บทที่ 824 ดีขึ้นมาก

บทที่ 824 ดีขึ้นมาก

เสี่ยวเถียนคิดก่อนมองเด็กชายที่นอนทรมานบนเตียง สุดท้ายแล้วเธอก็ทนไม่ได้

แม่เฒ่าอันคาดไม่ถึงเลยว่าเสี่ยวเถียนจะสามารถวินิจฉัยอาการหลานชายออกมาได้ด้วย

“หมอตัวน้อย คุณวินิจฉัยอาการของหลานชายได้จริง ๆ เหรอ?” แกถามด้วยความประหลาดใจ

มันเกิดจากตอนลูกสาวท้องแล้วครรภ์มีปัญหา หลานชายคนนี้เลยสุขภาพไม่ดีตั้งแต่เกิด เพราะงั้นพวกเราจึงพยายามอย่างมากที่จะดูแลเขา ขนาดเป็นหวัดเฉย ๆ ยังต้องกินยาอยู่หลายวันเลย

“หนูคิดว่าร่างกายเด็กควรได้รับการบำรุงและออกกำลังกายค่ะ สุขภาพของเขาจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน” เสี่ยวเถียนพยักหน้า

แม่เฒ่าตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินว่ามันจะดีกว่าตอนนี้

“คุณหมอตัวน้อยพูดจริงเหรอ? แล้วมีวิธีที่ทำให้เสี่ยวลิ่วจื่อดีขึ้นจริง ๆ ใช่ไหม?”

ลูกสาวกับลูกเขยทำงานอยู่ในเมือง ไม่รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาใช้เงินไปกับสุขภาพลูกมากเท่าไร แต่ทุกครั้งที่มีความหวัง กลับต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสมอ พวกเขาทั้งเหนื่อยกายและใจ ทั้งหมดก็เพื่อเด็กคนนี้

หากเด็กสาวคนนี้สามารถทำให้หลานชายดีขึ้นได้จริง ๆ เธอจะกลายเป็นผู้มีพระคุณต่อครอบครัวอันของเรา

เสี่ยวเถียนไม่รู้ว่าหญิงชราคิดอะไร แต่เธอคิดว่าตนสามารถทำได้ เลยพูดออกไป แล้วถ้าอีกฝ่ายปฏิเสธ เธอก็ไม่บังคับกันอยู่แล้ว

“หนูบอกได้แค่ว่าจะพยายามทำให้เขาป่วยน้อยลงในอนาคตค่ะ”

เธอไม่กล้ามั่นใจในคำพูดตัวเอง มีหลายครั้งที่อาการป่วยมันไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่สิ่งที่หญิงชราต้องการไม่ได้มากอะไร ขอแค่หลานชายดีขึ้นหน่อยก็พอ

จากนั้นเด็กสาวก็หันไปดูคนป่วย พวกเขากินยาลดไข้แล้ว แต่ผลยังไม่ชัดเจนเท่าไร แสดงว่ายังอาการค่อนข้างหนัก

เสี่ยวเถียนวานคนช่วยใช้ผ้าประคบเย็น

โชคดีที่ยาต้มเสร็จไว หลังจากทิ้งไว้ให้พอเย็นลง อันหรงเสวียก็ป้อนยาภรรยาและหลานชายพร้อมด้วยความช่วยเหลือคนอื่น ๆ

ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว เสี่ยวเถียนใกล้หลับเต็มทีแต่คนป่วยอาการยังไม่ดีขึ้น จำต้องทนระวังต่อไป

เสิ่นจื่อเจินใกล้หลับไปเหมือนกัน แต่ก็พยามยามฝืนเอาไว้ จู่ ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าถ้ารู้เร็วกว่านี้คงให้พี่สามมาด้วย จะได้มาเปลี่ยนกับลุงเขยให้แกไปนอนพัก

ถึงทุกคนจะเป็นมิตร แต่เสี่ยวเถียนไม่สนิทกับพวกเขา เพราะงั้นจึงไม่กล้าอยู่ตัวคนเดียว ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วอยู่ตามลำพังคงทำอะไรไม่ถูกแน่ โชคดีที่หลังจากให้ยาไปไม่นาน อาการของทั้งสองค่อย ๆ คงที่ขึ้น ใบหน้าแดงก่ำก็จางลงไปด้วย

“ป้าดูสิ พี่สะใภ้กุ้ยฮวาดีขึ้นแล้ว!” มีคนนึงแตะหน้าผากหลี่กุ้ยฮวา ก่อนร้องด้วยความตกใจ

เสี่ยวเถียนใช้มืออังหน้าผาก หลี่กุ้ยฮวาตัวไม่ร้อนเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

ต่อไปก็เสี่ยวลิ่วจื่อ

เด็กคนนี้ดีขึ้นนิดหน่อย แต่ตัวเขายังร้อนอยู่ ด้วยสภาพร่างกายของหลี่กุ้ยฮวาดีกว่าจึงทำให้เธอฟื้นตัวได้ไว เวลารักษาผู้ป่วยนี่คือสิ่งที่ยากที่สุด

จะเสียงดังก็ไม่ได้ เงียบไปก็ไม่ดี จวบกระทั่งเวลาตีสอง อุณหภูมิร่างกายของเสี่ยวลิ่วจื่อลดลงเรื่อย ๆ เสี่ยวเถียนถึงค่อยโล่งใจ เพราะร่างกายของเด็กน้อยอ่อนแอมากเธอจึงค่อยข้างเป็นกังวล

ถ้าไม่จับชีพจรบ่อย ๆ และรู้ว่าเขาดีขึ้นจริง ๆ ก็ได้แต่พะว้าพะวังอยู่อย่างนั้น

ตอนนี้อาการของหลี่กุ้ยฮวาคงที่แล้ว ส่วนเสี่ยวลิ่วจื่อก็ดีขึ้น

คนรอบ ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก

“ขอบคุณมากเลยนะ ขอบคุณคุณหมอตัวน้อย!” จู่ ๆ อันหรงเสวียก็เข้ามาคุกเข่าต่อหน้าเสี่ยวเถียนโดยไม่คาดคิด

เสี่ยวเถียนตกใจจนรีบหลบออกไปข้าง ๆ ไม่รับความเคารพนี้ไว้

“หรงเสวีย ทำแบบนี้ไม่ได้นะ เสี่ยวเถียนยังเด็ก เธอแบกรับของเช่นนี้ไม่ไหวหรอก!”

เสิ่นจื่อเจินตกใจไม่แพ้กัน เลยคว้าแขนเสื้ออีกฝ่ายหมายดึงเขาขึ้น

หลังจากประสบความหวาดกลัวในค่ำคืนนี้ สิ่งเดียวที่อันหรงเสวียคิดได้คือ การขอบคุณซูเสี่ยวเถียน เขายืนกรานที่จะคำนับเธอ

“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้จริง ๆ นะคะลุงอัน แค่บังเอิญช่วยไว้ได้ทันค่ะ” เสี่ยวเถียนเอ่ยอย่างสุภาพ

ช่วยทันจริง ๆ นะ ถ้าไม่ทัน ก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผู้ใหญ่จะรอดไหม ส่วนเด็กคงไม่ต้องหวังแล้ว

เสี่ยวเถียนแนะนำเพิ่ม และให้ยาทั้งสองเพิ่มอีกครั้งตอนเช้ามืด จากนั้นก็กลับไปพักผ่อน

เธอยังเด็ก แต่ลุงเขยทนไม่ไหวแล้ว

จะปล่อยให้ตัวเองทรมานเพื่อคนอื่นไม่ได้นะ

คนในหมู่บ้านขอบคุณเสี่ยวเถียนที่ให้ความช่วยเหลือ ก่อนจะไปส่งพวกเขาที่ฐานวิจัยอย่างกระตือรือร้น มองจนพวกเขาเข้าบ้านไปถึงค่อยกลับ

ส่วนซานกงนอนไม่หลับแม้ไม่ได้ตามไปด้วย

“ถ้าพี่รู้พี่คงไปด้วย แล้วเป็นยังไงบ้าง? พวกเขาดีขึ้นไหม?” ซานกงถามอย่างกระตือรือร้น

เสี่ยวเถียนมองกลับด้วยความภาคภูมิใจ “พี่สามไม่เชื่อในความสามารถน้องหรือ?”

คนพี่บีบหน้าน้อง “ซนจริง ๆ เลยนะ! อาจารย์ ทำไมถึงเพิ่งกลับมากันล่ะ? ถ้ารู้ไวกว่านี้ผมคงไปด้วยแล้ว ไม่ต้องร้อนใจอยู่นี่หรอก!”

เขาได้ยินเสิ่นจื่อเจินคุยแต่ไม่ได้ตามไปด้วย พอจะไปก็ไม่รู้ทางอีกจึงได้แต่นอนรอในบ้านอย่างใจจดใจจ่อ

เป็นความรู้สึกที่อึดอัดยิ่งกว่าไปด้วยกันอีก

“รีบกลับไปนอนเถอะ สองคนนั้นที่ตกน้ำยังไข้ขึ้นสูงเชียว นี่คิดจะป่วยตามไปด้วยหรือ?” คนเป็นอาจ้องเขม็งใส่แล้วไล่ไปนอน

ส่วนตาแก่แบบเขาไม่เหมือนหนุ่ม ๆ หรอก ต้องเข้านอนแล้ว!

“พี่สามไปนอนเถอะ พรุ่งนี้เช้าต้องไปดูคนป่วยด้วย” เสี่ยวเถียนเร่งเร้า

ซานกงรีบตอบ “เธอก็ด้วย ไว้ที่เหลือค่อยคุยกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทางนั้นคงมาหาเองนั่นแหละ!”

จากนั้นทั้งสามก็กลับไปพักผ่อน

อันหรงหัวกลับบ้านมาคุยกับภรรยาเรื่องที่เสี่ยวเถียนได้บอกเอาไว้ เขาถอดถอนใจ เด็กในเมืองมีความแตกต่างจริง ๆ เก่งกันมากเลย

ภรรยาอันหรงฮวายิ่งรู้สึกเคารพต่อเสี่ยวเถียนมากกว่าเดิม