ตอนที่ 846 ปกครองใต้หล้า

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 846 ปกครองใต้หล้า

จ้าวเซิ่งรู้ดีว่าที่ไป๋ชิงเหยียนให้เขาอยู่ที่ต้าเหลียงกับไป๋จิ่นจื้อต่อเป็นเพราะนางไว้ใจเขามาก เขาไม่มีทางทำให้หญิงสาวผิดหวังเด็ดขาด

เมื่อไป๋ชิงเหยียนเห็นว่าทุกคนที่นั่งอยู่มีท่าที่ครุ่นคิดจึงกล่าวเสริมต่อ “แม้ก่อนหน้านี้พวกเราจะเคยเป็นศัตรูกัน ทว่า ตอนนี้ทุกคนล้วนเป็นแม่ทัพของต้าจิ้น ล้วนเป็นครองครัวเดียวกัน ข้าจึงไม่อยากปิดบังทุกคน การทำสงครามครั้งก่อนทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมากแล้ว ขอเพียงปราบเหลียงอ๋องที่ก่อความวุ่นวายในเมืองหลวงต้าจิ้นได้ อย่างน้อยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินของต้าจิ้นก็จะได้ชีวิตอย่างสงบสุข ดังนั้นจึงรบกวนทุกท่านลำบากเดินทางกลับไปพร้อมข้าด้วย”

“กระหม่อมน้อมรับบัญชาขององค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ” หยางอู่เช่อลุกขึ้นยืนแสดงจุดยืนของตัวเองเป็นคนแรก

หยางอู่เช่อได้ยินจ้าวเซิ่งเล่าให้ฟังแล้วว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วคิดแทนที่ราชวงศ์หลินแห่งแคว้นต้าจิ้น เขาติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋วทำสงครามมานานเพียงนี้จะมองไม่เห็นความทะเยอทะยานและปณิธานขององค์หญิงเจิ้นกั๋วเลยหรืออย่างไร

สำหรับแม่ทัพอย่างหยางอู่เช่อและจ้าวเซิ่ง คนที่พวกเขายอมจำนนด้วยคือองค์หญิงเจิ้นกั๋ว พวกเขาไม่สนแม้แต่น้อยว่าเจ้านายของแคว้นต้าจิ้นคือผู้ใด

ที่ไป๋ชิงเหยียนพาแม่ทัพยอมจำนนของต้าเหลียงกลับไปมากถึงเพียงนี้ก็เพราะไม่ต้องการให้หลิวหงควบคุมกองทัพทหารยอมจำนนของต้าเหลียงได้

ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางหลิวหงแล้วกล่าวขึ้น “แม่ทัพหลิวหง…เราจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว จัดทัพเถิด!”

เมื่อหลิวหงได้ยินว่าเหลียงอ๋องก่อกบฏก็ร้อนใจเช่นเดียวกัน เขารีบพยักหน้า

ขณะที่หลิวหงไปเตรียมทัพ ไป๋ชิงเหยียนเรียกองครักษ์ตระกูลไป๋มารวมตัวกัน

หญิงสาวให้องครักษ์ตระกูลไป๋คนหนึ่งนำจดหมายไปส่งให้ไป๋ชิงอวี๋ บอกเขาว่าครั้งนี้นางจะเรียกกองทัพไป๋ขึ้นมาช่วยเหลือที่เมืองหลวง ให้ไป๋ชิงอวี๋คอยระวังความเคลื่อนไหวของซีเหลียงเอาไว้

จากนั้นยื่นจดหมายที่ปิดผนึกดีอีกฉบับให้องครักษ์ไป๋ “เจ้าพาคนติดตามไปสามคนนำจดหมายฉบับนี้ไปมอบให้ถึงมือของผู้ตรวจการต่งชิงเยว่ที่เติงโจวโดยเร็วที่สุด!”

ไป๋ชิงเหยียนบอกต่งชิงเยว่ในจดหมายว่าเหลียงอ๋องก่อกบฏในเมืองหลวงเพื่อต้องการขึ้นครองราชย์เอง นางและแม่ทัพหลิวหงจะนำกองทัพยอมจำนนของต้าเหลียงกลับไปช่วยเหลือ ฝากให้ท่านน้าชายต่งชิงเยว่ช่วยจับตาดูความเคลื่อนไหวของกองทัพของแต่ละเมืองด้วย

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้กล่าวออกไปอย่างชัดเจน ทว่า นางเชื่อว่าด้วยความฉลาดของท่านน้าชาย เขาต้องเข้าใจความหมายของนางอย่างแน่นอน นางไม่ได้นำกองทัพจิ้นกลับไปต้าจิ้น ทว่า นำกองทัพยอมจำนนของต้าเหลียงกลับไปแทนเพราะนางต้องการเข้าแทนที่ราชวงศ์หลิน

หญิงสาวหันไปกำชับเสิ่นชิงจู๋ “ชิงจู๋จงรีบเดินทางไปยังหนานเจียง สั่งให้ไป๋ชิงเจวี๋ย เสิ่นคุนหยาง เว่ยจ้าวเหนียน กู่เหวินชังอยู่คุ้มกันที่ชายแดนต่อ จากนั้นเจ้านำทัพที่เหลือกลับมายังเมืองหลวงเพื่อช่วยเหลือฝ่าบาทและองค์รัชทายาท จงแบ่งกองทัพออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเดินทางไปขอให้ผู้ตรวจการเมืองผิงหยางนำกองทัพผิงหยางไปช่วยเหลือ อีกกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงไปยังเมืองหลวงทันที”

“เจ้าค่ะ” เสิ่นชิงจู๋รับคำแล้วจากไปทันทีโดยไม่กล้ารอช้า

ไป๋จิ่นจื้อ จ้าวเซิ่งและไช่จื่อหยวนมาถามรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงกับไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนกำชับทั้งสามคนอีกครั้ง “ไม่ว่าจะได้รับข่าวใดจากเมืองหลวง พวกเจ้าต้องควบคุมต้าเหลียงให้ดี อย่าให้ต้าเหลียงถือโอกาสนี้ก่อความวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้งเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่”

“จื่อหยวนมีบางสิ่งอยากทูลให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทราบพ่ะย่ะค่ะ…” ไช่จื่อหยวนโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิดแล้วกล่าวเสียงเบาหวิว “การเข้าแทนที่ราชวงศ์ต้องทำอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป หากครั้งนี้ทำไม่สำเร็จ องค์หญิงเจิ้นกั๋วอย่าทรงเลียนแบบคนในอดีต จับตัวจักรพรรดิเป็นหุ่นเชิดเพื่อควบคุมอำนาจไว้เองนะพ่ะย่ะค่ะ!”

ไช่จื่อหยวนกลัวว่าแคว้นต้าจิ้นจะเกิดความวุ่นวายขึ้น หากต้าจิ้นวุ่นวายขึ้นมาจริงๆ บรรดาแม่ทัพต้าเหลียงที่เดินทางไปยังต้าจิ้นกับไป๋ชิงเหยียนอาจถือโอกาสนี้กบฏได้

แม้พวกเขาทำสงครามมาถึงตอนนี้จนมีแต่แม่ทัพและทหารยอดฝีมือ ไม่กลัวการรบ ทว่า เขากลัวว่าจะเกิดสงครามที่ยืดเยื้อขึ้น

จ้าวเซิ่งมองไปทางไช่จื่อหยวนแวบหนึ่ง แม้จะรู้สึกว่าไช่จื่อหยวนกล่าวมีเหตุผล ทว่า เขาเชื่อในการตัดสินใจของไป๋ชิงเหยียนมากกว่า เขาจึงกำหมัดคารวะพลางกล่าวขึ้น “ไม่ว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะตัดสินพระทัยเช่นไร จ้าวเซิ่งและกองทัพจ้าวยินดีติดตามรับใช้องค์หญิงจนวันตายพ่ะย่ะค่ะ! องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ต้องเป็นกังวลพ่ะย่ะค่ะ ทางนี้มีเกาอี้จวิ้นจู่และจ้าวเซิ่งอยู่ ต้าเหลียงไม่มีทางวุ่นวายแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นก็ฝากทั้งสามคนด้วย!” ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดคารวะ

“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นจื้อยึดเมืองหานของต้าเหลียงได้ สาวน้อยยังไม่ทันได้แบ่งปันความดีใจและตื่นเต้นนี้ให้พี่หญิงใหญ่ได้รับรู้ นึกไม่ถึงเลยว่าพี่หญิงใหญ่จะจากไปทั้งที่ยังไม่ได้เข้าไปในเมืองหานของต้าเหลียงเช่นนี้

เมื่อไช่จื่อหยวนเห็นว่าไป๋จิ่นจื้อมีเรื่องอย่างสนทนากับไป๋ชิงเหยียนเป็นการส่วนตัว เขาจึงลอบผายมือเชิญจ้าวเซิ่ง ทั้งสองคนเดินออกไปจากที่พัก ปล่อยใหสองพี่น้องมีเวลาสนทนากันส่วนตัว

“ครั้งนี้เสี่ยวซื่อทำได้ดีมาก ไม่บุ่มบ่ามเลย ทำสงครามได้อย่างรอบคอบสมกับเป็นทหารยอดฝีมือของต้าจิ้น” แววตาของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“หากไม่ใช่เพราะเผชิญหน้ากับหรงตี๋และมัวสู้กับพวกนั้นอยู่ ข้าคงมาถึงนานแล้วเจ้าค่ะ ตอนนั้นข้ารู้สึกว่าวิธีรบของหรงตี๋คล้ายคลึงกับกองทัพไป๋ ข้าคิดว่ามีคนทรยศแฝงตัวอยู่ในกองทัพหรงตี๋ หากพี่ชิงจู๋มาไม่ทันข้าคงทำลายกองทัพหรงตี๋ไปแล้วเจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่กล่าวว่าแม่ทัพหน้ากากผีคือคนของเราใช่หรือไม่เจ้าคะ ครั้งนี้ข้าไม่ได้พบหน้าแม่ทัพหน้ากากผี เขาคือผู้ใดกันเจ้าคะ”

ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางไป๋ชิงเหยียน ไม่ว่าอย่างไรนางก็คิดไม่ถึงว่าแม่ทัพหน้ากากผีผู้นั้นจะคือพี่ชายห้า…ไป๋ชิงอวี๋ของนาง

ลมพัดมาโดนปรอยผมที่ตกคลอเคลียอยู่ที่คางของไป๋ชิงเหยียน ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น หญิงสาวขยับเข้าไปกระซิบข้างใบหูของน้องสาว

ไป๋จิ่นจื้อเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ รีบใช้สองมืออุดปากของตัวเอง น้ำตาไหลพรากออกมาทันที สาวน้อยเกือบหลุดเปล่งเสียงกรีดร้องออกมา

ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำเช่นเดียวกัน หญิงสาวจับบ่าของไป๋จิ่นจื้อแน่น

“เจ้ารับรู้ไว้ในใจก็พอ บัดนี้เขายังเปิดเผยตัวตนไม่ได้ ทว่า ขอเพียงพวกเรายังมีชีวิตอยู่ต้องมีวันที่ได้พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งแน่นอน”

ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้าอย่างแรง สาวน้อยใช้หลังมือปาดน้ำตา “พี่หญิงใหญ่ เสี่ยวซื่อรู้ขอบเขตดีเจ้าค่ะ! เสี่ยวซื่อจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแน่นอนเจ้าค่ะ”

“พี่เชื่อใจเสี่ยวซื่อของพวกเรา ชื่อเสียงของเสี่ยวซื่อต้องโด่งดังไปทั่วหล้าเพราะสงครามต้าเหลียงในครั้งนี้อย่างแน่นอน!” ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ในที่สุดเสี่ยวซื่อก็เติบโตเป็นอย่างที่ท่านปู่และท่านอาทั้งหลายหวังไว้จริงๆ”

ไป๋จิ่นจื้อปาดน้ำตาออก จากนั้นยกมือคารวะไป๋ชิงเหยียน “เดินทางกลับไปเมืองหลวงครั้งพี่หญิงใหญ่ระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ ต่อให้ตายไป๋จิ่นจื้อก็จะปกป้องไม่ให้ต้าเหลียงเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกเจ้าค่ะ”

หลังผ่านความพยายามอย่างหนักและการวางแผนอย่างรอบคอบตลอดสองปีที่ผ่านมาของตระกูลไป๋ จากสถานการณ์ของต้าจิ้นในตอนนี้ขอเพียงราชวงศ์หลินถูกโค้นล้มลง ตระกูลไป๋จะเข้าแทนที่ได้อย่างชอบธรรมทันที ถึงเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นพี่ชายห้าไป๋ชิงอวี๋ พี่ชายเจ็ดไป๋ชิงเจวี๋ยหรือพี่ชายเก้าไป๋ชิงอวิ๋นก็จะสามารถกลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับพวกนางได้อย่างปลอดภัย!

พี่หญิงใหญ่มีปณิธานต้องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง พี่หญิงใหญ่มีความสามารถในการปกครองใต้หล้าแห่งนี้!

ไป๋จิ่นจื้อมีความรู้สึกว่าพี่หญิงใหญ่ของนางไม่มีทางจับตัวจักรพรรดิไว้เป็นหุ่นเชิดเพื่อคอยบงการอยู่เบื้องหลังแค่นั้นอย่างแน่นอน พี่หญิงใหญ่ต้องเข้าแทนที่ราชวงศ์หลินอย่างเด็ดขาดแน่ เพราะมีเพียงข่าวตระกูลไป๋เข้าแทนที่ราชวงศ์หลินแพร่ออกไปเท่านั้น กองทัพไป๋หรือคนตระกูลไป๋ที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้จึงจะกล้ากับมายังเมืองหลวง!

ไป๋จิ่นจื้ออยากให้ถึงวันนั้นโดยเร็วที่สุด

วันที่สิบสาม เดือนสี่ รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบแปด เกาอี้จวิ้นจู่นำกองทัพจิ้นตั้งค่ายทหารอยู่ที่เมืองหาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วและแม่ทัพหลิวหงนำบรรดาแม่ทัพอย่างหยางอู่เช่อเดินทางกลับไปช่วยเหลือจักรพรรดิที่แคว้นต้าจิ้น