บทที่ 875 เตรียมของปีใหม่

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 875 เตรียมของปีใหม่

บทที่ 875 เตรียมของปีใหม่

“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ๆ รีบกลับบ้านเถอะ! แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนวดแป้งนะ ที่บ้านคนเยอะมาก แค่มาช่วยแต่เช้าก็พอแล้ว!” คุณย่าซูรีบบอก

ไม่แปลกใจที่เด็ก ๆ พวกนี้เล่นกับหลานสาวเธอได้ ทุกคนล้วนเป็นเด็กดีทั้งนั้นเลย แต่ว่าตอนนี้สามทุ่มแล้ว ถ้าปล่อยให้พวกเธอกลับช้าก็รู้สึกไม่สบายใจอีก

“พวกเรากลับก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” อวี่รุ่ยหยวน

เธอสนิทกับคนบ้านซูดี รู้ด้วยว่าเวลาบ้านนี้ทำงานจะไม่มีกรณีหญิงทำชายนั่งเฉย ๆ เด็ดขาด พวกผู้ชายแข็งแรงดี งานนวดแป้งจึงตกเป็นหน้าที่ของพวกเขา

ฉีเสี่ยวฟางอยากพูดบางอย่าง แต่โดนหญิงชราดึงกลับไปแล้ว

อวี่รุ่ยหยวนชอบเด็ก ๆ กลุ่มนี้มาก นิสัยดี ตั้งใจทำงาน รู้วิธีหาเงินแบ่งเบาภาระครอบครัวด้วย ถึงจะมาจากชนบทแต่ไม่ถ่อมตัวหรือทำตัวโอหัง จิตใจดี รู้มารยาท รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อนาคตไกลแน่นอน

“กลับกันจ้ะ เผื่อจะได้ทำเครื่องประดับเพิ่มด้วยนะ”

แกยิ้มแล้วพาสามสาวจากไป

คุณย่าซูให้เหล่าซานพาซานกงและเสี่ยวซื่อไปทำงาน

“แม่จะให้ช่วยงานนะ พวกลูกแข็งแรงพอจะนวดแป้งได้”

ซานกงช่วยแม่มาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาหยิบถุงแป้งออกมาพร้อมกะละมังใบใหญ่

ซานกงและเสี่ยวซื่อรีบเข้าไปช่วยทันที

เสี่ยวเถียนอยากร่วมวงด้วย แต่พี่ชายและปู่ย่าห้ามเอาไว้

“หลานรักนั่งดูก็พอ เดี๋ยวจะเหนื่อยเปล่า!” หญิงชรารินน้ำให้หลานสาว

เสี่ยวเถียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอโตแล้วนะ ทำไมต้องทำเหมือนเป็นเด็ก ๆ เลยล่ะ?สมาชิกในบ้านตั้งเยอะตั้งเยอะ ต้องใช้คนเยอะ ๆ สิ มีแค่สามคนต้องทำนานขนาดไหนเนี่ย

เสี่ยวเถียนไม่ได้คาดหวังพละกำลังของคนทั้งสามสักนิด

สามอาหลานถือกะละมังคนละใบ จัดการทุกอย่างด้วยความรวดเร็วกระทั่งนวดแป้งเสร็จ ผู้หญิงในบ้านก็ช่วยด้วยเหมือนกัน ตัดแป้ง เติมน้ำอะไรพวกนี้

คนในครอบครัวร่วมแรงร่วมใจ ใช้เวลาไม่นานก็ทำบะหมี่หลายกะละมังเสร็จ

คุณย่าซูง่วนกับการรวมแป้งเข้าด้วยกัน แล้วใส่ไว้ในกะละมัง จากนั้นก็ใช้ผ้าสะอาดห่อแล้ววางลงบนเตียงเตาอุ่น ๆ

ตอนนี้เป็นหน้าหนาวแล้ว ถ้าไม่ไว้ในที่อุ่น ๆ รุ่งเช้าตัวแป้งจะไม่ขึ้นฟู นี่เป็นเหตุผลที่แกวางไว้บนนี้อย่างระมัดระวัง แล้วก็เอาผ้าห่มทับอีกชั้น

หลังเสร็จสิ้นภารกิจ ทุกคนแยกย้ายกันกลับห้องพักผ่อน

ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างเงียบสงบ

เช้าวันต่อมา คนบ้านซูตื่นขึ้น พร้อมด้วยสองผู้อาวุโสบ้านตู้ และเด็กทั้งสามก็มาหาที่บ้าน

“ตื่นเช้ากันจังเลย” คุณย่าซูยิ้ม “กินข้าวหรือยัง? เหลียงซิ่วทำโจ๊กให้อยู่ ไว้กินข้าวเสร็จค่อยเริ่มงานกัน”

คนกันเองทั้งนั้นจึงไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไร ตั้งแต่สาว ๆ ตื่นก็ยังไม่ได้กินข้าวกันเลย

“กินด้วยค่ะ”

“นอกจากโจ๊กลูกเดือยแล้ว มีไข่ต้มคนละใบนะ จะได้ไม่หิว!” หญิงชรากล่าวเสริม

“เดี๋ยวหนูช่วยล้างไข่ไก่นะคะ” ฉีเสี่ยวฟาง

เธอกินเยอะ จึงต้องทำงานให้มากขึ้น

“ได้จ้ะ งั้นเราต้มไข่เพิ่มด้วยหน่อยแล้วกันนะ”

อาหารเช้าวันนี้ประกอบไปด้วยโจ๊กลูกเดือย ซาลาเปาไส้ผัก ไข่ต้ม ผักดอง และผลไม้

คนทั้งสิบร่วมกินข้าวด้วยกัน สนทนาอย่างเพลิดเพลินใจ จากนั้นเราก็แบ่งหน้าที่และลงมือทำงานทันที

คุณย่าให้หลานไปย้ายกะละมังบนเตียงไปไว้ที่ครัวทีละใบ

“ทำไมเยอะจังเลยล่ะ?” อวี่รุ่ยหยวนตกใจ

“ฉันเห็นว่าคนเยอะด้วยน่ะ แป้งแค่นี้ไม่ถือว่าเยอะหรอก เพราะต้องทำซาลาเปาม้วน ซาลาเปาเรือ ทำแป้งทอด โหยวกั่วจือ แล้วก็หมาฮวาอะไรพวกนี้อีก ไหนจะต้องทำหมั่นโถว แล้วก็เตรียมซาลาเปาไว้เผื่ออีกด้วย”

เมื่อก่อนเราไม่ค่อยมีกิน ตอนนี้ฐานะทางบ้านดีขึ้นมา กินแป้งสาลีได้ตามใจฉัน แน่นอนว่าต้องทำเยอะ ๆ อยู่แล้ว

อวี่รุ่ยหยวนขบคิด คนบ้านซูมีสมาชิกสิบกว่าคน คนนึงก็กินหมั่นโถวลูกนึงแล้ว ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย

ไหนจะต้องส่งไปที่บ้านเด็กกำพร้า แบ่งให้บ้านเรากับเหล่าฉืออีก ทำน้อยไปอาจจะไม่พอแน่

“เข้าใจแล้วจ้ะ ถ้าทำก็ต้องทำทีเดียวเลยสินะ”

“ฉันก็คิดแบบนั้นอยู่นั่นแหละ วันนี้จะทำเนื้อห่อขนมปังทุก ๆ รูปแบบเลย แล้วพรุ่งนี้ค่อยเตรียมทำเนื้อเป็นพิเศษ เนื้อหมัก เนื้อเผ็ด เนื้อหน้าหนาว แล้วก็หมูก้อนทอด หมูทอดกรอบอย่าให้ขาด” คุณย่าซูเอ่ยอย่างมีความสุข

จากนั้นก็ถอดถอนหายใจ “ตอนนี้เราอยู่ในยุคสังคมใหม่แล้วสินะ มีชีวิตที่ดีขึ้น ได้กินซาลาเปาจากแป้งสาลี ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ต้องเอาไปผสมแป้งข้าวโพด”

อวี่รุ่ยหยวนยิ้ม “นั่นหมายความว่าชีวิตครอบครัวเธอกำลังไปได้สวยไง กับครอบครัวอื่นคงไม่มีอย่างนี้หรอก”

คนบ้านซูบากบั่นทำงาน กล้าลงมือทำ และมีความโชคดี ตอนนี้จึงมีชีวิตที่ดีขึ้น

มีหลายครอบครัวเลยนะ ที่ไม่สามารถเอาแป้งสาลีมาทำอาหารฉลองปีใหม่มากมายขนาดนี้

“ได้ใช้ชีวิตแบบนี้ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนทำงานมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์! เหนื่อยยากมาตลอดทั้งปีกลับต้องเอาอาหารให้เจ้าของที่หมดเลย!” คุณย่าซูบ่น

“พูดแบบนี้ก็ถูก ช่วงเวลาเหมาะเจาะ มีชีวิตที่ดีอีกหลายปี เกิดมาบนโลกนี้ไม่สูญเปล่าแล้วละ”

“ย่าบุญธรรมยังมีเวลาอีกตั้งหลายสิบปีนะคะ ชีวิตดี ๆ จะรอคอยอยู่ข้างหน้าแหน่ะ” เสี่ยวเถียนยิ้มพลางกอดแขนหญิงชรา

“จ้ะ ย่าจะรอรับโชคจากหนูนะ”

อวี่รุ่ยหยวนไม่เข้าใจความหมายที่หลานสาวสื่อ คิดว่าว่ามันหมายถึงมีเวลาให้ตัวหลานได้กตัญญูต่อกัน แกจึงยิ้มจนตาปิด

คุณย่าซูมองความสัมพันธ์ของคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ไม่มีร่องรอยความอิจฉาเลยสักนิด

“แป้งกะละมังนี้เอามาทำซาลาเปานึงนะ กะละมังนี้ทำซาลาเปารูปดอกไม้ ส่วนกะละมังนี้ทำแป้งทอด ที่เหลือก็ค่อยเอามาทำหมาฮวากับโหยวกัวจื่อแล้วกัน”

หญิงชราแจกแจงหน้าที่

ตัวแป้งแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน เวลานวดเราจะมีข้อกำหนดในการทำ และส่วนผสมที่แตกต่างกันด้วย

หมั่นโถวต้องใช้แป้งที่แข็งนิดนึง เพื่อที่เวลานึงออกมาเนื้อจะได้แน่น กินแล้วจะไม่โหย

ซาลาเปาต้องรีดแป้ง ให้ข้างในนุ่มนิดหน่อย ไม่งั้นเวลานึ่งออกมาผิวจะแตกเอาได้ การทำแป้งทอดให้ดีควรใส่ไขน้ำมันหมูนิดหน่อย แล้วก็ไข่ไก่ เวลาทอดมันจะมีรสชาติที่เข้มข้นขึ้น หวานหน่อย ๆ อร่อยมาก

ส่วนโหยวกัวจือและหมาฮวาต้องใส่ใจในเรื่องความกรอบของแป้ง

“เรามาทำเนื้อห่อขนมปังก่อนแล้วกัน เวลาตัวแป้งนึ่งเสร็จจะได้เอามาห่อนะ

อวี่รุ่ยหยวนทำอาหารไม่เก่ง ต่อให้เป็นบะหมี่ก็ยังไม่ค่อยได้เรื่อง แม้จะทำเนื้อห่อขนมปังมาหลายครั้ง แต่ขนาดก็ยังเทอะทะไม่ค่อยสวย

คุณย่าซูรู้นิสัยอีกฝ่ายดี จึงวานให้ช่วยปอกหัวหอมกับสับผัก ส่วนตัวเองและเหลียงซิ่วทำตัวแป้งแล้วนำไปนึ่งอย่างว่องไว