บทที่ 757 การข่มขู่ของจุ๊บแจง

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“มาธงมาเธออะไร มีอะไรอีกไหม ? ไม่มีอะไรแล้วก็หลบๆไป เราจะเข้าไปด้านใน” ลีน่าถลึงตาใส่จุ๊บแจง และพูดอย่างไม่สบอารมณ์

จุ๊บแจงกำมือแน่น ไม่สนใจลีน่าสักนิด แต่กลับจ้องเขม็งมองวารุณี “ตอนนี้เธอไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา รอก่อนเถอะ ฉันจะทำให้เธอได้รู้ ว่าอะไรคือเสียใจทีหลัง!”

“โอ้?”วารุณีเลิกคิ้ว “ เธอหมายความว่ายังไง ? ฉันจะมาเสียใจอะไร ”

จุ๊บแจงยิ้มอย่างพึงพอใจ“ตอนนี้เราต่างก็เหมือนกัน เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าทั้งคู่ ถึงเธอจะมีชื่อเสียงมาก่อนฉัน แต่สุดท้ายแล้ว ฉันต้องแซงหน้าเธอไปได้แน่ ถึงตอนนั้นนัทธีก็จะได้รู้ ว่าคนที่คู่ควรกับเขาที่สุด และช่วยเขาได้มากที่สุดคือฉัน ถึงตอนนั้นแล้ว เธอจะต้องมานั่งเสียใจที่ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา ”

ในสายตาเธอ ต่อให้วารุณีจะเก่งแค่ไหน จะทำผลงานออกมาได้ดียังไง ก็ตัวคนเดียว สู้เธอที่ลอกเลียนผลงานคนอื่นไม่ได้หรอก

ผลงานของคนอื่นมีหลากประเภท และหลายสไตล์ เธอต้องเอาชนะวารุณีได้อย่างแน่นอน

เมื่อวารุณีได้ยินคำพูดของจุ๊บแจง ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

ลีน่าก็หัวเราะออกมาเช่นกัน หัวเราะจนตัวโก่ง “โอ้พระเจ้า วารุณี เธอได้ยินไหม ? เขาบอกว่าจะเอาชนะเธอได้ ยังพูดอีกว่าประธานนัทธีจะมองเขาในมุมมองใหม่!”

วารุณีพยักหน้าให้พร้อมเสียงหัวเราะ “ ฉันได้ยินแล้ว ช่างน่าขำจริงๆ ”

“นี่มันไม่ใช่แค่น่าขำนะ แต่ยังไร้ยางอายด้วย คนที่เข้าสู่การแข่งขันได้เพราะลอกแบบของคนอื่นอย่างไม่มีความละอาย ไม่เพียงคุยโวโอ้อวดว่าจะเอาชนะเธอได้ แต่ยังเพ้อถึงสามีเธออีก คนแบบนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนคงถูกลากไปขังไว้ในกรงหมู ถึงจะเป็นตอนนี้ ก็มีโทษจำคุกอยู่หลายปีเลยนะ” ลีน่าพูดมาถึงตรงนี้ ก็ยิ้มเย้ยแล้วมองไปที่จุ๊บแจง

ใบหน้าของจุ๊บแจงซีดเซียวขึ้นมาทันที รูม่านตาหดเกร็ง แววตาที่ตื่นตระหนก ก็ปิดบังเอาไว้ไม่อยู่

พวกเขา……พวกเขารู้ว่าเธอขโมยงานแบบของคนอื่นจนเข้าร่วมการแข่งขันได้ ?

ไม่ มันจะเป็นไปได้ยังไง !

เธอทำมันอย่างแนบเนียนขนาดนั้น พวกเขาจะรู้ได้ยังไง

อีกอย่างแบบที่เธอลอกมาจากบล็อกเกอร์MNนักออกแบบคนนั้น ก็เป็นแค่บล็อกเกอร์ ที่ไม่ได้เป็นที่ไม่รู้จักอะไร

แม้ว่าMNคนนั้นจะโพสต์งานแบบจำนวนมากลงบนบล็อกส่วนตัวของตัวเอง แต่ก็ไม่มีใครไปแสดงความคิดเห็นอะไรเลย เธอยังได้เข้าไปดูตรงหน้าเว็บ งานแบบพวกนั้นผู้คนที่เข้าไปดูก็แค่หลักสิบเท่านั้น

นั้นก็หมายความว่า ลอกเลียนแบบของบล็อกเกอร์MNคนนั้นมันปลอดภัยที่สุดแล้ว เพราะคนที่เคยเห็นมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะรู้ว่าเธอลอกเลียนงานแบบของคนอื่น

แต่ตอนนี้……

จุ๊บแจงไม่กล้าจะคิดต่อ สูดหายใจลึกๆกำมือแน่นแล้วมองไปยังวารุณีกับลีน่า พูดเสียงดังอย่างร้อนตัวว่า“ พวกเธอพูดเหลวไหลอะไร ใครลอกเลียนแบบคนอื่นจนเข้าร่วมการแข่งขันได้กัน ?”

“เราพูดเหลวไหลหรือเปล่า เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ ถามเธอสักคำกับคนที่ไม่เคยเรียนการออกแบบ และออกแบบไม่เป็นว่า เธอวาดรูปพวกนั้นออกมาได้ยังไง ? นอกจากลอกเลียนมันแล้ว มีคำอธิบายอื่นไหม?”ลีน่าเอามือกอดอก พูดด้วยสายตาเยาะเย้ย

วารุณีเองไม่ได้พูดอะไร มุมปากยกหยักขึ้นอย่างยิ้มเย้ย

และการยิ้มเย้ยนี้ ยิ่งทำให้จุ๊บแจงหงุดหงิด และสุดที่จะทนมากยิ่งขึ้น

“เหลวไหล ฉันไม่เคยเรียนการออกแบบมาก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีพรสวรรค์ โลกนี้คนมีความสามารถเยอะแยะถมไป ใครเป็นคนกำหนดว่าไม่เคยเรียนก็จะวาดออกมาไม่ได้กัน ? ดังนั้นคำพูดเมื่อกี้ของเธอ ล้วนใส่ร้ายป้ายสีทั้งนั้น ฉันฟ้องพวกเธอได้นะ!”จุ๊บแจงชี้ไปที่ลีน่าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และอารมณ์ที่กระวนกระวายอย่างมาก

ลีน่ากลอกตามองบนอีกครั้ง“เบาเสียงหน่อย ตกใจหมดเลย เธอคิดว่าเสียงดังแล้วจะเป็นฝ่ายถูกหรือไง ใส่ร้ายป้ายสี จะแจ้งความอีก แน่จริงก็แจ้งเลยสิ ถ้าเธอกล้า แต่เรื่องของเรื่อง เธอจะกล้าจริงๆเหรอ?”

“ลีน่าพูดถูก เธอกล้าแจ้งความจริงๆเหรอ? ไม่กล้าหรอกมั้ง ” วารุณีมองไปที่จุ๊บแจง ในที่สุดก็พูดออกมาจนได้ “เพราะเธอรู้ดี ว่างานพวกนั้นไม่ใช่ของเธอเอง ดังนั้นหากเธอแจ้งความ ก็จะถูกตรวจสอบจนพบ ดังนั้นเธอก็จึงพูดส่งๆไปเท่านั้น หากให้แจ้งความจริงๆ เธอไม่กล้าหรอก ไม่งั้นเธอก็แจ้งมันตอนนี้เลยสิ ”

“ฉัน……ฉัน……”ดวงตาจุ๊บแจงไหววูบ สีหน้าซีดเผือด พูดแทบไม่ออก

เมื่อลีน่าเห็นท่าทีของเธอ ก็เยาะเย้ยอย่างเหยียดหยาม“ดูสิ วารุณี หางจิ้งจอกของเขาโผล่ออกมาแล้ว เขาไม่กล้าแจ้งความ ก็เท่ากับเป็นการยอมรับกลาย ๆ ว่างานแบบพวกนั้นไม่ใช่ฝีมือของเขาเอง”

“ฉันรู้”วารุณีพยักหน้า

ดวงตาของลีน่าฉายแววความขี้เล่น จากนั้นก็ถามขึ้นว่า“เออนี่วารุณี เราแจ้งตำรวจให้มาจับตัวเขาไปเลยดีไหม”

“ไม่นะ!”ไม่รอให้วารุณีได้เอ่ยปากพูด จุ๊บแจงก็โพล่งออกมาซะก่อน

ลีน่าเอามือกุมท้องแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง “ วารุณี เธอดูเขาสิ เขากลัวแล้วจริงๆฮ่าๆๆ ”

ดวงตาของวารุณีฉายแววยิ้มอ่อน พยักหน้าให้เล็กน้อย “ฉันเห็นแล้ว”

จุ๊บแจงดวงตาเบิกกว้าง มองไปที่พวกเขาอย่างไม่เชื่อสายตา “พวกเธอแกล้งฉันเหรอ ?”

“เธออย่ามาปรักปรำพวกเรานะ เราไม่มีอารมณ์มาแกล้งอะไรเธอหรอก หากเราอยากจะแกล้ง เธอได้ชดใช้ไปนานแล้ว ไม่มีโอกาสมายืนตรงหน้าเราสองคนแบบนี้หรอก ดังนั้นเมื่อครู่ เราก็แค่หยอกเธอเล่นเท่านั้น แน่นอนว่า การที่เราหยอกเธอเล่น ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยให้เธอลอยนวลนะ ยังไม่รวมเรื่องที่เธอลอกเลียนแบบคนอื่น เอาแค่เรื่องที่เธอรำพึงรำพันถึงสามีของวารุณี เราก็ไม่ปล่อยเธอไว้อยู่แล้ว !”

พูดมาถึงตรงนี้ ลีน่าก็เอามือสางจัดแต่งทรงผม แล้วพูดขึ้นว่า“ที่ตอนนี้เราไม่แจ้งความ เพราะการแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้น หากแจ้งความไป เราก็ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เมื่อเป็นแบบนั้น ก็จะไปเสียเวลาการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ดังนั้นเราจึงต้องปล่อยเธอไปก่อน แต่หลังจากนั้น เธอรอได้เลย ไปกันเถอะวารุณี!”

เธอตบไปที่บ่าของวารุณี

วารุณีรับคำ ไม่แม้แต่จะมองไปยังจุ๊บแจง หันหลัง แล้วมุ่งตรงไปยังสนามแข่งกับลีน่า

ส่วนจุ๊บแจง ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ มือและเท้าเย็นวาบ สองขาแข็งทื่อขยับเคลื่อนไหวไม่ได้

เธอควรทำยังไงดี ?

เข้าไปร่วมการแข่งขัน หรือหันหลังกลับดี

ความคิดบอกเธอว่า เธอควรหันหลังแล้วกลับไป ไม่ควรเข้าร่วมการแข่งขันต่อ หากเป็นแบบนี้ เธออาจไม่ถูกวารุณีแจ้งความจับก็ได้

แต่ถ้าหากเธอจากไป เธอก็ไม่สามารถจะเป็นนักออกแบบอย่างวารุณีได้อีก และไม่สามารถทำให้นัทธีมองเธอในมุมมองใหม่ได้ ความเป็นไปได้ที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับนัทธีนั้น ก็จะยิ่งหมดหนทางมากขึ้นไปอีก

แต่หากเธอไม่ไป วารุณีก็ไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่ และสิ่งที่เธอต้องเผชิญ อาจถึงขั้นต้องติดคุกก็เป็นได้

จะไปหรือไม่ไปมีสองทางเลือกให้เดิน ความอัดแน่นในหัวสมองของจุ๊บแจง ไม่รู้ว่าเธอควรทำยังไงดี

กับเวลาที่เคลื่อนผ่าน อีกสิบนาที การแข่งขันอย่างเป็นทางการก็จะเริ่มต้นขึ้น

จุ๊บแจงขบริมฝีปากแน่น จากนั้นก็หลับตาลง สูดหายใจเข้าลึกๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ นั่นคือเลือกที่จะเข้าร่วมการแข่งขันต่อ

หากกลับไป เธอก็จะเป็นนักออกแบบไม่ได้ และเปลี่ยนความคิดของนัทธีไม่ได้ด้วยเช่นกัน

แต่หากอยู่ต่อ เธอยังพอมีโอกาส

หากเธอลงมือก่อนที่วารุณีจะลงมือกับเธอ ตัวเองชิงลงมือก่อน จัดการกับวารุณีพวกเขา แบบนั้นเธอก็จะปลอดภัย

ดังนั้น เธอต้องอยู่ต่อ และเข้าร่วมการแข่งขันต่อไป !

เมื่อคิดได้ดังนั้น จุ๊บแจงก็กำมือแน่น มองไปยังประตูทางเข้าของสนามแข่ง ก้าวเท้าแล้วเดินมุ่งตรงไป

ในสนามแข่ง วารุณีกับลีน่าได้นั่งประจำที่ของตัวเองแล้ว

ลีน่ามองไปยังผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นก็หันมองไปยังตำแหน่งที่นั่งของจุ๊บแจง เอนไปด้านข้าง แล้วพูดกับวารุณีว่า “วารุณี เธอว่าจุ๊บแจงถูกเราพูดขู่ไปแบบนั้น จะยังเข้าร่วมการแข่งขันอีกไหม?”

เมื่อวารุณีได้ยินคำถามนี้ ก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองไปยังที่นั่งของจุ๊บแจง จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปาก “เธอมาแน่”

“เธอมั่นใจขนาดนี้เชียว?”ลีน่ามองเธอด้วยความประหลาดใจ