ตอนที่ 859 ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 859 ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว หากกระหม่อมไม่กลัวว่าชาวบ้านที่บริสุทธิ์จะถูกประหาร กระหม่อมก็คงไม่จับตัวเด็กเหล่านี้เช่นนี้หรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นบิดาคนเช่นเดียวกัน กระหม่อมจะไม่รู้สึกเจ็บปวดได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาสองข้างของนายอำเภอแดงก่ำ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

“ท่านพ่ออย่าร้องไห้ขอรับ อย่าร้องไห้ขอรับ!” เด็กชายเจ็ดขวบในอ้อมกอดของนายอำเภอเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้บิดา

“ลูกชาย!” นายอำเภอจับมือบุตรชายของตัวเองแน่น จากนั้นก้มหน้าจูบหน้าผากของบุตรชายทั้งน้ำตา “พ่อทำผิดต่อเจ้า พ่อขอโทษเจ้าจริงๆ”

ดวงตาของหลิวหงร้อนผ่าว เขาเบนหน้าหนีไปอีกทางอย่างไม่กล้ามองต่อ

ไป๋ชิงเหยียนกัดฟันกรอด พยายามข่มความรู้สึกที่กำลังจะปะทุขึ้นมา หญิงสาวเอื้อมมือไปประคองร่างของนายอำเภอที่คุกเข่าอยู่บนพื้นขึ้นมา จากนั้นหันไปมองบรรดาชาวบ้านที่ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น “นับแต่นี้เป็นต้นไป เมืองที่ไป๋ชิงเหยียนไปเยือนทุกเมืองจะไม่มีเด็กคนใดถูกส่งไปยังเมืองหลวงอีก!”

“หยางอู่เช่อ!” ไป๋ชิงเหยียนตะโกนเรียก

หยางอู่เช่อรีบวิ่งเข้ามาในจวนว่าการทันทีที่ได้ยินเสียง เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น “พ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้ารีบพาคนไปจับตัวขุนนางที่มารับตัวเด็กเหล่านี้ไปยังเมืองหลวงไปขังคุกทันทีโดยไม่ต้องพามาพบข้าอีก” ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางนายอำเภอ “ส่งคนนำทางพวกเขาไปที”

“พ่ะย่ะค่ะ” หยางอู่เช่อสั่งให้หยางเวยพาทหารยี่สิบคนตามคนของทางการไป

“แม่ทัพคุ้มกันเมืองอยู่ที่ใด” ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางนายอำเภอ

สิ้นเสียงนายอำเภอหน้าซีดเผือดทันที เขาก้มหน้าลง ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น

บัดนี้แม่ทัพหลี่นำลูกน้องที่จงรักภักดีไปสร้างกับดักอยู่ที่ถนนนอกเมือง เมื่อขุนนางพาตัวเด็กๆ เมืองชุนมู่ไปยังเมืองหลวง พวกเขาจะบุกเข้าไปช่วยเหลือเด็กเหล่านั้นกลับมาอย่างสุดชีวิต

“กล่าวมาตามตรงได้เลย” ไป๋ชิงเหยียนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้านายอำเภอ

“ทูล…ทูลองค์หญิงเจิ้นกั๋ว แม่ทัพหลี่พาคนไปดักซุ่มรอช่วยเหลือเด็กๆ อยู่ที่ถนนนอกเมืองพ่ะย่ะค่ะ!” นายอำเภอกล่าวจบก็คลานเข่าเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนอีกสองสามก้าว “องค์หญิงเจิ้นกั๋วอย่าโทษแม่ทัพหลี่เลยนะพ่ะย่ะค่ะ เด็กที่อยู่ในราชโองการครั้งนี้ล้วนเป็นทายาทของทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ แม่ทัพหลี่ทนดูไม่ได้จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”

“ดี!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวชมออกมา “นี่ถึงจะเป็นแบบอย่างที่ดีของทุกคน เป็นทหารเลือดร้อนที่มีศักดิ์ศรี! ท่านส่งคนไปตามแม่ทัพหลี่กลับมาที บอกแม่ทัพหลี่ว่าไป๋ชิงเหยียนฝากให้เขาคุ้มครองเมืองชุนมู่ อย่าให้เด็กคนใดถูกพาตัวไปจากเมืองเด็ดขาด!”

นายอำเภอได้ยินเช่นนี้จึงดีใจขึ้นมาทันที เขารีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน จากนั้นหันไปสั่งการ “เร็วเข้า! รีบไปตามแม่ทัพหลี่กลับมาเร็ว!”

ไม่นานหยางอู่เช่อก็พาขุนนางที่มารับตัวเด็กไปยังเมืองหลวงเข้ามา “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ขุนนางผู้นั้นต้องการเข้าเฝ้าองค์หญิงเจิ้นกั๋วให้ได้พ่ะย่ะค่ะ เขารออยู่ที่ด้านนอก หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ต้องการพบเขา กระหม่อมจะจับเขาไปขังคุกเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

ขุนนางผู้นั้นชะโงกหน้ามองเข้ามาด้านใน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนในชุดเกราะที่เต็มไปด้วยไอสังหารก็ตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง ทว่า ยังคงฝืนกล่าวเสียงแข็ง “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว กระหม่อมคือขุนนางที่ฝ่าบาทส่งมา ถือเป็นตัวแทนของฝ่าบาท องค์หญิงเจิ้นกั๋วสั่งให้คนจับกระหม่อมเช่นนี้ ในสายตาของท่านยังมีฝ่าบาทอยู่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ท่านไม่กลัวว่าฝ่าบาทจะทรงลงโทษท่านโทษฐานดูหมิ่นเบื้องสูงหรือพ่ะย่ะค่ะ!”

“ไม่จำเป็น…จับไปขังได้เลย” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!” ขมับของหลิวหงเต้นรัว “นั่นคือคนที่ฝ่าบาทส่งมา องค์หญิงเจิ้นกั๋วสามารถเชิญเขาเข้ามาสอบถามเรื่องราวก่อนได้ เหตุใดจึงทำกับขุนนางที่ฝ่าบาทส่งมาเช่นนี้ ในสายตาของท่าน…”

หลิวหงชะงักถ้อยคำลงทันที ในสายตาขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว…ไม่มีฮ่องเต้อยู่แล้ว

องค์หญิงเจิ้นกั๋วคงกำลังจะกบฏแล้ว

หลิวหงเพิ่งตระหนักรู้วันนี้เอง ทว่า มันสายเกินไปแล้ว

บัดนี้กองทัพต้าจิ้นที่ฟังคำสั่งของเขาถูกเกาอี้จวิ้นจู่ควบคุมอยู่ที่เมืองหาน

หลิวหงหลับตาลง ฝ่าบาทมีราชโองการเช่นนี้ ใช้วิธีโหดร้ายเช่นนี้เกณฑ์ตัวเด็กๆ ไปยังหอบูชาเก้าชั้น หากเด็กเหล่านี้ถูกส่งไปยังหอบูชาเก้าชั้นจริงๆ พวกเขาคงไม่มีชีวิตรอดแน่

ยิ่งนึกถึงสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินในเมืองชุนมู่ในวันนี้ แค่มุมเดียวของเมืองชุนมู่ก็สามารถมองเห็นความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แล้วว่าตอนนี้แคว้นต้าจิ้นมีสภาพเช่นไร หลิวหงรู้ดีอยู่แก่ใจ

ไม่นานแม่ทัพหลี่ผู้คุ้มกันเมืองชุนมู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศก็พาลูกน้องของตัวเองกลับมา เขาคุกเข่าลงข้างๆ นายอำเภอ “หลี่เทียนเป่าคารวะองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ!”

“แม่ทัพหลี่คุ้มครองชาวบ้านด้วยชีวิต ไป๋ชิงเหยียนนับถือยิ่งนัก” ไป๋ชิงเหยียนคำนับให้หลี่เทียนเป่า จากนั้นกล่าวเสียงดัง “วันนี้หากมีคนนำราชโองการมารับตัวเด็กเมืองชุนมู่ไปยังเมืองหลวงอีก ไม่ว่าพวกเขาจะมีราชโองการหรือตราอาญาสิทธิ์อยู่ในมือ แม่ทัพคุ้มกันเมืองและนายอำเภอห้ามส่งตัวเด็กเหล่านี้ให้พวกเขาเด็ดขาด จงจับตัวพวกนั้นไว้ทั้งหมด แม่ทัพหลี่และนายอำเภอทำตามคำสั่งของข้า ไป๋ชิงเหยียนจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเอง! ฝากแม่ทัพหลี่และนายอำเภอดูแลเมืองชุนมู่ด้วย!”

ดวงตาของหลี่เทียนเป่าและนายอำเภอร้อนผ่าวขึ้นทันที พวกเขาได้ยินชื่อเสียงเทพสังหารขององค์หญิงเจิ้นกั๋วมานานแล้ว ทว่า พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะปกป้องชาวบ้านถึงเพียงนี้

นายอำเภอก้มศีรษะแนบพื้น หลี่เทียนเป่ากำหมัดคารวะ ทั้งสองคนรับคำเสียงหนักแน่น

“องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ต้องเป็นห่วง กระหม่อมจะคุ้มครองเมืองชุนมู่ด้วยชีวิตพ่ะย่ะค่ะ!”

“องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ต้องเป็นห่วง กระหม่อมจะคุ้มครองเมืองชุนมู่ด้วยชีวิตพ่ะย่ะค่ะ!”

ตั้งแต่เดินออกมาจากเมืองชุนมู่ หลิวหงนิ่งเงียบมาตลอดทาง เขาไม่รู้ว่าไป๋ชิงเหยียนจะกบฏจักรพรรดิต้าจิ้นแล้วสนับสนุนให้องค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์แทนหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นอย่างน้อยไป๋ชิงเหยียนก็กลับไปเพื่อปราบปรามความวุ่นวาย

หลิวหงมองแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียน เขาอยากเชื่อว่าแม้ว่าไป๋ชิงเหยียนจะกบฏจักรพรรดิต้าจิ้น ทว่า หญิงสาวไม่มีทางกบฏต่อราชวงศ์หลิน

เขานึกถึงคำกล่าวของนายอำเภอและแม่ทัพหลี่ที่กล่าวขณะเดินออกมาส่งพวกเขานอกเมืองว่าครั้งนี้นอกจากจักรรพรรดิต้าจิ้นจะมีราชโองการให้รวบรวมตัวเด็กหญิงและเด็กชายจำนวนหนึ่งพันคนแล้ว ยังมีราชโองการอีกฉบับประกาศว่าห้ามแม่ทัพที่ไม่มีราชโองการหรือตราอาญาสิทธิ์นำทัพโดยใช้ถนนของทางการเด็ดขาด

หากหลิวหงเดาไม่ผิดนี่คงเป็นแผนที่เหลียงอ๋องใช้ป้องกันเขาและไป๋ชิงเหยียนแน่นอน ทว่า ตอนนี้ราชโองการนี้คงทำสิ่งใดไป๋ชิงเหยียนไม่ได้แล้ว

เมื่อข่าวของเมืองชุนมู่ในวันนี้แพร่กระจายออกไป ขอเพียงกองทัพที่มีธงสัญลักษณ์ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วและธงเฮยฟานไป๋หมั่งเคลื่อนผ่าน หากแม่ทัพผู้คุ้มกันเมืองนั้นรักและเป็นห่วงชาวบ้านจริงๆ พวกเขาย่อมต้องหลีกทางให้ไป๋ชิงเหยียนแน่นอน

เมื่อเห็นกลุ่มของไป๋ชิงเหยียนกลับมา บรรดาทหารที่นั่งพักอยู่กับที่ต่างลุกขึ้นยืน

บัดนี้ไป๋จิ่นซิ่วยังอยู่ในเมืองหลวง จักรพรรดิต้าจิ้นใช้บัลลังก์เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับเหลียงอ๋อง ไป๋ชิงเหยียนเดาว่าไป๋จิ่นซิ่วไม่มีทางปล่อยให้เหลียงอ๋องขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่นแน่นอน นางต้องรีบกลับไปยังเมืองหลวง มิเช่นนั้นไป๋จิ่นซิ่วอาจคิดตายไปพร้อมกับเหลียงอ๋องเพื่อถ่วงเวลาให้นาง

ไป๋ชิงเหยียนกระชากบังเหียนม้าให้หยุดลงพลางกวาดสายตามองไปทางทหารทุกคน จากนั้นออกคำสั่ง “หลินคังเล่อ หยางเวย…”

หลินคังเล่อและหยางเวยที่ตามไป๋ชิงเหยียนกลับมาจากเมืองชุนมู่รีบก้าวไปด้านหน้า “พ่ะย่ะค่ะ!”

“ข้าขอสั่งให้พวกเจ้านำทหารสามหมื่นนายมุ่งหน้าไปยังหอบูชาเก้าชั้น ต้องช่วยเหลือบรรดาเด็กๆ ที่ถูกส่งตัวไปยังหอบูชาเก้าชั้นไว้ให้ได้ทั้งหมด อย่าให้พลาดเด็ดขาด หากมีคนสังหารชาวบ้านเพราะการสร้างหอบูชาเก้าชั้นจงสังหารได้ทันที รีบออกเดินทางเดี๋ยวนี้!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หยางเวยขึ้นไปบนหลังม้า เขาเตรียมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่จวนว่าการของเมืองชุนมู่ให้หลินคังเล่อฟังอย่างละเอียดระหว่างทาง