บทที่ 979 หนีไปกับคนอื่น

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 979 หนีไปกับคนอื่น

บทที่ 979 หนีไปกับคนอื่น

ครั้นกู้เสี่ยวหวานได้ยินว่าหลิวเทียนฉือทำเรื่องผิด และยังมาใส่ร้ายอาของนาง กู้เสี่ยวหวานก็ยิ่งเกลียดหลิวเทียนฉือมากขึ้นและกำมือแน่นขึ้น “หลิวเทียนฉือ อย่าคิดว่าเพราะเจ้าเป็นคุณหนูจากเมืองหลวงแล้วข้าจะกลัวนะ ถ้าวันนี้ยังไม่บอกว่าท่านอาของข้าอยู่ที่ไหนก็อย่ามาโทษที่ข้าหยาบคายเลย”

“เจ้าจะหยาบคายกับข้าอย่างไรล่ะ ฆ่าข้าหรือ? เมื่อถึงเวลาข้าจะทำให้ครอบครัวกู้ทั้งหมดของเจ้าฝังไปพร้อมกับข้า ข้าจะได้ไม่เสียเปรียบ” หลิวเทียนฉือไม่กลัวการข่มขู่ของกู้เสี่ยวหวานเลย

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนใบหน้าราวกับว่านางกำลังเยาะเย้ยกู้เสี่ยวหวานว่าไม่กล้าทำอะไร

“เจ้า…” กู้เสี่ยวหวานสำลักชั่วขณะและจ้องมองหลิวเทียนฉืออย่างดุดัน

หลิวเทียนฉือกล่าวต่อ “กู้เสี่ยวหวาน ท่านอาของเจ้าหย่าร้างไปแล้ว บางทีนางอาจจะพบคนที่ดี แต่นางอายที่จะพูดและระเหยหายไปจากโลกนี้ การที่เจ้าบุ่มบ่ามมาหาข้าเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านอาของเจ้าหายไปกับคนอื่นหรอกหรือ?”

“เจ้าพูดไร้สาระ”

“ไร้สาระ”

กู้เสี่ยวหวานและป้าจางพูดโต้แย้งคำพูดของหลิวเทียนฉือพร้อมกัน

นี่เป็นการกลับดำเป็นขาว หลิวเทียนฉือเป็นผู้เล่นที่ดีจริง ๆ และเล่นลูกไม้ที่ดีของนางในการชี้ต้นหม่อนด่าต้นไหว และชี้กวางเป็นม้า*[1]

แน่นอนว่าคำพูดของหลิวเทียนฉือทำให้ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นตะลึงงัน ทุกคนมองหน้ากันและรอฟังต่อไป

บางคนก็แอบย่องออกไปเพื่อเอาใจตระกูลเจียง

“หลิวเทียนฉือ…” กู้เสี่ยวหวานส่งเสียงคำราม และทันใดนั้นมือของนางก็ฟาดลงมาอย่างแรง

เพียะ เพียะ เพียะ

กู้เสี่ยวหวานฟาดมือลงบนใบหน้าหลิวเทียนฉือหลายครั้ง

เสียงตบดังกึกก้องบนถนนที่เงียบสงบในตอนเย็น

หลิวเทียนฉือตกตะลึงเพราะการตบนั้นทำให้นางเห็นดาวสีทอง และไม่สามารถฟื้นตัวได้เป็นเวลานาน

เสี่ยวเถาก็ตะลึงกับการลงมือนั้นเช่นกัน เมื่อเห็นว่าคุณหนูผู้เป็นลูกหลานจากตระกูลที่ร่ำรวยของนางถูกคนอื่นตบ ในขณะนี้นางก็ลืมที่จะต่อสู้และดวงตาของนางก็เบิกกว้าง

หลังจากนั้นไม่นาน หลิวเทียนฉือก็รู้สึกตัวและส่งเสียงคำรามอย่างน่ากลัว “กู้เสี่ยวหวาน เจ้ากล้าดีอย่างไรมาตบข้า!”

เมื่อเห็นคุณหนูของนางถูกตบ เสี่ยวเถาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการของป้าจาง

เพราะป้าจางตะลึงกับการตบของกู้เสี่ยวหวาน เสี่ยวเถาจึงเป็นอิสระ

ขณะที่นางกำลังจะคว้าตัวเสี่ยวเถา เสี่ยวเถาก็วิ่งไปถึงด้านข้างของกู้เสี่ยวหวานแล้ว

“กู้เสี่ยวหวาน ข้าจะสู้กับเจ้า” เสี่ยวเถาทุ่มเทให้กับการปกป้องเจ้านาย และพุ่งไปข้างหน้าเพื่อเหวี่ยงกู้เสี่ยวหวานลงกับพื้น

ฉินเย่จือพลันอุ้มกู้เสี่ยวหวานไปด้านข้าง กู้เสี่ยวหวานที่หลบอยู่ในอ้อมแขนของเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

ในทางกลับกัน หลิวเทียนฉือและคนรับใช้ไม่โชคดีนัก

เสี่ยวเถาต้องการที่จะผลักกู้เสี่ยวหวานไป ดังนั้นนางจึงพุ่งตัวเองไปข้างหน้าด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่กู้เสี่ยวหวานได้รับการช่วยเหลือจากฉินเย่จือ จึงเหลือเพียงหลิวเทียนฉือที่นั่งอยู่ที่พื้นเท่านั้น

เสี่ยวเถาหลับตาและนั่งทับลงไปที่ร่างของหลิวเทียนฉืออย่างแรง

หลิวเทียนฉือถูกเสี่ยวเถาทับ นางส่งเสียงครวญครางและหมดสติไปทันที

“คุณหนู คุณหนู ตื่น ตื่น!” เมื่อเห็นว่านางทับคุณหนูหลิวจนหมดสติ เสี่ยวเถาทั้งน้ำมูกและน้ำตาไหลออกมา

แต่หลิวเทียนฉือยังคงไม่ขยับ

เพื่อนบ้านที่แอบย่องไปโดยเจตนาเพื่อเอาใจตระกูลเจียง วิ่งไปที่สวนหลังบ้านและบอกคนในตระกูลเจียง

เมื่อคนในตระกูลเจียงได้ยินว่าคุณหนูหลิวถูกตบอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน พวกเขาจึงรีบไปบอกฮูหยินทันที

ทันทีที่ฮูหยินได้ยินสิ่งนี้ นางก็ออกมาพร้อมกับมามาเหลิ่งทันที

เมื่อพวกนางออกมาก็บังเอิญเห็นเสี่ยวเถาพุ่งตัวออกไปอย่างเต็มแรงและทับหลิวเทียนฉืออยู่ใต้ตัวเอง จากนั้นหลิวเทียนฉือก็สลบไป

“เสี่ยวเถา นังสาวรับใช้คนนี้ เจ้ากล้าหาญมากที่กล้าทำร้ายเจ้านาย” มามาเหลิ่งมองผู้คนมากมายรอบตัว นอกจากเพื่อนบ้าน นางเห็นคนแปลกหน้าคนอื่นอีก

มีทั้งชายและหญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ลักษณะท่าทางของพวกเขาสอดคล้องกับกลุ่มคนที่คนเฝ้าประตูบอกในวันนี้

“ฮือ ๆ ฮูหยิน ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่ได้ทำ นางทำร้ายคุณหนู นางทำร้ายคุณหนู!” เสี่ยวเถาน้ำตาแตกเมื่อได้ยินฮูหยินเจียงใส่ร้ายตัวเอง นางชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานในอ้อมแขนของฉินเย่จือและฟ้องทันที

“พวกเจ้าเป็นใคร?” ฮูหยินเจียมองไปที่ฉินเย่จือ นางรู้สึกว่าชายผู้นี้มีใบหน้าที่หล่อเหลาและท่าทางที่สง่างาม แต่เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นั้นค่อนข้างเรียบง่าย

แต่ด้วยรัศมีทั้งร่างกายนี้ ดูไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา ๆ เลย

และเด็กหญิงในอ้อมแขนของเขา ในขณะนี้ก็ลงมาจากอ้อมแขนของชายคนนั้น นางอยู่ในวัยสิบสองหรือสิบสามปี แต่ดวงตาของนางดุร้ายราวกับผู้ใหญ่

ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

“ฮูหยินเจียง นี่คือกู้เสี่ยวหวาน นักบัญชีของร้านจิ่นฝู” มีคนตะโกนขึ้นมา

ทันทีที่นางได้ยินชื่อของกู้เสี่ยวหวาน ฮูหยินเจียงก็เพิ่งรู้ว่าเป็นผู้หญิงคนนี้

ดูแล้วรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีความแข็งแกร่งและมีความสามารถ เคยได้ยินมาว่านางมีความสามารถ นางสร้างบ้านด้วยตัวเอง ซื้อที่ดิน และยังทำงานเป็นนักบัญชีอีกด้วย

แม้ว่านางจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่นางก็สามารถทำได้หลายอย่างไม่น้อยไปกว่าผู้ชาย

เดิมทีฮูหยินเจียงอยากรู้เกี่ยวกับกู้เสี่ยวหวาน แต่ครั้งนี้เมื่อพบกันก็เห็นว่าเด็กหญิงน่ารักและดูบอบบาง แต่ความมุ่งมั่นในดวงตาของนางนั้นไม่ธรรมดา ดังนั้นนางจึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอย่างแน่นอน

ทว่าวันนี้นางทำให้หลิวเทียนฉือขุ่นเคืองใจ ไม่ว่านางจะสำคัญแค่ไหน นางก็ต้องให้คำอธิบายแก่หลิวเทียนฉือ

“แม่นางกู้ ในวันนี้พวกเจ้ามีเจตนาอะไรที่จะบุกเข้าไปในบ้านตระกูลเจียงของข้าครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเจตนาที่พวกเจ้ามาทำร้ายคนประตูบ้านตระกูลเจียงเช่นนั้นคืออะไร” ก่อนหน้านี้ฮูหยินได้ถามมามาเหลิ่งแล้วว่าคนที่บุกมาทำร้ายคนเฝ้าประตูมีลักษณะท่าทางอย่างไร และในตอนนี้เมื่อเห็นพวกกู้เสี่ยวหวาน ฮูหยินเจียงจึงคิดว่าพวกนางนั้นคือคนกลุ่มเดียวกันที่บุกมาทำร้ายคนของตระกูลเจียง ดังนั้นนางจึงถามอย่างไม่ไว้หน้า

“ฮูหยินเจียง” กู้เสี่ยวหวานไม่เต็มใจที่จะทำให้ฮูหยินเจียงคนนี้ขุ่นเคือง แต่ถ้านางเป็นคนโหดร้ายเช่นหลิวเทียนฉือ นางจะไม่แสดงความช่วยเหลือใด ๆ “ท่านอาของข้าหายตัวไป และมีคนเห็นเหตุการณ์ด้วยตาของพวกเขาเองว่า หลิวเทียนฉือเป็นคนจับตัวท่านอาของข้าไป”

*[1] ชี้กวางเป็นม้า หมายถึง การจงใจกลับขาวเป็นดำและใช้อำนาจข่มขู่บิดเบือนความเป็นจริง