บทที่ 721 วิกฤติแห่งสวรรค์ (3)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 721 วิกฤติแห่งสวรรค์ (3)

ข้าจะพบกับราชินีโฮ่วถู่โดยผ่านพวกนางได้อย่างไร?

ข้าต้องกำราบร่างจำแลงทั้งสองร่างหรือไม่?

หากพวกเขาสู้กันที่นี่จริงๆ และนางมารร้ายน้อยจะปลดปล่อยการกำราบของนางอีกครั้ง ก็น่ากลัวว่า เขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง

หลังจากใคร่ครวญ และชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียอย่างถ้วนถี่แล้ว หลี่ฉางโซ่วก็คิดแผนขึ้นในใจได้อย่างรวดเร็ว

จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นอีกครั้งและจับจ้องมองทั้งสองร่างจำแลงแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นอย่างสงบ เห็นได้ชัดว่า พวกนางเปลี่ยนมาจากสิ่งมีชีวิตเดียวกัน แต่ร่างจำแลงแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดก็ไม่ได้มีความคล้ายคลึงกันมากนัก

ทันใดนั้นนางมารร้ายน้อยก็กัดฟันและตวาดว่า “มองอันใดกัน! หากเจ้ายังมองอยู่อีก ข้าจะแกะสลักเต่าบนหน้าเจ้า!”

“ท่านทั้งสอง ข้าอยากพบราชินีโฮ่วถู่”

“ฮิฮิฮิ”

บัดนั้นร่างจำแลงแห่งความปรารถนาก็ค่อยๆ นอนตะแคงข้างอยู่ตรงหน้าหลี่ฉางโซ่ว นางกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “แล้วพวกเราไม่ใช่ราชินีโฮ่วถู่ที่เจ้ากำลังมองหาอยู่หรือเล่า?”

นางมารร้ายน้อยตะคอกอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“หากเจ้าพบร่างหลักที่เพียงรู้วิธีทำร้ายข้าเท่านั้น แล้วเจ้าไม่คิดจะสังหารพวกเราบ้างหรือ?

เหอะ! ฝันไปเถิด!”

“แล้วพวกเราจะดึงดันกันไปเยี่ยงนี้หรือ?”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ข้ามีสมบัติที่ปกป้องข้า พวกท่านทั้งสองคนไม่อาจทำร้ายข้าได้ เช่นนั้น ไยพวกท่านถึงไม่ปล่อยให้ข้าได้ไปพบกับราชินีโฮ่วถู่เล่า? แล้วพวกเราสองคน ศิษย์พี่ของข้าและข้าจะออกไปจากที่นี่ทันทีหลังจากนั้น

พวกท่านทั้งสองคนเป็นราชินีโฮ่วถู่เช่นกันก็จริง แต่พวกท่านทั้งคู่ต่างก็ได้ผ่านไปถึงสุดขีดขั้วของอารมณ์ทั้งเจ็ดแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็ไม่ใช่การเข่นฆ่าหรือทำลายล้าง พวกท่านล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน สิ่งที่ข้าต้องการพบก็เป็นเพียงราชินีโฮ่วถู่ที่อยู่ในอารมณ์ปกติธรรมดาเท่านั้น”

“ไม่ เจ้าผิดแล้ว”

ร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” หรี่ตาและแย้มยิ้ม

ในขณะนั้นรอยยิ้มของหลี่ฉางโซ่วก็ค่อยๆ จางหายไป จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “มีอันใดผิดไปหรือ?”

“ข้าไม่อาจทำร้ายเจ้าได้หรือ?”

ทันใดนั้นร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” ก็ค่อยๆ ลอยขึ้นราวกับว่านางกำลังดำดิ่งอยู่ในวารี แล้วนางก็ยกมือขึ้นและแตะนางมารร้ายน้อยเบาๆ

จากนั้นนางก็กลายเป็นกลุ่มควันสีชมพู เข้าห่อหุ้มและแทรกซึมเข้าไปในร่างของหลี่ฉางโซ่ว แล้วเหลือทิ้งไว้เพียงประโยคเดียวเท่านั้น

“วันนี้ข้าจะให้ความปรารถนาแก่เจ้า เป็นความปรารถนาของเจ้า แล้วเจ้าจะต้านทานได้อย่างไร?”

ให้ความปรารถนาแห่งใจของข้าได้หรือ? ท่านทำเช่นนั้นได้หรือ?

หัวใจของหลี่ฉางโซ่วตึงเครียดขึ้น

เขารีบเรียกศิษย์พี่ของเขาในใจ แต่จู่ๆ ภาพที่ไม่อาจอธิบายได้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา

บัดนั้นคลื่นความร้อนได้พุ่งออกมาจากร่างของหลี่ฉางโซ่ว แล้วกลายเป็นคลื่นความร้อนที่กลืนกินทั่วทั้งหอ

ใบหน้าและใบหูของหลี่ฉางโซ่วพลันแดงก่ำ และมีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นที่ลำคอของเขา…

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินเสียงร้องตะโกน

“เจ้าทำอันใดกับข้า!”

ใบหน้าของนางมารร้ายน้อยเป็นสีแดงก่ำในขณะที่นางก่นด่าสาปแช่ง “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฆ่าเจ้า!

ข้าก็เป็นต้าเต๋อโฮ่วถู่เช่นกัน!

เจ้าทำให้ข้าทำเรื่องเช่นนี้จริงๆ!

แล้วข้าไม่ต้องการใบหน้า[1]ของข้าใช่หรือไม่!?!”

ขณะกล่าว นางมารร้ายน้อยก็กัดริมฝีปากของนางอย่างแรง ดวงตาของนางสั่นไหวเป็นระลอกคลื่นเล็กน้อย นางก้าวครึ่งก้าวออกไปหาหลี่ฉางโซ่วอย่างไม่อาจควบคุมได้ และลมหายใจของนางก็ร้อนผ่าวขึ้นแล้ว

แม้เขาจะพยายามอดทนอย่างสุดความสามารถ แต่ใจของเขาก็ใกล้จะพังทลายลงแล้ว

ร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” ได้เผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมาในใจของหลี่ฉางโซ่ว และภาพที่ไม่อาจบรรยายได้ก็เติมเต็มหัวใจของหลี่ฉางโซ่ว และปราณวิญญาณของหลี่ฉางโซ่วก็เริ่มได้รับผลกระทบจากความปรารถนานี้เช่นกัน

ถึงกระนั้น หลี่ฉางโซ่วผู้ซึ่งเคารพต้าเต๋อโฮ่วถู่ และไม่อยากทำให้นางขุ่นเคือง ก็ยังอดจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมาไม่ได้…

“แค่นี้เองหรือ?”

ทันใดนั้นปู่เจดีย์ก็เปล่งคลื่นแสงเจิดจ้า แล้วปล่อยลมปราณเสวียนหวงลงมาและผลักนางมารร้ายน้อยผู้นั้นออกไป

หลี่ฉางโซ่วกลั้นหายใจและหยิบม้วนกระดาษออกมาจากกระเป๋าหน้าอกอย่างสงบ แล้วค่อยๆ กางมันออกช้าๆ…

ดูสิ ฝีมือการวาดภาพนั้นช่างประณีตวิจิตรยิ่งนัก ตัวละครมีชีวิตชีวาและเหมือนจริง แม้แต่ตัวละครในภาพวาดก็ดูแทบจะกระโดดออกมาจากภาพวาด ‘จักรพรรดินีชราไป่เหมย’…

ตึ้ง

ดูเหมือนว่า หลี่ฉางโซ่วจะได้ยินเสียงระฆังดังคมชัด และเขาก็ฟื้นคืนสู่ความสงบในทันที

บัดนั้นภาพในใจของเขาก็ถูกฉีกแยกออกจากกันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“เหอะ!”

ร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” แค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา และความปรารถนาในหัวใจของเขาก็ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากอีกครั้ง

หลี่ฉางโซ่วค่อยๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเปลี่ยนม้วนภาพวาดอื่นอีกม้วนจากหน้าอกของเขา

คราวนี้เขาออกแรงมากขึ้นอีกเล็กน้อย มันคือภาพ “จักรพรรดินีชราไป่เหมย”…

วิ้งๆๆ…

หัวใจเต๋าของหลี่ฉางโซ่วมั่นคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาลในทันที และมีแสงสีทองปรากฏขึ้นทางด้านหลังศีรษะของเขา

ในขณะนั้นร่างจำแลงแห่งความปรารถนากรีดร้องในใจของเขาราวกับว่านางได้รับบาดเจ็บสาหัส

นางกัดฟันและสบถออกมาอย่างเดือดดาล! และเปิดการโจมตีเต็มกำลังทั้งหมดของนาง!

ทว่า…

ชีวิตคือการเรียนรู้ที่จะเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ริมทางได้ตลอดเวลา

ในยามว่าง เรานั่งบนพื้นเย็นโดยมีเจดีย์เสวียนหวง ซึ่งขึ้นชื่อลอเลื่องว่า หมื่นกฎไม่กล้ำกรายนั้น อยู่เหนือศีรษะของเรา เราหยิบม้วนภาพวาดใหม่เอี่ยมออกมาและค่อยๆ คลี่เปิดมันออกช้าๆ

อา เรื่องราวของ ‘จักรพรรดินีชราไป่เหมย’ ต่อสู้กับผีดิบเฒ่าไร้ฟัน ‘จริงๆ…

“เอ่อ!”

หลี่ฉางโซ่วหันศีรษะและถอยกลับ ทันใดนั้นร่างของเขาก็ระเบิดแสงสีทองออกมา!

นี่คือ พลังลมปราณหยางบริสุทธิ์!

ในแสงสีทองนั้น มีเงาร่างงดงามหลุดออกมา นางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในขณะที่นางกรีดร้องออกมาด้วยเสียงกรีดแหลม

หลี่ฉางโซ่วเงยหน้าขึ้นทันที แล้วกระโจนออกไปข้างหน้า

เขายกมือขวาและชูนิ้วกระบี่ขึ้น แล้วชี้ปลายนิ้วของเขาไปแตะที่หว่างคิ้วของเงาร่างงดงามที่ยังไม่แข็งตัวนั้น!

พบแล้ว!

ทันใดนั้นร่างจำแลงแห่ง “ความปรารถนา” ก็หยุดกรีดร้องกะทันหัน

ดูเหมือนว่า หลี่ฉางโซ่วจะผลักประตูเปิดออก

จากนั้นปราณวิญญาณของเขาก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดวงดาวสุกสกาวสว่างไสว…

ที่มุมหอใหญ่ นางมารร้ายน้อยซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยพลังลมปราณเสวียนหวงและถูกผลักออกไป ในขณะนั้น นางกำลังนั่งอยู่บนพื้น

นางก้มศีรษะลง และเส้นผมยาวสีชมพูอ่อนของนางก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาช้าๆ นางคว้าเครื่องกักอายุยืนที่ลำคอของนางด้วยมือเล็กๆ ข้างเดียว และใบหน้าของนางที่ชุ่มเหงื่อ ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างที่สุดแผ่ซ่านออกมา

“เจ้า สารเลว!

ข้าขี้เหร่ถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ข้าก็เป็น ต้า เต๋อ โฮ่ว ถู่ เช่นกัน!”

เปรี๊ยะ…

เครื่องกักอายุยืนขาดสะบั้นทันที แล้วจู่ๆ ก็มีคลื่นพลังลมปราณสีดำก่อตัวขึ้นมาจากอากาศเบาบางในหอ และพุ่งตรงเข้าหานางอย่างบ้าคลั่ง!

………………………………………………………………..

[1] ศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจ