บทที่ 965 เปิดร้านตุ๊กตา

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 965 เปิดร้านตุ๊กตา

บทที่ 965 เปิดร้านตุ๊กตา

เดิมทีฉินเย่จือพากู้เสี่ยวหวานมาที่เมืองหลวงเพราะต้องการพานางไปเที่ยวรอบ ๆ แต่เมื่อเขาได้ยินว่านางกำลังจะคำนวณบัญชีของร้านฝูจิ่นจริง ๆ สีหน้าของเขาก็บูดบึ้ง

ครั้นเห็นว่าสีหน้าของฉินเย่จือไม่ค่อยดีนัก หลี่ฝานจะกล้าขอให้กู้เสี่ยวหวานคำนวณบัญชีได้อย่างไร ดังนั้นจึงรีบพูดว่า “เสี่ยวหวาน นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในเมืองหลวง เจ้าสามารถไปดูเดินเล่นที่ถนนกับนายน้อยได้ ไม่ต้องมาช่วยจัดการเรื่องของข้าหรอก ในอนาคตเมื่อมีเวลาข้าจะค่อย ๆ อ่านมันเอง”

ทว่ากู้เสี่ยวหวานส่ายศีรษะปฏิเสธ “ไม่เป็นไรท่านลุงหลี่ เมืองหลวงแห่งนี้เมื่อมาครั้งแรกแล้วก็จะมีครั้งที่สองตามมาอีก ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้มาอีกเสียหน่อย เรื่องการคำนวณบัญชีเป็นเรื่องสำคัญที่สุด หากไม่คำนวณตั้งแต่แรก เกรงว่าในอนาคตจะผิดพลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้าควรจัดการบัญชีให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปเดินเล่นทีหลัง”

เมื่อได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดเช่นนี้ ฉินเย่จือก็หมดทางเลือก

หลี่ฝานเปิดห้องสองห้องสำหรับกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือในโรงเตี๊ยมซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกล นอกเหนือจากการไปดูทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองหลวงเป็นครั้งคราวแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็จะนั่งอยู่ในร้านฝูจิ่นตลอดทั้งวันเพื่ออ่านสมุุดบัญชี

ฉินเย่จือรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ครั้นเห็นท่าทางที่จริงจังของกู้เสี่ยวหวาน เขาก็ทำได้เพียงนั่งลงอย่างเชื่อฟัง และช่วยกู้เสี่ยวหวานดูบัญชีด้วยกัน

หลังจากนั่งอ่านสมุดบัญชีมาหลายวัน และเมื่อเหลือเพียงเล็กน้อยในตอนท้าย หลี่ฝานก็ไม่กล้าใช้นางอีกต่อไป

ใบหน้าของฉินเย่จือดำคล้ำราวกับก้นหม้อแล้ว

เมื่อกู้เสี่ยวหวานตรวจสอบบัญชีของร้านฝูจิ่นเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดฉินเย่จือก็สมความปรารถนา และสามารถพากู้เสี่ยวหวานไปเดินเล่นบนถนนในเมืองหลวงได้หนึ่งวัน

นี่คือพื้นที่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาจึงรู้ว่ามีของอร่อยและมีสิ่งน่าสนใจอยู่ที่ไหนบ้าง

กู้เสี่ยวหวานเดินตามหลังฉินเย่จือและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ

แต่ไม่ใช่แค่การมองอย่างไร้จุดหมาย แต่เป็นการทำความเข้าใจกิจการที่มั่งคั่งในเมืองหลวง

ในที่สุด วันเปิดร้านหล่านเยว่ก็มาถึง

ร้านหล่านเยว่เปิดขึ้น นางไม่ปรากฏตัวให้ผู้ใดรู้ หากแต่ปะปนเข้าไปกับฝูงชน

กู้เสี่ยวหวานยังคงปล่อยให้หลี่ฝานออกหน้าเป็นเจ้าของร้านทั้งหมดในเมืองหลวง

ถ้ามีคนรู้ว่าเด็กสาวเป็นเจ้าของร้านจริง ๆ เกรงว่าจะเป็นการสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น และนางก็กลัวว่าจะไปเตะตากับพวกหัวขโมยเข้า

ฉินเย่จือแต่งกายปลอมตัวและติดตามกู้เสี่ยวหวานไปเพื่อดูการเปิดร้านหล่านเยว่

ในเมืองหลวงมีร้านขายผ้ามากมาย แต่ครั้งสุดท้ายที่หลิวเทียนฉือนำตุ๊กตาและผ้าเช็ดหน้าเหล่านั้นมาที่เมืองหลวงจึงสร้างความปั่นป่วนได้อย่างมาก ร้านขายผ้าเหล่านั้นจึงริเริ่มมีการเปิดตัวตุ๊กตาขึ้นบ้างเช่นกัน

แต่ทว่าเนื่องจากฝีมือที่ไม่ชำนาญ พวกเขาจึงวาดกระบวยตามรูปน้ำเต้า*[1] และตุ๊กตาที่พวกเขาทำขึ้นนั้นไม่มีจิตวิญญาณเหมือนกับตุ๊กตาที่พวกกู้เสี่ยวหวานทำ

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากพวกเขาไม่มีความคิดเป็นของตนเอง สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นจึงมีความซ้ำซากจำเจ ปราศจากความคิดแปลกใหม่และไม่นำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ตุ๊กตาของพวกเขาจึงเป็นเพียงตุ๊กตาที่ไม่มีรูปแบบอะไร

ในตอนแรก หญิงบางคนในเมืองหลวงไม่มีตุ๊กตาของหลิวเทียนฉืออยู่ในครอบครอง ดังนั้นเมื่อเห็นว่าร้านขายผ้ามีตุ๊กตาเหล่านี้ขาย แม้ว่ารูปแบบของพวกมันจะแย่กว่าตุ๊กตาของหลิวเทียนฉือ หากแต่ตุ๊กตาเหล่านี้ก็เป็นที่นิยมมากในเมืองหลวง หญิงคนไหนไม่ได้ครอบครองตุ๊กตา เมื่อมีงานสังสรรค์กันก็จะไม่มีหัวข้อให้พูดถึง ดังนั้นไม่ว่ามันจะดูน่าเกลียดแค่ไหน พวกนางก็ซื้อมัน

ตุ๊กตาของร้านที่ลอกเลียนแบบจึงกลายเป็นที่นิยมในเมืองหลวง

แต่เมื่อไม่มีรูปแบบอะไรใหม่ พอหมดยุครุ่งเรืองจึงไม่มีผู้ใดให้ความสนใจ

คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน แม้แต่ลวดลายก็เป็นของเลียนแบบ ดังนั้นคุณหนูเหล่านั้นจึงไม่ซื้อมันอีก

ครั้งนี้เมื่อได้ยินว่ามีจะร้านหล่านเยว่มาเปิดบนถนนกว่างอัน ร้านแห่งนั้นขายตุ๊กตาและผ้าเช็ดหน้า เหล่าผู้หญิงจึงตื่นเต้นอยู่พักหนึ่ง

แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าผู้ใดกระจายข่าวว่าตุ๊กตาข้างในน่าจะเป็นของเลียนแบบ และไม่ควรนำมาขาย ครั้นได้ยินดังนั้นเหล่าสตรีก็รู้สึกหดหู่ใจอยู่ครู่หนึ่ง

หากแต่ต่อมาก็มีข่าวลือเกิดขึ้นอีกบอกว่า ร้านแห่งนั้นมีตุ๊กตาหลายแบบหลายขนาด และพวกมันดีกว่าตุ๊กตาที่หลิวเทียนฉือนำมาให้คราวที่แล้ว

ทุกคนจึงเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอมันอีกครั้ง

พวกนางรอหลิวเทียนฉือเปิดร้านมาเป็นเวลานาน และก็ใช้เวลารอมาเกือบหนึ่งปี แต่ก็ยังไม่เห็นจะมีวี่แววของการเปิดร้าน พวกนางจึงไม่คาดว่าจะมีร้านอื่นมาเปิดอีก

การตกแต่งร้านที่หรูหราและมีระดับ ดูเหมือนว่าสิ่งของหลากหลายอย่างข้างในจะเป็นของคุณภาพดี

ทุกคนจึงเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอมันอีกครั้ง

เมื่อถึงวันเปิดร้าน ร้านหล่านเยว่จึงถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนแน่นขนัด ไม่ว่าจะเป็นคุณหนูบางคนที่นั่งรถม้ามาด้วยตัวเอง หรือสาวรับใช้ที่มาพร้อมเงิน

แค่รอดูว่ามีอะไรอยู่ในร้านหล่านเยว่และต้องการซื้อเป็นอย่างแรก

เมื่อเปิดร้าน กู้เสี่ยวหวานยังวางแผนจัดกิจกรรมเล็ก ๆ

มันดึงดูดผู้คนจำนวนมากและเมื่อมีการประกาศว่าร้านเปิด ผู้คนที่พลุกพล่านต่างหลั่งไหลเข้ามา

เมื่อเห็นตุ๊กตารูปแบบต่าง ๆ บรรยากาศภายในร้านจึงคึกคักขึ้น

กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือก็ปะปนกับฝูงชนเช่นกัน ตามเข้าไปในร้านและมองไปรอบ ๆ

และเห็นคนสั่งซื้อทันที ซื้อหนึ่งชิ้น สองชิ้น จนกระทั่งห้าถึงหกชิ้นก็มี

สินค้าในร้านของกู้เสี่ยวหวานก็ราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน

ตุ๊กตาทั้งหมดทำจากผ้าคุณภาพดี รวมทั้งผ้าฝ้ายและเครื่องประดับตุ๊กตาล้วนเป็นวัสดุที่ดีที่สุด

ตุ๊กตาในร้านหล่านเยว่แบ่งออกเป็นสามประเภทตามขนาดของตุ๊กตา

ราคาจึงแตกต่างกันออกไป

ตุ๊กตาที่ใหญ่ที่สุดเริ่มต้นที่หนึ่งร้อยตำลึงเงิน ตุ๊กตาขนาดกลางราคาหกสิบตำลึงเงิน และตุ๊กตาที่เล็กลงมาคือสี่สิบตำลึงเงิน

หากหักต้นทุนออก ตุ๊กตาหนึ่งตัวสามารถทำกำไรได้เกือบครึ่งหนึ่งของราคาที่ขาย

เมื่อตอนที่กู้เสี่ยวหวานตั้งราคาร่วมกับหลี่ฝาน นางกลัวว่าราคาจะแพงเกินไป

เป็นเพราะนางไม่รู้ชัดเจนเกี่ยวกับราคาสินค้าในเมืองหลวง

แต่หลี่ฝานพูดอย่างหนักแน่นว่ามันไม่แพงเลย และเขายังขอให้กู้เสี่ยวหวานเพิ่มราคาอีกเล็กน้อย

ในที่สุด ราคาที่ทุกคนพึงพอใจก็ถูกกำหนดขึ้น

หลังจากนั้นไม่นาน สินค้าทั้งหมดในร้านหล่านเยว่ก็ขายหมดเกลี้ยง

บางคนที่ซื้อไม่ได้ก็มองไปที่หลี่ฝานอย่างกระตือรือร้นและตำหนิตัวเองที่เมื่อครู่แย่งมาไม่ทัน

พวกเขาถามหลี่ฝานว่าสินค้าชุดต่อไปจะมาถึงเมื่อไร

*[1] ลอกเลียนแบบ

——————————————-