บทที่ 804 ตรวจสอบ

บทที่ 804 ตรวจสอบ

“พี่ใหญ่ เสี่ยวเถียนโดนรังแกตอนผมไม่อยู่หรือเปล่า?” ซื่อเลี่ยงถาม

โส่วเวินรู้ว่าน้องชายหมายถึงอะไร แต่เขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกัน เสี่ยวเถียนเป็นบุคคลทรงอิทธิพล โดยปกติไม่มีใครกล้าหาเรื่องเธอหรอกนะ

ตั้งแต่วันชาติปีที่แล้ว เด็กสาวเป็นเปรียบเสมียนเทพธิดาแห่งมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงมาโดยตลอด จึงไม่มีใครคิดรังแกเลย ดูอย่างรองอธิการผู้สง่างามนั่นสิ เป็นเพราะเสี่ยวเถียนไม่ใช่เหรอ เลยทำให้ต้องไปอยู่ตะวันตกเฉียงเหนือนั่นน่ะ

แต่การปรากฏตัวของซุนเสี่ยวอวี้มันคือเรื่องไม่คาดคิด แต่เขาจะอธิบายให้ซื่อเลี่ยงฟังยังไงล่ะ?ขณะที่กำลังเรียบเรียงคำพูด เสี่ยวเถียนก็ได้พูดขึ้น

“ทำไมต้องมีคนรังแกหนูด้วยล่ะพี่รอง? ซุนเสี่ยวอวี้มันเป็นไอ้พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้อะไรสักอย่างถึงได้ทำตัวแบบนี้ไง”

ไอ้พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว?

ชื่อเรียกก็สมควรอยู่!

พี่ชายทั้งสองรู้สึกคำอธิบายของน้องไร้ที่ติอยู่ชั่วขณะ

ซุนเสี่ยวอวี้เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ยังไม่รู้เรื่องราวในมหาวิทยาลัยเราดี มันก็เป็นแค่ไอ้คนไม่รู้เรื่องรู้ราวไม่ใช่หรือไง?

“พี่ใหญ่ ผมสงสัยว่าซุนเสี่ยวอวี้อาจมาแย่งที่คนอื่นเลยเข้าเรียนที่นี่ได้ เราต้องหาทางตรวจสอบเรื่องนี้นะ!”

โส่วเวินไม่เข้าใจว่าทำไมน้องถึงพูดแบบนี้มาสักพักแล้ว หลังจากนั้นน้องชายก็ได้แนะนำอีกฝ่ายให้ได้รู้จัก

“เพราะงั้นข้าราชการยศสูงที่ซุนเสี่ยวอวี้บอกก็คือพ่อของเขาสินะ แถมยังเป็นคนเดียวกับที่อยู่ลี่เฉิงกับอาเขยด้วย?”

เรื่องคนอื่นเราไม่รู้หรอก มีแค่เรื่องชายที่ทำงานกับอาเขยเท่านั้นที่ได้รู้ข้อมูลมาบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าชายคนนั้นจะส่งลูกมาเรียนยั้นเมืองหลวง แถมลูกยังมีความคิดอันไม่สมควรกับน้องสาวเขาตั้งแต่เข้าเรียนวันแรกอีก?

ถ้าจะบอกว่าโลกกลมก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเล้ย

“เดี๋ยวโทรบอกหาอาเขยแล้วกัน ให้ปู่ฉือหาคนมาตรวจสอบ”

ฉือเก๋อมีอดีตลูกศิษย์อยู่คนนึงซึ่งตอนนี้ทำงานอยู่ในกระทรวงศึกษา การตรวจสอบเรื่องของนักศึษาไม่น่าใช่เรื่องยากอะไร

ซื่อเลี่ยงพยักหน้า หลังจากพูดคุยอีกหน่อยก็แยกย้ายกัน

เรื่องเล็กน้อยพวกนี้เสี่ยวเถียนไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

ตอนสองพี่น้องเดินมาถึงใต้หอพลันเหลือบไปเห็นอิ่นหรูอวิ๋นกำลังยืนสนทนากับซุนเสี่ยวอวี้ด้วยท่าทีเขินอาย

พูดถึงเธอคนนี้แล้วเสี่ยวเถียนอึดอัดใจนัก แต่โชคดีที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่หอตลอด ได้ยินว่าไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอกแทน แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมยังยืนอยู่ข้างซุนเสี่ยวอวี้ลูกหลานผู้มีอำนาจด้วย

ซื่อเลี่ยงขมวดคิ้ว

“เสี่ยวเถียน คืนนี้อย่าออกไปไหนนะ รอพี่มารับพรุ่งนี้เช้า!” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ถ้าน้องตกเป็นเป้าหมายเจ้านั้นขึ้นมาอีกจะลำบากเอา

ที่จริงเสี่ยวเถียนเองก็ไม่มั่นใจเรื่องความสัมพันธ์ของสองคนนั้น ถ้าได้อยู่ด้วยกันคงยากจะจินตนาการถึงสิ่งดี ๆ ได้ การรวมตัวกันของซุนเสี่ยวอวี้กับอิ่นหรูอวิ๋นมันทำให้ไม่สบายใจเลยสักนิด!

“เข้าใจแล้วค่ะพี่รอง พรุ่งนี้เช้าพี่มารอหนูที่ใต้หอนะ มีพี่อี้หย่วนด้วย พวกเราจะได้ไปกินข้าวเช้าด้วยกัน!” เสี่ยวเถียนพยักหน้า

ซื่อเลี่ยงขมวดคิ้วอีกรอบเมื่อได้ยินว่าฉืออี้หย่วนจะไปด้วย แต่สุดท้ายก็พยักหน้า

สองคนที่คุยกันไม่ได้สังเกตถึงคนมาใหม่ทั้งสอง

เสี่ยวเถียนเดินขึ้นห้อง ส่วนพี่ชายหมุนตัวเดินกลับไป

ท่าทีขวยเขินของอิ่นหรูอวิ๋นทำซุนเสี่ยวอวี้คันยุบยิบในใจ ถึงสาวตรงหน้าจะไม่สวยเหมือนคนที่เจอตอนกลางวันนี้ แต่รวม ๆ แล้วถือว่าเป็นสินค้าคุณภาพสูง เล่นด้วยสักหน่อยคงไม่ผิดอะไร

เหมือนว่าจะรับมือง่ายด้วย

อิ่นหรูอวิ๋นบังเอิญได้ยินซุนเสี่ยวอวี้คุยโวกับเพื่อนตัวเองว่าบ้านมีอำนาจ เลยเปลี่ยนใจและเป็นฝ่ายเข้าหา เมื่อเลือกเป้าหมายแล้วจึงแสร้งทำเป็นสะดุดแล้วล้มใส่

ส่วนซุนเสี่ยวอวี้เป็นพวกมือฉมัง มีหรือจะมองมารยานี้ไม่ออก แต่ในเมื่อมาเสนอตัวถึงที่เขาย่อมสนองกลับอยู่แล้ว มิหน่ำซ้ำยังเสนอตัวพาไปส่งที่หอด้วย

ในเมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งสองจึงมาปรากฏตัวที่ใต้หอ ดูเผิน ๆ คงคิดว่าสองคนนี้เป็นคู่รัก แต่จริง ๆ เพิ่งเจอกันครั้งแรก

เสี่ยวเถียนขึ้นห้องมาก่อนโดยไม่รออิ่นหรูอวิ๋น เพราะหลังจากซุนเสี่ยวอวี้กลับไป อิ่นหรูอวิ๋นหมุนตัวออกไปที่บ้านเช่าข้างนอก เธอเข้ากับใครในห้องไม่ได้เลย ไม่มีใครอยากอยู่ด้วย และตนก็ไม่เต็มใจที่จะต้องเป็นฝ่ายขายหน้า

หนึ่งสัปดาห์แห่งความสงบสุขผ่านไปในพริบตา

อาทิตย์นี้สองพี่น้องนัดกันกลับบ้าน แต่ฉืออี้หย่วนยืนกรานจะกลับด้วย ที่จริงเขาเสียใจมากเพราะไม่มีโอกาสให้ใช้เวลาร่วมกับเสี่ยวเถียนเท่าไหร่เลย ยิ่งมีพี่รองมาคั่นกลางอีกเวลาทำให้เวลาใช้ร่วมกันน้อยกว่าเดิมด้วย

แต่อีกฝ่ายคือพี่รองเลยนะ เขาจะไปทำอะไรได้? เพราะงั้นการเดินทางสองคนจึงเปลี่ยนเป็นสามแม้ชายทั้งสองหวังว่าจะไม่มีอีกฝ่าย แต่เบื้องหน้าเสี่ยวเถียนพวกเขาห่วงภาพพจน์เลยไม่คิดจะทะเลาะกันให้เห็น

ที่จริงมันคือสิ่งที่ซื่อเลี่ยงคำนวณไว้แล้วแหละ ตอนนี้เขาเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา อาจต้องใช้เวลาครึ่งเดือนออกไปวาดภาพต่างที่ น้องสาวต้องการคนคอยปกป้อง

ถ้าจะบอกว่าใครน่าเชื่อถือที่สุด หลังจากไตร่ตรองถี่ถ้วนคงไม่พ้นฉืออี้หย่วนอยู่ดี ถึงจะน่ารำคาญ แต่ปฏิบัติต่อน้องสาวเขาอย่างดีจริง ๆ

ทั้งสามเดินออกมาขึ้นรถประจำทาง รถรอบนี้มีที่นั่งว่างเยอะมาก เราจึงเลือกนั่งแถวสุดท้าย

เสี่ยวเถียนนั่งริมหน้าต่าง

หลังจากรถเคลื่อนตัวเด็กสาวมองออกไปข้างนอกโดยไม่รู้ตัว แล้วก็ต้องตกใจที่เห็นอิ่นหรูอวิ๋นและซุนเสี่ยวอวี้เดินไปที่ตรอกเล็ก ๆ ด้วยกัน

เธอขมวดคิ้ว บ้านเช่าอิ่นหรูอวิ๋นน่าจะอยู่ซอยนี้ไม่ใช่เหรอ แต่นี่มันเย็นแล้วนะ ชวนผู้ชายเข้าบ้านไม่ดีเท่าไรมั้ง? แต่นี่มันเรื่องของคนอื่น หลังจากฟุ้งซานอยู่สักพักก็ไม่ได้ใส่ใจอีก

“เสี่ยวเถียน ช่วงนี้ซุนเสี่ยวอวี้มันไม่ได้มายุ่งกับน้องใช่ไหม?”

ถึงจะพยายามคอยตามน้องอยู่ตลอดแต่ก็มีหลายครั้งที่ไม่ได้อยู่ด้วย จึงอดถามไม่ได้

“ไม่แล้วพี่รอง ไม่ต้องห่วงนะ บางทีซุนเสี่ยวอวี้คงรู้แล้วว่าหนูเก่งขนาดไหน” เสี่ยวเถียนยิ้ม

เพราะเสี่ยวเถียนถือว่าเป็นบุคคลทรงอิทธิพลในจิ่งเฉิงหลังจากเอาชนะเจ้าพวกที่คิดจะจัดการเธอไป หากเป็นพวกมีสมองหน่อยก็ไม่มีใครคิดจะสู้กับเธอสักนิด

ซื่อเลี่ยงโล่งใจมาก

น้องสาวเขาเก่ง ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยแค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น!

ตอนเรากลับถึงบ้าน ก็เจอคุณปู่ฉืออยู่ที่นั่นด้วย