War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2303
ตอนที่ 2,303 : วิธีข้ามผ่านหายนะที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น!

“หือ?”

ได้ยินคำของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ต้วนหลิงเทียนที่คิดว่าพอแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บแล้วก็สมควรจบเรื่องราวได้ไม่ยาก อดหยีตาลงไม่ได้

อวี่เหวินฮ่าวเฉินผู้นี้ ตอนที่ประมือกับเขา ที่แท้ยังซุกซ่อนพลังไว้อีกหรือ?

กระทั่งผู้ชมโดยรอบยังอดไม่ได้ที่จะผงะ

ต้องทราบด้วยว่า พอพวกมันเห็นต้วนหลิงเทียนแปลงร่างเป็นนักรบมังกรแล้ว ก็ไม่มีใครคิดว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินจะเอาชนะต้วนหลิงเทียนได้อีก

เพราะสุดท้ายแล้วก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ พลังฝีมือก็ทัดเทียมกับอวี่เหวินฮ่าวเฉิน!

ตอนนี้ในเมื่อต้วนหลิงเทียนสามารถแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ ความแข็งแกร่งย่อมเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อย สมควรเอาชนะอวี่เหวินฮ่าวเฉินได้ง่ายๆ!

ทว่าตอนนี้พอได้ยินคำพูดของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน…

ประหนึ่งว่ามันเองก็มีไม้ตายก้นหีบซุกซ่อนเอาไว้ด้วย!

“ท่านจ้าววังของเรายังมีไม้ตายก้นหีบซุกซ่อนไว้อยู่หรือ?”

จังหวะนี้กระทั่งคนของวังเซียนสัญจรเอง ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยในวาจาของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน

นับประสาอะไรกับคนของ 2 วัง 6 ตำหนักที่เหลือ

‘นี่อี่เหวินฮ่าวเฉินมันยังมีไม้ตายก้นหีบซุกซ่อนไว้อีกหรือ?’

จ้าววังวิญญาณอสุรา ฉีหนานฟง ที่คิดว่าคราวนี้อวี่เหวินฮ่าวเฉินคงไม่อาจรอดพ้นความตายได้แน่ พอได้ยินคำนี้ของอีกฝ่าย ลูกตาที่หม่นแสงลงไปก่อนหน้าพลันส่องประกายลุกวาวขึ้นมาทันที ความรู้สึกยังเสมือนได้ทะยานขึ้นสวรรค์จากขุมนรก!!

แต่ต้นจนจบฉีหนานฟง ไม่คิดคลางแคลงสงสัยในวาจาอวี่เหวินฮ่าวเฉินแม้แต่น้อย

เหตุผลที่มันไม่คลางแคลงสงสัย เพราะมันรู้ดีแก่ใจว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาอวดโอ่!

“ท่านอาจารย์…ท่าน”

ในฐานะศิษย์เอกของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน อวิ๋นฟู่เหย่คล้ายนึกอะไรได้ออก สองตาทอประกายเรืองขึ้นมาวูบหนึ่ง

อย่างไรก็ตามสองตาที่พึ่งทอประกายเรืองวูบ ไม่นานก็หม่นแสงลงในพริบตา กระทั่งยังเริ่มฉายประกายแห่งความกังวล “หากท่านอาจารย์ใช้วิธีนั้นกับต้วนหลิงเทียน…แล้ว…”

“ท่านอาจารย์ อย่าได้!!”

หวงเหวินจิ้งที่ยืนอยู่ข้างๆอวิ๋นฟู่เหย่ก็คล้ายนึกอะไรได้ออก ใบหน้าเย็นชาของนางเปลี่ยนไปทันใด แววตายังฉายชัดถึงความกังวลให้เห็น

“ต้วนหลิงเทียน เจ้าเองก็เข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรของข้าได้ 3 ปีแล้ว…เจ้าคงรู้ดีว่าในบรรดาจ้าววังเซียนสัญจรแต่ละรุ่นล้วนมีวิธีการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างแน่นอน…”

“และเพราะมีวิธีดังกล่าว ทำให้ในประวัติศาสตร์ของวังเซียนสัญจรเรา มิมีจ้าววังคนใดที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ล้มเหลว”

จากวาจาที่อวี่เหวินฮ่าวเฉินกล่าวออก เผยให้รู้ว่าสิ่งที่หวงเหวินจิ้งกับบอวิ๋นฟู่เหย่กำลังกังวลนั้น กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!

อาจารย์ของพวกมัน คิดจะจัดการกับต้วนหลิงเทียน โดยใช้วิธีที่สามารถทำให้ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้แน่นอน!

ในฐานะศิษย์ของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน แม้หวงเหวินจิ้งกับอวิ๋นฟู่เหย่ยังไม่รู้ชัด แต่อย่างน้อยๆทั้งคู่ก็พอรู้คร่าวๆว่าวิธีการดังกล่าวเป็นอย่างไร

วิธีที่ว่า สามารถหยิบยืมพลังอำนาจของหายนะทัณฑ์สวรรค์ เพื่อใช้รับมือกับพลังของอัสนีทัณฑ์สวรรค์ได้ชั่วคราว!

หากนำมาใช้กับศัตรูล่ะก็ มันก็จะหมดสิ้นไปในคราวเดียว!

และวิธีที่ว่าหากนำมาใช้กับศัตรูล่ะก็…

สำหรับตัวตนที่อยู่ภายใต้ขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะ หากไร้เหตุผิดพลาดอันใด ทั้งหมดล้วนไม่อาจหนีพ้นความตาย!!

มีเพียงตัวตนขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะขึ้นไปเท่านั้น ที่จะรอดพ้นความตายจากวิธีดังกล่าว!

วูบ!

ได้ยินคำของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันทีว่า ‘ไม้ตายก้นหีบ’ ของอีกฝ่ายคืออะไร ‘วิธีที่จ้าววังเซียนสัญจรถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ สามารถเอามาใช้กับศัตรูได้ด้วยหรือ?’

ต้วนหลิงเทียนย่อมตกใจไม่น้อย

เรื่องจ้าววังเซียนสัญจรส่งต่อวิธีเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์จากรุ่นสู่รุ่นนั้น เขาเองก็เคยได้ยินมาแล้ว

เป็นเพราะวิธีดังกล่าว ทำให้ชนชั้นจ้าววังเซียนสัญจรไม่เคยมีใครล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์!

แต่ทว่าเขาไม่เคยคิดเลย

ว่าวิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์อะไรนั่น จะเอามาใช้กับศัตรูได้ด้วย!

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!”

“เช่นนั้นก็มิแปลก…!”

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังครุ่นคิดในใจ เหล่าผู้ที่ชมดูเรื่องราวโดยรอบ ก็ตระหนักได้ถึงวิธีที่อวี่เหวินฮ่าวเฉินพูด

และพวกมันเองก็กำลังตกตะลึงไม่แพ้ต้วนหลิงเทียน!

“ฟังจากที่ท่านจ้าววังกล่าว วิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของจ้าวววังเซียนสัญจรเรา ดูเหมือนจะเอามาใช้กับศัตรูได้ด้วย! ไม่คิดเลย…ข้าไม่เคยคิดเลยจริงๆ!!”

“หากเป็นเช่นนี้…ใครจะเป็นผู้ที่หัวเราะคนสุดท้ายในวันนี้ก็ยังไม่แน่!!”

“น่าดูชมยิ่ง หนึ่งเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ…อีกหนึ่งคือวิธีที่ชนชั้นจ้าววังเซียนสัญจรสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์…ข้าคิดว่าฝ่ายหลังมีโอกาสชนะมากกว่า!!”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น!”

……

ตอนนี้ไม่เพียงแต่คนของวังเซียนสัญจรเท่านั้น แต่คนของอีก 2 วัง 6 ตำหนักที่เหลือก็เริ่มสนทนากันอย่างออกรส

กระทั่งสุดท้ายพวกมันยังเห็นพ้องต้องกันว่า

หากต้วนหลิงเทียนและอวี่เหวินฮ่าวเฉินต่างใช้ไม้ตายก้นหีบของตัวเองจริง คนที่จะอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย สมควรเป็นอวี่เหวินฮ่าวเฉินแน่นอน!!

“จ้าวหวังอวี่เหวิน หากข้าเดาไม่ผิดล่ะก็…”

ในขณะที่ทุกคนกำลังเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกมาอีกครั้ง และยังกระตุ้นให้ผู้คนสนใจฟังไม่น้อย ทำให้ทุกคนสงบอาการและรอฟังคำของต้วนหลิงเทียนทันที

“สมควรมีข้อจำกัดบางประการใช่หรือไม่? วิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่จ้าววังเซียนสัญจรส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนั่นน่ะ…ไม่งั้นเจ้าคงใช้มันฆ่าข้าไปตั้งนานแล้ว!”

ในขณะที่ทุกคนหันมามองจ้อง ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกมา

เพียงวาจาไม่กี่คำ ก็ทำให้ผู้ชมโดยรอบอุทานกันออกมายกกใหญ่

เพราะพอได้ยินคำของต้วนหลิงเทียนแล้ว ทุกคนก็ต่างก็พยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว เพราะเห็นด้วยกับคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน

หากไม่มีข้อจำกัดอะไร ไฉนอวี่เหวินฮ่าวเฉินถึงทำได้แค่สู้เสมอกับต้วนหลิงเทียนมาถึงตอนนี้?

ไม่ใช่ว่าพอใช้วิธีการดังกล่าวก็จัดการต้วนหลิงเทียนได้ไปนานแล้วหรือไร?

“ไม่ผิด”

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน อวี่เหวินฮ่าวเฉินไม่เพียงแต่จะไม่ปฏิเสธ ยังเป็นฝ่ายกล่าวยอมรับและอธิบายเพิ่มเติมออกมาด้วยตัวเอง “วิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่ส่งต่อกันมาของชนชั้นจ้าววังเซียนสัญจรทุกรุ่น หากข้าเอามาใช้เพื่อฆ่าเจ้า ข้าก็จะไม่อาจใช้มันเพื่อเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้อีกต่อไป ทำให้ข้ามีโอกาสที่จะข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ล้มเหลว…”

“อย่างไรก็ตามหากข้าใช้วิธีที่ว่าเพื่อต่อกรกับศัตรู ขอเพียงเป็นตัวตนที่ยังไม่บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะ ข้ามั่นใจเกิน 9 ส่วนว่าสามารถฆ่าได้ทันทีแน่!!”

“ในเมื่อเจ้าเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ และข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า…หากข้าไม่ใช้วิธีที่ต้องใช้สำหรับข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ข้าก็ต้องตายแน่นอน…เช่นนั้นจะเก็บมันเอาไว้ให้ไร้ประโยชน์ทำอะไร?”

“มิสู้ข้าใช้มันเพื่อฆ่าเจ้าทิ้ง แล้วไปเผชิญหน้ากับหายนะทัณฑ์สวรรค์ด้วยพลังของตัวข้าเองมิดีกว่าหรือ!”

“แบบนี้ต่อให้มีโอกาสที่ข้าจะล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ แต่นั่นก็มิได้หมายความว่าข้าต้องล้มเหลวเสมอไป!!”

วาจาของอวี่เหวินฮ่าวเฉินนั้น เข้าใจได้ไม่ยาก

เพราะความหมายนั้นมันกระจ่างชัดนัก

ต้วนหลิงเทียนหากเจ้าคิดฆ่าข้า ข้าจะลากเจ้านรกทันที! แต่สุดท้ายตัวข้าก็ไม่แน่ว่าจะต้องลงนรกเสมอไป!!

ได้ยินวาจาของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน สีหน้าไร้แยแสของต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที แววตายังฉายประกายวูบวาบราวกับดีดลูกคิดรางแก้วเพื่อคำนวณผลได้ผลเสีย

‘วิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่ส่งต่อกันมาในบรรดาจ้าววังเซียนสัญจรแต่ละรุ่น ไม่ใช่อะไรที่ง่ายดายแน่…หาไม่แล้วจะมีพลังอำนาจถึงขั้นเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างไร?’

อัสนีทัณฑ์สวรรค์นั้นมีทั้งสิ้น 81 สาย…อัสนีสายหลังๆยิ่งมาก็ยิ่งรุนแรงทั้งทรงพลังมากขึ้น

ทว่าวิธีของจ้าววังเซียนสัญจรที่ส่งต่อกันมาทุกรุ่น กลับสามารถทำให้ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้แน่นอน ไม่เคยปรากฏผู้ที่ล้มเหลวแม้แต่คนเดียว!

เห็นได้ชัดว่าวิธีดังกล่าว มันมีพลังอำนาจระดับขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะก็ว่าได้!

‘พลังที่สามารถเอาชนะได้กระทั่งหายนะทัณฑ์สวรรค์…ข้าจะรับมันได้ไหวหรือ?’

เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนไม่แน่ใจเลย

‘หรือข้าจะใช้ตราผนึกมารเพื่อฆ่ามันตอนนี้เลย ก่อนที่มันจะทันได้ใช้วิธีอะไรนั่นดี?’

ทว่าพอนึกถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่ลอบส่ายหน้าในใจ

ตอนนี้แม้พลังฝึกปรือของเขาจะบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทั้งสำนึกรู้ฟ้าดินเองก็ถึงขีดจำกัด แต่เขาก็ไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยว่าตราผนึกมารจะจัดการกับยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนได้

นั่นเพราะตราผนึกมารมันไม่สมบูรณ์! พลังอำนาจของมันไม่ได้เลิศล้ำอย่างที่มันควรจะเป็น!!

หากเป็นตราผนึกมารในสภาพสมบูรณ์ อย่าว่าแต่ผู้ที่ไม่บรรลุครึ่งก้าวเซียนอมตะ กระทั่งครึ่งก้าวเซียนอมตะก็อาจจะใช้ได้ผล! ทว่าตอนนี้พลังอำนาจของมันไม่ได้เหนือล้ำขนาดนั้นแล้ว!!

ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงไม่กล้าเสี่ยง

หากเขาแพ้เดิมพัน ได้ล่มทั้งกระดานแน่!

ถึงตอนนั้นต่อให้เขาคิดจะหยุด ก็สายเกินกว่าจะหยุด!

“จ้าววังอวี่เหวินเจ้าชนะแล้ว”

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ผายมือยักไหล่ออกมาอย่างไม่อีนังขังขอบ ค่อยสะบัดมือเรียกชุดคลุมสีม่วงตัวเก่งออกมาจากแหวนมิติ พลางคืนร่างเดิมแล้วใส่ชุดใหม่

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็เลือกหนทางพักรบเป็นการชั่วคราวกับจ้าววังเซียนสัญจร เพราะไม่คิดเสี่ยงกับวิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ที่ชนชั้นจ้าววังเซียนสัญจรส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น!!

เห็นต้วนหลิงเทียนเลือกที่จะประนีประนอมแบบนี้ ผู้ชมโดยรอบก็ไม่ได้แปลกใจอะไร

เพราะหากพวกมันเป็นต้วนหลิงเทียน พวกมันเองก็คงจะเลือกหนทางประนีประนอม พักรบเป็นการชั่วคราวเหมือนกัน

“จ้าววังอวี่เหวิน…ไว้พวกเราบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว พวกเราค่อยมาตัดสินกันอีกครั้ง! ถึงตอนนั้นข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะอาศัยอะไรหยุดข้าได้อีก!!”

เมื่อประนีประนอมกันได้แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็มองจ้องไปยังอวี่เหวินฮ่าวเฉินด้วยสายตาคมกล้ากล่าวออกเสียงเข้ม ประกาศท้าสู้ในฐานะครึ่งก้าวเซียนอมตะล่วงหน้า!

สำหรับเขาการประนีประนอมนี้ก็แค่พักรบชั่วคราวเท่านั้น!

เสียงท้าเยียบเย็นของต้วนหลิงเทียน ไม่ได้ทำผู้คนโดยรอบแปลกใจอะไร เพราะมันก็มีแต่จะเป็นแบบนี้เท่านั้น…

“เรื่องนั้นรอให้เจ้าข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์และบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะก่อนค่อยกล่าวก็ยังมิสาย…เรื่องราวมันหาได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิดไม่!”

ได้ยินวาจาท้ารบเยียบเย็นของต้วนหลิงเทียน อวี่เหวินฮ่าวเฉินก็กล่าวตอบกกลับไปอย่างไม่แยแส เพราะมันไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะมีปัญญาข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ และบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะได้!

เหตุผลที่มันคิดแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล

ในความคิดของมันนั้น หายนะทัณฑ์สวรรค์ของต้วนหลิงเทียน มีต้นกำเนิดมาจากเมฆหายนะสู่สวรรค์ของตัวมัน หาใช่สิ่งที่ต้วนหลิงเทียนได้ชักกนำมาด้วยตัวเองไม่!

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของเผ่าปีศาจ ก็มีปีศาจขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนมากมายที่รู้สึกว่าสำนึกรู้ฟ้าดินของตัวเองบรรลุถึงขีดจำกัดแล้ว หากแต่ไม่พบพานโอกาสของตัวเองเสียที พอเห็นผู้อื่นพบพานโอกาสชักนำหายนะทัณฑ์สวรรค์ให้ปรากฏ ก็อาศัยวิธีฉวยโอกาสเช่นนี้ หมายข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์..

ทว่าไร้ซึ่งข้อยกเว้นใดๆ ปีศาจทุกตนที่ก่อการดังกล่าว ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ทั้งหมด!

สิ่งนี้เสมือน คำสาป!

เช่นนั้นมันจึงไม่ได้มองโลกในแง่ดีสำหรับต้วนหลิงเทียนสักเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามการประนีประนอมของต้วนหลิงเทียนนั้นทำให้มันต้องลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอย่างถึงที่สุด! เพราะนี่หมายความว่าตัวมันสามารถข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์และบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะได้ 10 ส่วนเต็ม!!