ลีน่าได้ยินคำถามเธอ ไม่รู้ว่าทำไม ในใจถึงรู้สึกแย่
ความรู้สึกแย่นี้ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลง ไอเบาๆตอบไปว่า:“คุยเสร็จแล้วไง”
“เหรอ?”วารุณีกอดอก ด้วยใบหน้าไม่เชื่อ“ตอนที่ฉันลงมา เธอกับอีกฝ่ายกำลังคุยกันอย่างจริงจัง หัวเราะอย่างมีความสุข ทำไมแป๊บเดียวก็วางสายแล้วล่ะ?และฉันก็ไม่ได้ยินเธอพูดลากับอีกฝ่ายเลย กลับเหมือนว่าเห็นฉันแล้ว ก็อึดอัดที่จะคุยต่อไป กลัวฉันได้ยินอะไรสินะ?”
“ที่ไหนล่ะ!”ลีน่าเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง กระโดดขึ้นทันที“ฉันจะมีอะไรที่กลัวเธอได้ยินได้ล่ะ”
“อ้อ?ไม่ใช่เหรอ?”วารุณียกมุมปากขึ้นมาเป็นมุม“ในเมื่อแบบนี้ งั้นทำไมเธอวางสายไปเลย ไม่ลากับอีกฝ่าย?”
เมื่อกี๊เธอวางสายอย่างรีบร้อน ชัดเจนว่าเป็นอาการร้อนตัว
“ใครว่าวางสายก็ต้องบอกลาให้ได้ล่ะ ยัง……ยังไงซะฉันไม่บอกลา ก็ไม่เป็นไรนี่”ลีน่าพูดด้วยแววตาเป็นประกาย
วารุณีถือน้ำขึ้นมา จิบอย่างสบายๆ“เหรอ?โอเค เธอจะลาไม่ลาฉันไม่ถามละ แต่ฉันรู้ได้ว่า ที่เธอคุยโทรศัพท์เมื่อกี๊ ผู้ชายใช่ไหม?”
ลีน่าพยักหน้า“ใช่”
ในดวงตาวารุณีเป็นประกาย“ดูเหมือนจะจริง”
“อะไรนะ?”ลีน่ามองเธอ
วารุณีหัวเราะ“เธอมีคนที่ชอบแล้ว คนที่เธอเพิ่งคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อกี๊”
“เป็นไปไม่ได้!”ลีน่าปฏิเสธทันที:“ฉันจะชอบเขาได้ไง!วารุณีเธออย่าพูดเหลวไหล เขาไม่ใช่สเป็กฉันเลย หน้าตาเขาก็ไม่หล่อ ส่วนสูงก็ธรรมดา หุ่นก็ไม่ดีอะไร นอกจากนิสัยอ่อนโยน ทำอาหารเป็น ใส่ใจคนอื่นเก่งแล้ว ก็ไม่มีอะไรดีเลย ดังนั้นฉันจะชอบคนแบบนี้ได้ไง”
“อ้อ……”วารุณีลากเสียงยาวอย่างมีนัย“นิสัยอ่อนโยน ทำอาหารเป็น ใส่ใจคนอื่นเก่ง เป็นผู้ชายที่ไม่เลวเลยนะ ไม่น่าล่ะเธอถึงใจเต้น”
“วารุณีเธอพูดอะไรน่ะ ฉันบอกแล้วไง เขาไม่ใช่สเป็กฉันเลย ฉันจะไป……”
“ถ้าเธอไม่ชอบเขา ทำไมรู้ข้อดีเขาขนาดนี้ล่ะ และยังตำหนิเขา ทำไมพูดข้อดีของเขาไปด้วย?”วารุณีมองเธออย่างตลก
สีหน้าลีน่าเปลี่ยนไป ดูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ใช่ ทำไมตัวเองจำข้อดีเขาได้ชัดเจนขนาดนี้นะ?
เห็นลีน่าไม่พูด วารุณีจึงส่ายแก้วน้ำ พูดอีกว่า:“เอาล่ะนาน่า เธอยอมรับเถอะ ยอมรับว่าตัวเองชอบเขา เธอพูดข้อดีของอีกฝ่ายได้ชัดเจนมากขนาดนี้ ไม่ได้ชอบแล้วเรียกว่าอะไร ไม่งั้นเธอคงไม่คุยโทรศัพท์กับเขา แล้วยังมีช่องทางติดต่อเขาอีก “
คำนี้ทำให้ลีน่ายิ่งเงียบ ด้วยความสับสนและซับซ้อนในสายตาของเธอ
เธอ ชอบเขาจริงๆเหรอ?
แต่ถ้าไม่ใช่ ทำไมเธอต้องจำข้อดีเขาได้ดีขนาดนี้ และยังติดต่อเขาอีก
ถ้าไม่ชอบคนๆหนึ่ง อย่าว่าแต่โทรศัพท์หาเลย แม้แต่ช่องทางติดต่อก็คงไม่เก็บไว้หรอก
แต่เธอเก็บไว้ แล้วปกติแล้ว ทุกวันจะมีสายหนึ่งเสมอ
ดังนั้น เธอชอบเขาจริงๆเหรอ?
คิดถึงความน่าจะเป็นนี้ ลีน่าก็หน้าแดง ใจเต้นแรงจนหยุดไม่อยู่ เหมือนกับฟ้าร้อง
วารุณีมองเธอแล้วพูดว่า:“พูดถึงแล้ว ฉันน่าจะรู้นานแล้วว่าเธอน่าจะชอบใครสักคน”
“ยัง……ยังไง?”ลีน่ามองเธออย่าตกใจ
รู้นานแล้วว่าเธอน่าจะชอบใครสักคน จะเป็นไปได้ไง!
เหมือนจะมองออกว่าลีน่าไม่เชื่อ วารุณีจึงพยักหน้ายิ้มๆ“จริงๆ เมื่อก่อนเธอพูดต่อหน้าฉันหลายหนว่าอยากมีความรัก ฉันก็แอบรู้สึก ฉันรู้จักเธอมาตั้งนาน เธอไม่เคยพูดจาแบบนี้ แต่ครั้งนี้ เธออ้างถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับนัทธี จากนั้นพูดติดๆกันหลายครั้งว่าอยากมีความรัก แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เธอน่าจะมีคนที่ชอบแล้ว ถึงได้อยากมีความรัก ไม่งั้นเธอคงไม่พูดเรื่องพวกนี้หรอก “
“จู่ๆก็เป็นแบบนี้……”ลีน่าถอนหายใจ
เพราะมีคนที่ชอบแล้ว เลยอยากมีความรัก
งั้นดูเหมือน เธอจะชอบเขาแล้วจริงๆ
เห็นลีน่าไม่ปฏิเสธคำพูดตัวเอง วารุณีจึงตบไหล่ของเธอเบาๆ“บอกฉันมาสิ เขาคือใคร?”
ลีน่าก้มหน้าลงแล้วหัวเราะอย่าขมขื่น“รุ่นพี่ฉันเอง”
“อ๋า?”วารุณีตกใจเล็กน้อย“รุ่นพี่?”
“อือ”ลีน่าลูบคิ้ว“เธอคงคิดไม่ถึงสินะ จู่ๆฉันดันมาชอบรุ่นพี่ของตัวเองได้……”
เธอกับรุ่นพี่แทบโตมาด้วยกันแต่เด็ก และยังมีอาจารย์คนเดียวกัน สนิทกันจนไม่รู้จะสนิทยังไงแล้ว
และตั้งแต่เด็กจนโต เธอก็รู้สึกกับรุ่นพี่เหมือนพี่ชาย
ทำไมตอนนี้จู่ๆก็เปลี่ยนไปได้……
จุดนี้ ทำให้ลีน่าคิดไม่ออกเลย
“ก็จริง”วารุณีหัวเราะพยักหน้า“ฉันก็คิดไม่ถึง ว่าจู่ๆเธอจะชอบรุ่นพี่ตัวเองได้ แต่เธอชอบเขาได้ไงน่ะ?”
ลีน่ามองบน“ฉันจะรู้ได้ไง?ถ้าฉันรู้ ฉันคงไม่ถูกเธอเตือน ถึงได้รู้ว่าตัวเองชอบเขา”
วารุณียกมุมปากขึ้น“เธอพูดก็ใช่ แต่เธอคิดจะเอาไง?จะคบกับรุ่นพี่เธอไหม?”
ลีน่าละสายตาลงไป ท่าทางดูซับซ้อนเล็กน้อย“ฉันไม่รู้ เพราะฉันก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่ฉันชอบฉันไหม ถ้าเขาไม่ชอบฉัน ฉันจะคบกับเขาได้ไงล่ะ”
สรุปคือ ตอนนี้เธออาจจะแค่แอบรักข้างเดียวเท่านั้น
พระเจ้า!
ทำไมเธอต้องชอบรุ่นพี่?
ลีน่ากุมหน้าตัวเองไว้ รู้สึกจะแตกสลายจริงๆ
ทั้งๆที่ไม่ว่าด้านไหนๆรุ่นพี่ก็ไม่ตรงกับมาตรฐานการเลือกคู่ครองของเธอ และยังแย่กว่ามากกับมาตรฐานการเลือกคู่ของเธอ
แต่เธอดันชอบเขาแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!
“ไม่งั้น เธอก็สารภาพรักกับรุ่นพี่เธอไปสิ เธอพูดถูก รุ่นพี่เธอไม่รู้ว่าเธอชอบเขา เธอก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่ชอบเธอไหม รุ่นพี่เธออาจชอบเธอก็ได้ แค่เธอสารภาพไป พวกเธออาจได้คบกันนะ”วารุณีมองลีน่าแล้วเสนอ
ลีน่าบีบฝ่ามือ เหมือนว่ากำลังพิจารณาคำพูดของเธอ
แต่แป๊บเดียว เธอก็ส่ายหน้าอีก“ช่างเถอะ ถ้ารุ่นพี่ไม่ชอบฉัน ฉันไปสารภาพเขา นั่นจะไม่ขายขี้หน้าแล้วอึดอัดเหรอ?และพวกเราก็สนิทกันขนาดนี้ ถ้าฉันสารภาพรักไป งั้นความรู้สึกของฉันกับรุ่นพี่ ก็คงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ต่อไปไม่แน่ว่า อาจจะหมดหนทางกลับไปสู่ความรู้สึกแบบรุ่นพี่รุ่นน้องเหมือนเมื่อก่อนแล้วสิ”
คำนี้ทำให้วารุณีพูดไม่ออกทันที สักพักจึงถอนหายใจ“เธอพูดก็ถูก งั้นก็สารภาพตรงๆไม่ได้ แต่เธอสามารถลองหยั่งเชิงเขาได้นี่”
“ลองหยั่งเชิงถาม?”หูลีน่าขยับ“วารุณี ความหมายเธอคือ……”
วารุณีพยักหน้า“ใช่ เธอหยั่งเชิงพูดอย่างเลี่ยงๆ ลองหยั่งเชิงถามเขาว่ารู้สึกกับเธออย่างนั้นไหม ดูว่าเขาคบกับเธอได้หรือไม่ ถ้าได้ เธอก็ค่อยสารภาพรักก็ได้นี่?ถ้าไม่ได้ งั้นเธอก็……”
คำพูดต่อจากนี้ เธอไม่พูดแล้ว แต่ทุกคนเข้าใจดี
ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ งั้นลีน่าก็ไม่ต้องสารภาพรัก สามารถเก็บความรู้สึกนี้ไว้
แบบนี้ เธอกับรุ่นพี่ของเขา ก็ไม่ต้องอึดอัด ความรู้สึกก็สามารถกลับสู่สภาวะพวกรุ่นพี่ปกติ
ลีน่ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าแบบนี้ดี พยักหน้า“ฉันเข้าใจแล้ววารุณี โอเค งั้นฉันทำแบบนี้ละกัน หาโอกาสลองถามเขาดู”
“อือ สู้ๆ”วารุณีตบไหล่ของเธอ
ตอนนี้เอง คนใช้เดินเข้ามา“คุณหญิง คุณลีน่า ทานข้าวเที่ยงค่ะ”
“ไปเถอะนาน่า”วารุณีวางแก้วน้ำแล้วยืนขึ้นมา