บทที่ 795 โทรศัพท์ทั้งสามสาย

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 795 โทรศัพท์ทั้งสามสาย

บทที่ 795 โทรศัพท์ทั้งสามสาย

นั่นหมายความว่าแทนที่เซี่ยหนานจะยืนฝั่งเดียวกับทางมหาวิทยาลัย แต่เธอกลับเลือกยืนอยู่ฝั่งนักเรียนของตัวเองงั้นเรอะ

ไม่สิ ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เรายังไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน ทุกอย่างมันเป็นเพราะไอ้เวรเซียวหย่วนหยางนั่น ไม่รู้ทำไมเขาถึงมีวิสัยทัศน์คับแคบขนาดนี้

เขาทั้งก่นด่าในใจ ทั้งคิดว่าจะเอาอกเอาใจกลุ่มคนหน้าห้องยังไงไปด้วย

“ท่านอธิการครับ นี่คือคำขอของพวกเราครับ เราอยากให้ทางมหาวิทยาลัยมอบความเป็นธรรมให้กับซูเสี่ยวเถียน ไม่อย่างนั้นคณะภาษาจีนจะขอถอนตัวจากการเดินขบวนครับ!”

ฉางจงหยวนเอ่ยเสียงดังฟังชัด และสุดท้ายยังไม่ลืมขู่ออกมาด้วย

เสี่ยวเถียนเหงื่อแตกพลั่ก ขู่กันโต้ง ๆ แบบนี้ ถ้าอธิการเป็นพวกไม่ยอมคน คณะภาษาจีนของเราได้ลำบากแน่ ๆ

“เธอ…”

แน่นอนว่าสีหน้าอีกฝ่ายเปลี่ยนไปน่าเกลียดทันที แต่ก่อนจะพูดจบ โทรศัพท์ในห้องทำงานพลันดังขึ้น เขาจึงทำได้แค่ระงับโทสะแล้วเดินไปรับสายเท่านั้น

บทสนทนาสั้นมากใช้เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ทุกคนเห็นว่าสีหน้าแกเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกอยู่หลายครั้ง ไม่รู้เลยว่าปลายสายพูดอะไร แต่สิ่งที่รู้คือระหว่างโทร แกเอาแต่เหลือบมองเสี่ยวเถียนเป็นครั้งคราว

คนโดนมองก็รับรู้ได้เช่นกัน บางทีสายนั้นอาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเธอก็ได้ แต่เกี่ยวกันแบบไหนไม่อาจรู้ได้

“ท่านอธิการครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้ได้รับการแก้ไขแล้วนะ เราไม่จำเป็นต้องยกถอนประกาศรายชื่อหรอก” เซียวหย่วนหยางเอ่ยลอย ๆ

“ก็เอาตามนั้นไปนั่นล่ะ!” อธิการบอกปัดเสมือนยังไม่มีสติจากสายเมื่อครู่

แววตาเซียวหย่วนหยางเต็มไปด้วยความพึงพอใจเมื่ออีกฝ่ายเห็นด้วย ก่อนเขาจะยิ้มเยาะใส่ฮั่วซือเหนียนและเซี่ยหนาน

สีหน้าฮั่วซือเหนียนมืดลงถนัดตา

สีหน้าเข้มงวดของเซี่ยหนานไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไร แต่ร่างกายกำลังเย็นลง

“ท่านอธิการ…” อาจารย์ฮั่วไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ตอนนี้ทำได้แต่เอ่ยชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบา

เขาเห็นความผิดหวังในสายตาเสี่ยวเถียน แต่ไม่รู้ว่าผิดหวังในตัวอธิการหรือเขาที่เป็นที่ปรึกษา หรือจริง ๆ แล้วผิดหวังกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ต่างหาก เพราะหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศกำลังทำเรื่องไร้สาระ

เป็นเขาก็คงผิดหวังเหมือนกัน

“อาจารย์ฮั่วคะ เราไปกันเถอะค่ะ!” เสี่ยวเถียนเอ่ยเสียงเบา

พูดมากไปก็ไร้ความหมาย เรื่องนี้โดนจัดการไปหมดแล้ว

ส่วนไอ้ตัวการคือใครไม่ต้องถามให้มากความหรอก

เซียวหย่วนหยางมองเสี่ยวเถียนด้วยสายตาภาคภูมิใจ “ซูเสี่ยวเถียน ฉันรู้ว่าเธอเก่งมาก ทางมหาวิทยาลัยชอบนะมีนักศึกษาเก่ง ๆ แบบนี้ ก็อย่างที่บอก เด็กที่สอบเข้าจิ่งเฉิงได้ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน!”

เสี่ยวเถียนเข้าใจแล้ว นี่หมายความว่าทางจิ่งเฉิงไม่ได้ขาดแคลนเด็กเก่ง ๆ สินะ?

สีหน้าเธอน่าเกลียดขึ้นเรื่อย ๆ

“อาจารย์ฮั่ว ถ้าหนูลาออกตอนนี้จะเรียนซ้ำได้ไหมคะ?” เสี่ยวเถียนเหลือบมองเซียวหย่วนหยางแล้วถาม

เซียวหย่วนหยางเองก็ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะกล้าพูดออกมา เขาตกใจอยู่ครู่เดียวจากนั้นก็ยกยิ้ม

ทนรับความพ่ายแพ้ไม่ไหวเหรอ?

ไม่ได้เรื่องเลย นักเรียนแบบนี้ไม่คุ้มค่าจะให้ความสนใจด้วยซ้ำ

“ท่านอธิการดูสิครับ เด็กเกินไปก็ไม่ดี อย่างที่ผมบอก เด็กแบบนี้พวกเราไม่ควรรับเอาไว้…” เซียวหย่วนหยางพูดจาจริงจัง

“หุบปาก!” ในที่สุดอธิการก็ทนไม่ไหว

โทรศัพท์ที่เขาเพิ่งรับสายยังทำเอาตกใจไม่หาย ยอมรับเลยว่าตนไม่รู้จักนักศึกษาของตัวเองดีพอ เขารู้จักซูเสี่ยวเถียนในฐานะนักเรียน รู้ว่าเธอเก่งแค่ไหน รู้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เธอไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่ต้องการให้เขาเข้ามาให้ความช่วยเหลือ

เซียวหย่วนหยางที่ยังกระหยิ่มยิ้มย่องโดนอธิการตวาดใส่ ตำแหน่งเราห่างเพียงก้าวเดียว เขารู้ว่าตนไม่ได้ต่างไปจากอธิการเท่าไร และตอนนี้กลับถูกคนที่ไม่ได้ต่างไปจากตนตวาดใส่!

สีหน้าเซียวหย่วนหยางแย่ลงทันที

“ซูเสี่ยวเถียน เมื่อครู่ฉันได้รับโทรศัพท์…” เขาเดินเข้าไปหาแล้วเอ่ยกับเสี่ยวเถียนอย่างใจเย็น

แต่ยังไม่ทันว่าจบก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง

อธิการกลืนคำพูดลงไปแล้วเดินไปรับสายอีกรอบ

“ทำไมวันนี้สายเข้าเยอะจัง” เขาบ่นพึมพำ

ฮั่วซือเหนียนมองอธิการสลับเสี่ยวเถียนด้วยความสงสัยยิ่ง สายที่โทรมาน่าจะพูดถึงเสี่ยวเถียนและกำลังช่วยเด็กสาวอยู่

อธิการไม่รู้ภูมิหลังเด็กคนนี้ แต่เขารู้!

ชายคนนั้นหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมารับตอบรับครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังเหลือบมองเสี่ยวเถียนโดยไม่รู้ตัวอีก แต่สีหน้าเขาดูจริงจังมากขึ้นนะ

สายนี้นานกว่าสายแรกเล็กน้อย…

ในที่สุดเขาก็วางสาย

จากนั้นสายตาก็เอาแต่จดจ้องเสี่ยวเถียนโดยไม่พูดอะไร ราวกับจะเห็นบางสิ่งจากตัวเธอ

“เสี่ยวเถียน พวกเราไปกันเถอะ ถ้าอยากเรียนซ้ำอีกปี ฉันสนับสนุนนะ!”

เหมือนฮั่วซือเหนียนจะเข้าใจอะไรแล้ว และเขาจะไม่ปล่อยให้เสียโอกาส

“เธออยากสอบเข้าที่ไหน เดี๋ยวฉันทำเรื่องโอนย้ายตอนนี้เลย!”

บทสนทนานี้อธิการได้ยินทั้งหมด

ฮั่วซือเหนียนเป็นคนที่อธิการพยายามพามาจากมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ ตอนได้ยินว่าเขาจะไปพลันหัวก็ปวดหัวจี๊ดขึ้น

ฝั่งเซียวหย่วนหยางรู้สึกว่านี่เป็นโอกาส ถ้าฮั่วซือเหนียนไป น้องสะใภ้ตนจะได้เข้ามาเสียบแทนใช่ไหม?

“ถ้าคุณอยากไปก็ไปซะ มหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศ ถ้าคุณไม่อยากอยู่คนนับหมื่นที่เหลือยินดีจะเข้ามานะ!”

คำพูดของเซียวหย่วนหยางเป็นเหมือนการราดน้ำมันบนกองไฟ

แต่ฮั่วซื่อเหนียนคร้านเกินกว่าจะพูดคุยกับอีกฝ่าย เลยถอนหายใจใส่แทน

สายที่สามดังขึ้นอีกครั้งตอนอธิการจะเอ่ยปาก

ตอนนี้เขายังบ่นไม่ได้จึงพูดปรามฮั่วซือเหนียนไว้ก่อน “อาจาร์ฮั่ว ตอนนี้อย่าเพิ่งสร้างปัญหาเลย รอฉันรับโทรศัพท์ก่อน”

เซี่ยหนานยืนอยู่นอกห้องด้วยท่าทีสบาย ๆ มองอธิการคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก จึงนึกสงสัยว่าเด็กที่ตนพามามีความสามารถขนาดไหนถึงทำให้เจ้าตัวทำหน้าแบบนั้นได้