บทที่ 873 งานฝีมือสร้างรายได้

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 873 งานฝีมือสร้างรายได้

บทที่ 873 งานฝีมือสร้างรายได้

สามสาวรู้สึกว่าเหมือนจะมีหนทางอยู่ เรามาจากชนบทยังมีอะไรให้อายอีกล่ะ ถ้าอายแล้วจะหาเงินได้หรือ?

ไม่ได้อยู่แล้ว!

แม้จะคิดเรื่องหาวิธีทำให้ชีวิตไม่ลำบากในอนาคตก็ตาม เราก็ยังคิดจะส่งลูกอม เมล็ดแตงโม และของอื่น ๆ ให้บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าจริง ๆ นะ

วันรุ่งขึ้นสาว ๆ ออกไปเดินเที่ยวอย่างมีความสุข

บรรยากาศเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ดีจริง ๆ

เสี่ยวเถียนมองดูผู้คนด้วยความสนอกสนใจ แผงลอยต่าง ๆ เต็มไปด้วยผู้คนที่แย่งกันซื้อของ

สถานการณ์ของพวกเราดีกว่าเมื่อสองปีก่อนมาก ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้ตั๋วอีกต่อไป ขอแค่มีเงินก็ซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้ นี่เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคเลยนะ

“ดูสิเสี่ยวเถียน คนเยอะมากเลย!”

“คนที่นี่เยอะกว่าที่หมู่บ้านเราอีกเนอะเจี้ยนหง” เฉียนเสี่ยวเป่ยจับมือเพื่อน แล้วเอ่ยอย่างตื่นเต้น

ฉีเสี่ยวฟางไม่ได้พูดอะไร แต่มองจากสายตาก็รู้แล้วว่าตื่นเต้นไม่ต่างกัน

เรารู้ดีว่าเมืองหลวงมีจำนวนประชากรเยอะ แต่เพราะไม่เคยฉลองปีใหม่ที่นี่ก็เลยไม่เคยเห็นว่าผู้คนเบียดเสียดกันขนาดไหน

“เราจะเดินเบียดไปได้ไหมเนี่ย?” เสี่ยวเถียนเริ่มสงสัยแล้วว่าเธอจะมีความสามารถในการฝ่าฝูงคนไปซื้อของได้หรือไม่ ถึงที่บ้านจะไม่มีอะไรขาด แต่มาทั้งทีก็ต้องติดไม้ติดมือให้คุ้มกับการเดินทางเสียหน่อย

ต่อให้เป็นแค่เมล็ดแตงโมสามจิน วอลนัทสองจินเธอก็เอา

“ไม่มีปัญหา ขอแค่อย่าเดินเล่นก็พอ” หลี่เจี้ยนหงเอ่ยอย่างมั่นใจ

คนอื่น ๆ รู้สึกมั่นใจตาม

หลังจากมองหน้า เราก็เริ่มซื้อของสำหรับปีใหม่

สาว ๆ พุ่งเข้าไปแผงลอยขายปลาเป็นอันดับแรก แต่พวกเธอมองหน้ากันอีกครั้ง เบียดเข้ามาเสียเที่ยวแล้ว พวกเรามีปลาแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้ออีก

แผงลอยที่สองคือโหยวกั่วจือ ถึงมันจะทอดออกมาอย่างดี แต่เสี่ยวเถียนบอกย่าเธอทำอร่อยกว่าอีก คราวนี้ก็เบียดเข้ามาเสียเที่ยวเช่นกัน

แผงสามขายกิ๊บติดผมและเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ

แสงระยิบระยับเป็นที่สะดุดตามาก

“เจี้ยนหง เราซื้อกิ๊บติดผมคนละตัวดีไหม?” ฉีเสี่ยวฟางถาม

สีสันอันสดใสทำสาว ๆ ที่รักสวยรักงามเริ่มอยากใช้เงินจับจ่าย ซึ่งเสี่ยวเถียนก็เห็นด้วย ถ้าเป็นในยุคปัจจุบันคงมองไม่ได้สวยงามอะไรขนาดนั้น แต่สำหรับยุคนี้ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมเลย

สาว ๆ เริ่มเลือกทันที แต่พวกเธอไม่ได้ซื้อแค่ของตัวเอง แต่ยังเอาไปเผื่อรูมเมทคนอื่นอีกด้วย

เสี่ยวเถียนเลือกยางมัดผมเพิ่มอีกสามเส้นที่เหมาะกับผู้หญิง ตั้งใจจะให้เด็ก ๆ ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า

หลี่เจี้ยนหงยืนกรานว่าจะจ่ายเงินเองเพราะเป็นของขวัญที่ซื้อให้ทุก ๆ คน

ส่วนฉีเสี่ยวฟางบอกว่าจะซื้อสร้อยข้อมือให้ แต่เสี่ยวเถียนปฏิเสธและบอกไปว่า “เราไปดูด้ายสี ๆ ที่ร้านอื่นกัน ฉันว่าถ้าทำเองอาจจะสวยกว่านะ”

ตอนมองกำไลที่ทอด้วยสีสันสดใสพวกนั้น เด็กสาวรู้สึกว่าฝีมือเธอดีกว่านี้มาก

“งั้นฉันรับหน้าที่ซื้อด้ายเอง!” ฉีเสี่ยวฟางเอ่ยทันที

แต่หลังจากพูดจบก็รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหรือเปล่า จะแสดงความขอบคุณแต่ซื้อแค่ด้ายเนี่ยนะ? แต่เสี่ยวเถียนกลับเห็นด้วย แถมเธอยังดูมีความสุขอีกต่างหาก

แม้จะใช้จ่ายเครื่องประดับเพียงเล็กน้อย แต่พวกเธอก็เบิกบานใจเป็นอย่างมาก

หลี่เจี้ยนหงฮัมเพลงช่วงปีใหม่ของบ้านเกิดออกมาตลอดทาง

การมาเดินซื้อของในครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าจริง ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต พวกเธอไม่เคยมีเงินพอให้ซื้อของพวกนี้เลย คนชนบทจะซื้อเฉพาะของที่มีประโยชน์เท่านั้น

ดอกไม้บนหัวอะไรนั่นไม่จำเป็นหรอก แค่เสื้อขนแกะสีแดงก็ฉลองปีใหม่ได้แล้ว หากเป็นสมัยก่อนคงคิดว่าของที่ซื้อตอนนี้ช่างไร้สาระ

สร้อยข้อมือหรือ?

ของบ้าอะไรเนี่ย?

สาว ๆ ถือของพะรุงพะรังเต็มมือ ทั้งของเด็ก ๆ และของตัวเองทั้งนั้น แล้วก็มีของขวัญที่ซื้อให้ผู้อาวุโสบ้านซูด้วย เพราะพวกเธอรู้สึกละอายใจที่ต้องมาฉลองปีใหม่บ้านเขา ถึงจะไม่ใช่ของมีค่าแต่ก็สามารถแสดงความรู้สึกได้ในระดับหนึ่งนะ

เสี่ยวเถียนรู้ว่าเพื่อน ๆ ใช้เงินมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว จึงไม่ปฏิเสธอะไร

สี่สาวไม่ได้กลับหออีหมิง แต่กลับไปที่บ้านซูทันที

เราเหนื่อยกันจนอยากนอนแผ่บนเตียงอยู่เฉย ๆ แต่เราต้องแยกของที่ซื้อมาก่อน

“เสี่ยวเถียน สอนวิธีถักกำไลด้วยนะ” ถึงฉีเสี่ยวฟางจะเหนื่อยมาก แต่ยังห่วงเรื่องนี้อยู่

ของขวัญคนอื่นจะเป็นชิ้น ๆ สำเร็จรูปแล้ว ส่วนของเธอเป็นสร้อยข้อมือที่ใช้ด้ายและลูกปัดหลากสี ถ้าไม่รีบจะไม่ทันช่วงปีใหม่เอา

“เราพักหาอะไรกินก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาทำนะ ตกลงไหมเสี่ยวฟาง?”

เธอรูู้สึกว่าตัวเองแข็งแรง แต่เหมือนสู้การเดินซื้อของไม่ไหว ส่วนคนอื่น ๆ ที่เรื่องพละกำลังด้อยกว่า กลับเดินเก่งกว่าเธอเสียอีก

หลังพักเสร็จทุกคนก็รู้สึกดีขึ้น เสี่ยวเถียนก็หยิบผลไม้มาแจกเพื่อน ๆ

ฉีเสี่ยวฟางรีบกินแอปเปิ้ล จากนั้นก็ดึงด้ายออกมาจากม้วน

เสี่ยวเถียนครุ่นคิดถึงรูปแบบอันซับซ้อนของคนยุคหลัง และมันสวยกว่าในยุคนี้มาก เธอสอนเทคนิคการทำ แล้วปล่อยให้เพื่อน ๆ ทำด้วยตัวเอง ต้องบอกว่าสามสาวเก่งมาก ใช้เวลาสั้น ๆ ก็ถักสร้อยข้อมืออกมาได้แล้ว

“ฉันว่าเราเอาไปขายที่มหาวิทยาลัยได้นะ” ฉีเสี่ยวฟางตื่นเต้นมาก

หลังจากฟังเสี่ยวเถียนเข้าใจแล้ว เธอคิดว่าสามารถสร้างกำไรจากสิ่งนี้ได้มากกว่าขายส่งเครื่องประดับเสียอีก

เพราะเราใช้ต้นทุนน้อยมากเลย แต่จากนั้นก็นึกได้ว่ามันเป็นฝีมือของเสี่ยวเถียนจึงเอ่ยถาม “เสี่ยวเถียน เราขายของพวกนี้จากสิ่งที่เธอสอนได้ไหม?”

“ถ้าพวกเธอไม่เบื่อหรือเหนื่อยก็ทำไปเถอะ ฉันยังคิดอยู่เลยว่าทำเครื่องประดับผมเพิ่มด้วยกันก็ดีนะ”

วันนี้เสี่ยวเถียนหยิบเครื่องประดับผมมาหลายชิ้นเลย

“แต่เราทำดอกไม้พวกนี้เป็นที่ไหนกันล่ะ!” หลี่เจี้ยนหงตกใจ

“จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ยากนะ ง่ายมาก ๆ เลย” จากนั้นเธอก็หยิบเศษผ้าออกมาจากตู้ เลือกชิ้นที่เหมาะ ๆ แล้วตัดออกมา จากนั้นก็เริ่มร้อยด้าย

สาว ๆ ตกใจ เสี่ยวเถียนเย็บผ้าเป็นด้วยหรือ?

ที่จริงพวกเธอแค่เข้าใจผิดเฉย ๆ จริง ๆ เสี่ยวเถียนไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก

แต่การทำเครื่องประดับผมมันไม่จำเป็นต้องอาศัยฝีมือประณีตใด ๆ ทั้งสิ้น ขอแค่พอจะเย็บผ้าเป็นก็พอแล้ว สิ่งสำคัญอยู่ที่ทักษะต่างหาก