ตอนที่ 794 เสื่อมถอย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 794 เสื่อมถอย

จางตวนหนิงเล่าถึงความจงรักภักดีขององค์หญิงเจิ้นกั๋วที่มีต่อรัชทายาทที่แม้แต่เขาเห็นยังรู้สึกซาบซึ้งให้รัชทายาทฟัง

เฉวียนอวี๋ที่ยืนอยู่ด้านหลังรัชทายาทกำเสื้อผ้าของตัวแน่น ดวงตาแดงก่ำ

“องค์ชาย องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงทำเพื่อองค์ชายทุกอย่างจนไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลยพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเหลือบเห็นสีหน้ารู้สึกผิดของรัชทายาท เฉวียนอวี๋รีบกล่าวเสริม

“เฉวียนอวี๋ติดตามรับใช้องค์ชายมานานหลายปี ความจงรักภักดีและความใส่ใจของเฉวียนอวี๋เทียบกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้เลย เฉวียนอวี๋ละอายใจยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ วันหน้าเฉวียนอวี๋จะใส่ใจองค์ชายให้มากขึ้นเหมือนดั่งที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วทำพ่ะย่ะค่ะ!”

รัชทายาทเงยหน้ามองจางตวนหนิง นอกจากความกังวลแล้ว เขากลับรู้สึกโล่งใจยิ่งกว่า…

ดูสิ…ขนาดนักรบที่เก่งกาจอย่างไป๋ชิงเหยียนยังเคารพและจงรักภักดีต่อรัชทายาทอย่างเขาถึงเพียงนี้ เขาช่างมีความสามารถมากจริงๆ

รัชทายาทยกยิ้มมุมปากอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ จากนั้นแกะจดหมายออกอ่าน…

เมื่ออ่านจดหมายของไป๋ชิงเหยียนจบ รัชทายาทยิ่งอารมณ์ดี เขานึกไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะจงรักภักดีต่อเขามากถึงเพียงนี้ นางคิดและทำเพื่อเขาทุกเรื่อง ทำทุกอย่างเพื่ออนาคตของแคว้นต้าจิ้นจริงๆ

รัชทายาทกำจดหมายในมือแน่นพลางกล่าวกับเฉวียนอวี๋ “เฉวียนอวี๋ เจ้าไปเชิญอัครมหาเสนาบดีหลู่ อัครมหาเสนาบดีหลี่ เสนาบดีกรมการคลัง เสนาบดีกรมทหารมาให้หมด บอกพวกเขาว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วส่งจดหมายสำคัญกลับมา เรามีเรื่องจะปรึกษากับพวกเขา”

รัชทายาทกำจดหมายในมือแน่นราวกับเด็กที่ไม่ได้รับความสนใจเป็นเวลาหลายปี จู่ๆ ก็เป็นที่สนใจขึ้นมา มีนักรบที่มีบารมีมากในกองทัพเคารพเลื่อมใส เขาอยากบอกข่าวนี้ให้ทุกคนรับรู้โดยทั่วกันโดยเร็วที่สุด

ช่วงนี้คำว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีอิทธิพลไปทั่วทุกที่ในแคว้นต้าจิ้น

นักระบำน่าคังที่ขึ้นชื่อของซีเหลียงกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเพราะนางแต่งทำนองเพลง ‘กองทัพไป๋ออกศึก’ ขึ้นมา ทำนองนี้มีชื่อเสียงไปทั่วทุกที่ในแคว้นต้าจิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวง เหล่านางรำต่างใช้ทำนองนี้มาใช้บรรเลงร่ายรำ

คนมีความสามารถที่เคยเชยชมการเต้นรำของน่าคังใส่เนื้อร้องลงไปในทำนองนี้ขึ้นมาจนเป็นที่นิยมอยู่พักใหญ่

ง้างศรเล็กน้อยทำลายภูผา ง้างศรเต็มเหนี่ยวทำลายวารี

ท่ามกลางสายฟ้าและพายุที่โหมกระหน่ำ เสียงอาวุธโลหะกระทบกันดังกังวานกึกก้อง

เลือดร้อนของบทเพลงช่วงสุดท้ายพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า ท่านแม่ทัพทลายด่านชิงซีซาน

รัชทายาทได้ฟังบทเพลงนี้แล้วเช่นเดียวกัน เป็นบทเพลงที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยไอสังหาร คนฟังได้ยินจะรู้สึกเลือดร้อนราวกับภาพเหตุการณ์ในสงครามอยู่เบื้องหน้าตน แทบอยากคว้าดาบไปร่วมต่อสู้สังหารศัตรูเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่านักรบของแคว้น บทเพลงนี้เป็นบทเพลงที่ปลุกใจคนให้รู้สึกฮึกเหิม เขียนเนื้อร้องได้ดีมาก

ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงขององค์หญิงเจิ้นกั๋วจึงโด่งดังขึ้นมาอีกครั้งในแคว้นต้าจิ้น ชาวบ้านต่างกล่าวถึงความสง่างามและองอาจขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว แม่ทัพแห่งกองทัพไป๋ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในสงครามใดมาก่อน

ไม่นานหลู่เซียง หลี่เม่า เสิ่นจิ้งจงและฉู่จงซิ่งต่างก็เดินทางมาถึงจวนรัชทายาท

รัชทายาทส่งจดหมายในมือของตัวเองให้บรรดาหลู่เซียงอ่าน จากนั้นยกชาขึ้นจิบพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงสุขุมหนักแน่น “เราคิดว่าหากใช้ยารักษาโรคระบาดแลกกับเมืองของต้าเหลียงได้จริงดังที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วกล่าว ต้าจิ้นของเราจะสูญเสียน้อยที่สุดแล้ว กว่าเราจะรอให้คนๆ หนึ่งเกิดออกมาจนกลายเป็นทหารได้ เราต้องรอถึงสิบสี่ปี ทว่า สมุนไพรรักษาโรคไม่ต้องรอนานเช่นนั้น”

เมื่อหลู่เซียงอ่านเนื้อหาในจดหมายของไป๋ชิงเหยียนจบ เขาปวดขมับในทันที เขามองออกว่าไป๋ชิงเหยียนกำลังก้าวก่ายวิธีการของรัชทายาท บัดนี้นางควบคุมรัชทายาทให้อยู่ในกำมือของนางได้แล้ว ทว่า ดูเหมือนว่ารัชทายาทจะไม่รู้ตัวสักนิด

ทว่า หลู่เซียงอดยอมรับไม่ได้ว่าสายตาของไป๋ชิงเหยียนกว้างไกล บัดนี้ต้าเยี่ยนกำลังทำลายแคว้นเว่ยเพื่อปูทางสำหรับการครอบครองใต้หล้าแล้ว!

หากครั้งนี้แคว้นต้าจิ้นยึดครองต้าเหลียงไม่ได้ เช่นนั้นเมื่อต้าเยี่ยนทำลายแคว้นเว่ยได้แล้ว ต้าจิ้นไม่เพียงแต่จะสูญเสียการเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าเท่านั้น ทว่า ต้าจิ้นจะไม่มีโอกาสยึดครองต้าเหลียงได้อีกต่อไป

วันเวลาไม่เคยรอผู้ใด หากพลาดโอกาสในครั้งนี้ ต้าจิ้นคงสูญเสียอย่างหนัก

เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน รัชทายาทเชื่อใจไป๋ชิงเหยียนมากเช่นนี้ หลู่เซียงก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าไป๋ชิงเหยียนจะพบจุดจบเดียวกันกับเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิงอีกต่อไป วันหน้าหากรัชทายาทขึ้นครองราชย์…เมื่อรัชทยาทและไป๋ชิงเหยียนมีความเชื่อใจซึ่งกันและกัน มีแต่จะส่งผลดีต่อแคว้นต้าจิ้น

“กระหม่อมคิดว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทและองค์หญิงเจิ้นกั๋วตรัสเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดพ่ะย่ะค่ะ หากสามารถใช้ยารักษาโรคระบาดแลกกับการที่ทหารไม่ต้องบาดเจ็บจากการบุกโจมตีเมืองต้าเหลียงได้จะส่งผลดีต่อแคว้นต้าจิ้นมากพ่ะย่ะค่ะ” หลู่เซียงลุกขึ้นยืนโค้งกายคำนับรัชทายาท

เมื่อเห็นหลู่เซียงเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว หลี่เม่า เสนาบดีกรมทหารเสิ่นจิ้งจงและเสนาบดีกรมการคลังฉู่จงซิ่งต่างพาพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย

“เช่นนั้น ใต้เท้าฉู่เสนาบดีกรมการคลังก็รับหน้าที่จัดหาสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมในการรักษาโรคระบาดก็แล้วกัน ใต้เท้าฉู่จงพยายามหาสมุนไพรไปยังเป่ยเจียงให้ได้มากที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้ด้วย” รัชทายาทกล่าวอย่างจริงจัง

“แม้ว่าต้าจิ้นจะเพิ่งเผชิญกับเหตุการณ์โรคระบาด โรคระบาดยังไม่หายไปจากต้าจิ้น ราคายาสูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทว่า ในเมื่อองค์รัชทายาททรงมีรับสั่งเช่นนี้ อีกทั้งเรื่องนี้ส่งผลดีต่อต้าจิ้น กระหม่อมก็จะพยายามหาสมุนไพรที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงต้องการส่งไปให้นางที่เป่ยเจียงอย่างสุดความสามารถของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาททรงวางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ” ฉู่จงชิ่งลุกขึ้นยืนแสดงความจงรักภักดี

“ดีมาก เช่นนั้นก็จัดการตามนี้ได้เลย” รัชทายาทครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นตัดสินใจเล่าเรื่องที่ต้องการหาเด็กชายและเด็กหญิงอย่างละห้าร้อยคนขึ้นไปบนหอบูชาเก้าชั้นในวันที่หอสร้างเสร็จสมบูรณ์ให้บรรดาหลู่เซียงฟัง

“เราจะมอบหมายให้หลี่หมิงรุ่ยบุตรชายของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่าเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ครั้งที่แล้วอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายเสนอให้บุตรชายของตัวเองไปออกรบ เราไม่ได้อนุญาต ครั้งนี้เราจะขอดูความสามารถของบุตรชายท่านเสียหน่อย จงรวบรวมเด็กทั้งหมดให้ครบก่อนที่หอบูชาเก้าชั้นจะสร้างเสร็จสมบูรณ์!”

เมื่อหลู่เซียงและเสนาบดีกรมทหารเสิ่นจิ้งจงเดินออกมาจากจวนของรัชทายาท พวกเขาโค้งกายอำลาหลี่เม่าและเสนาบดีกรมการคลังฉู่จงซิ่ง หลู่เซียงเงยหน้ามองแสงอรุณที่ส่องสว่างบนท้องฟ้าเหนือเมืองหลวง เขารู้สึกว่าอำนาจของจักรพรรดิแห่งแคว้นต้าจิ้นกำลังค่อยๆ เสื่อมสลายแล้ว

“หลู่เซียง ฝ่าบาททรงต้องการให้เด็กชายและเด็กหญิงอย่างละห้าร้อยคนเหล่านั้นขึ้นไปบนหอบูชาเก้าชั้นด้วยเฉยๆ หรือว่า…” เมื่อเสิ่นจิ้งจงเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณนั้น เขาจึงยกมือขึ้นทำท่าปาดคอ จากนั้นกล่าวกับหลู่เซียงเสียงเบาหวิว

“บัดนี้ตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงต่างพากันปรุงยาวิเศษ พวกเขาซื้อตัวเด็กมากมายไปจากพ่อค้าทาส เลียนแบบวิธีการปรุงยาของเหลียงอ๋อง เด็กเหล่านั้นเสียชีวิตไปมากมาย ทว่า พวกเขาเป็นเพียงทาสที่มีสัญญาซื้อขายตัว เรื่องนี้จึงไม่ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ คนมากมายจึงเริ่มหันมาเลียนแบบกันมากขึ้น…”

จักรพรรดิแห่งแคว้นคือแบบอย่างของแคว้น หากจักรพรรดิมีคุณธรรมแคว้นก็จะมีแต่คุณงามความดี เมื่อจักรพรรดิเริ่มใช้วิธีนี้แสวงหาความยืนยาวของชีวิต ผู้อื่นย่อมเลียนแบบการกระทำของพระองค์

หลู่เซียงส่ายหน้า เขาได้แต่ฝากความหวังไว้ที่รัชทายาท หวังว่าเมื่อรัชทายาทขึ้นครองราชย์ พระองค์จะไม่กลายเป็นคนเช่นเดียวกับจักรพรรดิองค์นี้

“องค์รัชทายาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้หลี่หมิงรุ่ยบุตรชายของหลี่เม่าจัดการ ด้วยนิสัยขี้ประจบของตระกูลหลี่ หลี่หมิงรุ่ยต้องจัดการเรื่องนี้ได้อย่างสวยงามเพื่อเอาใจฝ่าบาทและองค์รัชทายาทแน่!”

หลู่เซียงกำหมัดแน่น ในใจเต็มไปด้วยความกังวล