มันก็เป็นปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับเจ้า
เพียงประเด็นนี้อย่างเดียว ก็แสดงว่า ท่านอาจารย์ของเจ้าตั้งสมมติฐานและยอมรับ แต่เขาก็คิดผิด”
หลี่ฉางโซ่วเงียบงัน
ไฉนข้าถึงรู้สึกว่าเทพธิดาไม่พอใจเล็กน้อยที่ท่านอาจารย์สั่งสอนข้า
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “เทพธิดา เจ้ารู้สึกไม่พอใจข้าใช่หรือไม่?”
“ใช่”
อวิ๋นเซียวมองไปที่หลี่ฉางโซ่ว สายตาของพวกเขาสบประสานกัน แล้วพวกเขาก็เบือนหน้าหนีไปพร้อมๆ กัน
หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “วิธีการของข้าค่อนข้างหยาบไปเล็กน้อยจริงๆ
ยิ่งกว่านั้น… มันเป็นเพียงเรื่องที่ถูกต้องที่อาจารย์สั่งสอนบทเรียนแก่ศิษย์อย่างข้า และมันก็เป็นวิถีอันชอบธรรมของศิษย์เต๋าอย่างเราที่เราจะเคารพอาจารย์ของเรา และเคารพเต๋า”
“เหตุใดท่านอาจารย์ที่เคารพของเจ้าถึงกลายเป็นเซียนจั๋วเล่า?”
“เรื่องมันยาว” หลี่ฉางโซ่วผายมือทำท่าทางเชื้อเชิญให้อวิ๋นเซียวไปที่ศาลาแห่งหนึ่ง
เมื่อพวกเขาเข้าไปพักผ่อน เขาก็พูดถึงความสัมพันธ์ความรักความชังในช่วงเวลานั้นของอาจารย์ของเขา
พวกเขาเป็นคู่เหมยม้าไม้ไผ่[1] เป็นสหายร่วมวิถีเซียน จนในท้ายที่สุด ฐานเต๋าของฉีหยวนก็ถูกทำลาย และอาจารย์ป้าของพวกเขาก็สิ้นชีพลงอย่างน่าอนาถ…
ต้องขอบคุณ “การฝึกอบรมมังงะ” ครั้งแรกในวังเซิ่งหมู่ของเทพีหนี่วา ความสามารถในการเล่าเรื่องของหลี่ฉางโซ่วจึงดีขึ้นไปอีกสองสามระดับ
อวิ๋นเซียวใส่ใจมากทีเดียวเมื่อได้ยินว่า ว่านเจียงอวี่เสียชีวิตในหมอกพิษแห่งดินแดนเทวะอุดร
นางรู้สึกเสียใจและกล่าวว่า “มันไม่ง่ายเลยที่สิ่งมีชีวิตโฮ่วทียนจะเติบโตได้ มีความยากลำบากมากมายที่มาพร้อมกับจิตใจชั่วร้ายของมนุษย์”
หลี่ฉางโซ่วคิดว่า ความจริงแล้ว มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก…
โดยส่วนตัวแล้ว มันไม่ใช่
“ข้ารู้สึกว่าท่านอาจารย์เป็นคนที่ประสบกับชะตากรรมอันน่าเศร้า” หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจ
“เดิมที เขาเป็นเมล็ดพันธุ์อมตะที่มีศักยภาพดี แต่เขาถูกคนวางแผนทำร้าย
ฐานเต๋าของเขาถูกทำลาย และวิญญาณของเขาก็เกือบจะถูกภัยพิบัติทำลาย และเขายังทนทุกข์ทรมานอยู่ในสำนักนานนับพันปี
เมื่อท่านอาจารย์ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ไป ในยามนั้น ข้ายังไม่ได้กลายเป็นเซียน ข้าจึงทำได้เพียงใช้วิธีนี้เท่านั้น
ข้าใช้ยาพิษเพื่อแก้ปัญหาและเปลี่ยนท่านอาจารย์ให้เป็นเซียนจั๋ว
ข้าเองก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยในเรื่องนี้ หากท่านอาจารย์ไม่รีบร้อนที่จะฝ่าทะลวงด่าน ข้าก็อาจจะเกลี้ยกล่อมให้ท่านรอต่อไปอีกสักร้อยปีได้…
ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ ข้าไม่ควรคิดเรื่องนี้ให้มากเกินไปนัก”
อวิ๋นเซียวถามอีกครั้งว่า “แล้วไยท่านอาจารย์ถึงรีบทะลวงด่านขนาดนี้เล่า?”
“ประการแรก เพราะมีแรงกดดันจากภายนอก ท่านอาจารย์ตามหลังเหล่าสหายร่วมรุ่นเดียวกันมากเกินไป
ประการที่สอง ท่านอาจารย์ได้ละทิ้งตนเองมานับพันปี เขาละทิ้งโอกาสที่จะเป็นเซียนไปเป็นเวลานาน สำหรับเขาแล้ว ความตายคือ รูปแบบของการปลดปล่อย”
หลี่ฉางโซ่วจ้องมองที่ปลายนิ้วของเขาและกล่าวว่า “ข้าไม่ใช่ท่านอาจารย์ของจ้า ข้าเองก็ไม่รู้ว่าสำหรับเขาแล้ว มันทรมานมากเพียงใด ดังนั้นข้าจึงไม่กล้าเกลี้ยกล่อมให้เขารอไปอีกร้อยปี
แม้ข้ามักจะพูดว่าควรปฏิบัติดูแลผู้อื่นด้วยตนเอง แต่พอเอาเข้าแล้ว ข้าก็พบว่ามันยากที่จะเข้าอกเข้าใจพวกเขาได้จริงๆ”
“เป็นเพราะเหตุนี้เอง” อวิ๋นเซียวกล่าวเบา ๆ ว่า “มีบางเรื่องที่ข้าต้องพูด เจ้าอย่าเก็บอะไรเอาไว้คนเดียว เดิมทีข้าได้ยินมาว่า เจ้าถูกพระแม่หวังหมู่แห่งสระหยก[2]ลงทัณฑ์ เฆี่ยนตีด้วยแส้สายฟ้า ดังนั้นข้าจึงมาหาเจ้า
แต่ข้าไม่นึกเลยว่าจะได้มาเห็นท่านอาจารย์ของเจ้าสั่งสอนเจ้าอีกครั้ง…หากเจ้ารู้สึกไม่สบายใจ ก็เล่าให้ข้าฟังได้”
นี่มันเฆี่ยนตีอะไรกัน…
………………………………………………………………..
[1] คู่รักในวัยเยาว์
[2] องค์ราชินีขององค์เง็กเซียน
ข้อความถึงนักอ่าน
@pb-inkstone-fantasy
ทางทีมงานได้ทำการแก้ไขเนื้อหาตั้งแต่ตอนที่ 677 เป็นต้นไปใหม่เพื่อให้เนื้อหาถูกต้องต่อเนื่องกัน ทั้งนี้ทางทีมงานต้องขออภัยนักอ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ