บทที่ 898 จักรพรรดินีเรียกหา

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 898 จักรพรรดินีเรียกหา

บทที่ 898 จักรพรรดินีเรียกหา

ซูอันเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินบทสนทนาเหล่านี้ แพทย์เหล่านี้มองจากภายนอกดูซื่อตรง แต่แท้จริงกลับเป็นเหมือนพวกจิ้งจอกที่เก่งกาจในการใช้ลิ้นเอาตัวรอด

แน่นอนว่าซูอันไม่รู้มาก่อนว่าแพทย์เหล่านี้เชี่ยวชาญศิลปะการพูดเอาตัวรอดหลังจากรับใช้ในราชสำนักมานานหลายปี การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นเรื่องรองสำหรับพวกเขา การไม่ถูกตำหนิเป็นสิ่งสำคัญที่สุด มีบุคคลสำคัญมากมายในวัง ถ้าคนใดคนหนึ่งโกรธเคือง พวกเขาคงจะถูกประหารชีวิตไปนานแล้ว

ซูอันกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ แต่แพทย์เหล่านี้ได้แก้ไขปัญหาให้เขาโดยไม่คาดคิด ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่วังตะวันออก

ของเหลวที่เขาเติมลงในชามไม่ใช่พิษ ถ้าเขาเติมยาพิษเข้าไป มันจะง่ายเกินไปที่แพทย์จะสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ

มันคือ ‘ยาน้ำนมกระทิง’ เขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งมันจะมีประโยชน์อย่างนี้

ยานี้ไม่เป็นพิษ แต่เป็นยาปลุกเซ็กส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มันคงไม่ช่วยอะไรมากถ้าซือคุนกินเข้าไปในยามที่ร่างกายยังเป็นปกติ เพราะเขาสามารถหาผู้หญิงบางคนที่จะสนองความต้องการได้

อย่างไรก็ตาม อวัยวะของเขาก็ถูกตัดออก และเพิ่งถูกเชื่อมต่อใหม่อย่างน่าอัศจรรย์ ดังนั้นมันจึงยังเปราะบางอย่างยิ่ง

เลือดลมที่พุ่งพล่านไปยังส่วนองคชาติด้วยการแสดงผลของ ‘ยาน้ำนมกระทิง’ ทำให้การเชื่อมต่อที่ยังคงเปราะบางไม่สามารถต้านทานได้และฉีดขาดในทันที!

เลือดทะลักออกมาไม่หยุดแพทย์เหล่านี้ให้ยาเม็ดคืนวิญญาณแก่เขา แต่ด้วย ‘ยาน้ำนมกระทิง’ ที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดแล้ว ก็เกินกำลังที่จะรักษา

ในแต่ละปี ไม่ว่ากระบวนการตัดองคชาติในพระราชวังจะสมบูรณ์เพียงใด ขันทีจำนวนมากยังคงเสียชีวิตจากการสูญเสียเลือด นั่นคือเหตุผลที่แพทย์ไม่แปลกใจในผลลัพธ์ของการรักษามากนัก

สีหน้าของซูอันเย็นชา ซือคุนคนนี้คิดร้ายต่อเขาตั้งแต่ครั้งที่อยู่ในเมืองจันทร์กระจ่างแล้ว ถ้าเป็นความผิดไม่กี่ครั้งซูอันคงจะปล่อยไป ภายใต้อิทธิพลของตระกูลซือ มีโอกาสไม่มากที่เขาจะเอาเรื่องอีกฝ่ายได้ เมื่อสบโอกาสจึงต้องเอาให้ถึงชีวิต!

เขากลับไปที่วังตะวันออก ขณะที่เขากำลังจะเข้าไป มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมา

พวกเขากำลังจะชนกัน ดังนั้นซูอันจึงรีบถอยหลังไปสองสามก้าว เขาจำองค์หญิงรัชทายาทได้ เขาไม่ใช่คนโง่ การสัมผัสองค์หญิงในที่สาธารณะถือเป็นความผิดใหญ่

ในวังหลวงเต็มไปด้วยสายตาจับจ้อง และเขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใด ๆ

องค์หญิงรัชทายาทถอยหลังเช่นกัน นางซวนเซและกำลังจะล้มลง แต่ซูอันเพียงมองอย่างระวัง ไม่คิดที่จะช่วยนางเลย

นางกำนัลที่อยู่ด้านหลังองค์หญิงรัชทายาทรีบพุ่งเข้ามาจับไว้ จากนั้นจ้องไปที่ซูอัน “บังอาจ! เจ้าเกือบจะชนองค์หญิงรัชทายาทแล้ว!”

แบบนี้เรียกว่าชนเหรอ? พวกเจ้าไม่รู้แน่ ๆ ว่าการชนหมายถึงอะไร

ซูอันหยุดความคิดฟุ้งซ่านของเขาและมองไปที่นางกำนัล เขาจำได้ว่านางเป็นนางกำนัลคนเดียวกับที่เขาพบข้างสระน้ำ นางชื่อหรงโม่…? เขาไม่คิดว่านางจะเป็นผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังเช่นกัน

องค์หญิงรัชทายาทขมวดคิ้ว “เจ้าไปไหนมา? ข้าตามหาเจ้า”

ซูอันได้ตอบกลับ “ข้าพระองค์ไปโรงแพทย์หลวงเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของซือคุน เป็นการแสดงออกถึงท่าทีของวังตะวันออกพะย่ะค่ะ”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้สัมผัสนาง แต่เขาก็ยังได้กลิ่นของนางจากระยะไกลนี้ เขาต้องยอมรับว่าองค์หญิงรัชทายาทองค์นี้งดงามและหอมมาก น่าเสียดายที่นางดุร้ายและหยิ่งผยองมากไปหน่อยทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่จักรพรรดินีด้วยซ้ำ

องค์หญิงรัชทายาทเย้ยหยัน เจ้าเนี่ยนะ? กังวลเกี่ยวกับซือคุน?

ในช่วงเวลาสั้น ๆ นางได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความแค้นระหว่างพวกเขาสองคนที่พัฒนาขึ้นในเมืองจันทร์กระจ่าง

แม้ว่านางจะรู้ทุกสิ่ง แต่นางก็ยังต้องแสดงท่าทางสุภาพ “ดี เราควรจะส่งคนไปดูอาการเขาสักหน่อย หรงโม่ส่งของขวัญไปให้นายน้อยซือด้วย”

ซูอันแสร้งทำสีหน้าหดหู่ “ข้าพระองค์เห็นว่าคงไม่จำเป็นแล้ว”

“เจ้าเอาของขวัญไปให้เขาแล้วเหรอ” องค์หญิงรัชทายาเลิกคิ้วขึ้น แววชั่วร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางต้องยอมรับว่าการกระทำของเขาค่อนข้างฉลาด อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปที่คนรับใช้จะฉลาดเกินไป

“ไม่ใช่พะย่ะค่ะ” ซูอันหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เมื่อข้าพระองค์ไปถึงโรงแพทย์ ได้ยินคนข้างในบอกว่าแผลของนายน้อยซือปริจนเลือดไหลไม่หยุด เขาได้ล่วงลับไปแล้ว…”

“ตายแล้ว!!” องค์หญิงรัชทายาทตัวสั่น หน้าซีดอีกครั้ง ทั้งหมดเป็นเพราะนางกระแทกประตูใส่ซือคุน!

ถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสที่ตระกูลซือจะเอาผิดนาง แต่ตระกูลซือยังคงเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ปัญหายุ่งยากจะตามมาหลังจากนี้

นางหายใจเข้าลึก ๆ “เรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาทำความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้องอีกรอบ!”

ในเรื่องนี้นางต้องเด็ดขาดและรวดเร็ว หากนางต้องการให้ตัวเองและรัชทายาทพ้นจากความรับผิดชอบใด ๆ ทุกคนต้องพูดให้ตรงกันทั้งหมด

องค์หญิงรัชทายาททรงคิดที่จะโยนความผิดทั้งหมดให้ซูอัน แต่นางคิดว่าหากเขาจนมุม เขาอาจจะเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วนางคือที่เปิดประตูกระแทกซือคุน นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะโยนความผิดให้ซูอันทิ้งไป

องค์หญิงรัชทายาทเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาซักซ้อมความเข้าใจให้ถูกต้องทีละคน สิ่งนี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายชั่วยาม ซูอันต้องยอมรับว่าองค์หญิงรัชทายาทนี้ฉลาดกว่าสามีที่โง่เขลาของนางมาก นางทำให้ผู้คนในวังตะวันออกพ้นมลทิน และทำให้ความเกลียดชังของตระกูลซือเปลี่ยนเป้าหมายเป็นแพทย์หลวงแทน

น่าเสียดายที่นางไม่รู้ว่าแพทย์เหล่านั้นเป็นพวกสุนัขจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ด้วย และได้คิดแผนการที่จะเอาตัวรอดเอาไว้แล้วเช่นกัน

ขณะที่ซูอันกำลังจะออกจากวังชั้นใน ขันทีผู้หนึ่งได้หยุดเขา “องค์จักรพรรดินีเรียกเจ้าเข้าเฝ้า!”

ซูอันตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าจักรพรรดินีเรียกเขาไปเข้าเฝ้าทำไมในเมื่อไม่เคยรู้จักกันเลยสักนิด! ความเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาเพียงอย่างเดียวคือเขาเคยพบลุงของนาง ‘หลิวเหย่า’ มาก่อน!

แม้ว่าซูอันจะพบว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแปลก แต่ก็เป็นคำสั่งจากจักรพรรดินี ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้

เขาเดินตามขันทีที่อายุน้อยกว่าสองคนไปยังวังไร้พิพาท แต่ระหว่างทางเขาสอบถามข้อมูลเล็กน้อยจากขันทีเหล่านี้ “ขันทีน้อย ข้าจะเรียกเจ้าสองคนว่าอะไรดี?”

ขันทีที่อายุน้อยทั้งสองคนยิ้มทันที

เนื่องจากร่างกายของขันทีไม่ครบส่วน พวกเขาจึงมักถูกปฏิบัติตามจิตใต้สำนึกของคนทั่วไปว่าเป็นคนมีฐานะต่ำ มีเพียงขันทีที่มีสถานะสูงสุดเท่านั้นที่ได้รับความเคารพจากเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่อย่างไม่เต็มใจนัก ขันทีระดับต่ำลงมามีแต่จะถูกรังเกียจ ความขยะแขยงในสายตาของคนอื่นสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลเป็นสิบจั้ง หายากที่จะพบคนที่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกเบิกบาน

“ข้าชื่อจั้วน้อย” ร่างท้วมพูด

“ข้าชื่อกุ้ยน้อย” คนผอมกว่าตอบ

ซูอันตรวจสอบคลื่นพลังของทั้งสอง พวกเขาเป็นขันทีที่แท้จริงและไม่ใช่ตัวปลอมเหมือนอุ้ยเสี่ยวป้อแห่งจอมยุทธ์เจ้าสำราญ

เขามีความสุขที่ได้ยินชื่อที่คุ้นเคย “ช่างเป็นชื่อที่ยอดเยี่ยม เจ้าสองคนทำให้ข้าจำสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับบ้านเกิดของข้าได้ และรู้สึกเหมือนเป็นเครือญาติกับพวกเจ้า นี่คือของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้โปรดอย่าปฏิเสธพวกมัน”

ซูอันยื่นไข่มุกให้แต่ละคน เขาได้ของพวกนี้มามากมายจากถ้ำมังกรแดงนอกเมืองจันทร์กระจ่าง ดังนั้นเขาจึงนำมาแบ่งให้ขันทีทั้งสองคนละเม็ด

ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวางจากโลกก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจดีว่าขันทีนั้นมีอำนาจซ่อนเร้นเพียงใด การสร้างสัมพันธ์กับขันทีเอาไว้จึงเป็นเรื่องดี