บทที่ 859 ชายผู้นี้ข้าพบเขามาก่อนเจ้า

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 859 ชายผู้นี้ข้าพบเขามาก่อนเจ้า

ฉู่โหยวเจาคาดหวังอย่างเต็มที่ที่จะทำให้นักฆ่าหวาดกลัว อย่างไรก็ตามนักฆ่ากลับหัวเราะดังลั่น

“ตราบใดที่ผู้จ้างจ่ายเงินเพียงพอ แม้แต่คนของราชวงศ์ เรายังยินดีสังหาร ใครจะสนใจว่าเจ้าเป็นคนของตระกูลฉินหรือตระกูลฉู่?”

ฉู่โหยวเจาตกตะลึง นางไม่คิดว่านักฆ่าจะไม่กลัวแม้กระทั่งตระกูลฉินและฉู่! พลังสนับสนุนของมันแข็งแกร่งเพียงใด?

นักฆ่าหันไปหาซูอันและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเกือบโดนเจ้าหลอก เจ้าเป็นพี่เขยของไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ ดังนั้นแน่นอนว่าเจ้าจะต้องใส่ใจในความปลอดภัยของเขา”

ซูอันพูดไม่ออก ทำไมไอ้เจ้าเด็กนี้ถึงทำตัวปากสว่างอย่างนี้? อย่างไรก็ตาม เขายังคงพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ดูเฉยเมย “ทุกคนรู้ดีว่าการแต่งงานของข้าเป็นโมฆะแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เป็นอะไรสำหรับข้า ไม่ใช่เรื่องน่าขำหรอกหรืออย่างไรที่เจ้าใช้คนแปลกหน้ามาข่มขู่ข้า?”

“หุบปาก!” นักฆ่าพ่นลมหายใจพร้อมกับแนบมีดที่คอของฉู่โหยวเจาแรงขึ้น เลือดสีสดปรากฏขึ้นที่คอของฉู่โหยวเจา “วางอาวุธของเจ้า! ไม่งั้นครั้งหน้าข้าจะไม่เฉือนแค่ผิวหนัง!”

ใบหน้าของฉู่โหยวเจาซีดเผือด นางยังเด็กอยู่เลย ยิ่งกว่านั้นนางมีตระกูลฉินหนุนหลังเสมอ ดังนั้นจึงคุ้นเคยกับการถูกยกย่องและให้เกียรติจากคนรอบข้าง นางไม่เคยประสบกับอันตรายเช่นนี้มาก่อน

ตอนนี้นางเพิ่งรู้ว่าความเย่อหยิ่งของนางช่างน่าหัวเราะเพียงใด

“ก็ได้ ก็ได้! ข้าจะวางกระบี่ลง” ต่อให้เป็นตามปกติ ซูอันก็ไม่ต้องการให้คนแปลกหน้าคนไหนต้องมาเดือดร้อนเพราะเขา นับประสาอะไรกับน้องสาวคนเล็กของฉู่ชูเหยียน

เขาลดกระบี่ลงกับพื้น “จะให้ข้าวางในแนวนอนหรือแนวตั้ง?”

ฉู่โหยวเจาตกตะลึง ชายผู้นี้ลดอาวุธลงจริง ๆ! เขาตั้งใจจะช่วยข้าจริง ๆ เหรอ?

นางไม่ได้โง่และตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าการที่เขาพูดจาไร้เยื่อใยก่อนหน้านี้เพื่อทำให้นักฆ่าสับสน ด้วยวิธีนี้นักฆ่าจะไม่สามารถใช้นางเป็นเครื่องต่อรองได้

อย่างไรก็ตาม นางกลับทำให้แผนการพังพินาศด้วยการแนะนำตัวตนของตัวเองทำให้นักฆ่ารู้ความจริงในที่สุด

“อย่ามาเล่นลิ้นกับข้า ไม่งั้นไอ้เด็กเวรนี่ตาย!” นักฆ่าสั่งและแอบอยู่ด้านหลังฉู่โหยวเจาเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

“แน่นอน แน่นอน ข้าจะวางมันลงแล้วนะ” ซูอันขมวดคิ้ว นักฆ่าระมัดระวังตัวอย่างมากและไม่เปิดโอกาสให้เขาเลย

“ทำให้ตัวเองพิการ! ทำเร็วเข้า!” นักฆ่าสั่ง

ฉู่โหยวเจาตื่นตระหนก “อย่านะ! เราทั้งคู่จะต้องตายแน่ ๆ!”

“หุบปาก!” มีดสั้นของนักฆ่ากดแน่นเข้ากับลำคอนางยิ่งขึ้น

ซูอันหัวเราะและกล่าวว่า “คิดว่าข้าโง่เหมือนเจ้าเหรอ? ใครจะยอมทำแบบที่เจ้าว่า?”

ฉู่โหยวเจาพูดไม่ออก

ใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความเขินอายที่ความกังวลของนางนั้นไร้ความหมาย

นักฆ่าเปลี่ยนเงื่อนไข “‘งั้นหักแขนขวาของตัวเองซะ แบบนี้เจ้าจะยังมีพละกำลังปกป้องตัวเองได้บ้าง และหลังจากนี้เจ้ายังสามารถฟื้นตัวได้เหมือนเดิมและข้ายังมีหลักประกันความปลอดภัยของตัวเอง!”

หลังจากการปะทะเมื่อครู่นี้ นักฆ่ารู้ดีว่าตนเองไม่สามารถต่อกรกับซูอันได้แน่นอน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการหลบหนีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เขาจะได้รับรางวัลเช่นกันเมื่อเขากลับไปพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซูอัน

ซูอันขมวดคิ้วอย่างรู้ทันความคิดของนักฆ่า เขาจะปล่อยให้ชายคนนี้หนีไปพร้อมกับข้อมูลได้อย่างไร?

เสียงของนักฆ่านั้นเบาลง “ถ้าเจ้าปฏิเสธ ข้ายอมตายไปพร้อมกับทายาทตระกูลฉู่ มาดูกันว่าเจ้าจะเข้าหน้ากับตระกูลฉู่และตระกูลฉินอย่างไร!”

จู่ ๆ ก็มีคนอื่นเข้ามาในห้อง “กุ้ยเถียน ทำไมยังไม่เสร็จอีก?”

ผู้มาใหม่สวมชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้น นางดูเหมือนนักฆ่าธรรมดาคนหนึ่งโนเวลพีดีเอฟ

แม้จะสวมเสื้อผ้า แต่รูปร่างของนางก็งดงาม นี่คือผู้หญิงอย่างแน่นอน

คนที่ชื่อกุ้ยเถียนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นผู้มาใหม่ “ระวังด้วย คนผู้นี้ไม่ได้อยู่ที่ระดับที่ห้าอย่างแน่นอน เขาอาจจะเกินระดับแปดด้วยซ้ำ! เขาฆ่าคนอื่นไปหมดแล้ว!”

ผู้หญิงคนนี้ได้เข้าร่วมกับพวกเขาเมื่อเร็ว ๆ นี้ นางค่อนข้างมีฝีมือ และที่สำคัญที่สุดนางมีเสน่ห์อย่างมาก เขาต้องการเข้าใกล้นางหลายครั้งแต่หาโอกาสที่เหมาะสมไม่ได้ ตอนนี้เขาได้รับโอกาสให้ต่อสู้เคียงข้างนาง ด้วยความโชคดี พวกเขาอาจพัฒนาความสนิทสนมกันได้มากยิ่งขึ้น

เขามองร่างของนางอย่างตะกละตะกลาม แม้แต่คณิกาอันดับหนึ่งแห่งหอสุขนิรันดร์ก็ไม่สามารถเทียบกับนางได้ เมื่อครู่นี้เขาสาปแช่งความโชคร้ายของตัวเองที่มาเจอกับซูอัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น

“หืม?” ซูอันประหลาดใจเมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้

ทำไมดวงตาของนางจึงดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก?

“อายุเท่านี้น่ะเหรอระดับแปด?” หญิงผู้มาใหม่เย้ยหยัน

ฉู่โหยวเจาพยักหน้าเห็นด้วยอย่างชัดเจน ระดับแปดนี่คือเท่ากับพ่อของนางเลยนะ!?

เขาจะมีการบ่มเพาะที่เลิศล้ำขนาดนั้นได้อย่างไร?

เสียงของผู้หญิงคนนั้นดึงดูดความสนใจของซูอันอย่างแปลกประหลาด

“ข้าไม่ได้โกหก! เจ้าไม่เห็นศพของเพื่อนข้าที่นอนเรียงรายในห้องหรืออย่างไร!” กุ้ยเถียนประท้วง

ฉู่โหยวเจารู้สึกสับสนเล็กน้อยกับคำกล่าวของนักฆ่า ภาพของซูอันที่จัดการพวกนักฆ่าคนอื่นอย่างง่ายดายปรากฏในหัวของนาง แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่พี่เขยของนางช่างแข็งแกร่งจริง…

บัดซบ! เขามันไอ้คนปากร้ายและไร้ยางอายที่สุดต่างหาก!

นักฆ่าหญิงกวาดสายตามองดูศพที่เกลื่อนพื้นด้วยแววตางุนงง จากนั้นนางรีบพูดขึ้นว่า “เราสองคนไม่มีทางเอาชนะเขาได้แน่ ๆ เรารีบหนีไปรวมกับคนอื่นก่อน!”

“นั่นเป็นความตั้งใจของข้าเหมือนกัน” กุ้ยเถียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากดดันเป็นอย่างมากเมื่อเหลือตัวคนเดียว แต่ตอนนี้เมื่อมีอีกคนหนึ่งมาเสริม เขาจึงคิดว่าโอกาสในการหลบหนีได้สำเร็จนั้นยิ่งมีมากขึ้น

ซูอันหัวเราะ “พวกเจ้าสองคนคุยกันเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นี่ ข้านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับพวกเจ้าสินะ?”

กุ้ยเถียนพ่นลมหายใจ “ถ้าทำอะไรแปลก ๆ เจ้าตายแน่!”

เขาถอยไปทางประตูโดยมีฉู่โหยวเจาเป็นตัวประกัน ก่อนหน้านี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ฉู่โหยวเจาเป็นเครื่องต่อรอง แต่เขารู้ดีว่าการหวังให้ซูอันหักแขนของตัวเองก็เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เขามีกำลังเสริมอีกคนคอยคุ้มกันแล้วเขาจึงต้องการจากไปโดยเร็วที่สุด

ซูอันชะงักทันที

“เจ้ารู้ดีที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ กลับไปรายงานเจ้านายให้หมด ข้าจะคอยระวังหลังให้เอง รีบไป!” นักฆ่าหญิงเดินมาข้างหน้าในมือถือกระบี่ไว้เตรียมพร้อมสำหรับรับการโจมตีอย่างกะทันหันจากซูอัน

กุ้ยเถียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ขอบคุณ! บุญคุณนี้ข้าจะตอบแทนอย่างแน่นอน”

แม้จะพูดเช่นนี้ เขาก็ไม่กล้าลดความระมัดระวังลง ความสนใจทั้งหมดของเขามุ่งไปที่ซูอันอย่างกังวลว่าอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหว

แต่แล้วทันใดนั้น ร่างกายของเขาแข็งค้างก่อนจะหันมองไปทางเพื่อนนักฆ่าหญิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นังสารเลว…ทำไม?!”

มีเถาวัลย์หลายเส้นที่แหลมคมเจาะทะลุแผ่นหลังของเขา ไม่มีทางที่เขาจะรอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้

ในฐานะที่เป็นนักฆ่าเขาไม่เคยไว้ใจสหายของตัวเองอย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจกับกระบี่ในมือของนางตลอดเวลาเช่นกัน ทว่าเขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีอื่นอย่างเถาวัลย์!

นักฆ่าหญิงหัวเราะคิกคัก “เสียใจด้วย ข้าพบผู้ชายคนนี้มาก่อนที่ข้าจะพบเจ้า”

สีหน้าของกุ้ยเถียนเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาพยายามออกแรงมือที่ถือมีดมากขึ้น ตั้งใจจะลากฉู่โหยวเจาลงนรกไปด้วยกัน

แต่เขาก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยเมื่อร่างกายถูกเถาวัลย์บาง ๆ นับไม่ถ้วนพันธนาการเอาไว้

นักฆ่าหญิงเดินไปหาเขาแลัวหักคอในทันที

“อ๊า!” ฉู่โหยวเจากรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก นางวิ่งไปหาซูอันโดยไม่รู้ตัว

แม้ว่าซูอันจะปากไม่ดี แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวซึ่งเป็นที่พึ่งในยามนี้ให้แก่นางได้

ทันทีที่นางก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว นางก็รู้สึกปวดหลังศีรษะอย่างรุนแรงและหมดสติไป