บทที่ 912 จะช็อกหรือจะเซอร์ไพรส์กันแน่

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ลีน่าเหลือบมองเธอและรีบเอ่ยว่า “โอเคๆๆ ฉันจะรับเดี๋ยวนี้แหละ เธออย่าเร่งฉันสิ พอเธอเร่งมือของฉันก็สั่น ถ้าโทรศัพท์ตกลงไปจะทำยังไง?”

“ได้ ฉันไม่เร่งเธอแล้ว” วารุณีพูดอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ลีน่าแย้มยิ้ม “นี่สิถึงจะถูก”

เมื่อพูดจบ เธอนำโทรศัพท์ขึ้นแนบหูและรับสายโทรศัพท์นั้น

ก็ไม่รู้ว่าโทรศัพท์สายนั้นพูดว่าอะไร สีหน้าของลีน่าตะลึงลงในทันที เธอนั่งบนโซฟาโดยที่ทั้งร่างไม่ขยับเขยื้อนและแข็งทื่อ

เห็นเธอเป็นแบบนั้น ในใจของวารุณีกระตุกไปสักพัก มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนักขึ้นมาบ้าง

คงจะไม่แพ้หรอกใช่ไหม?

ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงทำสีหน้าแบบนั้นกัน?

ถ้าชนะ เธอควรจะส่งเสียงกรีดร้องอย่างตื่นเต้นถึงจะถูก แต่ท่าทางของเธอกลับงุนงง มองดูแล้วทำให้คนรู้สึกไม่ดีนัก ง่ายมากที่จะทำให้คนคิดว่าแพ้แล้ว

แต่วารุณีก็ไม่ได้เปิดปากถามในทันที เพราะโทรศัพท์สายนั้นยังคุยไม่จบลง

เธอกำมือแน่นและจ้องมองไปที่ลีน่า หัวใจเหมือนถูกยกสูงขึ้นมา ทำยังไงก็ไม่สามารถกลับลงสู่ที่เดิมได้

ผ่านไปสักพัก ดูเหมือนว่าโทรศัพท์สายนั้นจะสิ้นสุดลงแล้ว

ลีน่าค่อยๆนำโทรศัพท์จากข้างหูหยิบลงมา

แต่สีหน้าของเธอยังคงงุนงงอยู่แบบนั้น ดวงตาของเธอก็ตกตะลึง และมองไปข้างหน้าโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

เธอที่เป็นแบบนี้ ทำให้วารุณีทนไม่ไหวอีกต่อไป คว้าข้อมือของเธอเอาไว้แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอลีน่า? พูดถึงคะแนนเหรอ?

ลีน่าได้ยินเสียงของวารุณี ดวงตาสั่นไหววูบ ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหว

เธอค่อยๆขยับคอหันไปมองวารุณี ภายในสายตาที่เต็มไปด้วยความรีบร้อนนั้น เธอพยักหน้าลงอย่างช้าๆ แสดงออกว่าโทรศัพท์สายนั้นพูดถึงผลลัพธ์จริงๆ

หลังจากยืนยันการเดาของตัวเองแล้ว ในใจของวารุณีไม่ได้รู้สึกโล่งใจเลยสักนิด แต่กลับยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก

ในเมื่อพูดถึงผลลัพธ์ และท่าทางของลีน่ายังเป็นเช่นเมื่อกี้อีก งั้นก็อธิบายได้ง่ายว่าสิ่งที่เธอเพิ่งจะคิดนั้นอาจถูกต้อง

เธอและลีน่าแพ้แล้ว พวกเธอไม่ได้เป็นแชมป์

เมื่อคิดถึงตรงนี้ วารุณีรู้สึกเพียงแค่หนาวเย็นไปทั่วทั้งตัว ปากขยับไปมาอยู่สักพักแต่ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา

แพ้แล้ว……

คิดไม่ถึงว่าจะแพ้แล้ว!

เธอคิดมาตลอดว่าตัวเธอและลีน่าจะชนะ

เธออยากได้โอกาสที่จะออกแบบชุดลงสนามของเวิลด์เกมส์ขนาดนั้น แต่ผลคือพลาดไปแล้วจริงๆ

เพียงแค่ชั่วขณะ ใบหน้าของวารุณีซีดลงเล็กน้อย สายตาเริ่มสับสนขึ้นมา ในเวลานี้แผ่นหลังที่เคยเหยียดตรงก็โค้งลงมาทันที ทั้งคนของเธออกสั่นขวัญหายไปหมด

ขณะที่เบ้าตาของวารุณีเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาและตอนที่อยากจะร้องไห้นั้น จู่ๆลีน่าที่ไม่ปริปากพูดมาตลอดก็พูดขึ้นว่า “วารุณี”

“หืม?” วารุณีก้มศีรษะลงเช็ดปลายหางตา สูดหายใจเข้าลึกๆ บีบบังคับความรู้สึกผิดหวังที่มีอยู่ในใจนั้นลงและพยายามเค้นรอยยิ้มออกมา ตอบกลับอย่างไม่เต็มใจนัก “มีเรื่องอะไรเหรอ?”

ลีน่ามองมาที่เธอ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ทันใดนั้นมุมปากของเธอก็ยกสูงขึ้น “พวกเราชนะแล้ว”

“อะไรนะ?” วารุณีตกตะลึง

มือทั้งสองข้างของลีน่าจับที่ไหล่ของเธอและเขย่าไปมาอย่างตื่นเต้น “วารุณี พวกเราชนะแล้ว พวกเราเป็นแชมป์ พวกเราได้รับโควตาการออกแบบชุดลงสนามของเวิลด์เกมส์แล้วนะวารุณี!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ วารุณีก็ตกตะลึงราวกับไม่อยากจะเชื่อ

หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดเธอก็มีสติกลับมา รูม่านตาขยายออกเล็กน้อย ดวงตาเองก็เบิกกว้างขึ้น เธอกลับเป็นฝ่ายจับไหล่ของลีน่าเอาไว้เต็มแรง และถามด้วยเสียงสั่นๆว่า “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ? พวกเรา…….ชนะแล้ว?”

น้ำเสียงของเธอไม่เพียงแต่สั่นเท่านั้น แต่ยังแหบแห้งเล็กน้อยด้วย นั่นเป็นเสียงที่จากความผิดหวังกลายเป็นความตื่นเต้นในทันที เกิดขึ้นเป็นสถานการณ์ที่แข็งทื่อนี้

แต่สิ่งนี้ก็พิสูจน์ได้เช่นเดียวกันว่า ขณะนี้อารมณ์ของเธอเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

“ใช่ พวกเราชนะแล้ว พวกเราชนะแล้วนะวารุณี” ลีน่ามองไปที่วารุณีและพยักหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเปียกชื้น

เธอที่เป็นแบบนี้ทำให้วารุณีจำใจต้องเชื่อว่าพวกเธอชนะแล้วจริงๆ

พวกเธอได้เป็นแชมป์และได้รับชื่อในการออกแบบชุดลงสนามของเวิลด์เกมส์แล้ว

พวกเธอชนะแล้วจริงๆ!

เมื่อตระหนักถึงจุดนี้ วารุณีไม่สามารถระงับความตื่นเต้นที่มีอยู่ในใจได้อีกต่อไป และรอยยิ้มที่สดใสก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

ตัวเธอเองก็สวยมากอยู่แล้ว และเมื่อเธอยิ้มขึ้นมา เธอก็ยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก งดงามจนทำให้ผู้คนตกอยู่ในภวังค์และลุ่มหลง

ลีน่าจ้องมองไปที่ความงามเป็นเอกของวารุณีด้วยความมึนงง ปากอ้าออกเล็กน้อยและไม่ขยับตัวเคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่าหลงเสน่ห์เข้าให้แล้ว และปากของเธอถึงกับพึมพำขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจว่า “สวยมาก…….”

วารุณีได้ยินเสียงบ่นพึมพำนั้น จึงหันกลับไปมอง และเห็นท่าทางที่ดูเอ๋อๆของเธอ จู่ๆก็พ่นเสียงหัวเราะออกมา ยิ้มสดใสมากขึ้นไปอีก

“ยัยบื้อ” วารุณีอดไม่ได้ที่จะจิ้มไปที่หน้าผากของเธอเบาๆ

ลีน่าได้สติจากความงดงามนั้น ลูบที่หน้าผากและยิ้มแหะๆออกมา “ฉันไม่ได้บื้อสักหน่อย แค่โดนเธอทำให้สับสนเท่านั้นแหละ วารุณี ทำไมเธอถึงสวยได้ขนาดนี้นะ”

เธอมองไปที่ใบหน้าของวารุณี “ถ้าฉันเป็นผู้ชาย ฉันต้องจีบเธอให้ติดแน่ๆ เฮ้อ น่าเสียดายที่ฉันเป็นผู้หญิง และยังเป็นผู้หญิงที่ชอบแต่ผู้ชาย ไม่อย่างนั้นฉันคงจีบแล้ว น่าเสียดาย ช่างน่าเสียดายจริงๆ”

เธอส่ายหัวด้วยความเสียดาย “ทำไมประธานนัทธีถึงได้โชคดีขนาดนี้กันนะ”

วารุณีอดมองบนไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเธอ “เอาล่ะ พูดอะไรแบบนี้กัน พวกเรามาพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้กันเถอะ ฉันยังไม่สะสางบัญชีกับเธอเลยนะ”

“สะสางบัญชี” ลีน่าตกตะลึง “วารุณี เธอจะมาสะสางบัญชีอะไรกับฉันกัน?”

มุมปากของวารุณียกยิ้มขึ้นด้วยความเยาะเย้ย “เธอคิดว่าไงล่ะ เมื่อกี้ตอนที่รับสายโทรศัพท์ ใบหน้าที่ราวกับได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงนั้น ทำให้ฉันตระหนกมาก ฉันนึกว่าพวกเราแพ้แล้วและเตรียมพร้อมที่จะร้องไห้แล้วนะ แต่ผลคือเธอมาบอกกับฉันทีหลังว่า พวกเราชนะแล้ว เธอรู้บ้างไหมว่าฉันรู้สึกยังไง? ตอนแรกเหมือนกับตกลงไปในนรกแต่ตอนสุดท้ายก็ขึ้นไปบนสวรรค์อีก เธอ

ควรจะดีใจที่ฉันไม่เป็นโรคหัวใจ ไม่อย่างนั้นคงจะโดนเธอทำให้ช็อกตายแน่ๆ”

พูดไป เธอก็ตีไปที่ไหล่ของลีน่าด้วยความโกรธเคือง

ลีน่าจับไหล่ที่ถูกตีจนเจ็บนั้น และตระหนักได้ว่าปฏิกิริยาของเธอเมื่อกี้มันง่ายที่จะทำให้คนเข้าใจผิดมาก แลบลิ้นออกมาด้วยความตระหนักรู้ในความผิดของตัวเอง “คือว่านะวารุณี ฉันผิดไปแล้ว ฉันได้ยินว่าพวกเราชนะ ในตอนนั้นฉันไม่อยากจะเชื่อและตกตะลึงไป ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอเข้าใจผิดเลยนะ”

“ฉันเชื่อ” วารุณีพยักหน้า “ฉันเชื่อว่าในเวลานั้นเธอมีความสุขมากจริงๆเพราะเราชนะและได้เป็นแชมป์ ดังนั้นจึงตกตะลึงไป แต่ในทางเดียวกัน เรื่องที่เธอทำให้ฉันตกใจก็เป็นเรื่องจริง ดังนั้นเธอพูดมาเองสิว่าจะชดเชยให้ฉันอย่างไร?”

ลีน่าหัวเราะแหะๆ “อย่างมากก็แค่ ฉันส่งของขวัญเล็กๆชิ้นหนึ่งให้เธอกับประธานนัทธี?”

“ของขวัญเล็กๆ?” วารุณีเลิกคิ้ว “ของขวัญอะไร?”

นัยน์ตาของลีน่ากลอกไปมาและยิ้มอย่างสับปลับ “ฉันบอกเธอไม่ได้หรอก เพราะฉันยังไม่ได้ซื้อเลย รอคืนนี้ตอนที่ฉันซื้อมาแล้ว เธอก็จะได้รู้เอง ไม่ต้องกังวลหรอก ของขวัญของฉันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับประธานนัทธีย้อนกลับไปสู่ช่วงที่ความรู้สึกระหว่างพวกเธอแน่นหนามากที่สุดในทันทีเลยล่ะ”

เธอส่งตาวิ้งค์ให้กับวารุณี

ในใจของวารุณีกระตุกขึ้นอีกครั้ง มีลางสังหรณ์เป็นลางที่ไม่ดีนัก

ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า ของขวัญจากปากของลีน่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีกันนะ

ขณะที่วารุณียังคงลังเลว่าไม่ต้องให้ลีน่าให้ของขวัญแล้ว และปล่อยไปดีหรือไม่นั้น จู่ๆลีน่าก็ลุกขึ้นยืน “เอาล่ะวารุณี ฉันเองก็ควรจะออกไปซื้อของขวัญให้เธอกับประธานนัทธีแล้ว และบอกกับเธอไว้สักคำว่า พิธีการมอบรางวัลและพิธีปิดการแข่งขันจะจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า โอเค งั้นฉันไปก่อนนะ”

พูดจบ เธอก็โบกมือและเดินไปทางประตูทางเข้าพร้อมฮัมเพลงไปด้วย

วารุณีมองไปที่แผ่นหลังของเธอ ยื่นมือออกไปเพื่อที่จะหยุดเธอ

แต่ร่างของเธอก็หายไปที่บริเวณประตูทางเข้าอย่างรวดเร็ว วารุณีอยากเรียกเธอแต่ก็ไม่ทันการณ์แล้ว

ไม่มีทางเลือก วารุณีทำได้เพียงแค่ปล่อยไป เก็บมือกลับมา ส่ายหัวและหุบยิ้มอย่างจนปัญญา

เอาเถอะ งั้นเธอก็จะรอของขวัญชิ้นนั้นที่จะนำพาเธอและนัทธีกลับไปสู่ช่วงที่ความสัมพันธ์ที่แน่นหนามากที่สุดก็แล้วกัน

เธอก็อยากจะเห็นว่าของขวัญอะไรกัน ที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีขนาดนี้