หลังจากแยกกัน เหล่าผู้เข้าแข่งขันก็ออกไปจากตรงนั้นเป็นกระจุก
ตอนที่ไป ก็ยังมีคนถกเถียงเรื่องระหว่างจุ๊บแจงกับวารุณี
วารุณีได้ยิน ก็ไม่สนใจ เก็บกระเป๋าของตัวเองอย่างไม่แยแส
ลีน่ายืนขึ้นมาถาม:“วารุณี ต่อไปจะเอาไงดี?”
“ไปให้การที่โรงพัก จากนั้นจุ๊บแจงก็จะถูกส่งกลับประเทศ และรับโทษในประเทศ”วารุณีพูด
ยังไงในฐานะคนแจ้งตำรวจ และยังเป็นคู่กรณีที่ถูกจุ๊บแจงใส่ร้าย เธอต้องไปที่โรงพักอยู่แล้ว
ลีน่าพยักหน้า“ฉันไปกับเธอละกัน”
“ได้สิ”วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ไม่ปฏิเสธ
จากนั้น ทั้งสองก็ออกไปจากสถานที่แข่งขัน ขับรถไปที่โรงพัก
รถนั้นลีน่าขับ วารุณีนั่งข้างคนขับ กำลังโทรหานัทธี พูดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้กับนัทธี
นัทธีฟังจบ ก็ขมวดคิ้วเป็นเส้น“ผู้หญิงคนนั้นลงมือกับคุณเหรอ?”
“ใช่ ฉันก็คิดไม่ถึงเลย”วารุณีถอนหายใจ
ที่จริงพูดถึงแล้ว ในใจเธอก็ยังเสียใจเล็กน้อย
ถ้าตอนนั้นไม่มีพวกบิ๊กอยู่ ไม่แน่เธออาจจะถูกเขวี้ยงโดนไปแล้ว
ยังไงตอนที่จุ๊บแจงเขวี้ยงมา เธอก็อยู่ในสภาวะตกตะลึง หลบไม่ทันเลย
ดังนั้นถ้าไม่มีบิ๊ก ตอนนี้ เธออาจเข้าโรงพยาบาลแล้ว
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”นัทธียืนขึ้นมา ถามด้วยเสียงร้อนรน
ในห้องประชุม คนอื่นๆเห็นเขาตอบสนองอย่างรุนแรงแบบนี้ ก็ตกตะลึง
“ประธานเป็นอะไรไป?”มีคนถามเสียงเบา
“ไม่รู้สิ”มีคนส่ายหน้า
นัทธีกำฝ่ามือไว้ สีหน้าหม่นจนแย่ไป เยือกเย็นไปทั้งตัว เหมือนว่าจะทำให้ทุกอย่างแข็งไปหมด
จุ๊บแจง กล้าลงมือกับวารุณี
ในเมื่อกล้าทำแบบนี้ งั้นก็ต้องทำใจที่จะโดนเขาแก้แค้นให้ดี!
“ฉันไม่เป็นไร”วารุณีฟังความเป็นห่วงและประหม่าของชายหนุ่มออก ในใจก็รู้สึกอบอุ่น ส่ายหน้าตอบไปว่า:“วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร พวกบิ๊กช่วยฉันไว้ทัน”
“งั้นก็ดี”ได้ยินว่าเธอไม่เป็นไร นัทธีจึงโล่งใจอย่างมาก
“ตอนนี้คุณอยู่บนรถเหรอ?”เขาได้ยินเสียงรถจากฝั่งเธอ
วารุณีตอบอือ“ใช่ ฉันกับนาน่าจะไปให้การที่โรงพัก ครั้งนี้ ฉันจะให้จุ๊บแจงออกมาไม่ได้เลย ถ้าติดคุกไม่มากพอ”
“ดีมาก งั้นคุณไปเถอะ เดี๋ยวผมจะไปติดต่อทางโรงพัก”นัทธีพยักหน้าพูด
เขาไม่ให้จุ๊บแจงเข้าคุกไปอย่างสบายๆแน่
เขาจะให้การเข้าคุกนี้ของจุ๊บแจง ลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต
กล้าลงมือกับคนรักของเขา งั้นก็เตรียมตัวจ่ายคืนมาให้สาสม
คนรักของเขา เขายังทำใจที่จะลงมือไม่ได้เลย คนอื่นๆ มีสิทธิ์อะไร!
“คืนนี้ ผมจะพาลูกทั้งสองคนไปดูคุณ”นัทธีพูด
ดวงตาวารุณีเป็นประกาย“โอเค ถึงตอนนั้นฉันจะไปรอพวกคุณที่สนามบิน”
ได้ยินว่าเขากับลูกทั้งสองคนจะมา เธอก็ดีใจมาก
ถึงแม้พวกเขาเพิ่งแยกกันไม่กี่วัน แต่เธอก็คิดถึงพวกเขามากแล้ว
และยังมีสุขใจ
สุขใจยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ มาที่นี่ไม่ได้
แต่ไม่เป็นไร ต่อไป พวกเขาห้าคนพ่อแม่ลูก ก็จะไม่แยกจากกันแล้ว
แล้วก็พูดกับนัทธีอีกไม่กี่คำ วารุณีจึงวางสาย
ลีน่าหัวเราะอย่างเยาะเย้ย“โหย ดูท่าแล้วทำใจไม่ได้นะ”
วารุณีกลอกตาใส่เธอ“แน่นอนว่าทำใจไม่ได้ ยังไงนั่นก็สามีฉัน ถ้าเธอมีสามี ก็เหมือนกับฉันแหละ”
“ฮ่าฮ่า แต่ฉันไม่มีสามีนี่”ลีน่าหัวเราะ จากนั้นถามอีกว่า“ใช่สิ ฉันได้ยินเธอบอกจะไปสนามบิน ทำไม ประธานนัทธีจะมา?”
“อือ มาคืนนี้”วารุณีพยักหน้า
ลีน่าส่งเสียงเชอะออกไป“ไม่น่าล่ะเธอถึงได้ยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้ ดูเหมือนว่าคืนนี้ฉันต้องดูคนอื่นโชว์สวีทซะแล้ว”
“ไป”วารุณีจ้องเธออย่างเซ็งๆ
แป๊บเดียว ก็ถึงโรงพัก
ลีน่าจอดรถ แล้วเข้าไปกับวารุณี
ตอนนี้จุ๊บแจงกำลังอยู่ในห้องสอบสวน
ตอนที่วารุณีถึงด้านนอกประตู ก็ได้ยินจุ๊บแจงส่งเสียงคำรามด่ากราดไปทั่ว พูดว่าเธอไม่ผิดอะไรแบบนั้น
ลีน่าเบะปาก“ผู้หญิงคนนี้ ช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมรับผิด”
วารุณีเยาะเย้ยไปว่า“ถ้าเธอยอมรับผิดได้ เธอก็คงไม่ตกมาอยู่จุดนี้ในวันนี้ได้ ไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องมองต่อไป ไปให้การของพวกเราก็พอ”
จุ๊บแจงโจมตีเธอ ใส่ร้ายเธอที่สถานที่แข่ง เป็นความจริงหมด และยังมีกล้องวงจรปิด และคนเป็นมากกว่าร้อยก็ยังเป็นพยานได้
ดังนั้นความผิดของจุ๊บแจงก็ไม่หายไปไหน แม้ว่าตัวจุ๊บแจงเองจะไม่รับก็ไม่เป็นไร สุดท้ายแล้วที่รอจุ๊บแจงอยู่ ก็คือเข้าคุก
ดังนั้นเธอก็ไม่ต้องเข้าไปเผชิญหน้าอะไรกับจุ๊บแจง แค่บันทึกคำให้การของตัวเองแล้วจึงออกไป
ทุกอย่างเกี่ยวกับจุ๊บแจงต่อจากนี้ไป เธอก็ไม่ต้องถามแล้ว ยังไงซะสุดท้ายแล้วคำตัดสินของจุ๊บแจงออกมา ตำรวจก็จะแจ้งเธอเอง
“พูดก็ถูก”ลีน่าพยักหน้า จากนั้นมองจุ๊บแจงอีก ตามวารุณีไป
จนให้การเสร็จแล้วออกมา ก็สองโมงแล้ว
ลีน่าลูบท้อง“หิวนิดหน่อย วารุณี พวกเราไปกินข้าวเถอะ”
วารุณีดูเวลา“ก็ดี ไปเถอะ”
ทั้งสองขึ้นรถ แล้วขับรถหาร้านอาหาร
อย่างไรก็ตามช่วงที่กินข้าว วารุณีรับสายของตำรวจ บอกว่าสุดท้ายแล้วจุ๊บแจงก็ทนไม่ไหวกับการถูกสอบปากคำของทางตำรวจ จึงสารภาพทุกอย่าง
ที่ทำให้วารุณีตกใจมากคือ เบื้องหลังของเรื่องนี้ที่จุ๊บแจงใส่ร้ายว่าเธอลอกเลียนแบบนั้น จริงๆแล้วมีคนยุยงอีกคน
และคนนั้น ก็คือสุชาดา!
วารุณีขมวดคิ้วทันที และสีหน้าก็ดูแย่มาก
เดิมทีเธอคิดว่า เรื่องนี้ เป็นจุ๊บแจงที่ทำเองคนเดียว เพราะยังไงจุ๊บแจงก็หาหน้าเพจของ MN เจอ ใช้งานออกแบบตรงนั้นมาเป็นทางเข้าแข่งขัน งั้นก็ต้องเห็นงานออกแบบอื่นๆที่เหมือนกับการออกแบบของเธอ
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติมาก ที่จะใช้มันเพื่อใส่ร้ายเธอ
แต่จากการสารภาพของจุ๊บแจงก็คิดไม่ถึงว่า จุ๊บแจงจะไม่รู้เลยว่าการออกแบบของเธอนั้นมีอะไรบ้าง ดังนั้นพอเห็นการออกแบบของ MN แล้ว ก็ไม่รู้ว่าคล้ายกับการออกแบบของเธออย่างมาก เลยคิดไม่คิดว่าจะใช้สิ่งนี้มาใส่ร้ายว่าเธอลอกเลียนแบบ
ทั้งหมด ล้วนเป็นสุชาดาที่ยุยง
ส่วนจุ๊บแจง ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสุชาดา
เรียกได้ว่า เรื่องการใส่ร้ายนี้ เป็นคนสองคนร่วมกัน แต่ไม่ใช่จุ๊บแจงคนเดียว
ดังนั้น จะจับ ก็ควรจับสุชาดาไปด้วย
เห็นวารุณีขมวดคิ้ว ลีน่าจึงถามอย่างสงสัย:“ทำไมเหรอวารุณี?ทางตำรวจพูดว่าไง?”
วารุณีก็ไม่ปิดบังเธอ พูดออกมา
ลีน่าฟังจบ ก็ตะลึงไปหมด“ห่าเอ๊ย ยังมีหนูตัวเล็กๆอีกตัว!”
“ใช้”วารุณีลูบขมับ และก็รู้สึกเหนื่อยล้า
เธอยังคิดว่า หลังจากการแข่งขันระดับนานาชาติ สุชาดาก็จะไม่กล้าลงมือทำอะไรเธออีกแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่า เธอจะคิดผิดไป
สุชาดาหลบอยู่ในมุมมืดตลอด คอยหาโอกาสทำอะไรเล็กๆน้อยๆใส่เธอ
และครั้งนี้ สุชาดาก็ฉลาดมาก ร่วมมือกับจุ๊บแจง ให้จุ๊บแจงลงมือเองคนเดียว ส่วนเธอหลบไม่กล้าออกมา
แบบนี้ ถึงแม้จะจับ ก็จับได้แค่จุ๊บแจง
ถึงจุ๊บแจงจะโดนเธอยุยง แต่จะจับเธอ ก็ไม่ใช่ว่าจะจับได้ ยังไงทุกคนก็รู้ว่าเธอหนีไปไหนแล้ว
ไม่แน่ตอนนั้นสุชาดาอาจจะแอบซุ่มอยู่ใกล้สถานที่แข่งขัน ตอนเห็นจุ๊บแจงถูกจับออกไป ก็อาจหนีไป แล้วไปต่างประเทศแล้วก็ได้
“ครั้งที่แล้วตอนฉันเห็นสุชาดาที่ร้านอาหาร ก็คุยกับเธอเรื่องนี้ ให้เธอระวังตัวหน่อย คิดไม่ถึงว่าระมัดระวังทุกประการแล้ว ก็ยังทำให้สุชาดายัยหนูนั่นมีโอกาสลงมือ”ลีน่าถอนหายใจ พูดอย่างโกรธเคือง
วารุณียกแก้วน้ำมาดื่ม“ทำอะไรไม่ได้ ป้องกันมากแค่ไหน ก็ต้องมีจุดที่นึกไม่ถึง อย่างพวกเราไง ไม่มีใครรู้ว่า เธอจะติดต่อกับจุ๊บแจง