บทที่ 825 การปฐมพยาบาล

บทที่ 825 การปฐมพยาบาล

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากพวกเสิ่นจื่อเจินตื่นก็รีบไปกินข้าวเช้าแล้ว จากนั้นตรงดิ่งไปบ้านอันหรงเสวียทันที

ตอนไปถึงสองคนป่วยตื่นกันหมดแล้วและกำลังกินยาอยู่

พอเห็นเสี่ยวเถียน หลี่กุ้ยฮวาที่รู้จักจึงพยายามลงจากเตียง

“สาวน้อย ขอบคุณมาก ตอนนั้นเธอช่วยชีวิตเสี่ยวลิ่วจื่อ แล้วตอนนี้ก็ช่วยชีวิตพวกเราไว้อีก”

เด็กสาวดันอีกฝ่ายให้กลับไปนอนบนเตียง “คุณป้านอนลงดีกว่าค่ะ ร่างกายอุตส่าห์ดีขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งห่วงเรื่องอื่นเลยนะ”

หลี่กุ้ยฮวาอยากลุกขึ้นมาแสดงความขอบคุณเสี่ยวเถียน เพราะในใจเธอตอนนี้ เด็กสาวเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตแล้วพวกตนไส้

ถ้าไม่ได้เด็กคนนี้ช่วยเอาไว้ เธอกับหลานจะมีชีวิตรอดอยู่หรือเปล่า

ขณะที่กำลังคุยกันก็มีคนเข้ามา

คนเดินนำเป็นชายชราอายุหกสิบเศษ เขาเอ่ยทักทายเสิ่นจื่อเจินทันที ดูก็รู้แล้วว่ารู้จักกัน

“เสี่ยวเถียน คนนี้คือเลขาอัน เป็นเลขาหมู่บ้านหลัวช่างของตำบลทงเหลียงน่ะ”

ฐานวิจัยของเราอยู่ในหมู่บ้านหลัวช่าง เสิ่นจื่อเจินจึงสนิทกับคณะกรรมการหมู่บ้านนี้ดี

“ท่านนี้เองเหรอคุณหมอตัวน้อย? ผมได้ยินคนในหมู่บ้านบอกว่าทักษะทางการแพทย์ของหนูยอดเยี่ยมมาก”

เสี่ยวเถียนได้ยินก็รีบตอบด้วยความสุภาพ “เลขาอันสุภาพเกินไปแล้วค่ะ หนูมีความรู้ด้านนี้แค่เล็กน้อยเท่านั้นเอง”

“คุณหมอ บอกตามตรงนะ หมู่บ้านเรามีเด็กตกน้ำตายทุกปีเพราะอยู่ติดแม่น้ำนี่แหละ”

“ถ้าตกน้ำแล้วหมดสติด้วย ต่อให้เราช่วยไว้ได้ก็พาเขากลับมาไม่ได้อยู่ดี”

น้ำเสียงเลขาอันฟังดูเศร้าโศก

เขาเสียใจมาก ๆ ยามนึกถึงเด็กที่เสียชีวิตไป พวกเขาคือดวงใจของพ่อแม่ แต่กลับต้องจากไปแบบนั้น

ตอนได้ยินว่าเสี่ยวลิ่วจื่อตกน้ำ และได้เด็กผู้หญิงที่มีความรู้ด้านการแพทย์ช่วยเอาไว้หลังจากโคม่า เลยขบคิดกับตัวเอง

หวังว่าคนในหมู่บ้านจะได้เรียนรู้ทักษะพวกนั้นเอาไว้ติดตัวบ้างนะ ถ้าเป็นแบบนั้น จำนวนเด็กที่ตายจากการจมน้ำจะลดลงไหม?

แต่เรื่องแบบนี้มันคิดง่ายกว่าลงมือทำน่ะสิ

มันเป็นความสามารถของคนอื่นเขา ทำไมถึงกล้าขอกันตรง ๆ แบบนี้?

ถ้าอยากได้ สาวน้อยจะยินดีให้เหรอ?

“เด็กตกน้ำทุกปีหรือคะ?”

เลขาอันถอนหายใจ

“ปีที่แล้วหมู่บ้านเราเสียเด็กไปสองคน ปีก่อนหน้านั้นก็เสียไปสาม ส่วนปีนี้สองคน หมู่บ้านโดยรอบก็ไม่ต่างกันเลย หลังจากเสียเด็ก ๆ ไป ผู้ใหญ่ในบ้านก็ตามไปด้วยเช่นกัน”

เลขาอันปวดใจกับเรื่องนี้นัก

หลายปีมานี้เขาคิดมาแล้วทุกวิธี แต่สุดท้ายมันไม่ได้มีประโยชน์เท่าไร

เวลาอากาศร้อน พวกเด็กผู้ชายจะชอบลงเล่นน้ำกัน

ต่อให้ตีหรือดุด่าก็ยังแอบไปทำ ทั้งที่รู้ว่าทุก ๆ ปีจะมีเด็กตายจากการตกน้ำ แต่ก็อย่างว่า เด็กก็คือเด็ก พวกเขาไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะเป็นอะไร

ยิ่งวันหยุดในช่วงปิดเทอม พวกผู้ใหญ่จะยุ่งกันมาก ไม่สามารถควบคุมลูกหลานตนเองได้เลย

เสี่ยวเถียนตกใจกับจำนวน

เด็กตกน้ำเยอะขนาดนั้นทำไมถึงไม่ช่วยเอาไว้?

“ทำไมเยอะขนาดนั้นล่ะ?” เสิ่นจื่อเจินถามในสิ่งที่เธอคิด

เสี่ยวเถียนเลยตั้งใจฟัง

“ส่วนใหญ่หมดสติตอนช่วยไว้ได้น่ะ กว่าหมอจะมาพวกเขาก็…” เลขาอันพูดต่อไม่ไหว

ทุกคนเป็นเด็กดีกันทั้งนั้น!

ถึงจะซนไปหน่อย แต่ไม่ควรจากไปไวขนาดนี้สิ

“การปฐมพยาบาลไม่ใช่เรื่องยากนะคะ” เสี่ยวเถียนเอ่ย ไม่จำเป็นต้องรอหมอ คนในหมู่บ้านก็สามารถช่วยเหลือได้

แววตาเลขาอันสว่างขึ้น

เด็กคนนี้หมายความว่าอย่างไร?

“แต่ที่นี่ไม่มีใครมีความรู้ด้านนี้เลยนะคุณหมอ?”

น้ำเสียงเขาอ่อนลงจนแทบไม่กล้าพูด

“เดี๋ยวหนูสอนเองค่ะ หลังจากนี้พวกคุณก็จะสามารถช่วยเด็ก ๆ ได้แล้วนะ”

เสี่ยวเถียนตอบทันทีโดยไม่รอให้เขาพูดจบสักนิด เลขาอันก็เลยตอบตกลงทันทีด้วยใบหน้าที่บานเป็นกระด้ง

“ดีเลยครับคุณหมอ ขอบคุณมาก หมู่บ้านเราโชคดีจริง ๆ!”

“เสี่ยวเถียน งั้นวันนี้หลานสอนคนในหมู่บ้านนะ เดี๋ยวซานกงกับลุงจะไปที่ทุ่งนาแล้วกัน” เสิ่นจื่อเจินยิ้มอ่อนโยน

เขาเดาได้อยู่แล้วว่าเธอต้องเต็มใจสอน

“ได้ค่ะ เลขาอันหาคนมาหน่อยนะคะ เดี๋ยวหนูจะสอนเรื่องสำคัญ ๆ แล้วก็วิธีการโดยเฉพาะ อืม จะดีมากถ้ามีทั้งชายและหญิงค่ะ”

เสี่ยวเถียนคิดว่า ในยุคนี้มีผู้ชายช่วยผายปอดให้ผู้หญิงคงไม่ดีเท่าไร สอนทั้งชายหญิงไปเลยจะดีกว่า

เพราะมันก็ถือว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ช่วยชีวิตผู้ประสบภัยช้าได้เหมือนกัน

เดิมทีเลขาอันคิดว่าเสี่ยวเถียนคงจะสอนแค่คนเดียว แต่กลายเป็นว่ายินดีสอนให้หลาย ๆ คนด้วย

“เดี๋ยวผมจะเตรียมการทันทีเลยครับคุณหมอ หาชายหญิงที่เก่ง ๆ มาเรียนรู้เอาไว้ ไม่ต้องห่วงนะครับ หมู่บ้านเราจะจดจำพระคุณอันยิ่งใหญ่นี้ไว้”

“ไม่ถือว่าป็นพระคุณอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” เสี่ยวเถียนรีบบอก

วิธีการปฐมพยาบาลง่ายมากจริง ๆ นะ มันไม่ได้มีอะไรมากมายเลย แค่ช่วยคนได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

น่าเสียดายที่การสอนเรื่องนี้ช้าไปหน่อย ต้องรออีกสิบปีข้างหน้าเลย

เสี่ยวเถียนเอ่ยอย่างสุภาพ ชาวบ้านโดยรอบพากันยินดี

ปรากฏใบหน้าเบิกบานใจไปทั่ว และความรู้สึกชอบเด็กคนนี้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ

สาวน้อยคนนี้หน้าตาก็ดี ทักษะการแพทย์ก็ยอดเยี่ยม แถมมีจิตใจเมตตาอีก จะไม่เป็นที่ชื่นชอบได้ยังไง?

“คุณหมอ มากินข้าวเที่ยงที่บ้านผมสิ เดี๋ยวให้แม่สามีเตรียมของอร่อย ๆ ไว้ให้”

เลขาอันไม่มีวิธีใดจะขอบคุณสาวน้อยได้ จึงมีแค่วิธีนี้เท่านั้น

เสี่ยวเถียนรีบปฏิเสธ

แต่มีหรือที่เลขาอันจะยอม เขายังชวนคนทั้งสามไปกินข้าวอยู่ดี

มีคนสอนทำอาหารให้ทั้งที แล้วเราจะไม่แสดงฝีมือได้ยังไง?