บทที่ 883 ความแข็งแกร่งของท่านพ่อ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 883 ความแข็งแกร่งของท่านพ่อ

ขณะที่หานชิงเอ๋อร์ตกตะลึงและนึกสงสัยอยู่ หานเจวี๋ยและจอมอริยะเสวียนตูก็นั่งลงข้างๆ ข้าง

หานเจวี๋ยกวักมือเรียกนาง สื่อให้นางมายืนด้านหลังตน

อริยะแต่ละคนทยอยมาถึงเรื่อยๆ หลังจากอริยะทุกคนเข้ามาในตำหนักเอกภพจะทำความเคารพหานเจวี๋ยและจอมอริยะเสวียนตู หานชิงเอ๋อร์ได้แต่สงสัยในใจ

นางเป็นครึ่งอริยะแล้ว ทว่ามองตบะของคนเหล่านี้ไม่ออกเลย หากมิใช่อริยะ แล้วจะเป็นอะไรได้อีก

ไม่นานนัก เหล่าอริยะมากันพร้อมหน้า แม้แต่อริยะเทพอวี๋เจี้ยน มหาอริยะสวีหุนและหงหยวนก็มาด้วย

ยากนักที่จะได้พบหานเจวี๋ย พวกเขาย่อมไม่ยอมพลาด

อริยะเทพอวี๋เจี้ยนจ้องมองหานเจวี๋ย แววตาวูบไหว

เขาอยากท้าประลองกับหานเจวี๋ย แต่เมื่อพบหานเจวี๋ยอีกครั้ง ในใจก็ยังคงไม่มีความมั่นใจอยู่ดี

เหล่าอริยะสังเกตเห็นหานชิงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังหานเจวี๋ย ลอบคาดเดาอยู่ในใจ

เมื่อหานชิงเอ๋อร์มองเห็นหานอวี้ พลันดีใจขึ้นมา ยักคิ้วหลิ่วตาให้เขา ทำให้หานอวี้กระดากอายยิ่ง

หลงเฮ่าถามด้วยความสงสัย “อาจารย์ คนที่อยู่ด้านหลังท่านคือ…”

อาจารย์หรือ

หานชิงเอ๋อร์ตาลุกวาว พินิจดูหลงเฮ่า

นี่ก็เป็นศิษย์ของท่านพ่อหรือ

หานเจวี๋ยเปิดปากกล่าว “นี่คือหานชิงเอ๋อร์บุตรสาวข้า ฝึกบำเพ็ญมาสองแสนปี สำเร็จครึ่งอริยะแล้ว”

เมื่อเหล่าอริยะได้ฟัง ก็พากันชื่นชมในพรสวรรค์ของหานชิงเอ๋อร์

เหล่าอริยะหน้าใหม่ที่ได้พบหานเจวี๋ยเป็นครั้งแรก เดิมทีก็เคารพยำเกรงอยู่แล้ว พอได้ยินว่าคุณสมบัติบุตรีของอริยะสวรรค์น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ ก็อดตกตะลึงอยู่ในใจไม่ได้ 艾琳小說

สำเร็จครึ่งอริยะได้ในสองแสนปี ทอดสายตามองไปทั่วแดนเซียน ก็นับเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่มีคุณสมบัติเลิศล้ำแล้ว

ชั่วขณะนั้น จิตใจของเหล่าอริยะพลุ่งพล่านขึ้นมา

หากว่ารับตัวหานชิงเอ๋อร์เป็นศิษย์ได้ ก็แปลว่าจะได้ขยับสายสัมพันธ์เข้าใกล้อริยะสวรรค์ไปอีกขั้นมิใช่หรือ

จอมอริยะเสวียนตูกวาดตามองรอบข้าง เอ่ยขึ้นว่า “ที่เรียกทุกท่านมาในวันนี้ เพราะมีเรื่องใหญ่อย่างหนึ่ง เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทั่วทั้งฟ้าบุพกาล และนี่คือโอกาสของมรรคาสวรรค์เช่นกัน”

ใช่จริงๆ ด้วย ล้วนเป็นอริยะมรรคาสวรรค์ทั้งสิ้น!

เช่นนั้นท่านพ่อก็คืออริยะสวรรค์เกรียงไกรผู้พิทักษ์มรรคาสวรรค์ในตำนานเล่าขานเช่นนั้นหรือ

หานชิงเอ๋อร์ตื่นเต้นอยู่ในใจ ถึงขั้นที่รู้สึกว่าไม่ใช่ความจริง

ย่อมที่ออกท่องแดนเซียน นางเคยได้ยินตำนานของอริยะสวรรค์เกรียงไกร

เกรียงไกรพิทักษ์สวรรค์ เสวียนตูปกครองสรรพสิ่ง!

ประโยคนี้แพร่หลายเป็นที่สุด!

เพียงพอจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญรวมถึงตำแหน่งของอริยะสวรรค์เกรียงไกรในมรรคาสวรรค์แล้ว!

หานชิงเอ๋อร์ยากจะเชื่อมโยงอริยะสวรรค์เกรียงไกรเข้ากับบิดาของตนได้

อริยะสวรรค์เกรียงไกรในตำนานแข็งแกร่งเลิศล้ำ ทรงอำนาจไร้เทียมทาน ดูแคลนอำนาจแข็งแกร่งทั้งหมดในฟ้าบุพกาลได้ ยิ่งใหญ่สะท้านสะเทือนถึงเพียงใดแล้ว

หานชิงเอ๋อร์อดมองหานเจวี๋ยไม่ได้

ท่านพ่อนอกจากรูปโฉมหล่อเหลาแล้ว ก็ดูไม่มีอำนาจบารมีเลย

“ผู้นำดวงจิตมหามรรคต้องการร่วมมือกับอริยะสวรรค์ของพวกเราจัดงานชุมนุมฟ้าบุพกาลขึ้น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อายุอยู่ในขอบเขตร้อยล้านปีสามารถเข้าร่วมได้ทิ้งสิ้น จะเฟ้นหาสิบยอดฟ้าบุพกาลและเลิศล้ำหมื่นยุค…”

จอมอริยะเสวียนตูมองหานเจวี๋ยแวบหนึ่ง ค่อยๆ พูดไป เป็นเช่นเดียวกับที่หานเจี๋ยได้ทราบมาจากปากเทพมหาทัณฑ์

หลังจากเหล่าอริยะได้ฟังต่างตื่นเต้นขึ้นมา พากันมองไปที่หานเจวี๋ย เมื่อเห็นหานเจวี๋ยพยักหน้ารับ ภายในห้องโถงก็มีเสียงฮือฮา

“กล่าวเช่นนี้คือ ผู้นำดวงจิตมหามรรคคนนั้นยอมรับว่าอริยะสวรรค์อยู่ในระดับเดียวกันอย่างนั้นหรือ”

“ตามหลักก็เป็นเช่นนี้ ต่อให้ผู้นำดวงจิตมหามรรคแข็งแกร่งแค่ไหน แต่จะแกร่งไปกว่าสองหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ได้หรือ”

“มิน่าเหล่าห้าเทวทัณฑ์ถึงได้มาเยือน ที่แท้ก็วางแผนไว้เช่นนี้”

“นี่เป็นเรื่องดี หากงานชุมนุมประสบความสำเร็จ ไม่เพียงแต่จะได้เลือกเฟ้นบุตรแห่งสวรรค์ ยังเป็นการถางเส้นทางแห่งมหามรรคไว้ให้ชนรุ่นหลัง ซ้ำยังเป็นการเทิดทูนตำแหน่งของอริยะสวรรค์ในฟ้าบุพกาลด้วย เสมอชั้นกับผู้นำดวงจิตมหามรรคแล้ว”

“ยังต้องเทิดทูนขึ้นอีกหรือ ยังมีใครกล้าสงสัยในตัวสุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งฟ้าบุพกาลด้วยหรือ”

“มรรคาสวรรค์เรามีบุตรแห่งสวรรค์มากมายปานใดเล่า ได้โอกาสแสดงรากฐานของมรรคาสวรรค์ต่อสายตาฟ้าบุพกาลพอดี!”

เหล่าอริยะคึกคักภาคภูมิใจ ยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น

ภายในมรรคาสวรรค์มีสำนักนิกายมากมายปานดอกเห็ด ทุกหมื่นปีล้วนจะปรากฏผู้มีพรสวรรค์น่าตะลึงขึ้น ไหนเลยจะใช่สิ่งที่ดินแดนและโลกอื่นๆ ในฟ้าบุพกาลจะเทียบชั้นได้

สุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งฟ้าบุพกาลหรือ

หานชิงเอ๋อร์มองแผ่นหลังของหานเจวี๋ยด้วยความแปลกใจ

ท่านพ่อร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ

นางก็ทราบเช่นกันว่าฟ้าบุพกาลกว้างไกลไร้ขอบเขต ถูกขนานนามว่าเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งได้ เช่นนั้นต้องแข็งแกร่งมากเพียงใดกัน

ไม่แปลกเลยที่จะมีศิษย์เป็นอริยะเสรี

สีหน้าของหานชิงเอ๋อร์ดูประหลาดใจ

ช้าก่อน!

ในเมื่อท่านพ่อข้าแข็งแกร่งที่สุด เช่นนั้นเหตุใดข้ายังต้องฝึกบำเพ็ญอีก

ผู้ใดจะมาทำร้ายข้าได้

หานชิงเอ๋อร์นึกถึงท่าทีของหานเจวี๋ย สรรพสิ่งอาจคิดไปเองว่าเขาแข็งแกร่งที่สุด ความจริงแล้วยังคงมีตัวตนแข็งแกร่งที่ทำให้เขาหวาดระแวงอย่างยิ่งซ่อนตัวอยู่ ด้วยเหตุนี้ เขาถึงได้ปิดด่านอยู่ตลอด

หลังจากคิดได้แล้ว เมื่อหานชิงเอ๋อร์มองหานเจวี๋ยอีกครั้งแววตาก็เปี่ยมด้วยความเคารพและเลื่อมใส

ท่านพ่อที่อยู่กับนางมาตลอดยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ลองนึกถึงตัวเองแล้ว ยังมัวแต่อยากเที่ยวเล่นอีกหรือ

วินาทีนี้ จู่ๆ หานชิงเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าตนหาเป้าหมายในชีวิตพบแล้ว

ไม่ใช่ความสนุกครื้นเครงแน่นอน!

นางต้องการเป็นตัวตนเช่นเดียวกับท่านพ่อ

“งานชุมนุมฟ้าบุพกาลจะจัดขึ้นในอีกสิบล้านปีให้หลัง ทุกท่านเตรียมตัวกันสักหน่อยเถอะ เข้าร่วมงานชุมนุมระดับนี้ ผู้ออกโรงย่อมต้องเป็นระดับอริยะ หากให้ครึ่งอริยะไปคงขายหน้า” จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยอย่างเคร่งขรึม

เหล่าอริยะพยักหน้ารับ แววตาล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

นี่มิใช่เพียงการช่วงชิงเกียรติยศมาให้มรรคาสวรรค์เท่านั้น หากติดอันดับสิบสุดยอดฟ้าบุพกาล จะได้กลายเป็นดวงจิตมหามรรคด้วย!!

อริยะมรรคาสวรรค์สุดท้ายก็แค่ดูแลจัดการมรรคาสวรรค์ ดวงจิตมหามรรคสิที่ได้ดูแลจัดการฟ้าบุพกาล!

จอมอริยเสวียนตูเอ่ยว่า “เรื่องที่สอง มรรคาสวรรค์มีตำแหน่งอริยะเพิ่มขึ้นอีกสองที่”

หากเป็นในอดีต พวกเขาคงตัดสินใจกันเองแล้ว วันนี้มีหานเจวี๋ยอยู่ ย่อมต้องไว้หน้าหานเจวี๋ย

จอมอริยะเสวียนตูมองไปที่หานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “หยางเทียนตงแห่งยมโลกควรได้ไปหนึ่งที่”

ตรงไปตรงมานัก!

หานชิงเอ๋อร์ลอบตระหนกในใจ ท่านพ่อไม่กลัวจะล่วงเกินอริยะคนอื่นๆ หรือไร

ถึงจะบอกว่าเขาแข็งแกร่งที่สุด แต่เกาทัณฑ์ในที่ลับป้องกันยากกว่าทวนในที่แจ้ง ไม่กลัวทุกคนจะทรยศบ้างหรือ

“ดี! วิเศษนัก! หยางเทียนตงคนนั้นมีคุณูปการจริงๆ ดูแลจัดการระเบียบในยมโลกได้เรียบร้อยมีแบบแผน หากเขาไม่ได้ตำแหน่งอริยะ เกรงว่ายมโลกคงไม่ยอม สมกับเป็นอริยะสวรรค์ คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดได้ในครู่เดียว!”

หยางเช่อปรบมือพลางเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว สีหน้าเลื่อมใส

สวีตู้เต้ากล่าวต่อว่า “ถูกต้อง ตำแหน่งอริยะไม่ได้คำนึงถึงเพียงคุณสมบัติหรือตบะเท่านั้น ยังต้องมีคุณูปการด้วย พวกเราดูแลมรรคาสวรรค์ สิ่งที่ต้องพึ่งพามิใช่ตบะ แต่เป็นมรรคจิตที่คำนึงถึงองค์รวมตลอดจนสรรพสิ่ง”

พวกฉิวซีไหล เจ้านิกายเทียนเจวี๋ย ผานซินและเทพสูงสุดอู๋ฝ่าต่างเริ่มประจบเอาใจ

เหล่าศิษย์ของหานเจวี๋ยตะลึงงัน ด่าในใจว่าไร้ยางอาย แล้วรีบประจบเช่นกัน

อาจารย์ของบ้านตน ไหนเลยจะปล่อยให้คนนอกมาชิงประจบก่อนได้

เหล่าอริยะใหม่มองหน้ากัน ปรับตัวไม่ทันยิ่งนัก แต่ก็ไม่กล้าคลางแคลง

อริยะเทพอวี๋เจี้ยนนิ่งเฉย เขารู้สึกว่าปกติยิ่ง หากไม่มีหานเจวี๋ย มรรคาสวรรค์จะนับเป็นอันใดได้ เขาโจมตีทีเดียวก็ราบแล้ว

หานชิงเอ๋อร์มองฉากนี้แล้ว ยิ้มไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกอยู่บ้าง

นางก็นับว่ามองเห็นความสำคัญของหานเจวี๋ยในมรรคาสวรรค์กระจ่างแล้ว สำคัญยิ่งกว่าจอมอริยะเสวียนตูเสียอีก!

หานเจวี๋ยต้องการตำแหน่งอริยะเพียงที่เดียว อีกตำแหน่งให้พวกเขาจัดสรรกันเอาเอง

อริยะสุดท้ายก็เป็นอริยะ ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล ไม่มีทางมาเถียงแย่งกันหน้าดำหน้าแดง

หลังจากเหล่าอริยะตกลงกันได้แล้ว จอมอริยะเสวียนตูก็เอ่ยถึงปัญหาในการพัฒนามรรคาสวรรค์ต่อ ระยะนี้โลกอริยะไตรวิสุทธิ์เริ่มมีเจตนาประกาศศึกกับมรรคาสวรรค์รางๆ แล้ว นอกจากจะดึงตัวบุตรแห่งสวรรค์ไป ผู้บำเพ็ญของทั้งสองดินแดนที่ท่องอยู่ในฟ้าบุพกาลก็มีการปะทะกันมากขึ้น

มรรคาสวรรค์และโลกอริยะไตรวิสุทธิ์ล้วนต้องการกลายเป็นศูนย์กลางของอาณาเขตฟ้าบุพกาลแห่งนี้!

แต่เสือสองตัวไม่อาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้

โลกอริยะไตรวิสุทธิ์มีอริยะมหามรรค ซ้ำยังมีเหล่าจื่อด้วย

เหล่าจื่อบุกเบิกมรรคกระบี่ ซ้ำยังเป็นศิษย์สืบทอดคนโตของบรรพชนเต๋า ชื่อเสียงแม้ว่าจะสู้อริยะสวรรค์เกรียงไกรไม่ได้ แต่ก็ห่างชั้นกันไม่มาก

จอมอริยะเสวียนตูมองหานเจวี๋ย เอ่ยถาม “หากว่ามรรคาสวรรค์กับโลกอริยะไตรวิสุทธิ์ปะทะกันขึ้นมาเล่า”

หานเจวี๋ยตอบอย่างไม่อนาทร “เจ้าไม่กริ่งเกรงอยู่แล้ว ไยต้องมาถามข้าอีก”

เมื่อจอมอริยะเสวียนตูได้ยิน พลันเกิดความคิดขึ้นในใจแล้ว

อริยะเทพอวี๋เจี้ยนก็ตื่นเต้นขึ้นมา

อริยะสวรรค์เกรียงไกรจะสู้กับเหล่าจื่อหรือ

………………………………………………………………