บทที่ 849 ตั้งคำถาม

บทที่ 849 ตั้งคำถาม

ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอาจารย์เสิ่น เขากับเลขาตู้จะเอาเรื่องนี้ไปรายงานเบื้องบนยังไง

“ผมยืนยันว่าจะมาเองครับ” เสิ่นจื่อเจินตอบแทน

นายกเหลียงได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

“แต่ที่นี่มันอันตรายนะครับ คุณควรหาที่ปลอดภัยหลบก่อน!”

“เหล่าเหลียง อาจารย์เสิ่นกับสหายเสี่ยวเถียนบอกว่าเขื่อนอาจจะเสียหายหนักน่ะ ให้รีบหาคนลงไปดู”

เลขาตู้รู้ว่าไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายกลับไปได้ จึงบอกเรื่องที่อาจารย์เสิ่นพูดให้ฟังไปตรง ๆ

“แต่ถ้ามองจากข้างบนมันน่าจะแข็งแรงมากนะ!”

ชายวัยห้าสิบคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้

“อาจารย์เสิ่น คนนี้คือเหล่าอู๋ เลขาของหมู่บ้านเราครับ” นายกเหลียงมองเขา

“เลขาอู๋ครับ พวกเราไม่ได้พูดอย่างไร้จุดหมายนะ” น้ำเสียงเสิ่นจื่อเจินเป็นกังวล แต่ยังเอ่ยอย่างมีน้ำอดน้ำทน

“ตอนเราเดินไปดูมา มันไม่เห็นจะมีปัญหาเลยนะ”

เลขาอู๋ยังคงยืนกรานในความคิด

“ด้านบนดูแข็งแรงครับ แต่ถ้าคุณเดินแล้วก็ต้องรับรู้ได้ว่าข้างล่างมันมีปัญหา และตอนนี้มันก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้วด้วย ผมรู้ว่าเลขาอู๋มีประสบลการณ์ แต่บางเรื่องแค่ประสบการณ์มันใช้ไม่ได้นะครับ”

“หากด้านล่างตัวเขื่อนเสียหายอย่างรุนแรง แล้วคืนนี้ฝนยังตกอยู่ ผมว่ามันคงอยู่ได้ไม่นานแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะเสียใจก็ไม่ทันแล้วนะครับ” ซานกงเอ่ยเสริม

เขาเชื่อในการตัดสินใจของน้องสาวว่ามันถูกต้องแน่ ๆ ยิ่งอาจารย์คิดแบบนั้นแล้วด้วย เขาก็ยิ่งเชื่อขึ้นกว่าเดิมว่าตัวเขื่อนน่าจะถูกทำลายไปเยอะแล้ว

ว่ากันตามตรงคือ ถ้าข้างล่างนั้นมันมีปัญหาจริง ๆ แล้วน้ำปะทุออกมา เขื่อนจะถล่มเมื่อไรก็ได้แล้ว

เลขาอู๋มองซานกง

ถ้าเสี่ยวเถียนเป็นคนพูดเขาอาจจะยังสงสัย แต่นี่ได้ซานกงสนับสนุนด้วยจึงไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“เหล่าเหลียง เราหาคนไปดูเถอะ” เลขาตู้

เขาตัดสินใจที่จะเชื่ออาจารย์เสิ่น และสหายหนุ่มคนนี้

เพราะพวกเขามาจากเมืองหลวง และได้เห็นโลกกว้างกว่าเรา จึงไม่มีทางพูดจาไร้สาระกับเรื่องแบบนี้หรอก

อีกอย่างถ้าไม่มีปัญหา เวลาลงไปดูก็จะได้สบายใจขึ้นไง

แล้วถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นจริง ๆ จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที ไม่งั้นคงสายเกินที่จะเสียใจ

เมื่อเลขาตู้เห็นด้วย เลขาอู๋ก็ไม่คัดค้านอะไรอีก

“เดี๋ยวฉันจัดการให้ ต้าจู้จื่อที่หมู่บ้านว่ายน้ำเก่ง เดี๋ยวลองไปคุยกับเขานะ” เลขาอู๋เห็นด้วยในที่สุด

“เวลาลงน้ำให้ผูกเชือกไว้ด้วยนะครับ ไม่ว่ายังไงความปลอดภัยของผู้คนคือสิ่งสำคัญที่สุด” เสิ่นจื่อเจินเตือน

อีกฝ่ายตอบรับลั่น แล้วรีบไปทันที

หลังจากนั้นก็มีคนมาเพิ่มอีกหลายคน

จากคำบอกเล่าของเหล่าผู้นำ กลุ่มเสิ่นจื่อเจินได้ทราบว่าคนกลุ่มนี้คือเจ้าหน้าที่ของหมู่บ้าน

“พวกคุณจัดกลุ่มเพื่อเตรียมการซ่อมเขื่อนนะ” นายกเหลียงจัดแจงหน้าที่ “ถ้าเป็นไปได้ให้คนในหมู่บ้านมาช่วยด้วย พวกเราจะต้องทำให้ทันเวลา”

ถ้าเขื่อนแตกขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนได้รับผลกระทบไปเท่าไร และบ้านเรือนจะถูกพัดไปกับน้ำมากแค่ไหน

“แต่มันมืดแล้วนะครับท่านายก เรารอพรุ่งนี้ไม่ได้หรือ?” มีบางคนรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เวลาที่ดีในการซ่อมเขื่อนเท่าไร

“ผมก็อยากรอนะหัวหน้าหลี่ แต่ต้องดูว่าเขื่อนจะทนได้ถึงพรุ่งนี้ไหม เหล่าตู้ให้คนลงไปตรวจดูแล้ว จากที่เราคุยกันเขื่อนไม่น่าจะอยู่ถึงพรุ่งนี้น่ะ”

“นายกเหลียงพูดจริงหรือเปล่าเลขาตู้?” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเอ่ยถาม

เขาไม่ใช่คนในทงเหลียง แต่เป็นกลุ่มคนจากตงวานที่เป็นเขตภายใต้อำนาจของเลขาตู้

“มันร้ายแรงกว่าที่เราจินตนาการไว้น่ะ” เลขาตู้พยายามพูดอย่างจริงจังที่สุด

ถึงเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้จะเป็นคนดีและน่าเชื่อถือ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้กลับไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกให้พวกเขาลงมือ

เพราะอย่างนั้นจึงต้องทำให้รู้ว่ามันร้ายแรงจริงๆ อีกฝ่ายถึงจะลงแรงทำด้วยความตั้งใจ

“แล้วรอถึงพรุ่งนี้ไม่ได้เลยหรือ?”

“จัดกลุ่มก่อน ให้คนที่หมู่บ้านเตรียมตัวทำงาน เรามาเพื่อปกป้องบ้านเกิดของพวกเรานะ ไม่ได้ทำงานให้คนอื่น” นายกเหลียงเริ่มอารมณ์เสียที่มีแต่คนสงสัยไม่หยุด จึงเอ่ยเสียแข็ง

เจ้าหน้าที่เห็นท่านนายกโมโหก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

“พวกเราไปดูเขื่อนกันก่อนแล้วกัน เขาน่าจะดำน้ำลงไปดูแล้วล่ะ” เสิ่นจื่อเจินบอก

เพราะคนพวกนี้ไม่ยอมหาคนมาช่วยทำงานให้ จึงต้องพาไปดูเพื่อให้แน่ใจว่าเขื่อนมันมีปัญหาจริง ๆ

นโยบายครัวเรือนในตอนนี้แตกจากปีก่อน ๆ แล้ว เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าตอบตกลง เพราะคิดว่าถึงมันจะมีปัญหาแต่ไม่น่าร้ายแรงเกินไป และเชื่อด้วยว่าเราสามารถรอถึงพรุ่งนี้ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

คนกลุ่มนี้เดินไปยังจุดที่เสี่ยวเถียนบอกว่ามันมีปัญหา ก่อนจะเห็นชายคนหนึ่งเพิ่งลงน้ำไปโดยมีเชือกพันรอบเอวเอาไว้

คนบนฝั่งมองด้วยความกระวนกระวายใจ

“เลขาอู๋ให้ต้าจู้จื่อลงไปตอนนี้ หากเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง? ถ้าเราคิดว่าเขื่อนมันมีปัญหาก็เททรายเทกรวดลงไปสิครับ แค่คืนเดียวเองไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่นะ”

บางคนยังมีข้อคัดค้านการกระทำของเลขาอู๋ที่ส่งคนลงไปลำบาก

ตอนนี้มืดมาก มองอะไรใต้น้ำไม่เห็นหรอก

“แล้วคุณจะไปเข้าใจอะไรล่ะ? ถ้าใต้เขื่อนมันมีปัญหาขึ้นมาก เททรายเทกรวดลงไปแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์!” ชายวัยห้าสิบหันไปตวาด

ถึงชายหนุ่มจะไม่เห็นด้วยกับความตั้งใจอีกฝ่าย แต่ก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวกำลังอารมณ์ไม่ดี ถ้าตัวเองโกรธไปด้วยรังแต่จะสร้างปัญหาเท่านั้น

เสี่ยวเถียนเห็นคนมายืนที่เขื่อนอันเปราะบางนี้มากเข้า ๆ ก็เริ่มเป็นกังวล

ฝนตกหนักมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เขื่อนโดนฝนจนชุ่มไปหมด แถมมีคนมายืนกันเต็มไปหมดแบบนี้อันตรายจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

เธออยากให้ทุกคนอพยพออกไป แต่ตะโกนไปมันก็ไร้ประโยชน์ หลังจากนั้นเธอก็ไปหาหัวหน้าทั้งสองของเมือง พวกเขาเป็นผู้นำในท้องถิ่น ชาวบ้านต้องฟังสิ่งที่พวกเขาบอกแน่

ขณะกำลังสนทนา คนบนเขื่อนรู้สึกว่าคนใต้น้ำกำลังดึงเชือก จึงรีบพาเขาขึ้นมาอย่างว่องไว

เราตกลงกันไว้ก่อนต้าจู้จื่อจะลงไป

ในสภาพอากาศเช่นนี้ แม้ว่าผู้คนในแม่น้ำจะตะโกนดังแค่ไหนคนบนฝั่งก็ไม่มีทางได้ยิน เราจึงเห็นพ้องกันว่าขอแค่อีกฝ่ายดึงเชือกเป็นสัญญาณ ก็จะดึงเขาขึ้นมาทันที