บทที่ 874 บุรุษหงส์

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 874 บุรุษหงส์

บทที่ 874 บุรุษหงส์

“นอกจากนี้” จักรพรรดิหยุดและยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าเขามีโอกาสได้เจอเจ้าจริง ๆ เขาอาจจะมีความสุขกับการฆ่าเจ้ามากกว่าไว้ชีวิตเจ้าเอาไว้”

ซูอันนิ่งเงียบ ชายหนุ่มรู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง เขาได้เผชิญหน้ากับนักฆ่าจากฝ่ายของราชันลมปราณระหว่างทางมายังเมืองหลวง แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่เคยพบกันมาก่อน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นศัตรูกันไปแล้ว

แน่นอนจักรพรรดิไม่ได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพราะเขาน่าจะพยายามแสดงให้เห็นว่าตนเองมีเมตตาและห่วงใยซูอัน แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ?

เว่ยต้านเป็นขันทีคนสนิทของจักรพรรดิ อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิยังไม่ได้ถามคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการตายของเขาซึ่งน่าจะเชื่อมโยงกับซูอัน เป็นไปได้ว่าพระองค์จงใจหลีกเลี่ยง เพราะท้ายที่สุดแล้วขณะนี้ซูอันที่ยังมีชีวิตอยู่มีประโยชน์มากกว่าคนที่ตายไปแล้ว

เขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิจะคิดบัญชีเรื่องของเว่ยต้านในอนาคตหรือไม่ เพราะจักรพรรดิผู้นี้นั้นไม่ใช่คนที่มีจิตใจเมตตาปรานีต่อผู้อื่นแม้แต่น้อย

“แล้วเราควรทำอย่างไรหรือฝ่าบาท?” ซูอันรู้ดีว่าจักรพรรดิมีแผนอยู่ในใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงแสดงท่าทีพร้อมให้ความร่วมมืออย่างว่าง่าย

จักรพรรดิมอบเข็มกลัดสัญลักษณ์ให้เขา มันแกะสลักรูปม้ามีเขาอยู่ด้านบน นี่คือสัตว์ในตำนานที่เรียกว่าเซี่ยจื้อ (คล้ายกับยูนิคอร์น) เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถในการแยกแยะระหว่างความดีและความชั่ว เขาเคยเห็นมันมาก่อนบนเครื่องแบบของทูตยุทธ์เสื้อแพร แต่อันนี้เป็นสีทองและดูเหมือนจะเป็นเครื่องแสดงถึงอำนาจที่มากกว่า

จักรพรรดิกล่าวว่า “ข้าให้เข็มกลัดทองนี้แก่เจ้า มันเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะของทูตยุทธ์เสื้อแพร ด้วยเข็มกลัดทองอันนี้ ตำแหน่งของเจ้าในทูตยุทธ์เสื้อแพรจะเป็นรองก็แค่จูเซี่ยฉือซินคนเดียวเท่านั้น เจ้าสามารถใช้มันได้เมื่อเห็นว่าจำเป็น”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขารีบรับเข็มกลัดมาเก็บไว้

นี่มันของที่โคตรดี!

พวกทูตยุทธ์เสื้อแพรที่เขาเห็นนั้นสามารถทำอะไรก็ได้โดยอ้างถึงพระราชโองการของจักรพรรดิ ซึ่งมันสุดแสนจะเยี่ยมยอด ตอนนี้เขาได้อยู่ในตำแหน่งแทบจะบนสุดของสายการบัญชาการของทูตยุทธ์เสื้อแพรด้วยกันเอง นับจากนี้เขามีอิสระที่จะทำในสิ่งที่เขาต้องการแล้วไม่ใช่หรือ?

ราวกับว่าสามารถอ่านความคิดของเขาได้ จักรพรรดิกล่าวต่อทันที “เจ้าไม่ควรเปิดเผยตัวตนทูตยุทธ์เสื้อแพรของเจ้า เพราะนับจากนี้เจ้าจะได้รับภารกิจพิเศษที่ต้องทำ ดังนั้นหากมีคนรู้ว่าเจ้าเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง ความตายของเจ้าอาจมาเร็วกว่าที่ควรเป็น”

“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เตือนสติ” ซูอันโค้งคำนับ ทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นตัวตนที่ภักดีต่อจักรพรรดิที่สุด หากฝ่ายของราชันลมปราณพบว่าเขามีตรานี้ แผนการทำให้ราชันลมปราณไว้ใจจะไม่มีทางเป็นไปได้

จักรพรรดิกล่าวต่อไปว่า “นี่เป็นเพียงตัวตนลับที่ข้ามอบให้เพื่อความปลอดภัยของเจ้า อย่าบอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าจะให้ตัวตนสาธารณะอื่นแก่เจ้า อืม…เนื่องจากราชันลมปราณเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทในปัจจุบัน…”

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเรียกขันที “ถ่ายทอดคำสั่งของข้าออกไป เนื่องจากซูอันได้มอบวิชาวัฏจักรหงส์อมตะแก่ข้า ดังนั้นข้าจะแต่งตั้งเขาเป็นขุนนางและประทานฉายาเรียกขานให้เขาซึ่งก็คือ…”

เขาหยุดครู่หนึ่งราวกับว่ากำลังตัดสินใจว่าชื่อไหนจะเหมาะสมที่สุด ดวงตาของเขาเป็นประกาย “ฉายาเรียกขานของเขาคือ…บุรุษหงส์!”

ซูอันอ้าปากค้าง

“ฝ่าบาท โปรดมอบฉายาอื่นให้กระหม่อมด้วยพะย่ะค่ะ!” ใบหน้าของซูอันเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาจะเข้าหน้าใครได้ถ้าทุกคนต่างเรียกเขาว่า ‘บุรุษหงส์’!? ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นศัพท์แสลงของคำว่า ‘ลูกเป็ดขี้เหร่’!

จักรพรรดิดูเหมือนไม่พอใจ “ไร้สาระ! เจ้ามอบวิชาวัฏจักรหงส์อมตะให้ข้า ข้าจะเรียกเจ้าว่าอะไรถ้าไม่ใช่บุรุษหงส์?”

จักรพรรดิต้องการใช้ชื่อนี้เพื่อยั่วยุฝ่ายราชันลมปราณจึงไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ พระองค์ตรัสต่อไปว่า “นอกจากนี้ แต่งตั้งเขาเป็นราชเลขาในวังของรัชทายาท คอยดูแลเรื่องการศึกษาและคอยติดตามองค์รัชทายาท!”

ซูอันเข้าใจทันทีว่าจักรพรรดิกำลังคิดอะไรอยู่ เนื่องจากราชันลมปราณเป็นอาจารย์ของรัชทายาท ส่วนเขาได้มาเป็นราชเลขา พวกเขาทั้งสองจึงเป็นเจ้าหน้าที่ในวังตะวันออกที่ต้องมีการติดต่อกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งจะยิ่งทำให้แผนตีสนิทแนบเนียนและง่ายขึ้น

ทว่าในใจของซูอันเย้ยหยันอยู่เรื่องหนึ่ง ราชันลมปราณและรัชทายาทแก่งแย่งสิทธิ์ในราชบัลลังก์ แต่เจ้ากลับแต่งตั้งราชันลมปราณเป็นอาจารย์ของรัชทายาท? ข้าสงสัยว่าผู้ใดกันที่แนะนำให้เจ้าคิดแบบนี้ได้?

แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก เขายังคงไม่อยากเป็นที่รู้จักในนามบุรุษหงส์!

จักรพรรดิหมดอารมณ์ที่จะสนทนาต่อไป เขาโบกมือไล่ซูอันออกไป ในฐานะจักรพรรดิ มีหลายเรื่องที่เขาต้องจัดการและไม่สามารถเสียเวลากับซูอันได้อีก

ซูอันต้องการท้วงมากกว่านี้ แต่ขันทีที่ได้รับมอบหมายกลัวมากจนพยายามลากเขาออกไปอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าขันทีผู้นั้นไม่แข็งแรงพอที่จะลากเขาไป แต่ด้วยการโบกแขนเสื้อของจักรพรรดิเพียงง่าย ๆ พลังที่มองไม่เห็นได้ผลักซูอันออกจากห้องอย่างง่ายดาย

ทันทีที่ถูกบังคับให้ออกมา ซูอันเห็นจักรพรรดิหยิบหมวกสีเขียวมาสวมอีกครั้ง เขาลูบหมวกขณะกำลังครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่าแม้ว่าเขาดูเหมือนไม่สนใจเรื่องนี้จริง ๆ แต่การล่อลวงของความเป็นอมตะไม่ได้ถูกปัดทิ้งไปได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาใกล้ตาย

ริมฝีปากของซูอันโค้งเป็นรอยยิ้ม ฮึ่ม! เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ต้องการมัน แต่การกระทำของเจ้าเปิดเผยความในใจของเจ้าจนหมด!

ทว่าทันใดนั้น เสียงของจูเซี่ยฉือซินก็ดังมาจากด้านข้าง “ยินดีด้วยบุรุษหงส์!”

จักรพรรดิไม่ได้ปิดกั้นผู้ที่อยู่ข้างนอกไม่ให้ได้ยินการสนทนาช่วงหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จูเซี่ยฉือซินได้ยินเรื่องนี้

แม้ว่าคำพูดของเขาจะแสดงความยินดี แต่น้ำเสียงของเขาเย็นชา

เปลือกตาของซูอันกระตุก “แค่เรียกชื่อข้าก็พอ อย่าเรียกข้าด้วยฉายานี้!”

จูเซี่ยฉือซินสับสน แต่เขาไม่ได้เถียง “ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าออกจากวัง”

เขาหันหลังกลับและนำทางไป

นี่เป็นความเจ็บปวดอย่างแท้จริงสำหรับซูอัน แค่เดินกับคนคนนี้ก็รู้สึกอึดอัดแล้ว ชายหนุ่มอ้าปากจะพูดหลายครั้งแต่ก็ลังเลทุกครั้ง เขาต้องการบอกว่าตัวเองเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรด้วย แต่ท่าทางของจูเซี่ยฉือซินเย็นชาเข้าถึงได้ยากจนไม่มีโอกาสทำเช่นนั้น

พวกเขาเดินออกห่างห้องสมุดส่วนพระองค์และเดินวนเวียนวกวนไปมาตามเส้นทางภายในวังชั้นใน ซึ่งไม่นานนักซูอันก็ตระหนักว่าตอนนี้พวกเขายังอยู่ในวังชั้นใน สถานที่ที่ไม่ควรมีชายแท้คนใดเข้ามาป้วนเปี้ยนในนี้ได้ แต่จูเซี่ยฉือซินผู้นี้กลับเข้ามาได้ ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายได้รับอนุญาตให้เข้าสู่วังชั้นในได้ตามสะดวก ทว่าทำไมก่อนหน้านี้จูเซี่ยฉือซินถึงได้ส่งต่อเขาให้ขันทีหลี่?

ไม่ผิดแน่! จูเซี่ยฉือซินน่าจะร่วมมือกับจักรพรรดิวางแผนล่องูออกจากรูเพื่อจับผู้สมรู้ร่วมคิดที่ซ่อนอยู่ในคราวเดียว

ฝ่ายของราชันลมปราณประสบความสูญเสียอย่างมากแล้วในการพยายามลอบสังหารซูอันขณะเดินทางมายังเมืองหลวง แต่การสูญเสียคนในที่อยู่ในเขตวังชั้นในนั้นนับว่าเป็นความเสียหายที่ใหญ่หลวงมากกว่าก่อนหน้านี้อย่างเทียบกันไม่ได้