บทที่ 824 สองคนพบหน้ากัน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 824 สองคนพบหน้ากัน

บทที่ 824 สองคนพบหน้ากัน

อีกด้านหนึ่ง กู้ซินเถาแต่งกายสวยสดงดงามทุกวัน นางเดินวนเวียนรอบ ๆ อยู่ไม่ไกลจากตระกูลเจียง และกู้ฉวนลู่ยังมอบหมายให้ใครบางสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ที่เจียงหย่วนไป

ถ้าพบเจียงหย่วนก็ให้มารายงานเขาทันที

และแล้วกู้ซินเถาก็ได้พบกับเจียงหย่วน

เขาอยู่ที่หน้าประตูร้านจิ่นฝู

ตั้งแต่กลับมาที่เมืองหลิวเจีย เจียงหย่วนไม่เคยไปทานอาหารที่ร้านอื่นเลย หากเขาต้องการกินสิ่งใด เขาจะไปยังร้านจิ่นฝู และเขาจะจากไปทันทีหลังจากทานอาหารเสร็จ

ในที่สุด กู้ซินเถาก็ค้นพบว่าเจียงหย่วนอยู่ที่ไหน นางจึงรีบกลับไปจัดแจงตัวเองที่บ้าน ใช้ปิ่นปักผมที่หลิวเทียนฉือมอบให้ในครั้งนั้นปักผมอย่างสวยงาม และรีบตรงไปยังร้านจิ่นฝู

ในขณะนี้ เมื่อเดินขึ้นบันไดไปยังห้องรับรองบนชั้นสอง นางก็บังเอิญเจอกับเจียวหย่วนที่กำลังลงมาจากชั้นสองหลังจากทานอาหารเสร็จ

ทั้งสองบังเอิญพบเจอกันบริเวณบันได

คนนำทางเป็นลูกจ้างคนใหม่ และไม่รู้จักกู้ซินเถา

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ลูกจ้างเก่าที่ทำงานในร้านจิ่นฝูมาเป็นเวลาหนึ่งปีหรือสองปีก็อาจไม่รู้จักนาง

เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาแต่งกายดูดี ลูกจ้างในร้านก็คิดว่านางเป็นคุณหนูจากครอบครัวไหนสักครอบครัว แต่ไม่มีสาวรับใช้อยู่รอบตัว ดังนั้นเขาจึงเกิดความสงสัยเล็กน้อย

เมื่อเดินถึงขั้นพักบันได เมื่อเจียงหย่วนเห็นกู้ซินเถา ฝีเท้าของเขาก็หยุดลง ลูกจ้างคนนั้นจึงมองด้วยความสงสัย และเห็นคุณหนูคนนี้จ้องไปที่เจียงหย่วนด้วยท่าทางที่เศร้าโศก หากแต่แฝงไปด้วยความหลงใหล

ลูกจ้างในร้านคนนั้นงุนงงเล็กน้อย ท่าทางของหญิงสาวดูตกอยู่ในภวังค์ความหลงใหล ทว่า…

ครั้นหันกลับไปมองนายน้อยเจียง เขามองไปที่กู้ซินเถาอย่างสงสัยราวกับว่าเขาไม่รู้จักคนที่อยู่ข้างหน้า ทั้งสองจ้องมองกันและกันอยู่นานโดยไม่พูดอะไร ทันใดนั้น ใบหน้าของหญิงตรงหน้าก็เผยความคับแค้นใจออกมา

ในท้ายที่สุด หญิงคนนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า “ท่านพี่หย่วน” เจียงหย่วนจึงกลับมารู้สึกตัว

ปรากฏว่าหญิงตรงหน้าเขาคือกู้ซินเถา

ในบรรดาหญิงสาวที่เขารู้สึกทั้งหมด บางคนเรียกเขาว่านายน้อยเจียง บางคนเรียกเขาว่าเจียงหย่วน หากแต่ไม่มีใครเรียกเขาว่า ท่านพี่หย่วน ยกเว้นกู้ซินเทาที่เล่นกับเขาทุกวันในเวลานั้น

เมื่อได้พบเจอกับกู้ซินเถาอีกครั้ง อาจจะเป็นเพราะบางทีนางโตขึ้นเล็กน้อย ร่างกายจึงสูงกว่าเดิมและรูปร่างของนางก็มีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อน ถ้าเมื่อปีก่อนรูปลักษณ์ของนางเป็นเหมือนเด็กหญิง แต่ตอนนี้นางดูเหมือนหญิงสาวที่มากไปด้วยเสน่ห์

“ซินเถา” สีหน้าของเจียงหย่วนเปลี่ยนไปทันที เมื่อครู่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเฉยเมย แต่ตอนนี้กลายเป็นอ่อนโยนและน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความสนิทสนม เขาเรียกชื่อของกู้ซินเถาด้วยความรักใคร่

ตอนนี้ จู่ ๆ เจียงหย่วนก็เกิดความรู้สึกต้องการที่จะกอดนางไว้ในอ้อมแขน

ครั้นได้ยินเจียงหย่วนเอ่ยเรียกนางอย่างสนิทสนมเหมือนก่อน นางก็พลันรู้สึกว่ามีความรู้สึกบางอย่างผสมปนเนขึ้นในใจ ทันใดนั้น หยาดน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทันที

ความงามก็งดงามราวบทเพลง แม้แต่การร้องไห้ยังทำให้ผู้พบเห็นเกิดความสะเทือนใจ

ตอนนี้กู้ซินเถายังเป็นเด็ก อีกไม่กี่ปีข้างหน้านางจะเป็นเช่นไร?

เจียงหย่วนมีความรู้สึกบางอย่างภายในใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่งดงามมาก่อน แต่ในเมืองหลิวเจียนี้ ไม่มีใครที่เหมือนกับกู้ซินเถาอีกแล้ว

ในเมืองหลวง แม้ว่าเขาจะมีเจตนาอันเลวร้าย หากแต่เขาไร้ซึ่งความกล้า

สตรีผู้เลอโฉมที่เดินอยู่ตามท้องถนนอาจจะเป็นคุณหนูของบางครอบครัว ใต้เท้าของฮ่องเต้ล้วนเต็มไปด้วยตระกลูมั่งคั่ง และเป็นคนที่เขาไม่สามารถยุ่งด้วยได้

ตอนนี้เขากลับมาที่เมืองหลิวเจียนานแล้ว อาการบาดเจ็บของเขาเกือบจะหายดีเป็นปกติ ลองขบคิดเกี่ยวกับมันดูสิ

เจียงหย่วนรู้สึกมีความสุข ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย เขาก้าวเท้าเข้าไปหากู้ซินเถา และจะยื่นมือออกไปเพื่อเช็ดน้ำตาจากหางตาของเด็กสาวตรงหน้า เขายื่นมือออกไป และแล้วราวกับรู้สึกถึงความไม่เหมาะสมจึงชักมือกลับมา และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ซินเถา ไม่เจอกันนาน เจ้าสบายดีหรือไม่?”

เขาเป็นบุคคลสำคัญของเมืองหลิวเจีย เขาจะประพฤติตัวไม่เหมาะสมในร้านอาหารนี้ได้อย่างไร

หากมีใครพบเห็นเข้าและนำเรื่องนี้ไปรายงานถึงหูท่านแม่ เขาคงจะถูกนางทุุบตีจนระบม

เจียงหย่วนทำได้เพียงดึงมือที่จะสัมผัสกับกู้ซินเถากลับมาเท่านั้น แต่ในใจกลับรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

ผิวพรรณของกู้ซินขาวผ่องดั่งไข่ปอก ทั้งเนียนนุ่มและขาวผ่อง ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรหากใช้มือสัมผัสลูบไล้ใบหน้านั้น

ครั้งสุดท้ายที่พบกู้ซินเถาคือเมื่อครึ่งปีก่อน

ในเวลานั้น กู้ซินเถามาเล่นกับเขาทุกวัน และนางก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่เขาต้องการจะทำ แรกเริ่มเดิมที เขายังรู้สึกว่ากู้ซินเถาเป็นเด็กสาวขี้อายและมารยาทดี

แต่หลังจากนั้นไม่นาน แม้จะไม่ได้สัมผัสมือของกู้ซินเถา แต่มันก็ทำให้หัวใจของเจียงหย่วยหวั่นไหว

เขาไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานกับกู้ซินเถา แต่เขาแค่เล่นกับกู้ซินเถาเพื่อฆ่าเวลา

แต่ถ้าจะแต่งให้นางเข้ามาเป็นอนุภรรยาก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้

หากแต่การเป็นอนุภรรยาไม่ใช่เรื่องภาคภูมิใจ ยิ่งเจียงหย่วนคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเศร้ามากเท่านั้น

เขาใช้เวลาและความพยายามอย่างมากกับร่างกายของกู้ซินเถา แม้แต่จะจับมือ เขาก็ยังทำไม่ได้

ยิ่งคิดถึงมันมากเท่าไรก็ยิ่งโกรธเคืองมากเท่านั้น แม้ว่าจะได้เจอหน้ากู้ซินเถา แต่ในใจของเขาก็รู้สึกเบื่อหน่าย

นางมักจะโอ้อวดตัวเองว่าเป็นลูกสาวของครอบครัวร่ำรวย แต่ที่นี่นางอยู่ลำพังกับผู้ชายทุกวันโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่านางมีแรงจูงใจซ่อนเร้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่แม่ของกู้ซินเถาถูกคุมขังอีกครั้ง ทันทีที่ฮูหยินเจียงพูดถึงเรื่องนี้ เจียงหย่วนก็ลืมที่สัญญากับกู้ซินเถาในทันที

เขารีบไปที่เมืองหลวง และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานกว่าครึ่งปี

ตลอดระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา ความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงทำให้เขาตกอยู่ในความหลงใหล เขาจะจำได้อย่างไรว่ามีกู้ซินเถาในเมืองหลิวเจียที่เขาไม่สามารถคว้ามาได้

จนกระทั่งมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น

เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เจียงหย่วนกลับมารู้สึกตัว และเห็นกู้ซินเถาพยักหน้าก่อนนางจะส่ายหน้า

นางไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

เจียงหย่วนกวาดสายตามองรอบ ๆ มีแขกจำนวนมากกำลังมองมาทางนี้

ยิ่งไปกว่านั้น คนที่พากู้ซินเถาขึ้นมาก็มองพวกเขาด้วยความสนอกสนใจอย่างมาก ราวกับว่าเขากำลังดูการแสดงอันยอดเยี่ยม

การใช้ชีวิตอยู่ในเมื่อหลวง แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความสนุก แต่มันก็อยู่ใต้เท้าของฮ่องเต้ หากคว้าชายหรือหญิงด้วยมือนี้อย่างไม่สนใจสิ่งใด คนผู้นั้นอาจเป็นนายน้อยหรือคุณหนูจากครอบครัวที่ร่ำรวย

แม้ว่าเจียงหย่วนจะนิสัยเสียตั้งแต่ยังเด็ก ในเมืองหลิวเจียเล็ก ๆ แห่งนี้ เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ในเมืองหลวงนั้น เขาแทบไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย