บทที่ 884 ยังไม่ถึงวัยโตพอ
บทที่ 884 ยังไม่ถึงวัยโตพอ
ฉู่โหยวเจาถึงกับพูดไม่ออก
ในโลกมีคนที่ไร้ยางอายขนาดนี้ด้วยงั้นเหรอ?!!
ดีอยู่หรอกที่เจ้าช่วยพี่สาวข้าเรื่องเสื้อผ้า แต่ทำไมเจ้าถึงไม่ใส่กางเกงของตัวเองก่อน!
ฉู่โหยวเจาเอามือปิดหน้าทันที อย่างไรก็ตามนางแอบมองผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วของนาง “เอ่อ…ท่านตาเริ่มใจร้อน เขาบอกให้ข้ามาดูพวกท่าน…”
ในที่สุดฉู่ชูเหยียนก็ตั้งสติได้และกลับสู่ความเยือกเย็น “รู้แล้ว เดี๋ยวเราจะรีบกลับไป”
ในเวลาเดียวกัน นางหยิกเอวของซูอัน ชายผู้นี้ทำให้ข้าอับอายอีกแล้ว!
เสียงเย็นชาของพี่สาวนางทำให้ฉู่โหยวเจามีสีหน้าประหลาด
พี่ใหญ่ ภาพลักษณ์ของท่านพังไปแล้ว! สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของข้าตอนนี้คือภาพของท่านสองคนกำลัง…
“ข้า…ข้าจะไปรายงานท่านตา… เขาจะได้ไม่ส่งใครมาที่นี่อีก!” ฉู่โหยวเจายังคงเป็นหญิงสาว แม้ว่านางจะอยากรู้อยากเห็น แต่ความเขินอายของนางก็ยังคงมีชัยในที่สุด นางหันหลังหนี
“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!” ฉู่ชูเหยียนเกือบจะน้ำตาไหล
ซูอันหัวเราะ “ไม่มีอะไรนี่ เราทุกคนคือครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว โหยวเจาไม่บอกใครหรอก”
ฉู่ชูเหยียนกัดริมฝีปากสีแดงอ่อนของนางและพูดเสียงเบา “ช่างเถอะ เรื่องเห็นเรามันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายเพราะโหยวเจา…ไม่ใช่น้องชายของข้า แต่เป็น…น้องสาวของข้า…”
แม้ว่านี่จะเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลฉู่ แต่นางคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้จากซูอัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเข้าใจผิดโดยไม่จำเป็นจึงดีที่สุดถ้านางอธิบายเรื่องนี้ล่วงหน้า
“อ้อ เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว” ซูอันตอบโดยไม่รู้ตัว
“หืม? ทำไมเจ้ารู้เรื่องนี้ด้วย??” ตอนนี้ถึงตาของฉู่ชูเหยียนที่ต้องแปลกใจ
“เอ่อ…ข้าช่วยนางไว้ตอนเราถูกโจมตีระหว่างการลอบสังหาร นั่นคือตอนที่ข้ารู้…” ซูอันพูดอย่างคลุมเครือ ไม่มีทางที่เขาจะยอมรับว่าบังเอิญสัมผัสหน้าอกของน้องสาวภรรยาตัวเอง
“ข้าคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเจ้าจะช่วยโหยวเจาเอาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะแบบนั้น” ฉู่ชูเหยียนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ “ตระกูลฉู่ของเราเป็นหนี้เจ้ามากจริง ๆ ข้าไม่รู้เลยว่าเราจะตอบแทนเจ้าอย่างไรดี”
ซูอันโอบแขนเบา ๆ รอบเอวอันอ่อนนุ่มของนาง “เราเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว อย่าทำกับข้าเหมือนเป็นคนนอกสิ”
ฉู่ชูเหยียนหน้าแดงและรีบผลักเขาออกไป “เลิกยุ่งได้แล้ว พวกเขาเริ่มรอเราไม่ไหวแล้ว”
ทั้งสองรีบกลับไปยังห้องโถงของคฤหาสน์
“ว่าอย่างไร? เจ้าตัดสินใจยังไง?” ฉินเจิ้งถามเบา ๆ
ชายชราจ้องไปที่ฉู่ชูเหยียนอย่างประหม่าเล็กน้อย กังวลว่าหลานสาวจะจากไปเหมือนฉินหว่านหรูในตอนนั้น…เขาอาจจะตายด้วยความโกรธถ้าเขาต้องผ่านเหตุการณ์ที่คล้ายกันถึงสองครั้ง!
แก้มของฉู่ชูเหยียนยังคงแดงเล็กน้อย นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แน่นอน ข้าจะอยู่กับท่านตา”
ฉินเจิ้งหัวเราะเสียงดัง “ยอดเยี่ยม! นี่คือหลานสาวของข้า! ไอ้คนแซ่ซู เจ้าได้ยินสิ่งที่นางพูดไหม?”
ซูอันพูดไม่ออกเมื่อเห็นการแสดงออกถึงชัยชนะของฉินเจิ้ง
ถามจริงเจ้าอายุเท่าไร? เจ้าทำตัวเหมือนเด็กไม่มีผิด เจ้าอาจจะโกรธจนตายถ้ารู้ว่าเมื่อครู่ข้าทำอะไรกับหลานสาวของเจ้า!
ข้าหวังว่าฉู่โหยวเจาจะสามารถเก็บความลับได้ แม้ว่าข้าจะไร้ยางอาย แต่ข้าก็ไม่คิดว่าฉู่ชูเหยียนจะหน้าหนาขนาดนั้น…
เขาเหลือบมองที่ฉู่โหยวเจาโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางจึงบังเอิญมองเขาอยู่เช่นกัน ตาของพวกเขาสบกัน และหัวใจของนางก็เต้นเร็วขึ้น นางหลบสายตามองออกไปทางอื่นทันที
ความสนใจของมู่หรงชิงเหออยู่ที่ฉู่โหยวเจาตลอดเวลา และนางก็สังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างแปลก ๆ
หืม? ทำไมพี่ฉู่หน้าแดง?
ช่างเถอะ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังหล่อ!
ผิวของพี่ฉู่ช่างดีเหลือเกิน แดงระเรื่อเหมือนดอกกุหลาบ ไม่เหมือนผิวคล้ำของข้า…
อันที่จริง นางไม่รู้ว่าผิวสีแทนและสุขภาพดีของนางนั้นมีเสน่ห์ต่อผู้ชายคนอื่นแค่ไหน นางเห็นแต่สาวผิวขาวทุกที่ในเมืองหลวง แม้ว่าปกติแล้วนางจะไม่คิดอะไร แต่นางก็อดกังวลไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก
ผิวของพี่ฉู่ก็สวย พี่ฉู่คงจะไม่ชอบผิวคล้ำ ๆ ของข้าเพราะพี่สาวของเขาขาวสวยขนาดนั้นแน่ ๆ เลยใช่ไหม?
หลังจากนี้ ข้าควรถามคนอื่นว่าพวกเขาใช้อะไรเพื่อทำให้ผิวขาวขึ้นดีหรือเปล่า?
แต่ถ้าพวกเขาหัวเราะเยาะข้าล่ะ…?
…
ซูอันเลือกเวลานี้พูดออกมา “เนื่องจากนี่เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของชูเหยียน ข้าจะเคารพมัน อย่างไรก็ตาม ข้าหวังว่าตระกูลฉินจะไม่กักนางไว้โดยที่นางไม่เต็มใจอีกต่อไป”
ทั้งสองคนได้คุยกันเรื่องนี้แล้ว ตราบใดที่ฉู่ชูเหยียนได้รับอิสรภาพคืน ทั้งสองก็สามารถแอบพบกันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ฉินเจิ้งตวาดอย่างโกรธจัด “ข้าต้องให้เจ้าสอนวิธีดูแลหลานสาวของข้างั้นหรือ!?”
เขากักตัวฉู่ชูเหยียนไว้เพียงเพราะกังวลว่านางจะหุนหันพลันแล่นไปช่วยซูอัน แต่ตอนนี้ซูอันปลอดภัยแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกักตัวนางอีกต่อไป
ข้าควรให้ชูเหยียนสอบถามอ้อม ๆ เกี่ยวกับข้อตกลงของซูอันกับจักรพรรดิ
ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาร้องขอหลานสาวเช่นนั้น และเขาไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเชื่อคำตอบของนางได้หรือไม่?
เมื่อได้รับบทสรุปซูอันก็ลุกขึ้นจากไป การต้องอยู่ร่วมกับชายชราที่หน้าตาถมึงทึงอยู่ตลอดเวลานั้นไม่สนุกเลย
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกอับอายกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และได้แต่มองสามีของนางและฉู่โหยวเจาเดินจากไป
มู่หรงชิงเหอต้องการตามพวกเขาออกไป แต่ฉินเจิ้งรั้งให้นางอยู่เพื่อถามเกี่ยวกับท่านตาของนาง นางทำได้แค่มองดูทั้งสองที่กำลังจากไปด้วยความอิจฉา แม้ว่านางจะรู้ว่าเดี๋ยวพี่ฉู่ก็กลับมา นางก็ยังอารมณ์เสีย
เมื่อทั้งสองมาถึงประตูคฤหาสน์ในที่สุดซูอันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป “เป็นบ้าอะไรของเจ้า? เจ้าจ้องข้าอยู่ตลอดทำไม?”
ฉู่โหยวเจาพ่นลมหายใจ “เจ้าไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าทำไมข้าถึงมองเจ้าแบบนี้!”
ซูอันตอบกลับ “หยุดเลย! เลิกคิดเรื่องลามกวน ๆ ในหัวของเจ้าได้แล้ว เจ้าอายุยังน้อยยังไม่ถึงวัยที่จะคิดเรื่องพวกนั้น ไม่งั้นระวังเอาไว้ให้ดีเจ้าจะหาเรื่องยุ่งยากมาสู่ตนเองก่อนวัยอันควร!”
ฉู่โหยวเจาถลึงตาจ้องมองเขาด้วยความโกรธจนพูดไม่ออก
ใครเป็นคนทำเรื่องลามกก่อนหน้านี้? นี่เจ้ายังมีหน้ามาสอนข้าอีกหรือ!
ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!
—
ท่านยั่วยุฉู่โหยวเจาสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
นางสูดหายใจเข้าลึกเพื่อปรับอารมณ์ “เมื่อคืนเจ้าเป็นคนพาข้ากลับมาที่คฤหาสน์หรือเปล่า?”
“ใช่” ซูอันไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องของเฉียวเสวี่ยอิง
“ข้าจำได้ว่าหมดสติ เจ้าพาข้ากลับมาที่นี่ได้อย่างไร?” แก้มของฉู่โหยวเจาเป็นสีชมพู