บทที่ 875 ท่านปู่มีฐานะอย่างไร

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 875 ท่านปู่มีฐานะอย่างไร

“อาจารย์…อาจารย์!”

หลังจากหยางเทียนตงตะลึงไปครู่หนึ่ง ก็รีบเดินอ้อมมาด้านหน้าโต๊ะพญายมคุกเข่าคารวะหานเจวี๋ย

ชิงหลวนเอ๋อร์และหานชิงเอ๋อร์ประหม่าอยู่บ้าง ถึงอย่างไรหยางเทียนตงก็ดำรงตำแหน่งพญายมมาหลายล้านปี แรงกดดันในตัวยังคงแข็งแกร่งยิ่ง คนธรรมดาหากพบเขาก็จะแข้งขาอ่อน

หานเจวี๋ยเปิดปากเอ่ย “ลุกขึ้นเถอะ หลายปีมานี้เป็นอย่างไรบ้าง”

เขาทำนายถึงสิ่งที่หยางเทียนตงพบพานได้ แต่เรื่องเช่นนี้ยังคงต้องให้หยางเทียนตงพูดออกมาเอง

หยางเทียนตงข่มความตื้นตันไว้ เอ่ยว่า “วันสืบวัน ทุกวันล้วนจัดการเรื่องสังสารวัฏในยมโลก ถึงแม้จะน่าเบื่อ แต่ปลอดภัยดี ช่วงเวลาปกติก็สามารถแบ่งเวลามาฝึกบำเพ็ญได้ขอรับ”

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด เมื่อได้พบหานเจวี๋ยอีกครั้ง หยางเทียนตงอยากร้องไห้ขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

แต่เขาเป็นพญายม ไหนเลยจะหลั่งน้ำตาได้

แต่ในใจเขากลับควบคุมอารมณ์นี้ไม่อยู่เลย

หลายล้านปีที่ผ่านมา เขานึกว่าหานเจวี๋ยลืมเลือนเขาไปแล้ว

ใช่แล้ว

สำนักซ่อนเร้นมีบุตรแห่งสวรรค์มากมายดั่งเมฆา ถึงขั้นที่ไม่ขาดแคลนอริยะเลย เขาจะนับเป็นอันใดเล่า

อย่าว่าปกติเขาแสร้งทำตัวเกียจคร้าน อันที่จริงทุกครั้งยามที่ได้ยินเรื่องของบุตรแห่งสวรรค์เหล่านั้นของสำนักซ่อนเร้น ในใจเขาผิดหวังยิ่งนัก รวมถึงนึกเสียใจ

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ท่านนี้คืออาจารย์หญิงของเจ้า นี่คือบุตรสาวของอาจารย์ หานชิงเอ๋อร์”

เมื่อได้ยิน หยางเทียนตงมองไปที่พวกชิงหลวนเอ๋อร์แม่ลูก รีบทำความเคารพ

ชิงหลวนเอ๋อร์ไม่ทันตั้งตัว พบหน้าศิษย์ครั้งแรก ว่าตามหลักมารยาทแล้ว ควรต้องทำเช่นเดียวกับเซวียนฉิงจวิน

หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ไม่ต้องมากพิธีไป ไปเรียกหานซินหยวนมาเถอะ”

หยางเทียนตงรับคำสั่งทันที ออกไปเรียกหานซินหยวนมา

หานชิงเอ๋อร์ถามด้วยความสงสัย “ท่านพ่อ เขาคือผู้ใดเจ้าคะ ดูดุดันเหลือเกิน”

หานเจวี๋ยตอบว่า “เขาคือศิษย์คนแรกของพ่อ แต่พ่อก็ไม่ได้พบหน้าเขามานานมากแล้ว”

“เหตุใดถึงไม่ได้พบล่ะเจ้าคะ”

“เขาก็เหมือนเจ้า ชอบออกไปวิ่งเล่นวุ่นวาย”

“หืม”

“ถูกต้อง หากวันหน้าเจ้ายังออกไปวิ่งเล่นวุ่นวาย พ่อก็จะไม่ได้พบเจ้าอีก”

วาจาของหานเจวี๋ยทำให้หานชิงเอ๋อร์ตกใจ ดวงตาของนางเริ่มแดงเรื่อ น้ำตาเอ่อคลอ

ชิงหลวนเอ๋อร์กลอกตาใส่เขาทีหนึ่ง เอ่ยอย่างมีน้ำโห “ท่านจะขู่นางไปทำไม”

หานเจวี๋ยเอ่ยยิ้มๆ “ข้าไม่ได้ขู่นาง”

ชิงหลวนเอ๋อร์ผงะไป หานชิงเอ๋อร์ร้องไห้จ้าแล้ว

หานเจวี๋ยมองอย่างมีความสุข

สาวน้อยคนนี้ร่าเริงเกินไป ควรกำราบไว้สักหน่อย เลี่ยงไม่ให้พอโตเข้าวัยสิบเจ็ดสิบแปดก็หนีไป จากนั้นค่อยพาบุรุษกลับมาสู่ขอที่บ้าน

ถึงแม้หานเจวี๋ยจะไม่อยากยุ่งเรื่องของลูกๆ มากนัก แต่เขาหวังให้หานชิงเอ๋อร์เป็นฝ่ายให้ความสำคัญกับการฝึกบำเพ็ญด้วย

ยิ่งตบะสูงเท่าไร ก็จะได้เจอบุรุษดีๆ มากขึ้นเท่านั้น

แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นระดับใด ล้วนมีบุรุษชั่วช้าอยู่ แต่อย่างน้อยหานเจวี๋ยก็หวังว่านางจะไม่ต้องลำบากมากนัก

ถ้าตบะต่ำเกินไปต่อให้ออกเรือนไป ก็เลี่ยงการเกิดแก่เจ็บตายไม่พ้น เมื่อถึงเวลานางจะต้องมาขอร้องหานเจวี๋ยเพื่อสามีตนแน่นอน

ดังนั้นที่พาหานชิงเอ๋อร์มาที่นี่ก็เพื่อให้พบปะกับคนคุ้นเคยเก่าเหล่านี้ เพื่อปลูกฝังทัศนคติให้หานชิงเอ๋อร์

ใช่ว่าหานเจวี๋ยจะดูแคลนคนธรรมดา แต่หากเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้วมีนางเซียนมาหลงรักเขา เขาต้องหวาดกลัวแน่นอน เกรงว่าจะเกิดปัญหายุ่งยากตามมาได้ ไม่กล้ารับรัก เว้นแต่อีกฝ่ายจะใช้กำลังบังคับ

ชิงหลวนเอ๋อร์ปลอบขวัญหานชิงเอ๋อร์

ไม่นานนัก หยางเทียนตงพาหานซินหยวนเข้ามา

หลังจากพาคนเข้ามาในตำหนักแล้ว เขาก็เดินออกไปนอกตำหนัก ไปรออยู่ด้านนอก

หานซินหยวนฉงนอยู่ในใจ เพียงแต่เมื่อนางได้เห็นหานเจวี๋ย นางพลันเหม่อลอยไป

หานอวี้

ชนรุ่นหลังคนนั้นของนาง ยามนี้เป็นอริยะแล้ว

ไม่ถูกสิ ไม่ใช่หานอวี้

ใบหน้าหนึ่งที่หานซินหยวนใกล้จะลืมเลือนไปแล้วพลันผุดขึ้นมาในหัวของนาง

บิดาของนาง หานทั่ว

นางถามด้วยความสงสัย “ท่านเป็นใครหรือ”

นางนึกว่าหานเจวี๋ยคือทายาทของหานอวี้ เพียงแต่สามารถเรียกใช้ท่านพญายมได้ ซ้ำยังทำให้ท่านพญายมเลี่ยงออกไปได้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

ชิงหลวนเอ๋อร์มองหานซินหยวน หัวใจพลันอ่อนยวบ ราวกับนางได้เห็นหานทั่วในวัยที่เติบใหญ่แล้ว

นางก้าวเข้าไปทันที คิดจะจับมือหานซินหยวน

หานซินหยวนหลบเลี่ยงด้วยความระแวง

“ไอ๊หยา เจ้าเป็นหลานสาวของข้านะ จะหลบทำไม” ชิงหลวนเอ๋อร์บ่นแง่งอน

หลานสาวหรือ

หานซินหยวนตะลึงงัน

นางมองไปที่หานเจวี๋ยตามสัญชาตญาณ

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ถูกต้อง หานทั่วคือบุตรชายของพวกเรา พญายมที่ออกไปเมื่อครู่เป็นศิษย์ของข้า”

หานซินหยวนเบิกตากว้าง ข้อสงสัยในอดีตพลันคลี่คลาย

มิน่าเล่าหยางเทียนตงถึงคอยดูแลนาง!

แต่ก่อนนางกังวลว่าหยางเทียนตงจะคิดเกินเลยกับนาง ต่อมาพบว่าหยางเทียนตงคอยดูแลนางอย่างระมัดระวังอยู่บ้าง กลัวจะเผลอล้ำเส้น ตอนแรกนางคิดว่าเป็นเพราะหานอวี้ ผลลัพธ์กลับไม่ใช่เลย艾琳小說

หานซินหยวนพลันทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ และไม่ทราบว่าควรพูดอะไรดี

หานชิงเอ๋อร์ขยับเข้ามาหา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคือหลานสาวของข้าหรือ”

หลานสาวหรือ

หานซินหยวนมองหานชิงเอ๋อร์ที่เยาว์วัย ยิ้มไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

นางมองแวบเดียวก็ทราบแล้วว่าสาวน้อยคนนี้อายุแค่ไม่กี่ขวบ

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ในอดีตข้าเคยมาหาเจ้าแล้ว เคยถ่ายทอดพลังวิเศษให้เจ้าด้วย เพียงแต่เจ้าไม่รู้ตัว และข้าก็ไม่อยากรบกวนวิถีชีวิตของเจ้า”

หานซินหยวนพลันกระจ่างขึ้นมา แต่ก่อนนางก็เคยสงสัยเช่นกัน หลงนึกว่าตนตระหนักรู้ในมรรคาสวรรค์

หานชิงเอ๋อร์เริ่มสอบถามหานซินหยวนเสียงเจื้อยแจ้ว ขัดความคิดของนาง

ชิงหลวนเอ๋อร์ก็จ้องมองนางเช่นกัน สีหน้าเมตตาอาดูร

สตรีทั้งสามคุยเล่นกันอย่างอบอุ่น หานเจวี๋ยไม่อยากรบกวน จึงเดินออกจากตำหนัก

เขาเดินมาอยู่ข้างกายหยางเทียนตง หยางเทียนตงตกใจคุกเข่าลงไปอีกครั้ง

หานเจวี๋ยยกมือขึ้น อำนาจที่มองไม่เห็นบังคับให้เขาต้องลุกขึ้นมา

“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลย หรือว่าเจ้าคิดจะแยกทางจากข้าแล้วจริงๆ” หานเจวี๋ยกล่าวอย่างจนปัญญา

หยางเทียนตงไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไรดี

เขาไม่กล้าผ่อนคลายจริงๆ

ผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้คืออริยะสวรรค์เกรียงไกรเปี่ยมกุศล!

ตัวตนที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจที่สุดในมรรคาสวรรค์!

เขาจะกล้าเสียมารยาทได้อย่างไร

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ข้าทำให้เจ้าสำเร็จเป็นอริยะได้ ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ จิตใจเจ้าได้รับการขัดเกลาแล้ว วันหน้าต้องใส่ใจฝึกบำเพ็ญ เข้าใจหรือไม่”

หยางเทียนตงตกใจที่ได้รับความเมตตา รีบคารวะขอบคุณหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยหมดคำพูด

เหตุใดถึงคุกเข่าอีกแล้วเล่า

เขาก็คร้านจะสนใจหยางเทียนตงแล้ว จึงสอบถามถึงเผ่าสวรรค์และเผ่าหายนะที่อยู่ในยมโลก

เมื่อหยางเทียนตงคุยเรื่องในยมโลก ก็ผ่อนคลายลง พูดได้ไม่รู้จบ ตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าพญายม คุณความดีในการจัดการยมโลกย่อมตกอยู่ที่เขา

หานเจวี๋ยรับฟังอย่างสงบ

หนึ่งชั่วยามต่อมา

หานเจวี๋ยพาพวกหลวนชิงเอ๋อร์แม่ลูกจากไป

หยางเทียนตงและหานซินหยวนยืนอยู่หน้าตำหนักพญายม มองทิศทางที่พวกจากไป เงียบงันอยู่นาน

หานซินหยวนเอ่ยถาม “ท่านพญายม ท่านปู่ของข้ามีฐานะใดเจ้าคะ เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินนามหานเจวี๋ยมาก่อน”

หยางเทียนตงขบขันอยู่ในใจ เจ้าไม่เคยได้ยินนามหานเจวี๋ย เช่นนั้นเจ้าเคยได้ยินนามของอริยะสวรรค์เกรียงไกรหรือไม่

เพียงแต่ในเมื่อหานเจวี๋ยไม่ได้เป็นฝ่ายบอกเอง เขาย่อมไม่สะดวกจะเปิดเผย

“เขาน่ะ ถึงอย่างไรก็เก่งกาจนัก อย่าว่าแต่เจ้าเลย แม้แต่บิดาเจ้าก็พึ่งพาบารมีเขา มิเช่นนั้นบิดาเจ้าคงตายไปนานแล้ว ไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ให้กำเนิดเจ้า เจ้าหนุ่มหานอวี้คนนั้นเดิมทีสมควรถูกสังหารไปพร้อมกับทั้งตระกูลแล้ว เป็นอาจารย์ข้าที่ลงมือช่วยไว้เช่นกัน”

หยางเทียนตงพูดจามีนัยลุ่มลึก หานซินหยวนฟังแล้วตกอยู่ในภวังค์ความคิด

อริยะ!

จนใจที่อริยะมีมากมายเกินไป หานซินหยวนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นอริยะท่านใด

หยางเทียนตงกล่าวว่า “วันหน้าชิงเอ๋อร์คงจะมาอีก เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าต้องดูแลนางให้ดี”

เขาทราบดีว่าครั้งนี้ที่หานเจวี๋ยมามิได้ง่ายดายอย่างที่เห็นในฉากหน้า คิดว่าคงต้องการให้พวกเขาจดจำหานชิงเอ๋อร์ไว้ วันหน้าหากหานชิงเอ๋อร์มายังยมโลก พวกเขาจะต้องช่วยดูแลให้มากหน่อย ไม่อาจละเลยได้

สำหรับเรื่องนี้ หยางเทียนตงไม่มีความคับข้องใจใดๆ ตรงกันข้าม เขารู้สึกดีใจนัก

หลังจากอาจารย์มีลูกสาว ก็มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น

………………………………………………………………