บทที่ 889 เขาเป็นห่วงเธอมาก

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“ไม่ไหวละ ฮ่าๆๆ นี่ตลกเกินไปละ ประธานนัทธีคะ คุณก็มีวันที่ถูกไล่ออกจากห้องเหมือนกันนี่คะ ฮ่าๆๆๆ ” ลีน่าชี้และหัวเราะนัทธีอย่างสุดขีด,หัวเราะจนน้ำตาไหล

“ประธานนัทธี,ฉันก็เข้าใจมาตลอด ว่าผู้ชายเพอร์เฟ็คอย่างคุณ จะไม่มีทางประสบพบเจอเรื่องที่ผู้ชายทั่วไปเจอกันแบบนี้ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ต่อให้สถานะคุณสูงกว่านี้ คุณก็ยังเป็นคนกลัวเมียฮ่าๆๆ ,นี่ถ้าเรื่องกระจายออกไป ต้องเสิร์ชกันระเบิดแน่ ”

เมื่อมองลีน่าที่กำลังหัวเราะตัวเองอย่างเมามัน ใบหน้าของนัทธีก็มืดลง สาดลมปราณอันน่ากลัวออกมาทั่วร่างกาย “หัวเราะพอหรือยัง?”

เมื่อลีน่ารู้ว่าเขาโกรธ ก็รีบเอามืออุดปาก พยักหน้า “พอแล้วค่ะๆ ,ฉันหัวเราะพอแล้ว!”

แต่เธอที่พูดแบบนี้ รอยยิ้มในสายตา กลับไม่หายไป

นัทธีเห็นท่า ริมฝีปากบางก็เม้มสนิท “ถ้าเธอยังหัวเราะไม่พอ ฉัน……”

“พอแล้วค่ะๆ ฉันพอแล้วจริงๆ จริงๆ ค่ะประธานนัทธี” กลัวว่านัทธีจะให้เธอตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ต่อ ลีน่าสูดหายใจลึก ครั้งนี้เพื่อเก็บอาการหัวเราะเอาไว้อย่างสมบูรณ์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองหัวเราะพอแล้วจริงๆ ไม่หัวเราะแล้ว ทำให้นัทธีปล่อยตัวเองไป

เมื่อเห็นว่าเธอเชื่อฟังแบบนี้ นัทธีก็ส่งเสียงออกจากทางจมูก “ถือว่าอ่านสถานการณ์ออก”

“ขอบคุณที่ชมค่ะประธานนัทธี!” ลีน่าโค้งคำนับแหะๆ

นัทธีเก็บสายตา พูดนิ่งๆ “ต่อไป เธอก็ไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ”

“สบายใจได้เลยค่ะ ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ” รีน่าตบเข้าที่อกของตัวเอง พูดการันตี “ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนวารุณีเอง แล้วก็จะช่วยอธิบายกับเธอ ถือโอกาสคุยกับเธอดีๆ”

นัทธียกยิ้มริมฝีปากบางอย่างพอใจ และมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว ส่งเสียงพึมพำนิ่งๆ และสง่า “วานเธอด้วยแล้วกัน”

“สบายใจเถอะค่ะๆ เรื่องเล็กน้อย” ลีน่าโบกมือ

นัทธีมองนาฬิกา “เธอรออยู่ที่นี่แปปนึง ฉันจะไปในครัวให้คนไปทำอาหาร”

“ค่ะ” ลีน่าพยักหน้าตอบรับ

นัทธีหันหลังและเดินเข้าไปในครัว

หลังจากนั้นสิบกว่านัทธี เขาก็ถือถาดอาหารออกมา ในถาดมีอาหารเย็นหลากหลาย

นัทธียื่นถาดให้ลีน่า “ไปเถอะ”

“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ สบายใจเลยค่ะประธานนัทธี ฉันจะช่วยคุณพูดเอง” ลีน่ายิ้มให้กับเขา แล้วยกถาดอาหารขึ้นไป

ไม่นาน ลีน่าก็มาถึงหน้าประตูห้องนอนใหญ่

เธอวางถาดอาหารลงบนพื้น หลังจากนั้นก็ยกมือเคาะประตู

ภายในห้อง วารุณีที่กำลังทายาที่ตา

หลังจากที่ร้องไห้ไปหนึ่งยกเมื่อสักครู่ ดวงตาจึงบวมหน่อยๆ พรุ่งนี้ต้องแข่งต่อแล้ว ถ้าหากตอนนี้ไม่จัดการให้เรียบร้อย พรุ่งนี้คงเอาตาไปเจอคนอื่นไม่ได้

ทันใดนั้น ขณะพี่วารุณีกำลังจะเปลี่ยนผ้าขนหนูใหม่ ประตูห้องก็ดังขึ้น

เธอรีบวางผ้าขนหนูลงบนโต๊ะแต่งหน้าแล้วยืนขึ้น ใบหน้าไม่ปกปิดความดีใจ

ตอนนี้คือตอนเย็น ไม่มีทางที่จะเป็นคนรับใช้ เพราะฉะนั้นคนที่มา จะต้องเป็นนัทธีอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่านัทธีจะเคาะประตูแปลกๆ แต่ยังไงสามีก็คือห้องของเขา

แต่เมื่อกี้นี้ไม่ใช่ตัวเองไล่เขาออกไปหรอกเหรอ เขาคงกลัวเลยไม่เข้ามาเลย กลัวว่าจะทำให้เธอโกรธ เลยเปลี่ยนเป็นเคาะประตูแทนสินะ

คิดอยู่ วารุณีก็ไม่ได้เอ่ยปากถามว่าข้างนอกประตูนั้นเป็นใคร เพราะเธอมั่นใจว่าคือนัทธี ดังนั้นจึงเดินไปที่ประตูทันที เพื่อที่จะเปิดประตู

เธอคิด ว่าถ้าเขากลับมาตอนนี้ คงจะเพราะต้องการประนีประนอมแล้ว ยอมให้เธออยู่ต่อแล้วสินะ

ยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ วารุณีเก็บรอยยิ้มความดีใจที่ลอยขึ้นมาไม่อยู่

แต่เมื่อมาถึงที่ประตู เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูดูออกว่าตัวเองดีใจ เธอตั้งใจสูดหายใจเข้าลึกๆ กดรอยยิ้มนั้นลงไป ตั้งใจทำสีหน้าท่าทางเย็นชา แล้วเปิดประตู “คุณอยากจะ…..”

“วารุณี” วารุณียังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกลีน่าที่อยู่นอกประตูตัดบท

ลีน่ามองที่วารุณี เรายิ้มตาหยี “ดีใจที่เจอฉันมากใช่มั้ย?”

“…..” เมื่อวารุณีเห็นลีน่า ก็มันจะตอบคำถามเธอ จัดสีหน้าบนใบหน้า กลับมีความประหลาดใจลอยขึ้นมา “ทำไมถึงเป็นเธอล่ะ?”

“ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้ล่ะ?” ปีหน้ายกถาดอาหาร หลังจากนั้นก็คิดอะไรบางอย่าง แล้วก็ยิ้มอย่างสงสัย “วารุณี โทรคงไม่คิดว่าฉันเป็นประธานนัทธีหรอกนะ?”

เธอคิดว่าเป็นนัทธีจริงๆ

เมื่อเห็นวารุณีท่าทางไม่พูดไม่จายอมรับแต่โดยดี ลีน่ายักไหล่ “น่าเสียดายจัง ที่ไม่ใช่ประธานนัทธี แต่เป็นฉัน เห็นว่าเป็นฉันแล้วผิดหวังใช่ไหมล่ะวารุณี?”

วารุณีกลอกตาใส่เธอ แล้วหันหลังเข้าไปในห้อง

ความจริงก็อย่างที่เธอพูด เธอผิดหวังจริงๆ

เธอคิดว่า นัดที่จะคิดดีแล้ว พร้อมที่จะถอยหนึ่งก้าว แล้วให้เธออยู่ต่อ ด้วยความเต็มใจ แต่สรุปคนที่อยู่ด้านนอกประตู กลับไม่ใช่นัทธี

ไม่ใช่นัทธี งั้นก็แสดงว่า นัทธียังไม่มีคำตอบ และไม่คิดที่จะให้เธออยู่ต่อ

ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอไม่ผิดหวังสิแปลก

ต้องรู้ไว้ว่า ปกติแล้วนะที่คุ้นชินกับการตามใจเธอ แล้วเธอเองก็ติดนิสัยที่ถูกเขาตามใจเช่นกัน ถึงขนาดที่ตามใจจนนิสัยเสีย

ดังนั้นตอนนี้จู่ๆเขาก็ไม่ตามใจเธอ เธอก็ต้องไม่พอใจ น้อยใจ มากถึงขั้นที่เสียใจ คิดไปไกลว่า เขาไม่รักเธอแล้วใช่มั้ย

“วารุณี เธออย่าผิดหวังไปเลย” ลีน่ายกถาดอาหาร ตามวารุณีเข้าไปในห้อง

วารุณีก็ไม่ได้ห้าม

ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้จะทำศึกใหญ่กับนัทธีทั้งคืน จนห้องเละเทะไปหมด

แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ห้องก็ถูกจัดการจนสะอาดแล้ว ขณะที่ร่างกายเธอ และเตียงก็ถูกทำความสะอาดด้วย เธอจึงไม่กลัวว่าปีหน้าเข้ามาแล้วจะเจออะไรบางอย่าง

ในความจริงแล้ว ตอนที่ลีน่าเดินเข้ามา สายตานั้นกวาดไปทั่วห้องจริงๆ อยากจะเห็นว่าในห้องนั้นมีอะไรหลงเหลืออยู่หรือเปล่า

ยังไงซะทุกครั้งที่ประธานนัทธีมาที่นี่ วารุณีจะไม่สามารถลุกขึ้นได้ในวันที่สอง แสดงให้เห็นว่าประธานนัทธีนั้นเก่งกาจในด้านไหน

ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา สงครามระหว่างประธานนัทธีกับวารุณีนั้น ลีน่ารู้สึกสงสัยอย่างมาก อยากรู้ว่าจะเละเทะขนาดไหน

วันนี้ไม่ง่ายเลยที่มุดเข้ามาได้แล้ว ในตอนแรกที่คิดว่าจะได้เห็นทุกอย่างชัดเจน ผลลัพธ์กลับนึกไม่ถึง ว่าไม่เห็นอะไรเลย

มีทำให้เธอผิดหวังเข้ามาจู่โจมอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้

จึงถอนหายใจ และเก็บความคิดที่ยากแก่การเข้าใจนี้หนีไป มองไปที่ด้านหลังของวารุณีเราพูด “วารุณี ถึงแม้ว่าประธานนัทธีจะไม่มา แต่ฉันก็เป็นคนที่ประธานนัทธีเรียกมานะ และอาหารที่อยู่ในมือฉัน ก็เป็นอาหารที่ประธานนัทธีเข้าครัวไปกำชับด้วยตัวเอง เป็นของที่เธอชอบกินทั้งนั้น รู้ว่าเธอไม่อยากเจอเขา แต่นี่เขาตั้งใจฝากฉันเอาขึ้นมาส่งให้เธอเลยนะ

เมื่อวารุณีได้ยินแบบนี้ ฝีเท้าก็ชะงักลง แล้วไม่นานก็เดินไปนั่งต่อ นั่งลงตรงที่โต๊ะแต่งหน้า และยิ่งไม่สบายใจขึ้นอีก

รู้ว่าเธอไม่อยากเจอเขา เขาคือก็ไม่ขึ้นมาจริงๆ เลยเหรอ?

เขารู้อยู่แล้ว ว่าตอนที่เธอพูดว่าไม่อยากเจอเขา แล้วไล่เขาออกไป ก็เพราะว่าโมโหถึงพูดออกไปแค่นั้นเอง แต่เขากลับทำจริง ไม่ขึ้นมาให้เจอเขาจริงๆ

ลีน่าไม่รู้ว่าวารุณีกำลังคิดอะไรอยู่ จึงเข้าใจว่าเธอไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด

เธอเดินไปที่หน้าโต๊ะชาในห้อง แล้ววางถาดลง แล้วก็ยกอาหารกินในถาดออกมาวาง เปิดฝา “เอาล่ะวารุณี เธอรีบมากินข้าวเถอะ เธอไม่ได้กินข้าวมานานแล้วนะ ถ้าไม่กินอีกแล้วได้หิวตายกันพอดี ประธานนัทธีก็จะเป็นห่วงมาก”

“ฉันไม่กิน” วารุณีหลับตา “ถ้าเขาเป็นห่วงจริง แล้วทำไมไม่ขึ้นมาส่งเองอ่ะ”

“ประธานนัทธีบอกว่า เพราะเธอไม่อยากเจอเขา เขาเลยไม่ขึ้นมาขวางหูขวางตาเธอ เพราะฉะนั้นเธอจะโทษไปประทานนัทธีไม่ได้นะ” ลีน่านั่งลง แล้วช่วยนัดที่พูด “ถึงแม้ว่าพวกเธอจะทะเลาะกันไปกันมา แต่ประธานนัทธีห่วงเธอจริงๆนะ ไม่อย่างงั้นจะจัดข้าวมาให้เธอกินทำไม เอาละวารุณี เลิกดัดจริตได้แล้ว รีบมากินข้าว เธอไม่หิวหรือไง?”

วารุณีไม่พูด แล้วลูบท้อง

เธอหิวจริงๆ นั่นแหละ ตอนนี้กระเพาะเหมือนกับถูกไฟเผา ทรมานเหลือเกิน

วารุณีไม่ได้เล่นตัวต่อจริงๆ ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ลีน่า