ตัวเขาเองก็สงสัยในสาเหตุที่จุ๊บแจงเข้ามา เพราะฉะนั้นจะต้องมีการตรวจเช็กแน่นอน
วารุณีได้ยินที่ชายหนุ่มพูด ก็อยากลงใจ “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณ ได้ผลแล้วบอกฉันด้วยนะคะ”
“อืม” นัทธีพยักหน้า
หลังจากโทรศัพท์เสร็จ วารุณีก็วางโทรศัพท์ แล้วทำท่าOKให้กับลีน่า “เอาล่ะนาน่า นัทธีจะเช็กให้พวกเรา เชื่อว่าอีกไม่นานเดี๋ยวก็รู้”
“งั้นก็ดีเลย” ลีน่ายิ้ม
หลังจากที่ถึงตอนค่ำ เพิ่งจะทานอาหารเสร็จ นัทธีก็ส่งผลการตรวจสอบมา
หลังจากวารุณีอ่านเสร็จ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “ฉันคิดว่าเธอจะใส่สะอาดกว่านี้ซะอีก ที่ไหนได้ก็เหลวแหลก”
“หมายความว่าไง?” ลีน่ากะพริบตา แล้วถามอย่างสงสัย
วารุณีตอบ “ก็จุ๊บแจงคนนั้นไง เห็นๆอยู่ว่าเธอเป็นคนรับเงิน และบูชาเงินทองมาก แต่ว่า กลับไปเที่ยวโวว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น ว่าเธอแน่วแน่พอที่จะหาเลี้ยงตัวเองด้วยมือทั้งสองข้าง ดังนั้นเมื่อเธอไปเจอกับคนมีเงิน ก็ทำท่าดูถูกอีกฝ่ายมาก แต่ตอนนี้ คนที่เที่ยวอวดว่าไม่รักเงินคนนี้ กลับกับลูกเศรษฐี แล้วให้ลูกเศรษฐีเลี้ยง”
“แบบนี้นี่เอง” ลีน่าเบ้ปาก “ผู้หญิงแบบนี้พูดอย่างทำอย่าง ฉันหมดคำพูดจริงๆ ”
“ใช่” วารุณีพยักหน้า
ลีน่ามองเธอ “แล้วไงต่อ เธอพูดถึงพูดหญิงคนนี้ตอนนี้ ผลที่ประธานนัทธีเช็กออกมาแล้วสิ”
“ใช่ ดูสิ” วารุณียื่นข้อมูลในมือออกหป
เรื่องนี้นัทธีผลเช็กมาที่เมลของเธอ แล้วเธอก็ปริ้นท์ออกมา
ลีน่ายื่นมือออกไปรับเอกสารที่เธอส่งมา หลังจากนั้นก็นั่งดูอยู่โซฟา งั้นดูเสร็จ ก็กลอกตาขึ้นฟ้า “เด็กดี ที่แท้ก็ใช้เส้นลูกเศรษฐีเข้ามา เธอกับลูกเศรษฐีคนนี้ ก็เป็นหนึ่งในนักลงทุนของการแข่งขันครั้งนี้ หลังจากนั้นก็หลอกพ่อ แล้วใช้ชื่อพ่อของตัวเอง ยัดคนเข้ามา”
วารุณียกแก้วชาขึ้นดื่ม “ถูก แบบนี้แหละ”
“แต่ก็ไม่ถูกนะ” ลีน่าขมวดคิ้ว “ฉันจำได้ว่าผู้ตรวจสอบการเข้าแข่งขันคือมาสเตอร์ดาน่า มาสเตอร์ดาน่าก็เป็นหนึ่งในนักออกแบบชั้นนำ หลังจากวางปากกาเมื่อหลายปีก่อน เขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้ทดสอบผู้เข้าแข่งขันในรายการแข่งขันใหญ่ๆมาตลอด อีกอย่างมาสเตอร์ดาน่าเป็นคนหัวโบราณ ใส่ใจดูงานออกแบบเป็นพิเศษ คือไม่มีทางที่จะให้คนที่ออกแบบไม่เป็น และไม่มีผลงานอะไรเลยเข้ามาแข่งขันได้ เพราะฉะนั้นต่อให้จุ๊บแจงจะมีลูกเศรษฐียัดเข้ามา สุดท้ายก็ไม่ผ่านด่านมาสเตอร์ดาน่าอยู่ดี”
พูดเท่าตัวนี้ เธอก็มองไปที่วารุณี และพูดต่อ “มาสเตอร์ดาน่ากำจัดทุกคนที่เป็นอุปสรรคต่องาน และสามีของเธอเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นแบรนด์หรูของตระกูลC ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกลูกเศรษฐีซื้อไว้ และไม่จำเป็นต้องไว้หน้าลูกเศรษฐีและพ่อของลูกเศรษฐีคน ดังนั้นจุ๊บแจงสามารถเข้าร่วมงานได้ ต้องมีสาเหตุอื่นแน่ๆ”
วารุณีวางถ้วยชาลงแล้วยิ้มเยาะเย้ย “เธอทายถูก มีเหตุผลอื่นจริงๆ ก็คือผลงาน”
“ห้ะ?” สีหน้าของลีน่าเต็มไปด้วยความสงสัย “ผลงาน?เธอคงไม่ได้จะบอกว่า จุ๊บแจงมีผลงานนะ และผลงานนั้นก็ได้รับการยอมรับจากมาสเตอร์ดาน่า ดังนั้นถึงแม่มาสเตอร์ดาน่าจะไม่พอใจจุ๊บแจงที่ใช้เส้น แต่ก็ยังปล่อยให้จุ๊บแจงเข้ามา?”
“ใช่” วารุณีพยักหน้า
ลีน่ายิ้มเย็นชา “อะไรกันเนี่ย คนคนหนึ่งที่ไม่เคยเรียนออกแบบมาก่อน จังหวัดอะไรได้?หรือว่าเพิ่งเริ่มว่า ก็สามารถว่าได้ถึงระดับที่จะเข้ามาแข่งขันได้?จะเป็นไปได้ยังไง!”
“ใครบอกว่าไม่ได้ ตราบใดที่มีภาพออกแบบให้เธอเรียนแบบ เธอก็สามารถวาดออกมาได้ถึงระดับการแข่งขันได้แน่นอนอยู่แล้ว” วารุณีพูดถึงเท่านี้ ก็กำแก้วน้ำมีรอยเย็นชาแวบเข้ามาในสายตา
ลีน่าตะลึง สักพักจึงดึงสติกลับมาได้แล้วมองไปที่วารุณี “วารุณี เธอบอกว่า……ขโมยผลงานทางความคิด!”
วารุณีหยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรศัพท์แล้วยื่นให้เธอ “เธอดูไว้สองสามรูปนี้เป็นผลงานของใคร”
ลีน่าหยิบโทรศัพท์ของเธอ แล้วเลื่อนดูรูปภาพสองสามรูปในอัลบั้ม
หลังจากดูเสร็จ ลีน่าก็คืนโทรศัพท์ให้กับวารุณี “ของเธอไง”
“เธอแน่ใจ?”
“แน่ใจสิ นักออกแบบเหมือนกัน ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นนักออกแบบเครื่องประดับ แต่ฉันก็เข้าใจสไตล์ของเธอ รวมถึงทิศทางการวาดรูปของเธอด้วย เพราะฉะนั้นฉันมั่นใจมาก งานออกแบบนี้เป็นของเธอ” ลีน่าพยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
วารุณียอมรับ “ถูกต้อง ผลงานพรุ่งนี้เป็นของฉันจริงๆ ที่ฉันไม่เคยรายงานมาก่อน เพราะฉันรู้สึกว่าไม่พอใจ ฉันเลยเก็บไว้ในบัญชีนั่นแหละเล็กๆในแพลตฟอร์มของฉัน ยังไงซะฉันก็เป็นผลงานที่ฉันทุ่มแรงกายแรงใจทำมันออกมา แม้จะไม่พอใจ ฉันก็ทำไมมันไม่ลง หรือเก็บไว้ในฟอร์ม เป็นของที่ระลึก คิดไม่ถึงเลยว่า ฉันจะมาเห็นในคอลัมน์ผลงานของจุ๊บแจง”
ไม่ได้ยินที่เธอพูด ลีน่าก็โกรธสุดขีด
ในฐานะนักออกแบบ ลอกงานสองคำนี้ เป็นอะไรที่รับไม่ได้อย่างสมบูรณ์ และก็ไม่อยากได้ยินด้วย
เลิกงานสองคำนี้ เป็นสิ่งต้องห้ามมากที่สุดสำหรับนักออกแบบ
กลับถ้าว่าคิดไม่ถึง ว่าตอนนี้พวกเธอจะมาเจอ แถมยังเอาผลงานที่ขโมยมาใช้เป็นบันไดสู่การแข่งขัน แล้วมาเข้าร่วมการแข่งขัน
ช่างไร้ยางอายอ่ะไม่มีที่สิ้นสุด
“ถึงว่ามาสเตอร์ดาน่าถึงให้จุ๊บแจงเข้าแข่งขัน ที่แท้จุ๊บแจงก็ลอกผลงานเธอมา” ลีน่าโกรธจนนะโอะเป็นแรง
วารุณีมองที่จุ๊บแจงข้อมูลของ “
“ยังไม่หมดนะ ตอนนี้เธอยังแอบอ้างชื่อกับมาสเตอร์ดาน่า มาสเตอร์ดาน่าชื่นชมเธอมากในด้านการออกแบบ เป็นนักออกแบบที่มีพรสวรรค์” วารุณีพูดเยาะเย้ย
ลีน่าเบะปาก “มีพรสวรรค์จริง พรสวรรค์ด้านการขโมยงานคนอื่น วารุณี เรื่องนี้ พวกเราปล่อยไปไม่ได้นะ ต้องเปิดโปงเธอ”
“เธอไม่ต้องห่วง ฉันทำแน่ แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้หรอก” วารุณีหรี่ตา
ลีน่ามองที่เธอ “วารุณี เธอคิดจะทำอะไรใช่ไหม?”
วารุณีพยักหน้า “ฉันไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเธอถึงเข้ามาในแวดวงการออกแบบ แต่ในเมื่อเธอก็เอาผลงานของฉันมาร่วมการแข่งขัน ฉันก็จะอุ้มเธอขึ้น แล้วก็จะทุ่มเธอลงอย่างแรง ให้เธอได้ลิ้มลอง จุดจบที่ต้องอับอายไปทั่วโลก”
คราวนี้ เธอโกรธจริงๆ
ไม่มีนักออกแบบคนไหนที่สามารถยอมรับคนที่ขโมยผลงานตัวเองได้ แถมยังเอามาสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง
ในเมื่อจุ๊บแจงกล้าทำขนาดนี้ งั้นก็ต้องเตรียมตัวที่จะโดนเธอเอาคืน เตรียมใจที่จะถูกเธอฉีกหน้าไว้ให้ดี
ลีน่าเห็นด้วย “งั้นเอาตามนี้ คนแบบนี้ ถ้าไม่เอาให้ตายในทีเดียว เธอก็จะบ้าคลั่งขึ้นมาอีก แต่วารุณี เมื่อกี้ที่เธอพูด ที่จะไม่เปิดโปงเธอตอนนี้เธอหมายความว่ายังไง เธอจะรอเปิดโปงเธอทีหลังเหรอ?”
“ใช่ ปล่อยให้เธอได้ใจไปก่อน เธอคิดว่าการที่เธอขโมยมาจะไม่เป็นไร และตอนที่ไม่คิดว่าคนจะสังเกตได้ ฉันถึงจะจับเธอลงนรก” ใบหน้าเล็กๆ ของวารุณียิ้มอย่างเย็นชา น้ำเสียงเย็นชาพูดขึ้น
ลีน่ากลับขมวดคิ้วขึ้น “ได้มันก็ได้แหละ แต่ยืดเวลานานไปไม่ได้นะ ต้องส่งเธอลงนรกก่อนที่จะแบ่งกลุ่ม ยังไงซะจัดการก่อนแบ่งกลุ่มผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดก็จะไม่ถูกคัดออก และหลังแบ่งกลุ่ม ผู้เข้าแข่งขันก็จะเริ่มถูกคัดออกไปทีละคน เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการเถอะก่อนที่จะแบ่งกลุ่ม ไม่อย่างนั้น หลังจากแบ่งกลุ่มแล้ว เธอจะใช้ผลงานของเธอในการเข้ารอบ แล้วผู้เข้าแข่งขันที่ถูกเธอตัดออก ก็จะเสียเปรียบ และไม่ยุติธรรมมากๆ ”
วารุณียิ้มเบาๆ “ฉันรู้ ฉันไม่เคยคิดวางแผนที่จะลามไปถึงผู้เข้าแข่งขันคนอื่นพี่ไม่ผิดหรอก เธอไม่ต้องห่วงนะครับ ฉันกะไว้แล้ว ฉันรู้ว่าควรจัดการเธอตอนไหน”
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ลีน่าก็ถอนหายใจ แล้วยิ้ม “งั้นดีเลย งั้นฉันก็สบายใจแล้ว”
“อืม” วารุณีพยักหน้า
“แต่วารุณี จะวางแผนจะทำอะไร?จัดการได้ยังไง?” ลีน่าเข้าใกล้อย่างสงสัย
แสงเย็นวาบแวบเข้ามาในสายตาของวารุณี แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว ยิ้มอย่างลึกลับ “ถึงเวลาเดี๋ยวเธอก็รู้