ตอนที่ 812 พ่ายแพ้

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 812 พ่ายแพ้

ลูกธนูพุ่งผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวทหารที่ประกาศกร้าวว่าตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วได้แล้วถูกธนูยิงเข้าที่ศีรษะ เสียงเงียบลงในทันที เลือดสดกระจายทั่วบริเวณ

ธนูลอยทะลุศีรษะของทหารต้าเหลียงผู้นั้นปักลงบนเสาไม้ที่ค้ำยันกระโจมที่พักในค่ายทหาร ปลายธนูสั่วไหวอย่างรุนแรง

ไป๋ชิงเหยียนกระชากบังเหียนม้าด้วยมือข้างเดียวจนม้าหยุดลง

ม้ายกเท้าขึ้นกลางอากาศด้วยความหงุดหงิด จากนั้นร้องลั่น

เฉาเหรินอี้ที่กำลังต่อสู้อยู่หันกลับไปมอง

ไฟในกระโจมที่พักใหญ่สว่างจ้า เปลวไฟบนคบเพลิงสูงถูกลมพัดจนลุกโหมขึ้น ค่ายทหารสว่างไปทั้งค่าย

ไป๋ชิงเหยียนถือธนูเซ่อรื้อนั่งอยู่บนหลังม้า เกราะสีเงินของหญิงสาวถูกแสงไฟสะท้อนราวกับมีเปลวเพลิงอยู่รอบกายของหญิงสาว

คนและม้า ดูราวกับเทพสังหารที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ร่างเต็มไปด้วยไอสังหารและทรงพลัง

ไป๋ชิงเหยียนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนเพราะต้องการปลอบขวัญกองทัพจิ้น หญิงสาวตะโกนเสียงดังลั่น

“ไป๋ชิงเหยียนอยู่ที่นี่ ผู้ใดอยากตายก็เข้ามา!”

บรรดาทหารต้าจิ้นที่กำลังสู้รบอยู่กับศัตรูเห็นร่างของไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่บนหลังม้า รอบกายเต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่ร้อนแรง เสื้อคลุมกันลมสีแดงสยายตามลมราวปีกของเหยี่ยว เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวตะโกนลั่น เลือดในกายของพวกเขาพุ่งพล่านขึ้นทันที ต่างบุกเข้าไปต่อสู้กับศัตรูอย่างฮึกเหิม

เฉาเหรินอี้แย่งธนูไปจากมือของทหารข้างกาย เขาหยิบลูกศรออกมา จากนั้นเล็งยิงไปทางไป๋ชิงเหยียนที่กำลังยิงธนูใส่ทหารต้าเหลียงที่บุกเข้าหานางอย่างไม่หยุดหย่อน

ลูกธนูแหลมคมพุ่งไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างรวดเร็ว เฉาเหรินอี้กลั้นลมหายใจ จ้องมองลูกธนูที่เขายิงออกไปนิ่ง เขาภาวนาขอให้ธนูดอกนี้ของเขาไม่พลาดเป้า มิเช่นนั้นไป๋ชิงเหยียนที่ถนัดการใช้ธนูเช่นเดียวกันจะรู้ตำแหน่งของเขาในทันที

ขณะที่เฉาเหรินอี้คิดว่าธนูที่เขายิงออกไปต้องแทงทะลุเกราะเงินของไป๋ชิงเหยียน ปักลงที่อกของนางแน่ ลูกธนูอีกดอกหนึ่งโผล่มากลางอากาศ พุ่งใส่ลูกธนูของเขาจนหักเป็นสองท่อน

ร่างของบุรุษในชุดเกราะสีเทาซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าสีดำถือดาบยาวคุ้มกันอยู่ด้านหน้าไป๋ชิงเหยียน ดวงตาลึกล้ำและเยือกเย็นของเขาจ้องมาทางเฉาเหรินอี้ แววตาของเขาคมกริบราวกับมีด ไอสังหารรุนแรงมหาศาลมาก

สองสายตาประสานกัน เฉาเหรินอี้รู้สึกเสียวสันหลังวูบกับสายตาที่เยือกเย็นของบุรุษผู้นั้น

เมื่อพบตำแหน่งของเฉาเหรินอี้ เซียวหรงเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ชายหนุ่มชี้ดาบไปทางเฉาเหรินอี้ เยว่สือที่อยู่บนหลังม้าศึกได้รับสัญญาณจากเจ้านายของตัวเองจึงไม่สู้รบกับทหารต้าเหลียงต่ออีก เขาพุ่งกายไปทางเฉาเหรินอี้อย่างรวดเร็วราวกับนกนางแอ่น สายตาจับจ้องไปยังเฉาเหรินอี้นิ่ง ทว่า เสิ่นชิงจู๋กลับพบตำแหน่งที่เซียวหรงเหยี่ยนชี้เร็วกว่าเยว่สือ หญิงสาวพุ่งตัวออกไปเร็วกว่าเยว่สือครึ่งก้าว นางชักดาบสองเล่มออกมาจากทางด้านหลัง ความคมของดาบโผล่ออกมาทันที

เฉาเหรินอี้มองเห็นเงาดำสองเงากำลังพุ่งตรงมาทางเขาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด คมดาบฟาดลงที่ใด พลทหารโล่ที่คุ้มกันเขาอยู่ต่างพากันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที บัดนี้พวกเขาใกล้ถึงร่างของเฉาเหรินอี้แล้ว

ในขณะเดียวกันหยางอู่เช่อก็นำกองทัพบุกเข้ามาในค่ายทหารแล้วเช่นเดียวกัน ผลแพ้ชนะชัดเจนแล้ว

ไม่รอให้เฉาเหรินอี้ได้สติ ดาบยาวของเสิ่นชิงจู๋ฟันลงไปบนศีรษะของเฉาเหรินอี้

วินาทีที่ดาบฟันลงมา เฉาเหรินอี้รีบยกดาบขึ้นป้องกันทันทีโดยสัญชาตญาณ เสียงดาบคมสองเล่มกระทบกันช่างแหลมบาดหูยิ่งนัก

เยว่สือให้ความร่วมมือกับเสิ่นชิงจู๋ เขาใช้ดาบแทงไปที่หน้าอกของเฉาเหรินอี้ ดาบแทงทะลุเกราะของเฉาเหรินอี้ โดนอกเข้าอย่างจัง ทหารที่อยู่ข้างกายเฉาเหรินอี้ไม่มีเวลาป้องกันเสิ่นชิงจู๋

กลุ่มทหารที่มีหน้าที่คุ้มกันเฉาเหรินอี้ค่อยๆ ถอยหลังไปเรื่อยๆ

ทว่า เฉาเหรินอี้คาดไม่ถึงว่าสตรีที่มีใบหน้าเย็นชาตรงหน้าจะใช้ดาบสั้นที่มือซ้ายของนางโจมตีมาที่ศีรษะของเขา เหมือนต้องการจะตัดศีรษะของเขาให้ได้ ไม่เหมือนกับสหายของนางที่อยู่ด้านข้างแม้แต่น้อย ครั้งนี้เฉาเหรินอี้ต้องตายอย่างแน่นอน

สองคนนี้มีวรยุทธ์ที่เก่งกาจ ทุกกระบวนท่าล้วนโจมตีจุดสำคัญ หากไม่ใช่เพราะมีคนจำนวนมากคอยปกป้องเขาอยู่ เขาคงตายไปนานแล้ว

เฉาเหรินอี้กุมหน้าอกของตัวเองแน่น ความตระหนกในใจยังคงไม่สงบลง เขามองดูทหารที่กำลังต่อสู้เพื่อปกป้องเขา มองดูเสิ่นชิงจู๋และเยว่สือที่กำลังพุ่งตรงมาทางเขา

“ยกธงยอมแพ้!” เฉาเหรินอี้ตวาดเสียงรอดไรฟัน “แม่ทัพคุ้มกันเมืองต้าหมิงยอมจำนนแล้ว!”

“ท่านแม่ทัพ!” แม่ทัพต้าเหลียงที่ช่วยประคองร่างของเฉาเหรินอี้มองไปทางเฉาเหรินอี้อย่างไม่อยากเชื่อ

“กองทัพของเรามีคนทรยศอย่างแน่นอน กองทัพจิ้นเตรียมรับมือกับพวกเราไว้ก่อนแล้ว พวกเขาบุกโจมตีจากสองด้าน จะปล่อยให้บรรดาทหารเสียสละตัวเองต่อไปเช่นนี้ไม่ได้แล้ว ยกธงยอมแพ้!” ในเมื่อเฉาเหรินอี้รู้ผลแพ้ชนะของสงครามครั้งนี้แล้ว เขาจึงไม่คิดยื้ออย่างไม่มีประโยชน์ต่อไปอีก เขาก้มมองหน้าอกของตัวเองแน่นพลางตะโกนออกมาอีกครั้ง “ยกธงยอมแพ้!”

ตอนแรกเฉาเหรินอี้เคยกังวลว่าไป๋ชิงเหยียนอาจสังหารทหารที่ยอมจำนนเหล่านี้ ทว่า บัดนี้ดูเหมือนว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการลบล้างชื่อเสียงโหดร้ายที่เคยสังหารทหารยอมจำนนของซีเหลียง หญิงสาวรับทหารยอมจำนนของต้าเหลียงเข้าสังกัดของตัวเองทั้งหมด อีกทั้งให้หมอทหารช่วยรักษาอาการป่วยให้ทหารและชาวบ้านของต้าเหลียงอีกด้วย เฉาเหรินอี้จึงไม่กังวลเรื่องนี้อีก

แม่ทัพที่คุ้มกันเฉาเหรินอี้ไว้ตรงกลางขบกรามแน่นพลางใช้หอกยาวยกธงขาวขึ้นสูง

เมื่อธงขาวของกองทัพศัตรูถูกยกขึ้น เสิ่นชิงจู๋และเยว่สือจึงไม่อาจสังหารเฉาเหรินอี้ได้อีกต่อไป กองทัพสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดค่อยๆ สงบลงโดยมีเฉาเหรินอี้ยืนอยู่ตรงกลาง

เสิ่นชิงจู๋มองดูเฉาเหรินอี้แวบหนึ่ง หญิงสาวลดดาบลง จากนั้นหมุนตัวเดินกลับไปหาไป๋ชิงเหยียน

วันที่สามสิบ เดือนสิบสอง รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบเจ็ด แม่ทัพเฉาเหรินอี้แห่งเมืองต้าหมิงนำทัพทหารหกหมื่นนายบุกโจมตีค่ายทหารของต้าจิ้นยามวิกาล ทว่า เขาติดกับของต้าจิ้น ยอมจำนนอย่างสะบักสะบอม

หยางอู่เช่อนำกองทัพบุกล้อมทหารต้าเหลียงไว้ ยังไม่ทันลงมือต่อสู้ เฉาเหรินอี้ก็ยอมจำนนเสียก่อน

เฉาเหรินอี้ที่ถูกทหารต้าเหลียงคุ้มกันอยู่ตรงกลางท่ามกลางสงครามที่วุ่นวายมองไปทางกระโจมใหญ่ที่จุดไฟสว่าง เขาเห็นร่างในชุดเกราะของไป๋ชิงเหยียนลงจากหลังม้า ยืนออกคำสั่งกับหยางอู่เช่ออยู่หน้ากระโจมที่พักด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เมื่อหยางอู่เช่อได้รับคำสั่ง เขาจึงกระโจนขึ้นไปบนหลังม้า ตะโกนสั่งให้กองทัพจิ้นปลดอาวุธของทหารต้าเหลียง จากนั้นพาตัวกองทัพต้าเหลียงทั้งหมดไปกุมขัง

บัดนี้เฉาเหรินอี้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก เขานำทัพมาที่นี่ในวันนี้เพราะต้องการตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ก็จับเป็นนางให้ได้

ทว่า เขาพ่ายแพ้ตั้งแต่เริ่มทำสงครามแล้ว

เขาพ่ายแพ้โดยที่ยังไม่ได้แตะต้ององค์หญิงเจิ้นกั๋วแม้แต่ปลายเล็บ

เฉาเหรินอี้ขบกรามมองไปทางหยางอู่เช่อที่กำลังตรงมาทางเขา เฉาเหรินอี้รอให้หยางอู่เช่อพาเขาไปพบองค์หญิงเจิ้นกั๋วแห่งต้าจิ้นในฐานะแม่ทัพผู้ยอมจำนน เขาจะถามนางว่าผู้ใดในกองทัพเขาทรยศเขากันแน่ เขาจะให้มันได้เห็นดีแน่นอน! เมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วคิดว่าเขายอมสวามิภักดิ์ต่อนางแล้วจริงๆ เขาค่อยแว้งกัดนางอีกครั้ง

ทว่า หยางอู่เช่อทำเพียงปรายตามองมาทางเขาเพียงเล็กน้อย จากนั้นตะโกนสั่งเสียงดัง “จับบรรดาแม่ทัพคุ้มกันเมืองต้าหมิงขังแยกกันทุกคน”

เมื่อเฉาเหรินอี้เห็นว่าหยางอู่เช่อไม่ได้มีท่าทีจะพาเขาไปหาองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เขาจึงเอ่ยถามขึ้น “หยางอู่เช่อ! องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่พบข้าอย่างนั้นหรือ”

หยางอู่เช่อกำหมัดคารวะเฉาเหรินอี้ “ขออภัยแม่ทัพเฉาด้วย บัดนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วยังไม่มีเวลา ข้าจะให้หมอทหารมาทำแผลให้แม่ทัพเฉาก่อน”

เฉาเหรินอี้รู้สึกประหลาดใจมาก องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ควรรีบพบหน้าเขาเพื่อขอให้เขาช่วยนางยึดเมืองต้าหมิงอย่างนั้นหรือ

เฉาเหรินอี้ยืนขึ้นโดยไม่สนใจบาดแผลของตัวเอง จากนั้นกล่าวกับหยางอู่เช่อยิ้มๆ “หยางอู่เช่อ เจ้าไปถามองค์หญิงเจิ้นกั๋วทีว่านางต้องการยกทัพบุกไปยังเมืองต้าหมิงจนเกิดการสูญเสียอีกหรือต้องการให้ข้าช่วยเพื่อที่จะเข้าไปในเมืองได้อย่างง่ายดายกันแน่”