War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2182
ตอนที่ 2,182 : ทุบตีผู้คนจมดิน!

ร่างชายชราที่ปะทุพลังชั่วชีวิตโจนทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนนั้น สภาวะของมันเรียกว่าทรงพลังอย่างเกรี้ยวกราด ทั้งยังฉับไวปานอัสนีฟาดผ่า อนิจจาร่างทั้งร่างของมันกลับต้องถูกพลังมหาศาลซัดเข้าอย่างจัง! จนคนทั้งคนระเบิดกลายเป็นละอองเลือด…!!

ปงงงง!!

เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นแก้วหูนี้ กล่าวไปมันพึ่งดังเข้าหูทุกผู้คน หลังจากที่ทั้งหมดได้แลเห็นคนทั้งคนกลับกลายเป็นละอองโลหิตไปแล้ว…

ความเร็วของเสียงนั้นช้ากว่าแสง…

เช่นนั้นพวกมันจึงเห็นร่างชายชราถูกป่นเป็นละอองเลือดก่อนที่จะทันได้ยินเสียงระเบิดของพลัง…

ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!

หลังจากที่ฉากเรื่องราวเหนือฟ้ากลายเป็นเงียบงันไร้สำเนียงไปพักหนึ่ง ในที่สุดเสียงสูดอากาศเข้าอย่างขวัญผวาก็ดังขึ้น

ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ!

ขณะเดียวกันทุกผู้คนก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนอย่างพร้อมเพรียง ลึกลงไปในแววตาของพวกมันฉายชัดออกถึงความหวาดหวั่นพรั่นกลัวระคนไปด้วยความเหลือเชื่อ!

พวกมันย่อมรู้ดีแก่ใจว่าชายชราผู้นั้นเป็นใคร…

เป็นข้ารับใช้เก่าแก่ของรองจ้าวหอคุมกฏต่งหยวนจิ้น! พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน แถมพลังฝีมือยังติดอยู่ใน 100 อันดับแรกของรายนามยอดเซียนด้วยซ้ำ…

ทว่าตัวตนเช่นนี้ กลับสลายกลายเป็นหมอกเลือดเพราะหนึ่งหมัดของต้วนหลิงเทียน…

เรื่องนี้จะให้พวกมันกล่าวอย่างไรดี?

เพราะนั่นมันหมายความว่า ต่อหน้าต้วนหลิงเทียน…ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนนั้นไม่นับเป็นอะไร! ยังแสนเปราะบาง สามารถบดขยี้ทำลายได้ง่ายดายนัก!!

“ไม่…ไม่จริง…ระ..เรื่องพรรค์นี้…ดะ…ได้ยังไง เป็นไปไม่ได้!!”

เสียงสั่นเครือได้วยความตื่นตระหนกทั้งหวาดกลัวดังขึ้น เป็นอาวุโสเพลิงทองแดงของหอคุมกฏ ต่งหลิน ที่ร่ำร้องออกมาอย่างเสียขวัญ เพราะมันเองก็เห็นว่าต้วนหลิงเทียนเพียงต่อยชายชราแค่หมัดเดียวเท่านั้น ชายชราก็กลายเป็นละอองเลือดไปแล้ว นั่นทำให้มันถึงกับตะลึงตาค้างไปทันที

หลังจากกลับมาครองสติ มันยังอดคิดว่าตัวเองฝันไปไม่ได้ ถึงกับยกมือขึ้นมาตบแก้มตัวเองฉาดหนึ่ง พร้อมกันกับที่มืออีกข้างบิดหยิกเนื้อต้นขา

และจากความเจ็บปวดแสบสันที่แล่นวาบจากใบหน้าต้นขา ก็เสมือนการบอกความจริงให้มันทราบอย่างไร้ความปราณี…

ว่ามันได้ฝันไป!

ทุกสิ่งที่มันกำลังเห็นอยู่เบื้องหน้าคือความจริง!

ต้วนหลิงเทียนอาศัยเพียงหนึ่งหมัด ก็ป่นร่าง ‘ผู้เฒ่าหยาง’ ที่พลังฝีมือไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าบิดามันมาก…

และแทบจะพร้อมกันกับที่ต่งหลินกล่าวออกมาเสียงสั่นด้วยความหวาดผวาเสียขวัญ

ความเยียบเย็นปานม่านน้ำแข็งที่ฉายทับบนใบหน้าต่งหยวนจิ้นก็สลายหายไปอย่างสมบูรณ์ ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าตื่นตระหนกตกใจทั้งไม่เข้าใจ!

ฉากเบื้องหน้าสองตานับว่าสะท้านสะเทือนจิตใจยังสั่นไปถึงวิญญาณ!

ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก…นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยจริงๆ ที่มันบังเกิดความรู้สึกตื่นตระหนกขนาดนี้!

“ฆ่าผู้เฒ่าหยางในหมัดเดียวโดยที่ผู้เฒ่าหยางไม่มีแม้แต่โอกาสจะตอบโต้…กระทั่งเซียนสวรรค์ 6เปลี่ยน ข้าเกรงว่ายังไม่อาจกระทำเช่นนี้ได้!”

จังหวะนี้ร่างต่งหยวนจิ้นอดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้มไปทั้งตัว

ขณะเดียวกันความรู้สึกหวาดกลัวก็เริ่มเข้าครอบงำกัดกินในใจของมัน

อีกทั้งเมื่อถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำกัดกินใจแล้ว ก็ยากที่มันจะกลับมาฮึกเหิมลำพองต่อหน้าต้วนหลิงเทียนได้อีก เรียกว่าตอนนี้มันเสมือนสูญเสียจิตต่อสู้ไปแล้ว…

ยามมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตาของมันคงเหลือแต่เพียงหวาดกลัวทั้งไม่เข้าใจ สับสนไปหมด

ต้วนหลิงเทียนกลับเผยพลังฝีมืออันน่าสะพรึงกลัวขู่ขวัญมันกระเจิง จนทำให้มันไม่กล้าคิดตอแยต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป

แข็งแกร่งนัก!

ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน มันร้ายกาจเกินไป!

กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่าน ต้วนหลิงเทียนยังไม่ต่างอะไรจากมดในสายตามัน เรียกว่ามันจะบดบี้ให้ตายเมื่อใดก็ได้ กระทั่งยังลำบากแค่ส่งคนไปฆ่าต้วนหลิงเทียนโดยตรงโดยที่มันไม่ต้องลงมือด้วยตัวเองก็ยังได้…

ทว่าวันนี้หลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่ปี พลังฝีมือที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกก็ทำให้มันรับทราบสัจธรรมข้อหนึ่งทันที…

30 ปีเหอตง 30 ปีเหอซี …

(30 ปีอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำ 30 ปีอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ = อุปมาว่าเรื่องราวในโลกมีเปลี่ยนแปลง รุ่งเรืองตกต่ำไม่แน่นอน)

ต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนเมื่อไม่กี่ปีก่อนอีกต่อไป…

วันนี้ต้วนหลิงเทียนมีพลังความแข็งแกร่งมากพอจะบดขยี้มัน ต่งหยวนจิ้น ได้อย่างง่ายดาย!

ถึงแม้ว่ามันจะไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้มากแค่ไหนแต่มันก็ต้องยอมรับ! เพราะมันคือความจริงที่ไม่อาจแปรเปลี่ยน!!

ความเสียใจเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาท่วมท้นภายในใจของมัน

แน่นอนว่ามันไม่ได้เสียใจที่มีเรื่องบาดหมางกับต้วนหลิงเทียน แต่เสียใจที่มันไม่ได้ฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายคามือตั้งแต่เนิ่นๆ…

ในความคิดของมัน…

หากไม่กี่ปีที่แล้วมันเลือกที่จะเสี่ยงสักหน่อย ลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนทิ้งด้วยตัวเอง วันนี้ลัทธิบูชาไฟ คงไม่มีคนที่เรียกว่าต้วนหลิงเทียนอยู่อีกต่อไป!

“ระ..ร้ายกาจ! ช่างร้ายกาจนัก!!”

“จริง ช่างร้ายกาจยิ่ง! อาศัยเพียงหมัดเดียวก็ระเบิดร่างเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนให้ตกตายได้ง่ายๆ…ข้าเกรงว่าต่อให้เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 6เปลี่ยนทั่วไป ก็ยังไม่มีพลังทำลายน่ากลัวถึงขนาดนี้”

“ในลัทธิบูชาไฟของพวกเรา…ตัวตนที่มีพลังฝึกปรือด้อยกว่าเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนที่สามารถฆ่าผู้เฒ่าหยางได้ในหมัดเดียว ข้าเกรงว่าคงมีเพียงใต้เท้าจ้าวหอคุมกฏเท่านั้น…”

“เช่นนั้นหมายความว่า…พลังของต้วนหลิงเทียนไม่ได้ตกเป็นรองพลังของใต้เท้าจ้าวหอคุมกฏของพวกเราแล้วน่ะสิ?”

“ถึงข้าจะไม่อยากกเชื่อเรื่องนี้ก็ตามที…แต่ดูเหมือนความจริงมันเป็นเช่นนั้น!”

……

เหล่าผู้ที่มาชมดูเรื่องราวเมื่อรู้สึกตัวแล้วต่างก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกเฮือกใหญ่ น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความตกใจทั้งสับสน

ด้วยสถานการณ์เรื่องราวเบื้องหน้ามันเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป ยังเปลี่ยนไปเสียจนพวกมันไม่อาจตั้งตัวได้ทัน

ต้วนหลิงเทียนที่พวกมันไม่ได้ดูดำดูดีอะไรสักเท่าไหร่ กลับเผยพลังอำนาจอันน่าพรั่นพรึงอย่างที่พวกมันไม่กล้าคิดฝันออกมา สามารถป่นร่างผู้เฒ่าหยาง ข้ารับใช้ของต่งหยวนจิ้นจนแหลกเป็นหมอกโลหิตในหมัดเดียว…

ต้องทราบด้วยว่าข้ารับใช้ชราผู้นี้ของต่งหยวนจิ้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน!

ตัวตนระดับนี้ขอเพียงเต็มใจ ย่อมกลายเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสเพลิงทองของลัทธิบูชาไฟได้ทันที!

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ…

ความแข็งแกร่งของข้ารับใช้ชราข้างกายต่งหยวนจิ้นผู้นี้ ให้เทียบกับตัวต่งหยวนจิ้นเองแล้ว…ก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันมากนัก!

ในเมื่อต้วนหลิงเทียนมีพลังอำนาจมากพอจะฆ่าข้ารับใช้ชราของมันได้ในหมัดเดียว นั่นหมายความว่าหากต้วนหลิงเทียนต้องการก็อาจจะฆ่ามัน ต่งหยวนจิ้น ได้ในหมัดเดียวเช่นกัน

และถึงแม้หากหมัดเดียวฆ่ามันไม่ได้ ถ้า 2 หมัดเล่า?3 หมัดเล่า?

“หืม? ไฉนมีคนอยู่ตรงนี้กันเยอะนัก?”

ในขณะที่ฉากเรื่องราวกลับกลายเป็นเงียบงันลงอย่างประหลาด พลันมีเสียงผู้ใดก็ไม่ทราบดังขึ้น และเสียงดังกล่าวก็ทำลายความเงียบชวนให้อึดอัดใจไปทันที

พร้อมกันนั้น ก็มีร่างหนึ่งวูบมาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยความเร็วสูง

“รองจ้าวหอเจียง!”

ทันใดนั้นแทบทุกคนในที่เกิดเหตุก็จดจำผู้มาใหม่ได้ทันที อีกฝ่ายก็คือ 1 ใน รองจ้าวหอคุมกฏ ของหอคุมกฏ เจียงฉิน!

“รองจ้าวหอเจียง?”

สายตาต้วนหลิงเทียนละออกจากพ่อลูกสกุลต่งหันไปมองจ้องผู้มาใหม่ทันทีหลังได้ยินคำทักของคนที่มุงดูอยู่โดยรอบ ยังกล่าวถามผู้มาใหม่ออกไปเสียงดังฟังชัดด้วยว่า “เจ้าคือรองจ้าวหอคุมกฏของหอคุมกฏ เจียงฉิน?”

เจียงฉิน เป็นคนที่มาจับตัวภรรยาและลูกสาวของเขาไปกักขังที่หอคุมกฏในกาลก่อน

ไม่กี่ปีที่แล้วตอนที่เขาเข้าไปทำงานในหอคุมกฏ เขาได้ยินแค่ชื่อของมันเท่านั้น แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้ามันแต่อย่างไร

อย่างไรก็ตามเขาได้รับทราบมาว่า…

รองจ้าวหอคุมกฏนั้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ใช้แซ่เจียง!

“เจ้าคือ….”

ได้ยินเสียงกล่าวถามเย็นชาของต้วนหลิงเทียน เจียงฉินก็รู้สึกตัวทั้งหันไปมองถามต้วนหลิงเทียนทันที

มันพบว่าหน้าตาต้วนหลิงเทียนให้ความรู้สึกคุ้นตาอยู่บ้าง

และพอมันนึกถึงข่าวที่พึ่งได้ยินมา ประกายแสงหนึ่งก็ส่องสว่างในใจ และภาพบุคคลผู้หนึ่งที่เคยเห็นในอดีตก็ซ้อนทับกับร่างตรงหน้าได้อย่างสมบูรณ์

“…ต้วนหลิงเทียน!?”

เจียงฉินอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเข้าเฮือกหนึ่งเมื่อทราบแล้วว่าบุคคลเบื้องหน้าเป็นใคร

มันพึ่งกลับมาจากด้านนอก เช่นนั้นย่อมได้ยินเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจัดการจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวมาพอดี! ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ทำให้มันตกใจอย่างมาก!!

ถึงแม้มันจะไม่เคยพบเคยเห็นต้วนหลิงเทียนตัวจริงมาก่อน แต่มันได้ยินชื่อเสียงต้วนหลิงเทียนมามากกว่าหนึ่งครั้ง…

ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่ปี ไฉนศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่งของลัทธิบูชาไฟ กลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนี้ได้?

เรื่องนี้ทำให้มันตื่นตระหนกตกใจครั้งยิ่งใหญ่แล้วจริงๆ!

‘หรือว่าที่แท้แล้ว…ข่าวจากนครแห่งบาปเรื่องต้วนหลิงเทียนฆ่า เซี่ยคังฉวิน จ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4มหาธรรมราชาได้จะเป็นความจริงกัน?’

ทันทีที่ได้รับทราบเรื่องราวที่จ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวพ่ายแพ้ต้วนหลิงเทียนอย่างไร้ทางสู้ เรื่องนี้ก็ผุดขึ้นในหัวของมันอยู่หลายครั้ง

และพอเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ขึ้นมา ก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้เชื่อได้อีกต่อไป…

ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยืนยันเท่านั้น

“ต้วนหลิงเทียน…เจ้า…นี่เจ้าคิดจะทำอะไร?”

ทันใดนั้นเจียงฉินพลันพบว่าแววตาที่ต้วนหลิงเทียนใช้มองมายังมัน ยิ่งมายิ่งกลายเป็นเย็นลงทุกขณะ!ที่สำคัญมันยังพบว่าอยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็ยกมือขวาขึ้นมาทั้งเริ่มผนึกพลัง! กลิ่นอายพลังอังนเยียบเย็นขุมหนึ่งแผ่ซ่านออกมา!!

และเป้าหมายของกลิ่นอายพลังเยียบเย็นนั่นดูท่าแล้วเป็นมันไม่ผิดแน่!!

แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจียงฉินกล่าวถามจบคำ พลังเซียนสุริยันในมือขวาที่ต้วนหลิงเทียนผนึกควบรวมก็เปล่งแสงสว่างจ้าขึ้นมาทันใด

มือขาวต้วนหลิงเทียนพลันสะบัดตบลงอีกครั้ง!!

ซัววว!!

เสียงพลังแผ่พุ่งดังสะท้านไปในอากาศ มวลพลังเซียนสุริยันมหาศาลขุมหนึ่งที่แผ่พุ่งออกจากมือขวาต้วนหลิงเทียน พลันพุ่งไปควบรวมเป็นฝ่ามือพลังมีสภาพขนาดมหึมาเหนือร่างเจียงฉินก่อนที่จะฟาดตบลงมาอย่างแรง!!

และทันทีที่หัตถ์พลังมีสภาพของต้วนหลิงเทียนตบฟาดเข้าร่างเจียงฉิน มวลพลังเซียนต้นกำเนิดที่มันเร่งเร้าออกมาป้องกัน ก็แหลกสลายเป็นละอองทันที!

ปงงงง!!

เสียงสนั่นลั่นดังขึ้น เป็นเจียงฉินถูกหัตถ์พลังมีสภาพของต้วนหลิงเทียนตบฟาดอย่างแรง แถมฝ่ามือกดทับร่างคนร่วงตกฟ้าไปกระแทกพื้นดินในเขตหวงห้ามของหอคุมกฏอย่างแรง! คนทั้งคนยังจมหายลงไปในดิน!!

เมื่อหัตถ์พลังมีสภาพที่ถูกควบแน่นด้วยพลังเซียนสิรุยินต้นกำเนิดสลายหายไป บนพื้นดินเบื้องล่างก็ปรากฏรอยฝ่ามือมหึมาประทับเอาไว้ ใจกลางฝ่ามือก็ปรากฏร่างคนสภาพยับเยินฝังร่างอยู่ในดิน สภาพแลดูยับเยิน ชวนให้เวทนาสงสารนัก

ฉากเรื่องราวทำนองเดียวกันที่บังเกิดขึ้นกับจ้าวแท่นบูชาพยัคฆ์ขาวหลูชิ่ง คล้ายจะปรากฏขึ้นอีกครั้งกับเจียงฉิน…เว้นเสียแต่เจียงฉินดูเหมือนจะโดนหนักกว่า! เพราะรอบนี้หัตถ์พลังมีสภาพของต้วนหลิงเทียนถึงกับตบทับร่างมันจนจมดิน!!

อย่างไรก็ตาม แม้ฉากเรื่องราวจะชวนให้ทุกคนอยากขบขันเพียงใด แต่ไม่มีผู้ใดขำออก! ทุกคนยังรู้สึกเสมือนมีไอเย็นแล่นวาบไปจับไขสันหลัง!!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรองจ้าวหอคุมกฏอย่างต่งหยวนจิ้น ลูกตาของมันกลมโตแทบถลนออกจากเบ้า

มันเองก็เป็นรองจ้าวหอคุมกฏเช่นกัน เช่นนั้นแล้วพลังฝีมือเจียงฉินเป็นเช่นไร เกรงว่าไม่มีใครรู้ดีไปกว่ามันอีกแล้ว…

ถึงแม้พลังฝีมือเจียงฉินจะเทียบมันไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้ารับใช้ชราของมันเลย!

หากเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนต่อยผู้เฒ่าหยางจนร่างแหลกเป็นธุลีอาจเป็นเรื่องบังเอิญ เช่นนั้นฉากตรงหน้าก็ยืนยันความจริงให้มันรู้ชัด…ว่ายากจะเป็นเรื่องบังเอิญได้อีกสืบไป!!

“อั๊คค!”

เจียงฉินที่ค่อยๆแงะร่างตัวเองออกมาจากหลุมรูปคนที่อยู่ใจกลางหลุมรูปฝ่ามืออันเขื่อง กระอักโลหิตดำคล้ำออกมาคำโต ตอนนี้ร่างของมันเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วกาย สภาพยับเยินมอมแมมปานขอทานคลุกฝุ่น ไม่เหลือความสง่ามีชีวิตชีวาเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป แลดูน่าสังเวชนัก…

“ต้วนหลิงเทียน!!”

หลังจากลุกขึ้นมายืนได้แล้ว มันก็เงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมคำรามออกด้วยน้ำเสียงโอดครวญ “เจ้าทำอันใดของเจ้า! ข้าเจียงฉินลองถามตัวเองว่าเคยไปทำอันใดเป็นการล่วงเกินให้เจ้าไม่พอใจหรือก็ไม่! นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเจอเจ้าด้วยซ้ำ! แล้วเจ้ามาตีข้าทำไม!?”

จังหวะนี้ในใจเจียงฉินทั้งตื่นตระหนกตกตะลึง หวาดกลัว ทั้งคับข้องใจเหลือแสน!

เพราะมันไม่ทราบจริงๆว่ามันทำผิดอะไร ไฉนอยู่ๆต้วนหลิงเทียนต้องมาทุบตีมันด้วย!!