บทที่ 825 ถูกขัดจังหวะ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 825 ถูกขัดจังหวะ

บทที่ 825 ถูกขัดจังหวะ

เจียงหย่วนเคยปฏิบัติตัวอย่างหยิ่งยโสมาหลายครั้ง แต่ก็ต้องทนทุกข์ระทมเมื่อเผชิญกับความโชคร้าย

หากไม่ใช่เพราะมีพ่อของหลิวเทียนฉือที่เป็นถึงขุนนางระดับสามในเมืองหลวงดูแลตน เกรงว่า…

เจียงหย่วนรู้สึกหวาดผวาหลังจากคิดถึงเรื่องนี้

หลังจากกลับมาถึงเมืองหลิวเจีย ในที่สุด โลกใบนี้ก็เปลี่ยนสี ในเมืองหลิวเจียเล็ก ๆ แห่งนี้เขาเป็นคนมีชื่อเสียง จะมีใครกล้าเผชิญหน้ากับเขา

เมื่อมีสายตาจับจ้องมาที่ตนเองราวกับการแสดงสัตว์ เจียงหย่วนก็ตวัดสายตากลับอย่างไม่พอใจ

ครั้นเห็นท่าทางโกรธเคืองของเจียงหย่วน ชายคนนั้นก็ตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวทันที เขาผงะถอยหลังด้วยความรวดเร็ว ก้มหน้างุดและเดินออกไปด้วยความเคารพ

กู้ซินเถาปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเศร้าโศกระคนมีความสุขราวกับว่ายังหลงเหลือความรัก เจียงหย่วนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว “จัดห้องรับรองให้ข้าอีกหนึ่งห้อง ข้ามีเรื่องจะคุยกับแม่นางผู้นี้”

ลูกจ้างในร้านตอบรับอย่างรวดเร็ว และนำเขาขึ้นไปยังห้องรับรองอีกครั้ง เจียงหย่วนโน้มตัวไปข้างหน้าและกระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูของกู้ซินเถา “ที่นี่ไม่เหมาะที่จะพูดคุยกัน”

ครั้นเห็นเจียงหย่วนยังมีท่าท่างอ่อนโยนเช่นเดิม กู้ซินเถาจึงรีบตอบรับทันที

คราบน้ำตาบนใบหน้ายังไม่ถูกเช็ดออก และยังดูเหมือนยังมีหยาดน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด รูปลักษณ์ดั่งดอกท้อต้องหยาดน้ำฝนนี้ ทำให้เจียงหย่วนรู้สึกราวกับว่ามีมดจำนวนมากคืบคลานอยู่ในใจ

ทั้งสองมาถึงห้องรับรองที่จัดเตรียมไว้ และลูกจ้างภายในร้านยังคงรอให้เจียงหย่วนสั่งอาหาร

เจียงหย่วนรู้สึกกระวนกระวาย และถามกู้ซินเถาว่านางอยากทานอะไร

กู้ซินเถาไม่ได้มาที่นี่เพื่อนทานอาหาร จึงสั่งออกไปโดยไม่ใส่ใจ

เจียงหย่วนเองก็ไม่ได้มีท่าทางสุภาพ เขาบอกลูกจ้างภายในร้านว่าให้นำขนมหวานและชาหลงจิ่งก่อนฤดูฝนมาที่นี่ ทั้งยังสั่งเครื่องดื่มที่กู้ซินเถาชอบมาอีกด้วย

ลูกจ้างภายในร้านตอบตกลงและออกไปทันที

หลังจากที่กู้ซินเถาได้ยินคำพูดของเจียงหย่วน ความเกลียดชังในใจที่มีต่อเจียงหย่วนก็จางหายไป และแทนที่ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ

ยามหวนนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่กับเจียงหย่วนในอดีต อีกฝ่ายยังจำได้ว่าตนเองชอบกินอะไร

เด็กสาวมองไปที่เจียงหย่วนด้วยน้ำตาเอ่อคลอเบ้า เมื่อนึกถึงสิ่งที่ซุนซื่อพูดกับตัวเองก่อนออกมา ดวงตาคู่สวยของนางจึงเต็มไปด้วยความเสน่หา แต่ก็ยังรู้สึกลังเลที่จะพูดมาออกมา

เจียงหย่วนถูกภาพลักษณ์ของกู้ซินเถาทำให้หวั่นไหว ตอนนี้เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของกู้ซินเถา ความอดทนของเขาก็กำลังจะหมดลง

เขาใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่ามีเพียงพวกเขาสองคนในห้องรับรอง เจียงหย่วนรีบรุดขึ้นหน้าไปหากู้ซินเถา

ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ร่างกายของเจียงหย่วนยืดสูงขึ้น แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูธรรมดา แต่โชคดีที่เครื่องแต่งกายที่งดงามช่วยเพิ่มความสง่างามให้เขา

เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย ไม่ว่ามันจะธรรมดาแค่ไหน ในสายตาของกู้ซินเถาก็เหมือนดอกกุหลาบที่มีราคาแพง

ไม่รู้ว่ามีเกียรติมากกว่าฉินเย่จือที่มาขออาหารมากเท่าไร

กู้ซินเถาเงยหน้ามองเจียงหย่วนด้วยความรัก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

เจียงหย่วนมองไปยังกู้ซินเถาด้วยความประหลาดใจที่ไม่อาจปกปิดได้ในสายตา

เมื่อทั้งสองจ้องหน้ากันเป็นเวลานาน จากนั้นเจียงหย่วนก็เอื้อมมือไปกุมมือของกู้ซินเถาไว้แน่น

กู้ซินเถาสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร้อนผ่าวของมือตนเอง ไม่ใช่ว่ากู้ซินเถาไม่เคยสัมผัสร่างกายของเจียงหย่วน แต่นั่นก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว

ทุกครั้งล้วนเป็นการสัมผัสที่ไม่ได้ตั้งใจ

ในอดีต เพื่อเป็นการจับเจียงหย่วนให้อยู่หมัด กู้ซินเถาต้องแสร้งทำเป็นครั้งคราวเช่นการสัมผัสมือ โอบเอว แต่ทั้งหมดเป็นการไม่ตั้งใจ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสองจับมือกันอย่างจริงจัง

ความรู้สึกไม่เหมือนกับการกระทำที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนยามที่เจียงหย่วนต้องการจับมือนางและกู้ซินเถาไม่ยอม

กู้ซินเถายังบอกด้วยว่า นางเป็นเด็กสาวจากครอบครัวที่ดีและนางต้องรักษามารยาทเอาไว้

โชคดีที่เจียงหย่วนยังเป็นสุภาพบุรุษมากพอ เขาจึงไม่ได้กระทำการผลีผลามและดูแลนางอย่างดี

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความรักของกู้ซินเถาที่มีต่อเจียงหย่วนได้ทวีเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น และรูปลักษณ์ที่ไม่น่ามองก็ก็กลับกลายเป็นน่ามองขึ้นทันใด

มือเนียนนุ่มของกู้ซินเถาถูกจับกุมโดนเจียงหย่วน ในหัวใจเต้นตึกตักราวกับมีกวางกระโดดโลดเต้นอยู่ภายใน

ใบหน้าที่สวยงามและบอบบางนั้นแดงระเรื่อไปด้วยความเขินอาย ยิ่งขับให้ใบหน้านั้นงดงามยิ่งขึ้นไปอีก

เจียงหย่วนรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

ครั้นเห็นกู้ซินเถาไม่มีการต่อต้าน แต่ในขณะที่เจียงหย่วนยกมือขึ้นมา ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ความรู้สึกไม่ชัดเจนไหลทะลักเข้ามาอย่างช้า ๆ ทันทีลูกจ้างภายในร้านย่างเท้าเข้ามา เขาพบว่าบรรยากาศในห้องรับรองนี้แปลก ๆ ไป

เนื่องจากลูกจ้างคนนั้นกำลังถือจานของว่างและชุดน้ำชาอยู่ ครั้นเห็นประตูถูกแง้มไว้ จึงเดินเข้าไปโดยไม่เคาะประตูก่อน

ทันทีที่ก้าวเข้าไป เขาก็เห็นเจียงหย่วนกับเด็กสาวกำลังจับมือกันและมองหน้ากันด้วยความเสน่หา

เมื่อเห็นคนแปลกหน้าเข้ามา ทั้งสองก็ผงะดีดตัวออกจากกันอย่างร้อนรน เห็นได้ชัดว่ามีความโกรธและไม่พอใจในดวงตาของพวกเขา

เด็กสาวคนนั้นหมุนกายหันหลังให้ตนเองราวกับมีคนเห็นพบเจอเรื่องน่าอายของนาง

ลูกจ้างในร้านคนนั้นรู้สึกเสียใจเล็กน้อย และรับรู้ได้ถึงสายตาอาฆาตที่เจียงหย่วนส่งมา เขารีบวางชุดน้ำชาและชามของว่างลง จากนั้นค้อมตัวแล้วรีบถอยออกไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

เมื่อเขาปิดประตูลง เขาก็ก้มหน้างุดและวิ่งออกไปทันมี หากแต่ไม่ได้เห็นคนที่เดินสวนเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ลูกจ้างคนนั้นวิ่งไปอย่างรวดเร็วและได้พบกับเสี่ยวเซิ่งจื่อกับกู้เสี่ยวหวาน

ระยะของพวกเขากระชั้นชิดมาก ถ้ากู้เสี่ยวหวานหลบไม่ทัน ลูกจ้างคนนั้นคงจะชนนางเข้าอย่างจัง

เมื่อเห็นท่าทางประมาทของลูกจ้างคนนั้นและเกือบชนเข้ากับกู้เสี่ยวหวาน สีหน้าของเสี่ยวเซิ่งจื่อก็เปลี่ยนไปและเอ่ยตำหนิขึ้น “ทำไมถึงเดินไม่มองทาง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อครู่อันตรายแค่ไหน”

ลูกจ้างคนนี้เพิ่งมาใหม่ และเขาก็รู้ด้วยว่าหากเมื่อครู่ตนเองชนเข้ากับกู้เสี่ยวหวานขึ้นมาจริง ๆ นั่นอันตรายเพียงใด เนื่องจากด้านหลังของนางเป็นบันได และหากตนเองชนนางเข้าเต็มแรง อาจจะทำให้กู้เสี่ยวหวานตกบันไดได้ เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ลูกจ้างคนนั้นก็เหงื่อแตกพลั่ก เขามองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยแววตาขอโทษ “แม่นางกู้ ข้าขออภัย ข้าขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

เสี่ยวเซิ่งจื่อเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เจ้าเป็นอะไรไปถึงสะเพร่ามากเช่นนี้ ถ้าเจ้าชนกับแม่นางกู้ขึ้นมาจะทำอย่างไร”

ลูกจ้างคนนั้นกำลังจะหลั่งน้ำตาด้วยความรู้สึกผิดและเอ่ยร้องขอความเมตตา “พี่เซิ่งจื่อ คราวหน้าข้าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแน่นอน ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว”