บทที่ 918 ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 918 ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ

บทที่ 918 ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ

กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจอย่างเย็นชา หลิวเทียนฉือคนนี้ไม่มีธุระก็คงไม่มาจริง ๆ วิธีการทำกิจการเช่นนี้ เมื่อมองผิวเผินดูเหมือนว่ากู้เสี่ยวหวานจะได้ประโยชน์จากมัน

แต่ใครก็ตามที่เคยเป็นช่างตัดเย็บจะทราบดีว่าการทำผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนก็เหมือนกับผ้าเช็ดหน้าที่พวกเขาปักในทุกวัน ๆ วัสดุของผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งราคาประมาณห้าสิบเหรียญและใช้เวลาทำประมาณครึ่งวัน หากขายในราคาหนึ่งตำลึงเงิน นั้นก็เท่ากับหนึ่งพันเหรียญ

แผนการของหลิวเทียนฉือถือว่าพวกกู้เสี่ยวหวานเป็นแรงงานราคาถูก

นอกจากนี้ กู้เสี่ยวหวานยังฝึกฝนกู้เสี่ยวอี้เพื่อไม่ให้นางต้องเป็นช่างปักธรรมดาไปตลอดชีวิต

นางต้องการให้ในอนาคตกู้เสี่ยวอี้สามารถมีอิสระ และสามารถเปิดร้านของตนเองได้ การเป็นช่างตัดเย็บนั้นไม่ดีต่อสายตา และนางจะไม่ปล่อยให้กู้เสี่ยวอี้ปักผ้าไปตลอดชีวิต

ในอนาคต กู้เสี่ยวอี้ต้องเป็นเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้น

นอกเหนือจากนี้ กู้เสี่ยวหวานก็มีเงินมากขึ้นแล้ว หากต้องการเปิดร้านในเมืองหลวง นางจะต้องเปิดมันด้วยตนเอง และไม่ร่วมลงทุนกับหญิงคนนี้อย่างแน่นอน

หลิวเทียนฉือเป็นคนเช่นไร สิ่งนั้นล้วนประจักษ์อยู่ในสายตาของกู้เสี่ยวหวาน

นางจะร่วมลงทุนกับใครก็ได้ แต่จะไม่ร่วมลงทุนกับหลิวเทียนฉือแน่นอน

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ กู้เสี่ยวหวานก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “คุณหนูหลิว เกรงว่าจะทำให้ท่านลำบากใจ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะเป็นช่างตัดเย็บ”

เมื่อเห็นการปฏิเสธอันแสนเย็นชาของกู้เสี่ยวหวาน หลิวเทียนฉือจึงยังไม่ได้พูดอะไรออกมา หากแต่ใบหน้าของเสี่ยวเถาบูดบึ้งไม่น่ามอง “กู้เสี่ยวหวาน เจ้ามาทำตัวไร้ยางอาย คุณหนูของข้าใจดีขนาดนี้ นางต้องการพาเจ้าไปเมืองหลวง ไม่ปล่อยให้เจ้าออกเงินแม้แต่เหรียญเดียว และยังแบ่งกำไรให้ถึงสี่ส่วน ข้อเสนอที่ดีเช่นนี้หาได้ยากยิ่งนัก เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ?”

น้ำเสียงของเสี่ยวเถาเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร

กู้เสี่ยวหวานเหลือบมองนางอย่างเย็นชา แววตาเย็นเยือกนางทำให้เสี่ยวเถาหวาดผวา

ไม่ได้เจอกันนานสองปี เด็กหญิงคนนี้ดุร้ายขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่สายตาก็ยังเต็มไปด้วยความมาดร้าย

เสี่ยวเถากำหมัดแน่น ยืนอยู่ข้างหลังหลิวเทียนฉือ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

ในตอนนี้ หลิวเทียนฉือสามารถมองเห็นความไม่พอใจของกู้เสี่ยวหวานได้เพียงมองด้วยหางตา

หัวใจของนางร้อนรุ่ม นางอยู่ในเมืองหลวง ทุกคนก็กระตือรือร้นที่จะเห็นว่าสิ่งที่น่ารักและสวยงามอยู่ในกำมือของนาง

การมาที่นี่อย่างกะทันหันของหลิวเทียนจือในครั้งนี้ก็มีเรื่องเร่งด่วนเช่นกัน

แต่หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์อันวุ่ยวาย สุดท้ายนางก็คว้าน้ำเหลว โนเวล-พีดีเอฟ

หลิวเทียนฉือโกรธเคืองยิ่งนัก หากแต่ไม่ได้เอ่ยออกไป และทำได้เพียงคิดถึงตุ๊กตาและผ้าเช็ดหน้าปักเหล่านั้นที่กู้เสี่ยวหวานทำ

สิ่งที่นางไม่ได้ลงทุนอะไรกลับทำเงินได้มากมาย เมื่อเห็นว่าที่บ้านไม่มีอะไรทำ จึงเกิดความคิดนี้ขึ้นมา จึงบอกกล่าวกับหลิวฉงหร่านและรีบกลับมาที่เมืองหลิวเจีย

ตุ๊กตาและผ้าเช็ดหน้าแปลกใหม่ที่น่าสนใจเหล่านี้เป็นที่นิยมอย่างมากในเมืองหลวง ไม่ว่าจะขายราคาาสูงเท่าไร ย่อมมีคนซื้อมันอย่างแน่นอน

หลิวเทียนฉือไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะเปิดร้านขายผ้าในเมืองหลวง

ขายสินค้าเกี่ยวกับตุ๊กตา ผ้าเช็ดหน้า และสินค้าอื่น ๆ

การเปิดร้านเป็นเรื่องง่ายดาย แต่การหาช่างปักที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้นั้นไม่ง่ายเลย

เมื่อพบช่างปักผ้าบางคน แต่พวกนางไม่สามารถวาดรูปเลียนแบบได้เลย

ไม่ต้องกล่าวถึงการส้รางขึ้นมาใหม่ แม้แต่สามส่วนของตุ๊กตาก็ไม่สามารถทำได้

ครั้นเห็นว่าหาช่างปักที่ถูกใจไม่ได้ หลิวเทียนฉือจะไม่สามารถเปิดร้านขายผ้าได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นจึงมาที่นี่เพื่อมาหากู้เสี่ยวหวานโดยเฉพาะ

แต่ใครเล่าจะรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานไม่เห็นด้วยกับการลงทุนของนางเลยแม้แต่น้อย

ใบหน้าของหลิวเทียนจือบูดบึ้งหน้าเกลียด และกล่าวอย่างไม่พอใจ “แม่นางกู้ เจ้าอย่าพลาดข้อเสนอที่ดีเช่นนี้เลย”

หลิวเทียนฉือกลัว กลัวว่าตนเองจะทำไม่สำเร็จ แต่กู้เสี่ยวหวานจะทำมันได้

ถ้ากู้เสี่ยวหวานเปิดร้านนี้ในตอนนั้น แผนการของนางจะสูญเปล่า

ก่อนที่นางจะมาที่นี่ นางได้บอกสหายบางคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้านางทำไม่สำเร็จมันจะไม่เป็นการขายหน้างั้นหรือ?

กู้เสี่ยวหวานกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “คุณหนูหลิวมีเรื่องดี ๆ และคิดถึงข้าเช่นนี้ ข้ารู้สึกขอบคุณมาก แต่เราทำตุ๊กตาเพราะวันธรรมดาเราไม่มีอะไรทำ เราจึงคุ้นเคยกับมัน หากเราถูกขอให้เป็นช่างตัดเย็บจริง ๆ เราไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน คุณหนูหลิวมีชีวิตที่ดีอยู่แล้วจะยังหาอะไรทำไปทำไม”

สิ่งที่กู้เสี่ยวหวานพูดเป็นความจริง แต่ความจริงฟังดูไม่น่าพอใจสำหรับหลิวเทียนฉือ

ในขณะที่ดื่มชา ดวงตาของนางมืดลงและก็พึมพำกับตัวเอง กู้เสี่ยวหวานคนนี้ช่างไม่รู้เรื่อง

“แม่นางกู้ เจ้าคงรู้ว่าแม้ว่าตระกูลหลิวของข้าจะไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจในเมืองหลวง แต่ก็เป็นตระกูลที่น่านับถือที่ฮ่องเต้เรียกเข้าเฝ้า และพ่อของข้าก็ต้องไปเข้าเฝ้าเพื่อให้ครอบครัวเป็นที่เคารพรับถือ ฮ่องเต้น่ะ พวกเจ้าเคยพบหรือไม่ เกรงว่าในชีวิตนี้ที่ห่างไกลเช่นนี้ก็คงจะมองไม่เห็น”

หลิวเทียนฉือยิ้มเศร้าสร้อย “เมืองหลิวเจียแห่งนี้เป็นเพียงสถานที่เล็ก ๆ เมื่อเทียบกับเมืองหลวงแล้ว สถานที่นี้ไม่คู่ควรกับเมืองหลวงด้วยซ้ำ เจ้าเคยเห็นความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงหรือไม่? ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองหลิวเจีย สำหรับในเมืองหลวงมันเป็นเพียงสถานที่ที่ต่ำที่สุด เมืองหลวงเต็มไปด้วยทองคำ ตอนนี้แม่นางกู้มีฝีมือที่ดี แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ใช้งาน ข้าตั้งใจมาที่เมืองหลิวเจียครั้งนี้เพียงเพื่อเรื่องนี้ และมาหารือกับเจ้าโดยตรง แม่นางกู้ต้องการคิดเรื่องนี้อีกครั้งหรือไม่ ข้ายังไม่ต้องการให้เจ้าตอบตกลงตอนนี้ อีกสองวันข้าจะมารอเจ้าที่ร้าน จิ่นฝู”

หลังจากพูดจบโดยไม่รอให้กู้เสี่ยวหวานพูด นางก็เดินจากไปพร้อมกับสาวรับใช้สองคน

ก่อนจากไป เสี่ยวเถาจ้องมองกู้เสี่ยวหวานตาเขม็งก่อนจะถอนสายตาใส่นางอย่างเย็นชา และเดินตามหลังหลิวเทียนฉือจากไปอย่างเย่อหยิ่ง

เมื่อเห็นหลิวเทียนฉือจากไป ใบหน้าของนางดำราวกับก้นหม้อ ป้าจางและกู้ฟางสี่รู้สึกว่าเรื่องนี้ยากที่จะจัดการ ดังนั้นพวกนางจึงเข้าไปหากู้เสี่ยวหวานและถามว่าจะทำอย่างไร

“เสี่ยวหวาน เราควรทำอย่างไรดี ดูเหมือนว่าคุณหนูหลิวจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย” กู้ฟางสี่พูดอย่างกังวล

หากรู้เร็วกว่านี้ ในตอนนั้นไม่ควรเย็บตุ๊กตากับผ้าเช็ดหน้าเลย พวกนางไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

ตอนนี้หลิวเทียนฉือกำลังโยนเหยื่อไปที่กู้เสี่ยวหวาน

การใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อจ้างกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ มาเป็นช่างตัดเย็บจะต้องมีแผนการอื่นแอบแฝง

เกรงว่าหลังจากที่ช่างตัดเย็บคนอื่นเรียนรู้วิธีการปักแล้ว พวกเขาจะเขี่ยพวกกู้เสี่ยวหวานออกไปทันที

——————————————-