บทที่ 845 เรียกข้าว่าพี่ใหญ่

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 845 เรียกข้าว่าพี่ใหญ่

บทที่ 845 เรียกข้าว่าพี่ใหญ่

ซูอันมองเห็นชุดแผนผังอักขระระดับเจ็ดตามโครงข่ายเส้นเลือดในร่างกายของเขา

มวลพลังที่เหลืออยู่เติมเต็มสามอักขระเหล่านี้ก่อนที่จะหยุดในที่สุด

ผู้บ่มเพาะที่ไปถึงระดับเจ็ดสามารถฟื้นฟูเลือดของตัวเองได้ตลอดเวลา แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ตราบใดที่ความเสียหายนั้นไม่ใช่ความเสียหายอย่างถาวร และพวกเขามีเวลาเพียงพอ ในที่สุดพวกเขาจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์

ซูอันเริ่มทดสอบเรื่องนี้ แต่ความเร็วในการฟื้นตัวของความสามารถพิเศษระดับเจ็ดนั้นน้อยกว่าที่วิชาปฐมบทแรกเริ่มมอบให้เขามาก ความสามารถนี้จึงไม่มีประโยชน์สำหรับเขา

แน่นอน ชายหนุ่มรู้ว่าเขาคิดอย่างนี้ก็เพราะมีวิชาปฐมบทแรกเริ่มเท่านั้น สำหรับผู้บ่มเพาะคนอื่น ความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง

สำหรับผู้บ่มเพาะระดับล่าง ความเสียหายใด ๆ ที่ได้รับนั้น สามารถฟื้นฟูได้ผ่านกระบวนการรักษาตัวเองของร่างกาย

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้บ่มเพาะจะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บได้ ความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเทียบเท่ากับชีวิตที่สอง

ซูอันรู้สึกค่อนข้างมึนงง ระดับการบ่มเพาะของชายหนุ่มเพิ่งจะกระโดดข้ามมาสองระดับ

“ระดับเจ็ด?” เพ่ยเหมียนหมานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อนางได้ยินสิ่งที่เขาพูด “การบ่มเพาะระดับเจ็ดนี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าได้เป็นเจ้าเมือง และนี่ยังไม่นับว่าเจ้ายังอายุน้อยขนาดนี้!”

ผู้หญิงคนไหนบ้างไม่ชมชอบคนรักของตนที่เก่งกาจ? ยิ่งเขาน่าโดดเด่นมากเท่าไร นางก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

“แต่…” นางขมวดคิ้ว นางเดินวนรอบตัวเขาและสำรวจร่างกายของเขาต่อไป “เจ้าดูแตกต่างจากผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดคนอื่น ๆ”

ซูอันรู้สึกสับสน “อย่างไร?”

เพ่ยเหมียนหมานเม้มริมฝีปาก “มันยากที่จะพูด ข้าเคยพบเจอกับผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดมามากมาย ซึ่งข้าสามารถสัมผัสได้ถึงระดับการบ่มเพาะของพวกเขาทั้งหมด แต่เจ้าที่อยู่ในระดับเจ็ดขั้นต้น ข้ากลับไม่สามารถมองออกได้เลยว่าแท้จริงระดับการบ่มเพาะของเจ้าอยู่ที่ระดับเท่าไรหากเจ้าไม่บอก”

ซูอันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน เขาไม่ได้มีความรู้เรื่องการบ่มเพาะมากนัก ดังนั้นจึงไม่มีทางเทียบได้กับเพ่ยเหมียนหมานที่เกิดมาในตระกูลที่ยิ่งใหญ่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้

“มีอีกอย่างที่แปลกมาก” เพ่ยเหมียนหมานกล่าวต่อว่า “แม่ชียุงน่าจะถึงระดับปรมาจารย์แล้ว แต่ทำไมระดับการบ่มเพาะของเจ้าถึงเพิ่มขึ้นมาเพียงสองระดับหลังจากดูดกลืนการบ่มเพาะของนาง?”

“การเพิ่มสองระดับถือว่าน้อยอย่างนั้นเหรอ?” ซูอันตกตะลึง ปกติเขาต้องใช้ผลไม้พลังชี่จำนวนมากเพื่อเติมเต็มอักขระแต่ละตัว ตอนนี้เขามาถึงระดับเจ็ดแล้ว เขารู้สึกยินดีกับความก้าวหน้าอย่างกะทันหันของตัวเอง

“แน่นอนว่าไม่เยอะ! แม่ชียุงนั้นอยู่ในระดับปรมาจารย์ และอาจอยู่เหนือระดับปรมาจารย์ด้วยซ้ำ ความแข็งแกร่งของนางนั้นน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ระดับการบ่มเพาะของเจ้าขึ้นมาเพียงสองระดับหลังจากที่ดูดกลืนนาง เป็นไปได้ไหมว่ามันสูญหายมากเกินไปในระหว่างการถ่ายโอนพลัง?” เพ่ยเหมียนหมานค่อนข้างสับสนเช่นกัน

“ก็เป็นไปได้” ซูอันได้ใช้เวลาศึกษาวิชาฟิสิกส์ในโลกก่อนหน้าของเขา เขารู้ว่าพลังงานส่วนใหญ่ของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือสูญเปล่าไปกับความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายโอนข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะดูดกลืนการบ่มเพาะของแม่ชียุงได้ทั้งหมด

เพ่ยเหมียนหมานจ้องมาที่เขาเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดว่า “อาจมีความเป็นไปได้อย่างอื่นอีก”

ซูอันสับสน แต่นางพูดต่อ “สำหรับเจ้า ขั้นที่สามของระดับเจ็ดอาจแตกต่างไปจากผู้บ่มเพาะทั่วไป มันอาจจะแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะระดับเดียวกันมาก ไม่ว่าจะเป็นตอนต่อสู้กับนักรบเงินสดหรือแม่ชียุง ระดับการบ่มเพาะของเจ้าต่ำกว่าข้าอย่างชัดเจน แต่เจ้ากลับรับมือกับพวกเขาได้ดีกว่าข้า นอกจากนี้เจ้าไม่เคยแสดงอาการอ่อนล้าจากการหมดไปของพลังชี่ในร่างกาย พลังการต่อสู้ของเจ้าไม่สอดคล้องกับระดับของเจ้าเลย นี่อาจเป็นผลที่น่าอัศจรรย์ของวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ”

“อาการอ่อนล้าของพลังชี่?” ซูอันมองดูนางอย่างสงสัย

“อืม” เพ่ยเหมียนหมานมีสีหน้าแปลก ๆ “แม้ว่าผู้ที่อยู่ในระดับที่แปดสามารถยืมพลังแห่งสวรรค์และโลกมาใช้ได้ แต่พวกเขาสามารถสร้างได้เพียงการเชื่อมต่อชั่วขณะเท่านั้น ไม่อาจยืมมาใช้ได้เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน เฉพาะผู้ที่ไปถึงระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถเชื่อมโยงกับสวรรค์และโลกได้ตลอดเวลา และได้รับแหล่งที่มาของพลังชี่ที่ไม่มีที่สิ้นสุดจึงไม่ต้องกังวลกับความอ่อนล้าของพลังชี่เลย

“สำหรับผู้บ่มเพาะเช่นเรา ไม่ว่าเราจะแข็งแกร่งแค่ไหน เมื่อพลังชี่ของเราหมดลง เราก็จะไม่มีกำลังต่อสู้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเจ้าจะไม่ประสบปัญหานี้ และไม่เคยเห็นเจ้าต้องกินยาเพื่อเติมเต็มพลังชี่เลย”

ในที่สุดซูอันก็เข้าใจ นางกำลังพูดถึงการฟื้นฟูมานาหรือการฟื้นความแข็งแกร่งภายในโลกแห่งนิยายของอู๋เซี่ย

“เพิ่งรู้เรื่องนี้เหรอ?” เสียงของหมี่ลี่ดังขึ้นจากภายในจิตใจของเขา

ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “พี่หญิงใหญ่ ท่านตื่นแล้ว!”

“ฮึ่ม ก่อนหน้านี้เจ้าทำเสียงดังกับยุงเจ้ากรรมนั่น ข้าจะนอนต่อได้อย่างไรเล่า? เจ้าไม่เคยใช้วิชาเทพยุทธ์กลืนสวรรค์มาก่อน ดังนั้นข้าจึงไม่คิดว่าเจ้าจะเอาชนะนางได้ ยังดีที่เจ้ามีไหวพริบอยู่บ้าง” เสียงของหมี่ลี่แสดงการยกย่องเล็กน้อย

“แน่นอน!” ซูอันกล่าวด้วยความพอใจในตนเอง “ว่าแต่ท่านกำลังพูดว่าข้าไม่ต้องเผชิญกับปัญหาความอ่อนล้าของพลังชี่ มันเป็นเพราะอะไรกัน?”

หมี่ลี่ตอบว่า “เหตุผลสองประการ ประการแรก นอกเหนือจากการซ่อมแซมอาการบาดเจ็บของร่างกายแล้ว วิชาปฐมบทแรกเริ่มยังเติมเต็มพลังชี่ของเจ้าได้ ส่วนวิชาวัฏจักรหงส์อมตะยังกักเก็บพลังชี่จำนวนมหาศาลไว้ในร่างกายของเจ้า ซึ่งมีจำนวนมากจนยากที่เจ้าจะใช้มันจนหมด เจ้าไม่เคยคิดบ้างหรืออย่างไรว่า ทำไมมันถึงยากมากกับการที่เจ้าจะเพิ่มระดับการบ่มเพาะโดยใช้วิชาวัฏจักรหงส์อมตะ? นั่นเป็นเพราะว่าทุกระดับต้องใช้พลังชี่หลายเท่าเมื่อเทียบกับผู้บ่มเพาะทั่วไป!”

ตอนนี้ซูอันเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเขาจึงสามารถทำให้ต๋าจี่ไปสู่จุดสูงสุดของระดับสี่ด้วยผลไม้พลังชี่เพียงเจ็ดร้อยผล แต่สำหรับชายหนุ่ม จำนวนนั้นแทบจะไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึง

หมี่ลี่ถอนหายใจ “ตำนานเล่าว่าความเป็นอมตะเกิดขึ้นได้เมื่อบ่มเพาะวิชาวัฏจักรหงส์อมตะไปจนถึงจุดสูงสุด แต่ทว่าด้วยความต้องการพลังชี่จำนวนมหาศาลมากกว่าวิชาใดที่เคยมีมา การบ่มเพาะให้สำเร็จจึงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

“แต่เด็กโง่อย่างเจ้ากลับได้รับโอกาสโชคดีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใครจะไปรู้ เจ้าอาจจะประสบความสำเร็จและบรรลุความเป็นอมตะก็ได้”

ซูอันรู้สึกสับสน “ท่านไม่ได้มีชีวิตอยู่มาถึงหมื่นปีเหรอ? นั่นไม่ใช่ความเป็นอมตะหรอกหรือ?”

“ไม่ใช่” หมี่ลี่ตอบ “สถานการณ์ของข้าแตกต่างกัน ข้าถูกขังอยู่ในมิติลับซึ่งเป็นสถานที่ที่เวลาผ่านไปอย่างช้ามากภายใต้ผนึก นี่คือเหตุผลที่แม้ว่าข้าจะดูเหมือนมีชีวิตอยู่ในสายตาของเจ้ามานับหมื่นปี แต่จริง ๆ แล้วหากนับตามกระแสเวลาที่ผ่านพ้นตัวข้า ข้าไม่ได้มีอายุมากขนาดนั้นเลย ในแง่หนึ่งมันรู้สึกเหมือนกับว่าข้านอนหลับสนิทแล้วตื่นขึ้นมา”

ซูอันรู้สึกยินดีกับสิ่งนี้ “โธ่ ข้าก็หลงนึกมาตลอดว่าท่านอาจจะเป็นนางพญาปีศาจอายุตบะหนึ่งหมื่นปี แต่ที่แท้แล้วท่านกลับยังเป็นแค่หญิงสาวเยาว์วัยอยู่นี่นา ฮ่า ๆ เร็ว ๆ เลย เรียกข้าว่าพี่ใหญ่เร็ว ๆ สิ!”

หมี่ลี่ตกตะลึงจนเงียบไปชั่วครู่

ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!