ตอนที่ 1585 การแก้แค้นของใจที่ไม่ยินยอม (6) ตอนที่ 1586 นางพญาซูหย่า (1)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1585 การแก้แค้นของใจที่ไม่ยินยอม (6) / ตอนที่ 1586 นางพญาซูหย่า (1)
ตอนที่ 1585 การแก้แค้นของใจที่ไม่ยินยอม (6)

สวี่มู่หัวเราะเยาะและพูดว่า “พูดจบแล้วจะทำไม พูดไม่จบแล้วจะทำไม”

จวินอู๋เสียตอบว่า “พูดจบแล้วก็ไสหัวไปเสีย”

เสียงของจวินอู๋เสียเย็นชาราวกับเป็นน้ำแข็ง

สวี่มู่ประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าจวินอู๋จะแข็งกร้าวแบบนี้

“ไอ้บัดซบ! พูดอีกครั้งสิ!” สวี่มู่หรี่ตาลงอย่างน่ากลัว ทั่วร่างของเขาเปล่งแสงสีม่วงออกมา

ในสามโลกชั้นกลางเองก็หายากเช่นกันที่จะมีคนที่บรรลุพลังวิญญาณขั้นสีม่วงทั้งที่เพิ่งอายุยี่สิบปี ดวงตาของพวกผู้เยาว์ที่มุงดูเรื่องสนุกอยู่ด้านข้างฉายแววประหลาดใจเมื่อเห็นแสงสีม่วงบนร่างของสวี่มู่

จากนั้นใครบางคนที่อยู่ในฝูงชนก็จำได้ว่าสวี่มู่เป็นใคร

“นั่นสวี่มู่จากตำหนักมารโลหิตไม่ใช่หรือ”

“สวี่มู่ คนที่ได้อันดับหนึ่งสาขาพลังวิญญาณของศิษย์รุ่นที่แล้วน่ะหรือ”

คนจำนวนมากตกใจเมื่อรู้ว่าสวี่มู่เป็นใคร สวี่มู่ยังหนุ่มแต่ทะลวงเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้แล้ว นี่คือจุดที่ทำให้เขาเหนือกว่าผู้เยาว์คนอื่นๆ ในรุ่นของเขา แม้แต่ในบรรดารุ่นพี่ เขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในศิษย์ที่เก่งมาก หลังจากรุ่นพี่บางคนจำสวี่มู่ได้ พวกเขาก็พากันถอนหายใจให้กับจวินอู๋อย่างเงียบๆ แต่ในใจยังคงรู้สึกยินดีกับโชคร้ายของจวินอู๋

เนื่องจากสวี่มู่เป็นคนของตำหนักมารโลหิต และทุกคนก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างจวินอู๋กับตำหนักมารโลหิต การที่สวี่มู่มาที่นี่ในวันนี้ เขาย่อมไม่ปล่อยจวินอู๋ไปง่ายๆ แน่

จวินอู๋เสียมองพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่หมุนวนรอบตัวสวี่มู่อย่างสงบ นางสัมผัสถึงรังสีสังหารจากสวี่มู่ได้อย่างชัดเจน

ควรลงมือหรือไม่ลงมือ

จวินอู๋เสียรู้ว่า ด้วยพลังของนาง นางสามารถส่งสวี่มู่ลงนรกได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว แต่ทันทีที่นางลงมือ นั่นหมายความว่านางจะเปิดเผยพลังของตัวเองด้วย นั่นจะทำให้ความได้เปรียบในการต่อสู้กับสิบสองตำหนักหายไป

เห็นได้ชัดว่าสวี่มู่ตั้งใจเอาชีวิตนาง ถ้านางไม่ใช้พลัง ก็ไม่มีใครในที่นี้จะช่วยนาง

นางไม่สามารถใช้พลังวิญญาณของตัวเองได้ ไม่สามารถใช้ภูติวิญญาณได้ และไม่สามารถเรียกเสี่ยวเฮยออกมาได้ด้วย จวินอู๋เสียไม่อยากเปิดเผยตัวเอง คิ้วของนางจึงขมวดเข้าหากันโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ไอ้สารเลว เจ้าสำคัญตัวผิดไปแล้ว คิดหรือว่าจะไม่มีใครในสำนักธาราเมฆจัดการกับเจ้าได้ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่า ขยะอย่างเจ้า ที่ขนาดสำนักธาราเมฆยังทิ้ง ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่บนโลกใบนี้!” ดวงตาของสวี่มู่ทอประกายอำมหิตอย่างรุนแรง เขารวบรวมพลังวิญญาณและพุ่งเข้าใส่จวินอู๋เสีย!

พอเขาฆ่าเจ้าหมอนี่ได้ เขาก็จะมีอนาคตที่สดใสในตำหนักมารโลหิต!

หลินเฮ่าอวี่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้เห็นร่างของสวี่มู่ปกคลุมด้วยพลังวิญญาณขั้นสีม่วง หัวใจของเขาแทบกระโจนออกจากอกด้วยความกระวนกระวายและความคาดหวัง

ฆ่ามัน!

ฆ่ามัน!

ให้มันหายไปจากโลกนี้เสีย!

เมื่อรู้สึกถึงพลังที่พุ่งเข้ามาหา จวินอู๋เสียก็ลอบกำหมัดอยู่ในแขนเสื้อ เรื่องมาถึงจุดที่นางจำต้องลงมือแล้ว!

สวี่มู่โจมตีด้วยพลังทั้งหมดของเขาเพื่อส่งจวินอู๋ลงนรกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังอันรุนแรงพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของจวินอู๋ จวินอู๋เสียยกมือขึ้นเตรียมที่จะปัดมันออก

แต่ว่า!

ขณะที่สวี่มู่อยู่ห่างจากจวินอู๋เสียเพียงก้าวเดียว ร่างอันงดงามก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าจวินอู๋เสีย ร่างอันทรงเสน่ห์นั้นปัดการโจมตีของสวี่มู่ในพริบตาพร้อมแสงสีเงินที่วาบผ่าน สวี่มู่ที่ดุดันถูกซัดด้วยพลังอันมหาศาล ลอยละลิ่วกลับไปทันทีต่อหน้าต่อตาทุกคน!

ทุกคนเห็นเพียงสวี่มู่ตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง พร้อมกับกระอักโลหิตออกมากองหนึ่ง

ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวผู้งดงามเย้ายวนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย

ตอนที่ 1586 นางพญาซูหย่า (1)

ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวผู้งดงามเย้ายวนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย

ขายาวๆ ของซูหย่าเหยียบลงบนพื้นอย่างหยิ่งยโส ใบหน้าเชิดขึ้นเล็กน้อยด้วยความหยิ่งชนิดที่ไม่มีใครกล้าลบหลู่ ขวดน้ำเต้าที่ใส่สุราห้อยอยู่ที่เอว

“ไอ้หน้าไหนมันไม่มีตา บังอาจแตะต้องศิษย์ของข้า!” เสียงไม่พอใจของสตรีดังขึ้น ดวงตาทรงเสน่ห์ของซูหย่าหรี่ลงครึ่งหนึ่ง และกวาดมองกลุ่มผู้เยาว์ที่ยืนตะลึงอยู่นอกหอจันทร์แรม

ใบหน้างดงามชวนตะลึงและออร่าที่ทรงพลังมหาศาลของนางทำให้พวกผู้เยาว์ที่อยากดูอะไรสนุกๆ พากันจ้องมองอย่างตะลึงงัน

สวี่มู่นอนกองอยู่บนพื้น เจ็บปวดไปทั่วร่างราวกับจะระเบิด หลังจากเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากขนาดนี้มานานแล้ว แต่แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนตายไปเสียยังจะดีกว่า

จวินอู๋เสียมองซูหย่าที่ยืนขวางเป็นโล่อยู่ตรงหน้าอย่างมึนงง คิดไม่ถึงว่าซูหย่าจะปรากฏตัวในเวลานี้

ซูหย่ายืนอย่างสง่างามราวกับนางพญาตรงหน้าทุกคน การปรากฏตัวที่ทรงพลังของนางทำให้ทุกคนที่นั่นไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

สตรีนางนี้เป็นใคร

คำถามเดียวกันผุดขึ้นในใจของทุกคนที่นั่น แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือคำพูดของซูหย่า

ศิษย์ของนาง…

สายตาของทุกคนหันไปที่ร่างของจวินอู๋เสียโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพูดของซูหย่า เป็นไปได้จริงๆ หรือว่า จวินอู๋คือศิษย์ของนาง

พวกเขารู้ดีว่าสวี่มู่แข็งแกร่งขนาดไหน แต่พอซูหย่าปรากฏตัวออกมา อาศัยแค่ฝ่ามือเดียวก็ซัดสวี่มู่ลงไปกองกับพื้นลุกไม่ขึ้นได้แล้ว พลังของนางจะน่ากลัวขนาดไหนกัน

ที่โดนซัดหมอบอยู่นั่นคือผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงนะ!

พลังขนาดนั้นยังไม่มีปัญญาทำอะไรซูหย่าได้เลย

ความกลัวเข้าครอบงำหัวใจของทุกคนทันที

“เจ้า…เจ้าเป็นใคร…” สวี่มู่พยายามลุกขึ้นจากพื้น แต่ความเจ็บปวดรุนแรงกระจายไปทั่วร่าง เขาจึงทำได้แค่นอนกองอยู่บนพื้นและเงยหน้าขึ้นมองซูหย่าผู้สง่างามด้วยความเจ็บปวดทรมาน

ซูหย่ามองสวี่มู่ด้วยสายตาเย็นชา “ข้าคืออาจารย์ของจวินอู๋”

“อะไรนะ…” ดวงตาของสวี่มู่เบิกกว้าง

อาจารย์

อาจารย์ของจวินอู๋

ผู้เยาว์บางคนที่มุงดูอยู่นึกออกแล้วว่าซูหย่าคือใคร พวกเขาจำได้ว่ามีคนเฝ้าหอจันทร์แรมอยู่คนหนึ่ง ลือกันว่าเป็นสตรีที่งดงามน่าหลงใหลอย่างถึงที่สุด แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่านางจะมีพลังที่สามารถเอาชนะผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้ในทันทีแบบนี้!

เมื่อเห็นสภาพของสวี่มู่ พวกเขาก็นึกภาพออกเลยว่าการโจมตีเพียงครั้งเดียวของซูหย่านั้นร้ายกาจน่ากลัวเพียงใด

สำนักธาราเมฆบ้าไปแล้วหรือ

ให้คนที่มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้มาเฝ้าหอเก็บสุราเนี่ยนะ

“เป็นไปไม่ได้…จวินอู๋จะมีอาจารย์ได้อย่างไร…” สวี่มู่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขารู้ว่าซูหย่าเป็นใคร แต่หอจันทร์แรมเป็นแค่หอเก็บสุราของสำนักธาราเมฆ เป็นไปไม่ได้ที่สำนักธาราเมฆจะให้คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาอยู่ในที่ต่ำต้อยแบบนี้

แม้ว่าซูหย่าจะลงมือเพียงครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวนั้นก็มากเกินพอที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจว่าพลังของซูหย่าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะฝันไปเทียบเคียงได้ ความสามารถระดับนี้ ไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้เยาว์ที่กำลังฝึกฝนอยู่เลย แม้แต่อาจารย์ในสำนักธาราเมฆก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง

ซูหย่ามองสวี่มู่อย่างเหยียดหยาม จากนั้นก็หันไปมองจวินอู๋เสียที่ยังคงมึนงงอยู่ “เจ้าเห็นคำพูดของข้าเป็นลมพัดผ่าน เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาอย่างนั้นหรือ!”

จวินอู๋เสียได้สติกลับมา นางรีบตอบว่า “ไม่ใช่”

“ไม่ใช่” ซูหย่าเลิกคิ้วเล็กน้อย “ตอนข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร ถ้ามีใครรังแกเจ้า หากเจ้าสามารถจัดการมันได้ เจ้าก็จัดการเองไป แต่หากเป็นคนที่เจ้าไม่สามารถจัดการได้ ข้าจะเป็นคนจัดการให้เจ้าเอง ตอนนี้ไอ้หมอนี่มาฉีกหน้าเจ้าถึงที่ แล้วเจ้ามัวยืนบื้ออะไรอยู่ ร้องโวยวายไม่เป็นเรอะ”