บทที่ 634 โกรธแค้นแม่สาวเซียว

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

บทที่ 634 โกรธแค้นแม่สาวเซียว

เสี่ยวจิ้งคงนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเบิกตาโตหันกลับมาจ้องคนตรงหน้าตาค้าง

“เจียวเจียวหรอ”

หลังจากการเดินทางตามหาที่เนิ่นนาน เสี่ยวจิ้งคงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความคับข้องใจจนเขาร้องไห้ระบายออกมา “เจียวเจียว!”

“ใช่เจ้าจริงด้วย” กู้เจียวเดินเข้าไปหาเจ้าตัวเล็ก ย่อตัวลงแล้วโผกอด

ตอนแรกกู้เจียวไม่กล้ายืนยัน ถึงแม้เงาและท่าเดินถูกต้องก็จริง แต่เนื้อตัวของเขาทั้งดำทั้งเปรอะเปื้อน จิ้งคงของกู้เจียวเป็นเด็กน้อยขาวสะอาดน่ารัก ไฉนกลายเป็นเจ้าเด็กมอมแมมไปได้

เสี่ยวจิ้งคงนั้นแข็งแกร่งมากเวลาที่อยู่ตัวคนเดียว พอมีคนสงสารถึงได้รู้สึกว่าอยากร้องไห้ออกมา

ไม่ว่าอย่างไร กู้เจียวก็นึกไม่ถึงอยู่ดีว่าจะได้เจอเสี่ยวจิ้งคงที่แคว้นเยี่ยนแห่งนี้

แถมเนื้อตัวของเขาก็สกปรกสุดๆ ซ้ำยังมีกลิ่นกำมะถันติดตามตัวอีกด้วย

กู้เจียวเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเสี่ยวจิ้งคงลากกระสอบ…ไม่สิ ลากใครบางคนมาด้วย

กู้เจียวค่อนข้างมั่นใจว่าที่เสี่ยวจิ้งคงลากมาคือคน มิใช่กระสอบ

ในหัวของกู้เจียวตอนนี้เต็มไปด้วยคำถาม แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งคุย กู้เจียวตัดสินใจพาเสี่ยวจิ้งคงกลับไปที่เรือน แต่ก่อนอื่น ต้องมั่นใจก่อนว่าคนที่เสี่ยวจิ้งคงลากมานั้นสามารถกลับไปด้วยกันได้

“เขาเป็นใครรึ” กู้เจียวเอ่ยถาม

ผู้อาวุโสเมิ่งถูกระเบิดจนหน้าดำเป็นตอตะโกจนดูไม่ออกแล้วว่าเขาเป็นใคร

เสี่ยวจิ้งคงยังไม่หยุดร้องไห้แล้วเอ่นตะกุกตะกัก “เขาเป็นคนแก่ที่มีจิตใจดี… เขาพาข้า… พาข้าออกตามหาเจียวเจียว… แล้วเขาก็หมดสติไป… ข้าไม่ได้ตั้งใจ…”

“เอาละ ข้ารู้แล้ว”

จากนั้นกู้เจียวจึงพาทั้งสองกลับไปที่เรือน

ระยะจากจุดนี้ไปถึงที่เรือนใช้เวลาแค่อึดใจเดียว เดินผ่านตรอกนิดเดียวก็เป็นอันถึงดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

กู้เสี่ยวซุ่นและกู้เหยี่ยนเข้านอนแล้ว ส่วนอาจารย์หลู่กำลังฝึกกำลังภายใน ส่วนอาจารย์แม่หนานก็กำลังง่วนกับการปรุงยา

เอี๊ยด

เสียงประตูเรือนดังขึ้น

อาจารย์แม่หนานวางของทั้งหมดลง “เจียวเจียวกลับมาแล้วหรือ”

พอเอ่ยจบ ก็เห็นว่ามีเจ้าก้อนกลมสีดำค่อยๆ โผล่หน้าเข้ามาจากหลังประตู

อะไรกันนี่

หลังจากนั้น อาจารย์แม่หนานก็เห็นเจ้าตัวน้อยเดินเข้ามาจับมือของกู้เจียว ขณะที่กู้เจียวกำลังแบกร่างของใครบางคนไว้บนบ่า

อาจารย์แม่หนานยืนนิ่งไปใบหน้าที่สับสน

เกิดอะไรขึ้นกันแน่

เจียวเจียวออกไปข้างนอกแค่ครู่เดียว แต่กลับมาพร้อมกับคนอีกสองคนอย่างนั้นรึ

อาจารย์แม่หนานอ้าปากค้าง “เจียวเจียว…”

“เรียกชื่ออาจารย์สิ” กู้เจียวเอ่ยกับเสี่ยวจิ้งคง

เสี่ยวจิ้งคงเอ่ยชื่ออีกฝ่ายอย่างสุภาพ “ท่านอาจารย์แม่หนาน!” จากนั้นหันไปอีกทาง “ท่านอาจารย์หลู่!”

“ไอ้หยา!” อาจารย์หลู่ตกใจจนเผลอต่อยหน้าตัวเองจนจมูกของเขาเลือดไหลซิบ

เจ้าเด็กมอมแมมนี่เป็นใครกัน

ไฉนถึงได้มีน้ำเสียงที่ละม้ายคล้ายคลึงกับจิ้งคงล่ะ!

แต่เดี๋ยวก่อน จิ้งคงไม่ได้อยู่ที่แคว้นเจาหรอกรึ หรือว่าเขากำลังโดนผีหลอกตอนกลางดึกอยู่กันนะ!

หนานเซียงเองก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกับสามีของนาง โชคดีที่นางรีบวางส่วนผสมยาลงเสียก่อนไม่อย่างนั้นนางคงจะเผลอเอามันเข้าปากแน่

นางมองดูเด็กน้อยตัวมอมตรงหน้า “นี่ใช่…จิ้งคงรึ”

เสี่ยวจิ้งคงเอามือไขว้หลัง พร้อมกับเอียงศีรษะ “อาจารย์แม่หนาน!”

ท่าทางอันแสนน่ารักที่คุ้นเคย น้ำเสียงเล็กๆ ที่คุ้นเคยแบบนี้ เขาคือจิ้งคงไม่ผิดแน่นอน

“แล้วนี่เจ้าไปทำอะไรมาถึงได้ตัวดำขนาดนี้” อาจารย์แม่หนานอดไม่ได้ที่จะถามคำถามนี้

กู้เจียวเองก็อยากรู้เช่นกัน

“จะอะไรเสียอีก ข้าก็ตากแดดตากลมจนเป็นแบบนี้ยังไงล่ะ” เสี่ยวจิ้งคงเอ่ยตอบพร้อมกับทำหน้าหงอ

เป็นเพราะพี่เขยตัวแสบแท้ๆ

เดินทางไกลกับพี่เขยตัวแสบ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าลำบากแค่ไหน

อาจารย์แม่หนานถามต่อ “ใครเป็นคนพาเจ้ามาที่นี่ล่ะ” เด็กห้าขวบตัวเล็กๆ เดินทางมาที่นี่คนเดียวไม่ได้หรอก

เสี่ยวจิ่วกระพือปีกและร่อนลงบนรั้วเรือน

เสี่ยวจิ้งคงกลอกตาหนึ่งที จากนั้นยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่เสี่ยวจิ่ว “เสี่ยวจิ่วพาข้ามาที่นี่!”

ทุกคนที่ตั้งใจฟัง “…”

ระหว่างทาง กู้เจียวได้ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสี่ยวจิ้งคงเลยเล่าเรื่องที่เจอกับโจรให้ฟัง แต่กลับไม่บอกว่าเขาเดินทางมาที่แคว้นเยี่ยนแห่งนี้กับใคร

อาจารย์แม่หนานยอมแพ้กับคำถามนี้ไปก่อนชั่วคราว ไว้มีโอกาสค่อยถามใหม่ ก่อนจะเบนความสนใจไปที่ใครอีกคน “แล้วคนนี้คือ…”

“ผู้เฒ่าใจดีคนหนึ่ง เขาพาจิ้งคงเดินทางออกมาจากในเมือง เดี๋ยวข้าขอพาเขาไปปฐมพยาบาลก่อน” กู้เจียวเอ่ย

“มา ข้าช่วย” อาจารย์หลู่เสนอช่วยหลังจากเช็ดเลือดกำเดาของตัวเองเสร็จ

เขาช่วยแบกร่างของผู้เฒ่าแปลกหน้าคนนี้เข้าไปในห้องโถงหลักและวางเขาไว้บนเก้าอี้

กู้เจียวเดินไปหยิบกล่องยา มีเจ้าตัวเล็กติดสอยห้อยตามไปด้วยราวกับเป็นหางของกู้เจียว

“หิวไหม” อาจารย์แม่หนานเข้ามาในห้องแล้วเอ่ยถาม “เดี๋ยวข้าไปต้มบะหมี่ให้”

เสี่ยวจิ้งคงยกนิ้วชี้ทั้งสองข้างขึ้นมาชนกัน พร้อมเอ่ย “อยากกินไข่หวานฝีมือเจียวเจียว”

“เดี๋ยวข้าไปทำให้นะ” กู้เจียวหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่ยืนขดอยู่ข้างหลังแล้วยิ้มให้

“เช่นนั้น ข้าไปจุดเตาให้ก่อน” อาจารย์แม่หนานเอ่ยพร้อมกับหัวเราะชอบใจ

จากนั้นกู้เจียวก็เริ่มตรวจร่างกายให้ผู้เฒ่า

แม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่าเนื้อตัวของเขามีรอยขีดข่วนเล็กน้อยระหว่างทางกลับจากการถูกเสี่ยวจิ้งคงลากกับพื้น อีกทั้งเขายังหายใจเอากลิ่นควันเข้าตัวมากจนเกินไป

ต้องรอให้ยาอ่อนฤทธิ์ลงเสียก่อนถึงจะฟื้นตัวได้

จู่ๆ กู้เจียวก็นึกขึ้นได้ว่าเสี่ยวจิ้งคงเองก็ถูกระเบิดด้วยเช่นกัน แต่เหตุใดถึงไม่เป็นอะไรเลย

นอกจากนี้ เขาไปเอาพลังมาจากไหน ถึงได้มีแรงลากร่างของผู้เฒ่าขนาดนี้

เรียนต่อยมวยกับกู้ฉังชิงแค่ไม่กี่วันทำเขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรือ หรือนี่คือพลังที่ซ่อนเร้นของเขา

หลังจากที่กู้เจียวทำหน้าครุ่นคิดสงสัยอยู่นาน เสี่ยวจิ้งคงจึงตัดสินใจว่าเขาต้องพูดความจริงออกไป “ข้าเรียนวิชากำลังภายในมาจากตาลุงจีโหวด้วยล่ะ!”

“ตา ลุง จี โหว คือใครกัน” กู้เจียวทำหน้างงกว่าเดิม

หลังทำแผลให้ผู้อาวุโสเมิ่งเสร็จ กู้เจียวก็พาเขาไปนอนในห้องหนังสือ

จากนั้นก็ไปที่ห้องครัวเพื่อทำตับห่านเจและไข่หวานให้เสี่ยวจิ้งคง แถมยังมีบะหมี่ผักเขียวให้เขาหนึ่งชาม เสี่ยวจิ้งคงนั่งกินอย่างมีความสุข

“อาหารฝีมือเจียวเจียวอร่อยจริงๆ !”

ไม่เหมือนกับอีตาพี่เขยตัวแสบ กินไม่ได้เลยสักอย่าง!

นี่เขารอดชีวิตหลังจากที่อยู่กับพี่เขยตัวแสบเพียงลำพังมาได้อย่างไรเนี่ย หึๆ

ที่ผ่านมารู้สึกสงสารตัวเองชะมัด!

หลังจากเสี่ยวจิ้งคนกินอิ่ม อาจารย์หลู่ก็พาเขาไปอาบน้ำร้อนให้ตัวหอมฉุย

อาจารย์หลู่ใช้โอกาสนี้ถามถึงเรื่องที่ว่าใครเป็นคนพาเสี่ยวจิ้งคงมาที่นี่ แต่เสี่ยวจิ้งคงนั้นเจ้าเล่ห์นัก ไม่ยอมปริปากแม้แต่คำเดียว

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เสี่ยวจิ้งคงก็นอนกอดหมอนใบเล็กบนเตียงของกู้เจียวด้วยสีหน้าพึงพอใจ เขากลิ้งไปมาราวสามรอบก็เป็นอันหลับไป

เจ้าตัวเล็กคงเหนื่อยล้าสุดๆ จนกรนไม่หยุด

ช่วงนี้ยังไม่ใช่ช่วงที่อากาศร้อนที่สุดของเซิ่งตู ตกกลางคืนยังพอมีลมเย็นๆ พัดผ่านมาบ้าง กู้เจียวเลยเข้าไปห่มผ้าบางๆ ให้เขา

“ใครกันนะที่เป็นคนพาเจ้ามาที่นี่” กู้เจียวมองเจ้าตัวเล็กพร้อมกับพึมพำ

“เจียวเจียว” อาจารย์แม่หนานเอ่ยเรียกกู้เจียวเบาๆ

“มีอะไรรึท่านอาจารย์” กู้เจียวปลดมุ้งลง แล้วค่อยๆ เดินไปหาอาจารย์แม่หนาน

อาจารย์แม่หนานยื่นถุงผ้าใบเล็กๆ ให้กู้เจียวดู แล้วเล่า “ข้าพบสิ่งนี้ตอนที่กำลังซักผ้าให้เสี่ยวจิ้งคง ตอนแรกข้าดูไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่พอมันโดนน้ำเท่านั้น สีที่ย้อมมากับถุงผ้าก็ละลาย”

กู้เจียวหยิบถุงผ้าย้อมสีสันสดใสมาบีบแล้วเอ่ย “มีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน”

พอกางมันออก ก็เห็นว่าข้างในนั้นมีกระดาษหนังวัวสีน้ำตาลที่อยู่ในสภาพถูกพับ

บนนั้นมีข้อความที่เขียนด้วยภาษาแคว้นเยี่ยนอย่างชัดเจน

“หากท่านใดพบเจอบัณฑิตน้อยผู้นี้ กรุณาพาเขากลับมาส่งที่หอพักหลิงหลง สำนักบัณฑิตสตรีชังหลัน มีรางวัลตอบแทน”