บทที่ 963 ร้านหล่านเยว่

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 963 ร้านหล่านเยว่

บทที่ 963 ร้านหล่านเยว่

นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา อาณาจักรชิงก็เริ่มใช้ระบบระบุบตัวตน

อย่างไรก็ตาม ในตอนเริ่มต้นนั้นเป็นเพียงในระดับเล็ก ๆ เท่านั้น

และเนื่องจากระบบระบุตัวตนนี้ วันหนึ่งในอนาคต ชีวิตของกู้เสี่ยวหวานจึงได้รับการช่วยชีวิตไว้

ครั้นเดินทางมาถึงเมืองหลวง กู้เสี่ยวหวานก็ตะลึงกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงที่ไม่เคยพบเห็น

เมืองหลวงในสมัยโบราณมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์

ถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและกว้างขวาง เกรงว่ารถม้าห้าคันอาจสัญจรผ่านได้ ผู้คนแต่งกายหรูหรา มีรถม้าหรูหราจอดเรียงรายอยู่ข้างทาง

สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงที่ตกแต่งอย่างอลังการ

ร้านขายเครื่องประดับ ร้านอาหาร โรงเตี๊ยมขนาดเล็ก โรงละคร โรงน้ำชา ร้านขนม ร้านเสื้อผ้า โรงรับจำนำ และร้านค้าทุกประเภทรวมตัวกันอยู่ที่ถนนกว้างอัน

กู้เสี่ยวหวานตกตะลึงกับร้านค้าที่สวยงาม และการตกแต่งอย่างโอ่อ่าในร้านเหล่านั้น

นางแทบจะชะโงกออกมาจากหน้าต่างรถม้า

“พี่เย่จือ เมืองหลวงแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองจริง ๆ” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างจริงใจ

ที่นี่และเมืองรุ่ยเสียนอยู่คนละระดับ

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกประหลาดใจ

ฉินเย่จือมองตามสายตาของกู้เสี่ยวหวานและมองออกไป “ใช่แล้ว เมืองหลวงแห่งนี้สวยงามจริง ๆ”

ในเมืองหลวงโบราณแห่งนี้ มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ความงามดั้งเดิมที่ไม่ได้รับผลกระทบ เป็นความงดงามที่แท้จริง การท่องไปในสถานที่รุ่งเรืองและมั่งคั่ง ชื่นชมการสั่งสมทางวัฒนธรรมนับพันปี ช่างเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นยิ่งนัก

เนื่องจากมีคนเดินถนนจำนวนมากและส่วนใหญ่สัญจรด้วยการเดินถนน เพราะกลัวว่ารถม้าจะชนคนเดินถนน ดังนั้นมันจึงแล่นได้ค่อนข้างช้า

เมืองหลวงแห่งนี้อยู่แทบเท้าของฮ่องเต้ ดังนั้นย่อมมีบุคคลสำคัญมากมาย หากบังเอิญไปชนใครเข้าก็จะไม่รู้จริง ๆ ว่าคนคนนั้นเป็นนายน้อยหรือคุณหนูตระกูลใด และอาจก่อให้เกิดปัญหาเอาได้

รถม้าเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้ามาถึงร้านขายตุ๊กตาของพวกเขา

ในเวลานั้น หลี่ฝานเขียนจดหมายถึงกู้เสี่ยวหวานเพื่อขอให้นางตั้งชื่อร้าน

กู้เสี่ยวหวานได้พูดคุยกับกู้หนิงอันเป็นเวลานาน และในที่สุดก็ตัดสินใจตั้งชื่อว่า ‘ร้านหล่านเยว่’

พวกเขาขายตุ๊กตาและผ้าเช็ดหน้าคุณภาพดี โดยธรรมชาติแล้วชื่อที่พวกเขาตั้งควรจะเหมาะสม นอกจากนี้ สตรีในเมืองหลวงที่ออกมาซื้อของส่วนใหญ่ล้วนมีฐานะสูงส่ง หากตั้งชื่อร้านที่ชื่อไม่ไพเราะหรือธรรมดาเกินไป เกรงว่าจะไม่ดึงดูดใจพวกนาง

สตรีในสมัยโบราณมักมีอารมณ์อ่อนไหว ชื่อร้านหล่านเยว่นั้นเข้าใจง่าย และสอดคล้องกับรสนิยมอันสูงส่งของผู้หญิงเหล่านั้น

แน่นอนว่าเมื่อมันถูกส่งไปยังหลี่ฝานแล้ว หลี่ฝานก็ตอบกลับมาว่าชื่อร้านหล่านเยว่เป็นชื่อที่ดี

เพราะทำไมน่ะหรือ?

เนื่องจากในภาพวาดการตกแต่งที่วาดโดยกู้เสี่ยวหวาน ในเวลานั้นองค์ประกอบที่ใช้มากที่สุดคือดวงจันทร์

สำหรับการตกแต่งนั้นดูหรูหราและอบอุ่น กู้เสี่ยวหวานใช้ประโยชน์จากลักษณะของดวงจันทร์ ทั่วทั้งร้านมีพื้นหลังเป็นลวดลายของพระจันทร์

แม้แต่ด้านบนตู้ก็ยังมีพระจันทร์หลายดวงวาดอยู่

เมื่อกู้เสี่ยวหวานลงจากรถม้าก็เห็นหลี่ฝานเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวหวาน ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว!”

ไม่ได้เจอกันมาเกือบครึ่งปีแล้ว และหลี่ฝานก็ซูบผอมลงไปมาก

แต่เขาเต็มไปด้วยพลังงานและความตื่นเต้น

“นายน้อยฉินมาแล้ว” เมื่อเห็นฉินเย่จือ หลี่ฝานก็โค้งคำนับด้วยความเคารพทันที

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้สังเกตเห็นความแปลกประหลาดนั้น หากแต่เงยหน้าขึ้นมองที่ป้ายร้าน

ป้ายร้านทำจากไม้เนื้อแข็ง มีรูปพระจันทร์เสี้ยวด้านขวา และตัวอักษรร้านหล่านเยว่ขนาดใหญ่ที่สวยงามสามตัว มองดูแล้วช่างเข้ากันอย่างกลมกลืน

“เป็นอย่างไรบ้าง” หลี่ฝานถามด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานจ้องมองไปที่ตัวอักษรทั้งสามตัวของร้านหล่านเยว่

“ไม่เลวเลย ตัวอักษรนั้นสวยงามมาก แต่ข้าคิดว่าตัวอักษรเหล่านั้นคุ้นตาราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัย

ฉินเย่จือที่อยู่ด้านข้างปิดปากและยิ้ม “ข้าเขียนเอง”

มิน่าล่ะ

กู้เสี่ยวหวานชำเลืองมองเขาอย่างตำหนิ บางทีตอนนั้น หลี่ฝานอาจจะบอกฉินเย่จือว่าร้านนี้ชื่อชื่อร้านหล่านเยว่

ลุงหลี่คิดว่าลายมือนางแย่อย่างนั้นหรือ

เมื่อเห็นการแสดงออกที่น่าอายของกู้เสี่ยวหวาน ฉินเย่จือจะไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรได้อย่างไร จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนั้นข้าอยู่ในเมืองหลวงและได้พบกับเถ้าแก่หลี่ เถ้าแก่หลี่คิดว่าลายมือของข้าสวย ดังนั้นจึงเขาให้ข้าเขียนมันขึ้นมา”

คำพูดของฉินเย่จือไม่ยากที่จะเข้าใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะกู้เสี่ยวหวานที่เปิดร้านนี้ เขาคงไม่แตะพู่กัน แม้ว่าจะมีคนเอาทองคำหนึ่งแสนตำลึงเงินมาวางไว้ตรงหน้าเขาก็ตาม

หลี่ฝานเรียกคนรับใช้สองสามคนให้มาช่วยฉือโถวยกของลงจากรถม้า

กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือเดินเข้าไปในร้านหล่านเยว่ การตกแต่งภายในนั้นแปลกใหม่ หรูหรา และสวยงามมากขึ้น แม้ว่ามันจะไม่หรูหรามากนัก แต่ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอยู่เสมอ

ตามพิมพ์เขียวที่กู้เสี่ยวหวานส่งให้กับหลี่ฝานในเวลานั้น มีชั้นวางของทั้งสามด้านและตรงกลาง ด้านทางออกจะเป็นโต๊ะคิดเงิน

ทันทีที่ลูกค้าเข้ามาที่ประตูก็สามารถเลือกสินค้าที่ชอบได้ตามต้องการ และพวกเขาไม่จำเป็นต้องเรียกเจ้าของร้านหรือลูกจ้าง พวกเขาสามารถหยิบดูได้ด้วยตัวเองหากต้องการสิ่งนั้น

อย่างแรกคือ สะดวกสบายสำหรับลูกค้า อย่างที่สองคือ หลังจากที่ลูกค้าทำการเปรียบเทียบหลาย ๆ อย่างก็จะสามารถเลือกของและซื้อของได้มากขึ้น

ด้านหลังโต๊ะคิดเงินตรงทางเข้า มีชั้นวางเล็ก ๆ เรียงเป็นแถว และมีของกระจุกกระจิกวางอยู่บนชั้นวาง

ยกตัวอย่างเช่น พื้นรองเท้า ตุ๊กตาขนาดเท่าฝ่ามือ และจี้ห้อยเอว เป็นต้น

สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้สามารถป้องกันคนบางคนที่ใช้ประโยชน์จากความเล็กโดยการใส่ไว้ในเสื้อแล้วขโมยมันออกไป

ฉือโถวและคนอื่น ๆ ย้ายกล่องขนาดใหญ่มากกว่าสิบกล่องเข้ามา ซึ่งมีตุ๊กตาที่กู้เสี่ยวหวานทำขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกนางรีบร้อนตัดเย็บตุ๊กตาเกือบร้อยตัว ทำผ้าเช็ดหน้ามากกว่าร้อยผืน ทำพื้นรองเท้าและตุ๊กตาขนาดเท่าฝ่ามืออีกมากมาย จึงทำให้สินค้าของพวกนางมีหลายรูปแบบ

สิ่งที่ผู้หญิงควรจะชอบล้วนมีขายที่นี่

กู้เสี่ยวหวานไม่สามารถหยุดชื่นชมการตกแต่งในร้านหล่านเยว่ได้ และขอบคุณหลี่ฝานอย่างจริงใจ “ท่านลุงหลี่ ขอบคุณท่านแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ในอีกหลายปีข้างหน้าร้านนี้อาจยังไม่ได้เปิด”

ทว่าหลี่ฝานโบกมือและพูดว่า “อะไรกัน ข้าเพียงบังเอิญอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้นไม่ใช่หรือ? มันจึงง่ายที่จะจัดการ พวกเรายังจะต้องพูดอย่างเกรงใจกันอยู่อีกทำไมล่ะ?”

——————————————-