ตอนที่ 951 ทุ่มกองทัพทั้งแคว้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 951 ทุ่มกองทัพทั้งแคว้น

อันซีอ๋องทรุดกายลงนั่งตามเดิม กองทัพถูกทำลายสิ้นซากแล้วอย่างนั้นหรือ! ตระกูลอันซีของพวกเขามีกองทัพเหลือเพียงเท่านั้นแล้ว!

สีหน้าของกว่างอันอ๋องย่ำแย่พอๆ กัน

“ลำบากเสนาบดีเสิ่นแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้เสิ่นเทียนจือ

ขันทีเล็กพาเสิ่นเทียนจือไปยังที่นั่งของเขา เสิ่นชิงจู๋พาครอบครัวของกว่างอันอ๋องและไป๋สุ่ยอ๋องเดินเข้ามาในตำหนักด้วยความหวาดกลัว

เสิ่นชิงจู๋ปลดเสื้อคลุมกันลมของตัวเองออก จากนั้นปลดดาบที่เอวของตัวเองยื่นให้กองกำลังรักษาพระองค์ด้วยท่าทีองอาจ หญิงสาวเดินเข้าไปในตำหนักเป็นคนแรก จากนั้นคุกเข่ารายงานกลางท้องพระโรง “เสิ่นชิงจู๋ได้รับบัญชาให้พาครอบครัวของกว่างอันอ๋องและไป๋สุ่ยอ๋องมายังเมืองหลวง แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียนและแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อนำทหารไปรับช่วงต่อกองทัพของไป๋สุ่ยอ๋องและกว่างอันอ๋องที่ค่ายทหารของพวกเขาแล้วเพคะ”

คราวนี้แผ่นหลังของกว่างอันอ๋องทรุดลงในทันที กองทัพไป๋รับช่วงต่อกองทัพกว่างอันในค่ายทหารแล้ว ไป๋ชิงเหยียนทำลายแม้กระทั่งรังทหารของเขาอย่างนั้นหรือ!

ตอนนั้นเขาไม่ควรอยากมาร่วมพิธีบรมราชาภิเษกของไป๋ชิงเหยียนตั้งแต่แรก เขาควรอยู่ปกป้องเมืองของตัวเอง ถึงแม้ไป๋ชิงเหยียนจะสั่งให้ทหารยกทัพไปบุกเมือง เขาก็คงต้องพิจารณาให้รอบคอบ รังของเขาคงไม่ถูกทำลายอย่างง่ายดายเพียงนี้แน่!

เขาประมาทเกินไป!

“ลำบากเจ้าแล้ว ไปนั่งกับแม่ทัพเสิ่นคุนหยางเถิด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเสิ่นชิงจู๋

เสิ่นชิงจู๋กล่าวขอบคุณ จากนั้นเดินไปนั่งข้างเสิ่นคุนหยางผู้เป็นบิดาบุญธรรมของตัวเอง

“มอบไป๋สุ่ยอ๋อง กว่างอันอ๋องและอันซีอ๋องให้ใต้เท้าหลู่กรมราชทัณฑ์เป็นคนจัดการตามกฎหมาย” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ไม่ยึดทรัพย์สินของเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์เก่า เนรเทศพวกเขาไปยังหย่งโจว ห้ามกลับมายังเมืองหลวงอีกตลอดชีวิต ผู้ใดขัดขืนจงประหารทันที”

“กระหม่อมน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ” หลู่จิ้นก้าวไปรับคำสั่ง จากนั้นยกมือส่งสัญญาณให้ทหารกองกำลังรักษาพระองค์คุมตัวไป๋สุ่ยอ๋อง กว่างอันอ๋อง อันซีอ๋องและครอบครัวของพวกเขาไปขังไว้ในคุกหลวง

ครอบครัวของไป๋สุ่ยอ๋องและกว่างอันอ๋องกอดคอกันร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวพลางตะโกนขอร้องเสียงดังลั่น หากลงโทษตามกฎหมาย โทษกบฏต้องถูกประหารทั้งตระกูล!

ครอบครัวของซั่วฟางอ๋องคุกเข่าอยู่ทางด้านหลังโต๊ะอย่างตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่กล้าหายใจออกมาแรงๆ กลัวว่าผู้ที่โชคร้ายเป็นรายถัดไปจะเป็นครอบครัวของตัวเอง

“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องกล่าวสิ่งใดบ้างสิเพคะ!” ภรรยาของไป๋สุ่ยอ๋องตวาดไป๋สุ่ยอ๋องเสียงดังลั่น เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบของสามี นางจึงหันไปขอร้องไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาท ฝ่าบาทได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดเพคะ!”

“เหอตงอ๋อง ซั่วฟางอ๋อง…”

เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียก เหอตงอ๋องและซั่วฟางอ๋องรีบก้มศีรษะแนบพื้นอย่างนอบน้อม

“เมืองศักดินาของบรรพบุรุษพวกเจ้าคือศักดินาของราชวงศ์เก่า บัดนี้ราชวงศ์ต้าจิ้นสูญสลายไปแล้ว…”

เหอตงอ๋องไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็รีบกล่าวขึ้นมาก่อนอย่างนอบน้อม “ต้าโจวคือแคว้นใหม่ คือราชวงศ์ใหม่ ศักดินาเก่าของตระกูลเหอตงย่อมควรคืนให้แคว้นใหม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่มีความโลภและไม่กล้ามีความโลภใดๆ ทั้งสิ้น กระหม่อมจะส่งคนไปบอกให้กองทัพเหอตงยอมจำนนเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ ขอเพียงฝ่าบาทให้โอกาสกระหม่อมได้แสดงความจงรักภักดีต่อฝ่าบาทอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”

ก่อนหน้านี้เหอตงอ๋องรู้อยู่แล้วว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นคนเด็ดขาด ทว่า ยังอยากลองดูอีกสักตั้ง บัดนี้เขายอมแพ้จากใจจริงแล้ว แผนการของพวกเขาแยบยลมาก ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะเริ่มลงมือก่อนพวกเขาเสียอีก ที่สำคัญเมื่อมีสหายร่วมแผนการที่โง่เขลาอย่างไป๋สุ่ยอ๋องอยู่ด้วย พวกเขาสมควรพ่ายแพ้แล้วจริงๆ

กองทัพของซั่วฟางอ๋องถูกทำลายสิ้นซากแล้ว ซั่วฟางอ๋องไม่รู้จะแสดงความจงรักภักดีของตัวเองได้เช่นไรอีกจึงได้แต่ก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอย่างแรง “กระหม่อมขอโอกาสให้กระหม่อมได้แสดงความจงรักภักดีต่อฝ่าบาทด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็หวังว่าทั้งสองคนจะจำให้ขึ้นใจว่านับจากนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าไม่ใช่เหอตงอ๋องและซั่วฟางอ๋องอีกต่อไป พวกเจ้าและครอบครัวสามารถอยู่ในเมืองหลวงต่อไปได้ ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าทั้งสองช่วยเหลือต่งฉางหยวนและหลี่หมิงรุ่ยผลักดันการปกครองระบอบใหม่ ทว่า พวกเจ้าจงจำไว้ให้ดีว่าอย่าทำผิดเช่นนี้ซ้ำสองอีก!” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม “เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง ข้าจะมอบตำแหน่งให้พวกเจ้าตามความสามารถของพวกเจ้า พวกเจ้ามีสิ่งใดข้องใจอีกหรือไม่”

“กระหม่อมหลินเหวินซานไม่มีสิ่งใดข้องใจทั้งสิ้นพ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตาพ่ะย่ะค่ะ” เหอตงอ๋องหลินเหวินซานคำนับขอบคุณ “กระหม่อมยินดีเดินทางออกไปบอกให้กองทัพเหอตงยอมจำนนด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ”

ซั่วฟางอ๋องหลินไหวซู่รีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน “กระหม่อมหลินไหวซู่ไม่มีข้อข้องใจ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตาพ่ะย่ะค่ะ”

“แม่ทัพฝูช่วยไปเป็นเพื่อนหลินเหวินซานที่นอกเมืองหลวงที บอกกองทัพไป๋ด้วยว่าเจ้านายกบฏของพวกเขาถูกจับกุมตัวแล้ว ผู้ใดยอมจำนนจะไว้ชีวิต!”

ฝูรั่วซีรับคำ จากนั้นพาหลินเหวินซานออกไปหากองทัพเหอตง

ฝูรั่วซีเพิ่งพาหลินเหวินซานออกไปจากตำหนัก เซียวรั่วไห่ก็วิ่งเข้ามาจากประตูข้างของตำหนักอย่างร้อนรน เขาเดินอ้อมเสาไม้ถานมู่สีดำเข้าไปหยุดอยู่ด้านล่างบันไดที่ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่

ไป๋จิ่นเจาเห็นเซียวรั่วไห่จีงรีบเดินเข้าไปกระซิบข้างหูของไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนหันไปเห็นสีหน้าร้อนรนของเซียวรั่วไห่จึงพยักหน้าให้เซียวรั่วไห่ขึ้นมา

เซียวรั่วไห่เดินขึ้นไปบนบันไดด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นคุกเข่าลงทางด้านหลังของไป๋ชิงเหยียน เขามองไปทางต่งซื่อแวบหนึ่ง จากนั้นกระซิบไป๋ชิงเหยียนเสียงเบาเพราะกลัวต่งซื่อเป็นกังวล “คุณหนูใหญ่ คุณหนูสามถูกจับในซีเหลียงขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนกำขอบโต๊ะแน่น ครู่ใหญ่จึงคลายแผ่นหลังที่เกร็งแน่นลง สีหน้ายังคงเรียบเฉยสมกับเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจว

“เพราะเหตุใด” ไป๋ชิงเหยียนถามเสียงเบา

“เฉินชิ่งเซิงที่ส่งข่าวกลับมาไม่ทราบสาเหตุขอรับ เขารู้เพียงว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเชิญคุณหนูสามเข้าไปในวังหลวง ต่อมาไม่รู้ว่าเหตุใดคุณหนูสามจึงถูกจับขังคุกขอรับ คุณหนูสามเป็นสตรี หากโดนจับได้เรื่องนี้คงถูกสงสัยแน่ขอรับ เฉินชิ่งเซิงพยามทุกวิถีทางแล้ว ทว่า สุดท้ายก็ไม่อาจพบหน้าคุณหนูสามได้ เขาจึงทำได้เพียงให้คนส่งจดหมายกลับมาบอกพวกเราขอรับ” เซียวรั่วไห่กล่าวเสียงเบาหวิว

ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองไปยังร่างของเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ย “ผู้ที่ส่งข่าวกลับมาอยู่ที่ใด”

“องครักษ์ลับเร่งเดินทางกลับมาโดยไม่หยุดพัก บัดนี้พวกเขาทั้งหกคนสลบไม่ได้สติไปแล้วขอรับ” เซียวรั่วไห่กล่าว

สมองของไป๋ชิงเหยียนประมวลผลอย่างรวดเร็ว พยายามคิดหาเหตุผลที่ไป๋จิ่นถงถูกจับได้เป็นร้อยเหตุผล

เหตุผลที่เลวร้ายที่สุดคือจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรู้ฐานะที่แท้จริงของไป๋จิ่นถงแล้ว

บัดนี้ซีเหลียงร้อนใจอยากเป็นพันธมิตรกับต้าโจว หากพวกเขารู้ฐานะที่แท้จริงของไป๋จิ่นถงก็ไม่ถือเป็นอันตราย เช่นนี้พวกเขาจะได้ไม่กล้าทำร้ายน้องสาวของนาง

ทว่า บัดนี้สถานการณ์ในซีเหลียงยังไม่แน่ชัด หากบุ่มบ่ามขอคนคืนจากหลี่จือเจี๋ย ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่าจะทำลายฐานทัพของไป๋จิ่นถงในซีเหลียง

นางต้องรีบส่งคนไปสำรวจสถานการณ์ในซีเหลียงก่อน ก่อนทราบสถานการณ์ที่แน่ชัดจะปล่อยให้หลี่จือเจี๋ยกลับไปซีเหลียงตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด

ไป๋ชิงเหยียนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “หรู่ซยง รบกวนหรู่ซยงพาคนที่นำข่าวมาแจ้งให้พวกเราทราบกลับไปยังซีเหลียงที หากสถานการณ์คับขันจริงๆ ต้องทำให้ซีเหลียงรู้ว่าจิ่นถงคือน้องสาวของข้า หากซีเหลียงกล้าแตะต้องจิ่นถง เช่นนั้นเหยียนอ๋องแห่งซีเหลียงจะไม่ได้กลับไปอีก ต้าโจวจะยกทัพทั้งแคว้นไปทำลายซีเหลียงให้ราบคาบ!”

หรงตี๋ต้องบุกโจมตีซีเหลียงแน่นอนอยู่แล้ว หากซีเหลียงมั่นใจว่าตัวเองมีความสามารถมากพอที่จะรับมือกับหรงตี๋และต้าโจวในเวลาเดียวกันเช่นนั้นก็แตะต้องไป๋จิ่นถงได้เลย

“ขอรับ!” เซียวรั่วไห่รับคำ จากนั้นเดินลงจากบันไดด้วยท่าทีนอบน้อม

หลี่จือเจี๋ยสัมผัสได้ว่ามีคนขึ้นไปรายงานข่าวให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้ เขาปรายตามองไปที่คนผู้นั้นแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มผู้นั้นคือคนที่ติดตามไป๋ชิงเหยียนไปออกรบที่หนานเจียง หลี่จือเจี๋ยจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก

————————————–