บทที่ 943 ตงซือเลียนแบบขมวดคิ้ว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 943 ตงซือเลียนแบบขมวดคิ้ว

บทที่ 943 ตงซือเลียนแบบขมวดคิ้ว

หลิวเทียนฉือแก่กว่ากู้ซินเถาสามหรือสี่ปี ปีนี้กู้ซินเถาอายุสิบสี่ปี หลิวเทียนฉืออายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี และนางก็เติบโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว

ร่างกายเริ่มมีการพัฒนา เนื้อนวลอวบอิ่ม ส่วนที่ควรมีเนื้อก็มีเนื้อ ส่วนที่ควรผอมก็ผอม รูปหน้างดงาม ยามมีอายุขึ้นเสน่ห์ย่อมเพิ่มขึ้นเช่นกัน

กู้ซินเถาใช้หลิวเทียนฉือเป็นต้นแบบเพื่อให้ตนเองเลียนแบบเสมอ ไม่ต้องพูดถึงการเคลื่อนไหวของกู้ซินเถา นางเลียนแบบแม้กระทั่งการพูดการจาของหลิวเทียนฉือ ทำให้เจียงหย่วนหลงใหลนางหัวปักหัวปำ

ความดีความชอบทั้งหมดตกเป็นของหลิวเทียนฉือ

กู้ซินเถามองดูท่าทางที่น่าหลงใหลของหลิวเทียนฉืออย่างอิจฉา กิริยาท่าทาง หรือแม้แต่รอยยิ้มเช่นเดียวกับท่าทางการเคลื่อนไหวอันงดงาม นางพลันยิ่งอิจฉามากขึ้น

นางจ้องมองที่หลิวเทียนฉือตาไม่กะพริบ ราวกับว่าคอยเรียนรู้การท่าทางการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายทั้งหมด

ความอิจษาริษยาพลุกพล่านอยู่เต็มอก

นางมักจะยกยอหลิวเทียนฉืออย่างโจ่งแจ้ง ไม่เพียงแต่พูดสิ่งที่ดีเท่านั้น แต่ยังลดระดับตัวเองเป็นสาวใช้ของนางอีกด้วย

ยามดื่มชาด้วยกัน นางมักจะรินชาให้หลิวเทียนฉือ

ยามรับประทานอาหารด้วยกัน นางมักคีบอาหารให้หลิวเทียนฉือ

ยามออกไปข้างนอกด้วยกัน นางมักปิดกั้นทางเดินให้หลิวเทียนฉือ

และเมื่อทำสิ่งใดรวมกัน ตราบใดที่นางทำได้ นางจะรีบลงมือต่อหน้าหลิวเทียนฉือ ปฏิบัติราวกับสาวใช้

แต่ถึงกระนั้น นางก็มักจะรู้สึกว่าหลิวเทียนฉือไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นน้องสาวของนางจริง ๆ

แม้ว่าจะเรียกว่าน้องสาวด้วยความสนิทสนม แต่การกระทำของนางล้วนไม่ใช่ และมักจะรู้สึกว่านางและเสี่ยวเถาคนนั้นมีสถานะคล้ายกัน

กู้ซินเถารู้สึกเสียใจอย่างมากเมื่อเห็นหลิวเทียนฉือจับมือกู้เสี่ยวหวาน และเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปข้างใน ใบหน้าของนางก็มืดลง

กู้เสี่ยวหวานมีคุณธรรมและมีความสามารถแบบไหนถึงทำให้คุณหนูหลิวยอมลดตัวลงมาเพื่อพูดคุยกับนางอย่างสนิทสนมได้ถึงเพียงนั้น

กู้ซินเถาโกรธเคืองจนแทบจะอาเจียนเป็นเลือด สายตาต้องมองไปยังแผ่นหลังบางทั้งสองจากไป เท้าหนักอึ้งไม่สามารถขยับได้เป็นเวลานาน เมื่อเห็นความสนิทสนมของหลิวเทียนฉือที่จงใจเข้าใกล้กู้เสี่ยวหวาน ยิ่งกู้ซินเถาคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไร นางยิ่งรู้สึกคับแค้นใจมากขึ้นเท่านั้น โนเวล-พีดีเอฟ

แต่ในขณะนี้ เสี่ยวเถาดูเหมือนจะรู้ว่าโอกาสในการแก้แค้นมาถึงแล้ว

เสี่ยวเถาเดินจากด้านหลังไปยังด้านหน้าของกู้ซินเถา นางมองไปที่กู้ซินเถาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเยาะเย้ย จากนั้นกลอกตาและจ้องมองที่กู้ซินเถาอย่างดุดันก่อนจะถอนหายใจอย่างเย็นชา

จากนั้นนางเดินตามหลิวเทียนฉือเข้าไปโดยไม่หันกลับมามองกู้ซินเถาเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นว่าสาวรับใช้กล้าที่จะปฏิบัติต่อนางอย่างหยาบคาย กู้ซินเถาก็โกรธจนแทบบ้าคลั่ง นางกำหมัดแน่นจนเล็บจิกลงบนเนื้อ

เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวด นางกระทืบเท้าด้วยความโกรธและเดินตามไปอย่างรวดเร็ว

เพียงแค่ว่าในใจเกลียดกู้เสี่ยวหวานมากขึ้น กู้เสี่ยวหวานผู้นี้เป็นเหมือนดอกไม้พิษ ดูสวยงามแต่ถ้าสัมผัสมัน ไม่ว่าใครก็จะได้พบกับความหายนะ

แต่นางต้องการจะบดขยี้ดอกไม้พิษให้แหลกละเอียด

ใครจะอยู่หรือไปก็ค่อยมาดูกัน รอยยิ้มสยดสยองของกู้ซินเถาปรากฏขึ้นบนใบหน้า

ครอบครัวใหญ่ของตระกูลกู้ไม่สามารถจัดการกับกู้เสี่ยวหวานได้ แต่หลิวเทียนฉือนั้นแตกต่างออกไป

ไม่เป็นไรที่จะฆ่าคนด้วยมีดที่ยืมมา

กู้เสี่ยวหวานและหลิวเทียนฉือกำลังเดินเข้าไปด้านใน กู้ฟางสี่เพิ่งออกมาจากห้องนอนเพื่อดื่มชา ในขณะนี้นางเห็นหลิวเทียนฉือและคนใช้ที่ติดตามมาอีกสองคน

นางขมวดคิ้วและมองกู้ซินเถาที่เดินตามมา ใบหน้าของนางบูดบึ้งน่าเกลียดยิ่งขึ้น

กู้ซินเถาจะเทียบกับหลิวเทียนฉือได้อย่างไร

ทันทีที่กู้ซินเถาเข้ามาก็เห็นกู้ฟางสี่ที่กำลังยืนขมวดคิ้ว นางคร้านที่จะทักทายและถอนหายใจอย่างเย็นชา แต่เมื่อนึกถึงสถานะปัจจุบันของกู้ฟางสี่ที่ถือได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่กู้เสี่ยวหวานเคารพนับถือ ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันทีและทักทายด้วยรอยยิ้มบน “ท่านอา สวัสดีปีใหม่ ขอให้ร่ำรวย ๆ เถาเอ๋อร์ขอให้ท่านอามีความสุขในวันปีใหม่และมีสุขภาพที่แข็งแรง”

ในตอนแรก กู้ฟางสี่ไม่เห็นความเย็นชาในสายตาของกู้ซินเถา แต่คราวนี้เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยทักทายเอง แม้ว่านางจะเกลียดกู้ฉวนลู่และซุนซื่อแค่ไหน แต่กู้ซินเถาก็ยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง สีหน้าของนางจึงอ่อนลง นางตบมือกู้ซินเถาแผ่วเบาและพูดว่า “เอาล่ะ ๆ ข้าขอให้เจ้ามีความสุขในปีใหม่เช่นกัน โอ้… เจ้าโตขนาดนี้แล้วหรือ โตเป็นสาวแล้ว ปีหน้าเจ้าก็สามารถแต่งงานกับใครสักคนได้แล้วล่ะสิ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของกู้ซินเถาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที และไม่อาจแสดงความเขินอายในสายตาได้ “ท่านอากำลังพูดถึงเรื่องอะไร”

กู้ซินเถาพูดอย่างเขินอาย

ท่าทางนั้นไม่แตกต่างจากหลิวเทียนฉือ

หลิวเทียนฉือรู้ว่ากู้ซินเถาเลียนแบบตัวเองตลอดเวลา จึงคิดว่านางยังอายุน้อยกว่าตัวเองและเป็นสาวชนบท ไม่ว่านางจะเลียนแบบตนเองมากเพียงใด อีกฝ่ายก็ยังคงเป็นสาวชนบท ดังนั้นหลิวเทียนฉือจึงปล่อยนางไป

โชคดีที่กู้ซินเถาไม่แสดงท่าทางเหล่านั้นต่อหน้าตน

แต่คราวนี้หลิวเทียนฉือได้เห็นและได้ยินอย่างชัดเจน คำพูดที่ไพเราะนุ่มนวล ท่าทางอันแสนอ่อนโยน เห็นได้ชัดว่านางกำลังเลียนแบบตัวเอง

หลิวเทียนฉือรู้สึกไม่มีความสุข

ถ้าตอนนี้นางไม่อยู่ก็คงไม่เป็นอะไร

ท้ายที่สุด ตงซือเลียนแบบขมวดคิ้ว*[1] ก็เลียนแบบและเป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นต้นแบบ

แต่คราวนี้กู้ซินเถาแสดงท่าทางเหล่านั้นต่อหน้าตัวเอง ดวงตาของหลิวเทียนฉือจึงมืดหม่นลงทันที

และในที่สุด เสี่ยวเถาที่อยู่ด้านข้างก็จับความผิดของกู้ซินเถาได้ เมื่อเห็นใบหน้าของหลิวเทียนฉือมืดลง ไม่ต้องพูดถึงว่านางมีความสุขแค่ไหน จึงแค่รอให้คุณหนูของนางโกรธและสอนบทเรียนให้กู้ซินเถาที่มาแย่งงานของตนไป

กู้ซินเถาไม่รู้ว่าประโยคที่นางเอ่ยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้หลิวเทียนฉือเกลียดนางอย่างสมบูรณ์

ท้ายที่สุดแล้ว เด็กผู้หญิงก็รู้สึกภาคภูมิใจที่เรียนรู้จากผู้อื่นได้

แต่ถ้านางแสดงออกต่อหน้าก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรู้สึกรำคาญ ในเวลานั้นไม่รู้ว่าไปเรียนรู้มาจากใคร

กู้ซินเถาไม่รู้ว่าตัวเองได้ละเมิดข้อห้ามของหลิวเทียนฉือ นางก้าวไปข้างหน้าและจับแขนของหลิวเทียนฉือไว้และแนะนำอย่างสนิทสนม “คุณหนูหลิว นี่คือท่านอาเล็กของข้า”

คราวนี้เสียงของกู้ซินเถากลับมาเป็นเสียงปกติของนาง

หลิวเทียนฉือชำเลืองมองกู้ซินเถาอย่างไม่ตำหนิ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ นี่คือท่านอาเล็กหรือ? สวัสดีท่านอาเล็ก ข้ากับซินเถาเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ข้าขอให้ท่านอามีความสุขในวันปีใหม่”

*[1] คนเขลาเบาปัญญาที่หลับหูหลับตาเลียนแบบผู้อื่น

——————————————-