บทที่ 974 โจรตะโกนจับโจร

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 974 โจรตะโกนจับโจร

บทที่ 974 โจรตะโกนจับโจร

ประกายแห่งความพึงพอใจฉายผ่านดวงตาของหลิวชิงซาน เขารีบเปลี่ยนท่าทางของตนเองทันที และแทบกระโดดขึ้นจากพื้น “เจ้าพูดว่าฟางสี่ของข้าหายไปหรือ? พวกเจ้ารีบบอกข้าเร็วว่าพวกเจ้าเอาฟางสี่ของข้าไปไว้ที่ไหน?”

หลิวชิงซานผู้นี้ได้เรียนรู้ว่าคนร้ายจะฟ้องก่อน ป้าจางจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลิวชิงซานได้อย่างไร นางรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเขาถามคำถามแบบนี้ ดูเหมือนนางจะไม่คิดว่าหลิวชิงซานจะหันกลับมา และถามว่าพวกนางเอากู้ฟางสี่ไปซ่อนไว้ที่ไหน

“ฟางสี่ ฟางสี่ แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นที่สามีของเจ้าจากไป แต่ตอนนี้เจ้ากลับมาหายตัวไปแล้ว ฮึก ๆ ฟางสี่ ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าข้าเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี แต่เจ้ากลับไม่เชื่อ เจ้าคิดว่าหลานสาวของเจ้าดีต่อเจ้า อะไร ๆ ก็หลานสาว ๆ ท้ายที่สุดแล้ว นางก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ เจ้าเห็นหรือไม่ว่าคราวนี้นางก็ทำให้เจ้าหายไป และเมื่อตายก็ไม่เห็นศพ”

“หุบปาก!” เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินว่าหลิวชิงซานกำลังสาปแช่งว่ากู้ฟางสี่ตายแล้ว นางก็กระโดดลงจากที่นั่งพลางชี้หน้าหลิวชิงซานและตะโกนลั่น “หลิวชิงซาน เจ้าอย่ามาทำตัวเป็นโจรตะโกนจับโจร ข้าถามเจ้าว่าเจ้าเอาท่านอาของข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน?”

“กู้เสี่ยวหวาน อย่าคิดว่ามีคนเยอะแล้วจะมาใส่ร้ายข้าได้นะ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ากู้ฟางสี่หายไปไหน ฟางสี่อยู่ที่นี่กับเจ้าตลอดไม่ใช่หรือ? นางหายไป เจ้าไม่ไปตามหา แต่กลับมาถามข้าว่านางหายไปไหน ข้าก็อยากจะถามเจ้าเช่นกันว่าการที่ภรรยาที่แสนดีของข้าหายไปเป็นเพราะเจ้าไม่สนใจจนทำให้นางตายใช่หรือไม่?” หลิวชิงซานกระโดดขึ้นมา

“อย่าพูดไร้สาระ!” ฉือโถวตะโกนเสียงดังขึ้นจากด้านข้าง

หลิวชิงซานไม่ได้สนใจอีกฝ่ายมากนัก เขาโกรธแค้นกู้เสี่ยวหวานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คราวนี้อารมณ์ของเขาก็พลุ่งพล่าน แต่ยังไม่กล้าที่จะทำร้ายใคร

ฉินเย่จือและอาโม่ยืนอยู่ข้าง ๆ กู้เสี่ยวหวาน พวกเขาต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับแนวหน้า

ผู้ชายอย่างเขาที่อาศัยเพียงกำลังเพื่อเอาชนะผู้หญิง แต่หากได้พบกับฉินเย่จือก็เหมือนกับเขากำลังรนหาที่ตายเองไม่ใช่หรือ?

“กู้เสี่ยวหวาน วันนี้ข้าจะเอาเรื่องเจ้า ถ้าเจ้าไม่พาภรรยาของข้าออกมา ข้าจะฟ้องทางการและฟ้องในข้อหาฆ่าคนตาย เมื่อถึงเวลานั้นมาดูกันว่าทางการจะตัดหัวเจ้าหรือไม่!?”

ในขณะนี้ กู้เสี่ยวหวานมองไปที่หลิวชิงซานซึ่งกำลังมองมาที่ตนเองอย่างเย่อหยิ่ง

นางมีสัญชาตญาณอยู่ในใจว่าการหายตัวไปของกู้ฟางสี่นั้นเกี่ยวข้องหลิวชิงซาน

แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับ นางจะแงะปากของเขาได้อย่างไร?

ทันใดนั้น ห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างหน้าสะพรึงกลัว

หลิวชิงซานชำเลืองมองทุกคนที่อยู่ตรงนั้นด้วยเจตนาร้าย และเมื่อเห็นว่าพวกเขาเงียบสนิท ไม่ต้องพูดถึงว่าหลิวชิงซานรู้สึกภูมิใจแค่ไหน

หากหากู้ฟางสี่ไม่พบ เขาจะไปที่ศาลาว่าการเพื่อฟ้องร้องกู้เสี่ยวหวานในข้อหาฆาตกรรมภรรยาของเขา จากนั้นทรัพย์สินมากกว่าครึ่งหนึ่งของสวนกู้ก็จะตกเป็นของเขา

ในเวลานั้น เขาจะได้กินอาหารอร่อยและดื่มจนเมามายทุกวัน

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่หลิวชิงซานที่กำลังเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ “จับตัวเขาไว้”

หลังจากพูดจบ ก่อนที่หลิวชิงซานจะทันได้ตะโกน ฉือโถวก็ปิดปากของเขาด้วยผ้าผืนหนึ่ง มัดหลิวชิงซานไว้และโยนเขาเข้าไปในพุ่มไม้ในสวนหลังบ้าน

เมื่อหาข้อมูลจากหลิวชิงซานไม่ได้ ก็ต้องดูว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้หลิวชิงซานติดต่อกับใครบ้าง

เป็นไปไม่ได้ที่หลิวชิงซานจะออกมาจากห้องขังพร้อมกับมีเงินมากมายเช่นนี้

ตราบเท่าที่พบคนที่ให้เงินเขา พวกเขาอาจจะรู้ที่อยู่ของกู้ฟางสี่

กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ได้นัดหมาย และเมื่อพวกเขากำลังจะออกไปค้นหาอีกครั้ง กู้หนิงอันก็กลับมา

สวีเฉิงเจ๋อก็มาพร้อมกับชายหนุ่มแปลกหน้า

กู้หนิงอันและสวีเฉิงเจ๋อไม่มีเวลาว่างในช่วงสองวันที่ผ่านมา พวกเขากำลังตามหาที่อยู่ของกู้ฟางสี่ในทุกที่

อย่างไรก็ตาม หลังจากค้นหาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีข่าวคราวของนางเลย

ครั้งนี้ พวกเขาเพิ่งเดินทางไปทางตะวันตกของเมือง และเมื่อสอบถามตามบ้านก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะพบชายคนหนึ่งที่บอกว่าเขาเคยเห็นกู้ฟางสี่ตามรูปลักษณ์ที่เขาอธิบายไว้

กู้หนิงอันมีความสุขมาก และหลังจากตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็แน่ใจว่าคนที่ชายคนนี้เคยพบคือกู้ฟางสี่จริง ๆ

ดังนั้นเขาจึงพาชายคนนั้นไปกับเขาทันที

และบังเอิญคนที่พวกเขาพบคือเฉินจื่อไป๋

เฉินจื่อไป๋กล่าวว่าตนเองเจอคนพวกนั้นด้วยความบังเอิญ เวลานั้นเมื่อเขาตื่นแต่เช้าและตั้งแผงขายของในเมืองเพื่อขายภาพตัวอักษร และเขาก็เห็นอะไรบางอย่าง

เฉินจื่อไป๋มองดูอีกครั้งและเห็นผู้หญิงที่อยู่ในอาการหมดสติถูกหามเข้าไปในรถม้า แต่เขามองไม่เห็นคนที่อยู่ในรถม้า เห็นเพียงคนขับที่อยู่ข้างนอก คนเหล่านั้นขับรถม้าและมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกของเมือง

เฉินจื่อไป๋ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เขาคิดว่าคนในครอบครัวของใครบางคนป่วยและกำลังไปหาหมอ

จนกระทั่งวันนี้มีคนมาถามเขาว่าเห็นผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า เฉินจื่อไป๋จึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นถูกลักพาตัวไปในวันนั้น

เมื่อเขามาถึงสวนกู้ เฉินจื่อไป๋ก็มีความสุขอย่างยิ่ง เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น “ผู้มีพระคุณ”

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกสับสนกับเสียงเรียกของชายผู้นั้น เมื่อมองไปที่ชายตรงหน้า นางก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน “เราเคยเจอกันมาก่อนหรือไม่?”

เฉินจื่อไป๋ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลยที่กู้เสี่ยวหวานจะลืมเรื่องนั้นไปแล้ว จึงอธิบายอย่างรวดเร็ว “ในตอนนั้น ข้าคือคนที่ไปขายปลาอยู่ที่ประตูของร้านจิ่นฝู”

“เป็นท่านเองหรือ?” กู้เสี่ยวหวานจำได้ทันทีหลังจากได้ยินคำตอบของเขา

เมื่อก่อนต้องขอบคุณปลาของเขา ไม่เช่นนั้น นางคงเป็นผู้หญิงที่ทำอาหารโดยไม่มีข้าว*[1]

“เป็นข้าเอง” เฉินจื่อไป๋พูดอย่างตื่นเต้น

ต่อมาเขาได้ไปรอที่ประตูร้านหรูอี้ที่ซึ่งหวังจะได้พบกับกู้เสี่ยวหวานเป็นครั้งที่สอง หากแต่เขาไม่พบเจอนางเลย

ตัวเองคือคนที่กู้เสี่ยวหวานไปช่วยให้ถูกปล่อยตัวออกจากห้องขัง เขาเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ในใจและคิดว่าเมื่อถึงเวลาจะต้องตอบแทนแม่นางผู้นั้นให้จงได้

เนื่องจากแม่ของเขาสุขภาพไม่ค่อยดี จึงไม่มีเวลาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่คิดว่าครั้งนี้จะบังเอิญว่าผู้หญิงที่เขาพบนั้นเป็นท่านอาของผู้มีพระคุณ

เฉินจื่อไป๋พยายามอย่างเต็มที่เพื่อนึกถึงสถานการณ์ที่เขาเห็นกู้ฟางสี่ในวันนั้น

จำได้แค่ว่าในตอนนั้นชายคนหนึ่งจับตัวกู้ฟางสี่และโยนนางเข้าไปในรถม้า นอกจากนี้เขายังเห็นถุงเงินที่ถูกโยนลงมาจากรถม้า ชายคนนั้นหยิบถุงเงินขึ้นมาและวิ่งออกไปด้วยรอยยิ้ม

กู้เสี่ยวหวานพลันนึกบางอย่างขึ้นและลุกขึ้นทันที “มากับข้า”

นางเดินนำเขาเข้าไปในห้องเก็บฟืนและให้เฉินจื่อไป๋ดูว่าเขารู้จักคนที่อยู่ข้างในหรือไม่

*[1] บุคคลมีความสามารถเพียงใดก็ยากที่จะสำเร็จได้