บทที่ 875 สวัสดิการดีเลิศ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 875 สวัสดิการดีเลิศ

บทที่ 875 สวัสดิการดีเลิศ

หลังจากเดินไปได้ซักพัก ซูอันก็สังเกตเห็น “นี่ไม่ใช่ทางออกจากวังนี่?”

จูเซี่ยฉือซินตอบกลับ “คำสั่งไล่ให้ออกไปของฝ่าบาทเมื่อครู่นี้นั้นสำหรับขันที องค์จักรพรรดิทรงแอบแต่งตั้งเจ้าเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพร ดังนั้นข้าจะพาเจ้าไปยังที่พำนักของเราภายในวังก่อน”

“ข้าจะได้อยู่ในวัง?” ซูอันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

“ทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นกลุ่มคนที่องค์จักรพรรดิทรงไว้วางพระทัยมากที่สุด” จูเซี่ยฉือซินตอบ “เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราจะต้องรักษาการณ์อยู่ในวังอย่างต่อเนื่อง”

“โอ้” ซูอันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาจะได้อยู่ในพระราชวังหลวง!

นี่คือความฝันของนักรบคีย์บอร์ดอย่างเขา!

พระราชวังหลวงเป็นสถานที่ลึกลับ มีนางสนมและองค์หญิงที่งดงามอาศัยอยู่…

ไม่สิ! ข้าเป็นคนดี! ข้าไม่ได้คิดเหมือนพวกนักเลงคีย์บอร์ดคนอื่น

“แม้ว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรจะเป็นตัวแทนพระองค์ องค์จักรพรรดิให้อิสระแก่พวกเราในการเข้าและออกวังหลวง แต่เราก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวังชั้นในด้วยตนเอง หากไม่มีคำสั่งของจักรพรรดิ” จูเซี่ยฉือซินเตือน “ใครก็ตามที่ละเมิดกฎนี้จะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดและทั้งตระกูลของผู้นั้นจะถูกกำจัดจนสิ้นซาก ข้าหวังว่าเจ้าจะจำสิ่งนี้ไว้ในใจ”

ซูอันพยักหน้า

เส้นทางที่จูเซี่ยฉือซินเลือกนั้นค่อนข้างเปลี่ยว พวกเขาไม่พบสนมหรือนางกำนัลเลย

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาถึงที่พักอันเงียบสงบและห่างไกล ซึ่งอยู่ในเขตพระราชวังชั้นนอก จูเซี่ยฉือซินมอบกุญแจให้ซูอัน “นี่คือที่อยู่อาศัยของเจ้า และนี่คือกุญแจที่จะปลดกลอนเรือนนี้ จำเส้นทางมาที่นี่ให้ได้ นับจากนี้องค์จักรพรรดิน่าจะเรียกเจ้าเข้าเฝ้าบ่อย ๆ”

ในฐานะผู้บ่มเพาะ จิตของเขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามาก เมื่อบ่มเพาะมาถึงระดับหนึ่งแล้ว ความจำในเรื่องต่าง ๆ จะพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก นี่คือเหตุผลที่จูเซี่ยฉือซินไม่กังวลว่าซูอันจะลืมเส้นทางแม้จะเดินผ่านเพียงครั้งเดียว

“แล้วส่วนที่เหลือล่ะ? ข้าไม่ค่อยคุ้นเคยกับที่นี่เลย ท่านพาข้าไปดูรอบ ๆ ได้ไหม?” ซูอันถาม

จูเซี่ยฉือซินส่งสายตาเตือนให้เขา “ส่วนอื่น ๆ เป็นที่ซึ่งพระสนม องค์หญิง และองค์ชายทั้งหลายอาศัยอยู่ เจ้าไม่ควรเดินเพ่นพ่านไปเฉียดใกล้สถานที่เหล่านั้น ทำไม? เจ้ามีความคิดอื่นแฝงอยู่หรืออย่างไร?”

หัวใจของซูอันเต้นผิดจังหวะ “ข้าก็แค่ถามน่ะ…ฮ่า ๆ…ขอบคุณท่านที่ย้ำเตือนก็แล้วกัน”

จูเซี่ยฉือซินไม่ถือสาพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็นของใครบางคนที่มีภูมิหลังที่น่าสงสารอย่างซูอัน “ทำความคุ้นเคยกับที่อยู่อาศัยของเจ้าให้ดี หลังจากนี้ข้าจะพาเจ้าไปที่เรือนอีกแห่งของเจ้าที่อยู่นอกวัง

“ขอบคุณ” ซูอันมีเรือนพักอาจารย์เป็นของตัวเองที่สถาบันจันทร์กระจ่าง ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับกลไกการปลดกลอนประตูที่ผนึกเอาไว้ด้วยอักขระแบบนี้ เขาเปิดประตูเข้าไป ภายในมีห้องที่แตกต่างกันหลายห้อง การตกแต่งภายในค่อนข้างดี แต่แน่นอนว่าเน้นความปลอดภัยและการรักษาความลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญต่อผู้ที่ทำหน้าที่เป็นทูตยุทธ์เสื้อแพร

“ทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่นอยู่ที่ไหนกัน?” ซูอันถามด้วยความสงสัย

จูเซี่ยฉือซินตอบว่า “นี่คือเรือนส่วนตัวของเจ้า ทำไมถึงจะมีทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น?”

“เรือนส่วนตัวของข้า?” ซูอันตกตะลึง

สวัสดิการดีขนาดนี้เลยหรือ? เขาหลงคิดว่าตัวเองกำลังจะถูกจัดให้พักในค่ายร่วมกับทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น

จูเซี่ยฉือซินมองเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ “แน่นอน เจ้าจะได้อยู่ที่นี่คนเดียว ตัวตนของทูตยุทธ์เสื้อแพรนั้นต้องถูกเก็บเป็นความลับ พวกเรามักจะสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ปฏิบัติการ นอกจากจักรพรรดิแล้ว ข้าเองก็ไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของหลาย ๆ คน แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เราทุกคนจะอยู่เรือนพักเดียวกัน”

“แล้วคนอื่นอาศัยอยู่ที่ไหน?” ซูอันสอบสวนเพิ่มเติม

“เรือนพักของพวกเขากระจัดกระจายไปทั่ววัง เช่นเดียวกับเรือนของเจ้า” จูเซี่ยฉือซินตอบ “อย่างไรก็ตาม มีทูตยุทธ์เสื้อแพรจำนวนไม่มากนักที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะอาศัยอยู่ในวัง…และถ้ามีคนอื่นเข้ามา เจ้าจะไม่สามารถแสดงใบหน้าที่แท้จริงได้ เจ้าต้องสวมหน้ากาก เครื่องแบบ และอุปกรณ์อื่น ๆ อยู่ด้านใน เจ้าค่อยดูอีกที”

ซูอันอ้าปากค้าง “ทุกอย่างถูกเตรียมไว้แล้ว? เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? อืม…ดูเหมือนฝ่าบาทได้วางแผนล่วงหน้าเอาไว้นานแล้วสินะ…”

จูเซี่ยฉือซินโค้งคำนับไปทางวังชั้นใน “พวกเราปุถุชนคนธรรมดาไม่มีทางหยั่งถึงความคิดอ่านขององค์จักรพรรดิได้หรอก”

ซูอันเบ้ริมฝีปาก ไม่เห็นจำเป็นที่เจ้าจะต้องเลียแข้งเลียขาของจักรพรรดิตอนนี้เลย?

ไม่ว่าอย่างไร จักรพรรดินั่นก็ไม่ได้ยินหรือเห็นเจ้าตอนนี้อยู่ดี!

“แล้วเรือนพักของทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่นในวังอยู่ที่ไหน? ข้าควรไปเยี่ยมทำความรู้จักพวกเขาดีไหม?” ซูอันถาม

จูเซี่ยฉือซินขมวดคิ้ว “ภารกิจที่พวกเราทูตยุทธ์เสื้อแพรได้รับมอบหมายทั้งหมดนั้นล้วนพิเศษและสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นมันเป็นการดีที่สุดถ้าเจ้าไม่ไปพบปะสังสรรค์หรือสร้างความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวกับทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น นอกจากนี้ พวกเราส่วนใหญ่มักมีภารกิจให้ทำไม่ขาดสาย พวกเราไม่ค่อยได้อยู่ในวังอยู่แล้ว”

“พวกเขาไม่ค่อยได้อยู่ในวังเหรอ?” ซูอันตกตะลึงชั่วครู่ แต่แล้วเขาคาดเดาว่าการทำภารกิจอาจเป็นแค่เหตุผลรอง เหตุผลหลักน่าจะเป็นเพราะความรู้สึกอยากเป็นอิสระ เพราะการใช้เวลาทั้งวันในพื้นที่เล็ก ๆ เช่นเรือนพักนี้ก็เหมือนกับการถูกจองจำ

มันจะเป็นหายนะหากพวกเขาบังเอิญไปเจอนางสนมหรือองค์หญิงและสานสัมพันธ์กันด้วยความเหงา

เห็นได้ชัดว่าไม่มีทูตยุทธ์เสื้อแพรคนใดอยากอยู่ในวัง ซูอันน่าจะเป็นคนเดียวที่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้

จูเซี่ยฉือซินเริ่มรำคาญ “เจ้ามองนั่นมองนี่เสร็จแล้วหรือยัง? ถ้าเสร็จแล้วข้าจะพาเจ้าไปที่เรือนพักของเจ้านอกวัง!”

“นี่ข้าจะได้รับเรือนพักนอกวังจริง ๆ เหรอ?” แม้จะถูกบอกเมื่อครู่แล้วแต่ซูอันก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ เขาได้รับเรือนสองหลังในคราวเดียว ถ้าเป็นโลกก่อนหน้านี้เขาคงจะรวยเละไปแล้ว

“แน่นอน พวกเราทูตยุทธ์เสื้อแพรต้องสวมบทบาทที่แตกต่างกันตามงานของแต่ละคน นอกจากนี้ เจ้ายังดำรงตำแหน่งราชเลขาของรัชทายาท และไม่มีญาติอื่นในเมืองหลวง เราไม่สามารถให้เจ้านอนตามท้องถนนได้” จูเซี่ยฉือซินกล่าว

ซูอันดูซาบซึ้งราวกับน้ำตาจะไหล “จักรพรรดิดูแลข้าอย่างดีจริง ๆ ข้าคงไม่มีทางตอบแทนพระกรุณานี้ได้หมดในชีวิตนี้!”

“ตราบใดที่เจ้ามีความคิดเช่นนี้ ความไว้วางใจของจักรพรรดิในตัวเจ้าก็ไม่สูญเปล่า” ท่าทางของจูเซี่ยฉือซินผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าจูเซี่ยฉือซินจะเป็นหนึ่งในข้าราชบริพารที่ภักดีที่สุดของจักรพรรดิจริง ๆ

ทั้งสองรีบไปที่ประตูวังอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางผ่านขบวนเสด็จอันสวยงาม จูเซี่ยฉือซินดึงซูอันไปด้านข้างทันทีและก้มศีรษะ

จูเซี่ยฉือซินนั้นเคร่งครัดในกฎระเบียบอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงก้มหัวอยู่ตลอด แตกต่างจากซูอันที่แอบเงยหน้าขึ้นมอง เขาเห็นนางกำนัลและขันทีกลุ่มหนึ่งพาหญิงสาวสวยคนหนึ่งเดินผ่านพวกเขาไป

นางมีรูปร่างที่มีเสน่ห์ แต่เป็นเรื่องน่าแปลกที่นางไม่ได้ส่งกลิ่นอายแห่งความยั่วยวนใจออกมา ตรงกันข้าม เขาสัมผัสได้เพียงความอ่อนโยนและบริสุทธิ์เท่านั้น