บทที่ 978 อนาคตของหวงจุนเทียน เจ้าแดนต้องห้ามอันธการยังอยู่

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 978 อนาคตของหวงจุนเทียน เจ้าแดนต้องห้ามอันธการยังอยู่

หานเจวี๋ยตกลงที่จะประลองกับหานหลิง สองพ่อลูกเข้าสู่แบบจำลองการทดสอบ

พอเปิดฉากสู้ หานเจวี๋ยก็ลงมือทันที

สังหารในเสี้ยววินาที!

ไม่เกิดการต่อสู้ใดๆ ขึ้นเลย

หานหลิงได้สติกลับมา สีหน้าแข็งค้าง

สีหน้าหานเจวี๋ยไม่แปรเปลี่ยน

ภายในอารามเต๋าเงียบสงัดไปพักหนึ่ง หานหลิงเอ่ยอย่างคับข้องใจ “ท่านพ่อ! เหตุใดท่านถึงเอาจริงละเจ้าคะ! ต่อให้ลงมือก็ควรให้ข้าได้แสดงพลังทั้งหมดก่อน จุดประสงค์ของข้าคือต้องการทดสอบความร้ายกาจของสมบัติชิ้นนี้”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ในแบบจำลองการทดสอบมีคู่ต่อสู้มากมายปานนั้น ไม่เพียงพอให้เจ้าทดสอบหรือ เจ้าก็แค่เกิดความใจกล้าขึ้นมา อยากมาหาเรื่องวุ่นวายให้พ่อเจ้า”

“จะเป็นไปได้อย่างไรเจ้าคะ!”

“เฮอะๆ”

“ข้าไม่สนเจ้าค่ะ ท่านพ่อ ท่านห้ามลงมือก่อน ให้ข้าได้โจมตีก่อนสักระยะ”

เมื่อเผชิญหน้ากับการออดอ้อนของหานหลิง หานเจวี๋ยต้านไม่ไหว ทำได้เพียงตอบตกลง

เริ่มใช้งานแบบจำลองการทดสอบอีกครั้ง หานเจวี๋ยไม่ลงมือ ปล่อยให้หานหลิงแสดงฝีมือโจมตีไปสารพัด

ในที่สุดเขาก็ได้เห็นความร้ายกาจของกองทหารจักรพรรดิ

ตบะของกองทหารจักรพรรดิเทียบเท่าร่างต้น โจมตีดุดัน แต่ใช้พลังวิเศษไม่ได้ อันที่จริงก็คล้ายกับกองทัพของโลกมนุษย์สามัญ หากพลังอยู่ในระดับเดียวกันก็ยากจะมีคนต้านทานหานหลิงได้ แต่หากระดับพลังแตกต่างกัน ต่อให้มีกองทหารจักรพรรดิมากขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์

ไม่ว่าหานหลิงจะโจมตีเช่นไรก็ไม่สามารถทำลายเกราะป้องกันของหานเจวี๋ยได้

สุดท้ายนางก็เหนื่อยแล้วยอมแพ้ต่อศึกครั้งนี้

สองพ่อลูกลืมตาขึ้น หานหลิงถอนหายใจ รู้สึกสะเทือนใจ

หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้มภูมิใจ “รู้ถึงความร้ายกาจของบิดาเจ้าหรือยัง เจ้าไม่ลองออกไปสอบถามข่าวดูเสียบ้างว่าบิดาของเจ้าร้ายกาจถึงขนาดไหนกัน”

หานหลิงเบะปาก เอ่ยไปว่า “อย่างนั้นหรือเจ้าคะ เช่นนั้นท่านพ่อเล่าเรื่องของท่านต่อสิเจ้าคะ ครั้งก่อนเล่าถึงพิสูจน์มรรค ต่อจากนั้นล่ะเจ้าคะ”

นางอยากรู้จริงๆ

ภายในแบบจำลองการทดสอบนางไร้พ่ายในระดับเดียวกันแล้ว แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับอริยะมหามรรคก็มีพลังพอจะต่อกรได้

นางเคยประลองกับตัวตนทั้งหมดในแบบจำลองการทดสอบโดยไม่คำนึงถึงระดับพลังของตน แต่ไม่มีผู้ใดที่ทำให้นางรู้สึกกดดันเช่นนี้ได้

หานเจวี๋ยเริ่มเล่าประวัติของตนต่อทันที

ได้แสดงความยิ่งใหญ่ต่อหน้าบุตรสาวเขาย่อมมีรู้สึกความสุข

การเล่าครั้งนี้กินเวลายาวนานต่อเนื่อง

พอหานเจวี๋ยเล่าจบ หานหลิงก็รู้สึกสะท้อนใจอย่างยิ่ง

ศัตรูเหล่านั้นของหานเจวี๋ยรวมถึงสถานการณ์ที่ต้องเผชิญเหล่านั้นทำให้จิตใจนางเกิดความมุ่งมาดปรารถนา หากเปลี่ยนเป็นตัวนางที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่ผ่านมาของหานเจวี๋ย นางควรทำอย่างไรเล่า

“ปิดด่านฝึกบำเพ็ญ ก็เพื่อให้ศัตรูของเจ้าไม่อาจคาดเดาตบะของเจ้าได้ชัดเจนไปตลอดกาล” หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

หานหลิงพยักหน้ารับ เอ่ยอย่างครุ่นคิดลึกซึ้งว่า ”ข้าก็คิดแบบนี้เจ้าค่ะ ท่านพ่อวางใจเถิด ข้าไม่มีวันโอหังอย่างแน่นอน”

สองพ่อลูกสนทนากันไปสักพัก หานหลิงฝึกบำเพ็ญต่อ หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูจดหมาย

แวดวงสหายคึกคักยิ่งนัก สหายในอดีตล้วนเติบโตขึ้นมาแล้ว สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ หานเจวี๋ยเห็นแล้วก็ทอดถอนใจให้แก่วันเวลา

ไม่นานนักจดหมายฉบับหนึ่งก็ดึงดูดความสนใจของเขา

[หวงจุนเทียนสหายของท่านเริ่มบุกเบิกโลกมหามรรค พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

โลกมหามรรคอย่างนั้นหรือ

นี่คือกุญแจสำคัญต่อการมุ่งสู่ผู้สร้างมรรคา!

คนผู้นี้มีความสามารถอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยคิดไปคิดมาก็ไปเข้าฝันหวงจุนเทียน

แดนความฝันคือยอดเขาที่สิบแปดของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ เขาเขียวธารใสงดงามดั่งภาพวาด

ได้พบหน้าหวงจุนเทียนอีกครั้ง รัศมีของเขาแกร่งกล้าขึ้นมาก สวมอาภรณ์สีดำปักลวดลายศักดิ์สิทธิ์สีทอง สวมกวานสีน้ำเงินเขามังกรหยกม่วง อาภรณ์พลิ้วไหว สีหน้างามสง่า

เจ้าชะตา!

หวงจุนเทียนลืมตาขึ้น พอเห็นหานเจวี๋ยก็เอ่ยถามว่า “ที่แท้ก็เป็นเจ้า ข้ามีโอกาสวานาประการหนึ่งคิดจะไปหาเจ้าอยู่พอดี อยากฟังหรือไม่”

หานเจวี๋ยตอบว่า “ไม่อยาก”

หวงจุนเทียนคุกเข่าข้างหนึ่งลงทันที ประสานหมัดกล่าวว่า “คารวะนายท่าน!”

เขามีสีหน้าตื่นเต้น ไม่เหลือมาดเลยสักนิด

ความสำเร็จของเขายอดเยี่ยมมากจริงๆ แต่เมื่อเทียบกับหานเจวี๋ยแล้ว สุดท้ายเขายังคงรู้สึกว่าตนด้อยกว่ามากนัก

หากมิใช่เพราะหานเจวี๋ยใช้นามอริยะสวรรค์เกรียงไกรดึงดูดความสนใจของสรรพสิ่งฟ้าบุพกาล เขาไหนเลยจะมีวันนี้ได้

ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อหานเจวี๋ยจึงทราบดีว่าหานเจวี๋ยไม่ชอบการเป็นจุดสนใจ หลายล้านปีที่ผ่านมาประกาศศักดาออกมาถึงเพียงนั้นก็เพื่อให้สรรพสิ่งหลงลืมผู้กำหนดชะตาเคราะห์อย่างพวกเขามิใช่หรือ

นับตั้งแต่หานเจวี๋ยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฟ้าบุพกาล เทพมหาทัณฑ์เคยมาหาเขา ยินดีจะมอบโอกาสให้เขา เรื่องนี้ทำให้เขาเคารพในตัวหานเจวี๋ยยิ่งขึ้น

เขารู้สึกว่าทุกอย่างนี้ล้วนเป็นความดีความชอบของหานเจวี๋ย!

แต่หานเจวี๋ยไม่ได้มาหาเขา เขาจึงไม่กล้าเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เจ้าบุกเบิกฟ้าดินแห่งหนึ่งขึ้นในส่วนลึกของวิญญาณใช่หรือไม่”

หวงจุนเทียนตะลึงงัน นี่คือความลับของเขา ไม่น่าเชื่อว่านายท่านจะทราบด้วย

“ขอรับ นายท่านร้ายกาจจริงๆ แม้แต่เรื่องนี้ก็ยังทราบ” หวงจุนเทียนตอบรับอย่างนอบน้อม สีหน้าเลื่อมใส

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เรื่องนี้ห้ามเอ่ยถึงกับผู้ใดเด็ดขาด รวมถึงคนสนิทของเจ้าด้วย”

เขาถ่ายทอดข้อมูลที่เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเล่าให้ตนฟังให้หวงจุนเทียนทราบ

หลังจากหวงจุนเทียนได้ฟังก็อกสั่นขวัญแขวนยิ่ง ไม่คิดเลยว่าเหนือฟ้าบุพกาลยังมีตัวตนเหนือชั้นอยู่อีก

เขาสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เอ่ยว่า “ขอบพระคุณนายท่านที่มาเตือน เดิมทีข้าคิดจะย้ายเหล่าผู้กำหนดชะตาเคราะห์เข้าไป โชคดีนัก…เกือบเปิดเผยออกไปแล้ว…”

ตัวตนที่สามารถคืนชีพสรรพสิ่งฟ้าบุพกาลได้ด้วยการโบกมือครั้งเดียว เช่นนั้นจะน่ากลัวปานใดเล่า!

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่าเจ้าจะปกปิดได้เป็นอย่างดี หลายปีมานี้ ข้าเฝ้ามองเจ้ามาตลอด เจ้าทำได้ดีมาก เปลี่ยนภาพจำของมิ่งที่อยู่ในใจของสรรพสิ่งได้ หลังจากนี้เจ้าจะเข้าร่วมงานชุมนุมฟ้าบุพกาลหรือไม่”

หวงจุนเทียนตอบว่า “เข้าขอรับ หากข้ากลายเป็นดวงจิตมหามรรค กลุ่มอิทธิพลมิ่งถึงจะชุบตัวสำเร็จอย่างแท้จริง นายท่านโปรดวางใจ ข้าไม่มุ่งมาดในตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุคแน่นอนขอรับ”

หานเจวี๋ยรู้สึกพูดไม่ออกอยู่ในใจ แต่ปากเอ่ยไปว่า “หากเจ้ามีความสามารถก็ไปยื้อแย่งได้ ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าข้า หานฮวงเป็นบุตรชายข้า แต่ข้าก็ให้ความสำคัญกับเจ้าเช่นกัน ช่วงเวลาที่พวกเรารู้จักกันมายาวนานกว่าที่ข้ารู้จักบุตรธิดาเสียอีก!”

หวงจุนเทียนตื้นตันนัก คุกเข่าลงอีกครั้ง

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ส่วนหลี่เต้าคงและสือตู๋เต้า ช่วยดูแลแทนข้าให้ดีด้วย แต่อย่าเปิดเผยว่าเป็นเจตนาของข้า”

“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว นายท่านโปรดวางใจได้!”

หวงจุนเทียนรับประกันทันที

จากนั้นแดนความฝันก็สิ้นสุดลง

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ในใจรู้สึกสะท้อนใจอย่างยิ่ง

หวงจุนเทียน หวงจุนเทียนผู้ยอดเยี่ยม!

อาศัยกำลังตนก้าวเดินมาถึงขึ้นนี้ได้!

อนาคตของเจียงเจวี๋ยซื่อคือผู้สร้างมรรคา คงมิใช่ว่าหวงจุนเทียนก็ทำสำเร็จเช่นเดียวกันกระมัง

หานเจวี๋ยไม่ได้ใช้ความสามารถวิวัฒนาการ ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ หากหานเจวี๋ยมีกำลังพอล้วนจะให้ความช่วยเหลือหวงจุนเทียน

มีผู้สร้างมรรคามากหน่อยก็ไม่เสียหาย ถึงอย่างไรเป้าหมายของหานเจวี๋ยก็คือเทพผู้สร้าง!

ขอเพียงเขาเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองจะมีกี่คนก็ได้!

จากนั้นหานเจวี๋ยจึงไปเข้าฝันสือตู๋เต้า จอมเทพข่งเซวี่ยและจิ่งเทียนกงด้วยรูปลักษณ์ของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ปลุกขวัญกำลังใจเสียหน่อย กันไม่ให้พวกเขาท้อแท้เอาใจออกห่าง

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการยังต้องอยู่ต่อไป

ก่อนที่จะไร้พ่ายอย่างแน่นอน เจ้าแดนต้องห้ามอันธการสามารถช่วยธุระหานเจวี๋ยได้มากนัก

หานเจวี๋ยบังเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา

หรือจะไปเข้าฝันจ้าวซวงเฉวียนและชิงเทียนเสวียนจีด้วย ชุบเลี้ยงพวกเขาในฐานะเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ สุดท้ายก็ให้พวกเขาพุ่งเป้ามายังอริยะสวรรค์เกรียงไกร เช่นนี้ผู้สร้างมรรคาจะคิดอย่างไรกันเล่า

หานเจวี๋ยสามารถลงทุนไปก่อนได้ รอจนทั้งสองเติบใหญ่ขึ้นมา ค่อยบอกความคิดที่แท้จริงของตนออกไป ถือโอกาสสอดส่องไปด้วยว่าพวกเขามีโอกาสจะกลายเป็นศัตรูหรือไม่

เพราะต่อให้พวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางไล่ตามหานเจวี๋ยทัน

‘วิธีนี้ใช้ได้เลย แต่คิดว่าไม่จำเป็น

‘ฝึกบำเพ็ญก่อนดีกว่า ตบะต่างหากสำคัญที่สุด’

หานเจวี๋ยส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา จากนั้นก็เข้าสู่สภาวะฝึกบำเพ็ญ

หลายหมื่นปีต่อมา หานเจวี๋ยอายุครบสิบเอ็ดล้านปี แต่ไม่มีแจ้งเตือนรางวัลทางเลือกของระบบ นี่แปลว่าต่อไปรางวัลทางเลือกจะปรากฏขึ้นทุกสิบล้านปีเท่านั้น

………………………………………………………………